ผลงานทั้งหมดที่ลงอยู่ในหน้า Novel เป็นสิทธิส่วนตัวของผู้เขียน หากมีผู้ใดต้องการจะทำการคัดลอกหรือดัดแปลงผลงานบางส่วน หรือทั้งหมดเพื่อนำไปใช้ในการอื่น นอกจากอ่านเพื่อความบันเทิง กรุณาติดต่อเพื่อขออนุญาตจากผู้เขียนตาม e-mail ที่ให้ไว้เสียก่อน ขอบคุณสำหรับความร่วมมือค่ะ อีกประการหนึ่งนักเขียนทุกคนต้องการกำลังใจและคอมเมนท์(แม้ว่าบางคนจะไม่พูดออกมา)ไม่ว่าจะเป็นคำติหรือคำชมนะคะ เพราะฉะนั้นเมื่ออ่านแล้วชอบไม่ชอบยังไงไ ก็เมลไปคอมเมนท์ได้ตามอีเมลที่ให้ไว้ของแต่ละคน หรือไม่ก็โพสต์คำติชมไว้ในบอร์ดก็ได้ค่ะ

 

My Dumb Jock (Part 2)

by...นาถยา

เจสันเริ่มการติวมา2อาทิตย์แล้ว ดูเหมือนตอนนี้บิลลี่ โรว์ กลายเป็นขาประจำที่โต๊ะกินกลางวัน แถมยังเข้ากะทุกคนได้ดีเสียด้วยโดยเฉพาะ อแมนดา

"เจ" แมนด้าเรียก เจสันเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือที่กำลังอ่าน "เกิดเรื่องใหญ่" เธอบอกต่อก่อนปิดปากเงียบสนิท

เจสัน มองตาเพื่อนสาวผิวดำอยู่ครู่หนึ่งก่อน ลุกขึ้นร้องเสียงดัง

"พระเจ้า !!! แมนด้า ใคร"

"ใคร ? อะไร"

"พ่อของเด็ก"

"บ้า ไม่ใช้ชั้น ลินซีย์"

"ลินซีย์ ท้อง"

"ไม่" แมยด้าขึ้นเสียงสูง "ลินซีย์มาปรึกษาชั้นเรื่องเดท"

เจสันถอนหายใจ "ก็แค่เดท ลินซีย์ออกเดทมา3ครั้งแล้วตั้งกะเปิดเทอม แล้วก็ล่มทุกครั้ง ครั้งสุดท้ายยังบอกจะไม่เดทจนกว่าจะปีหน้า แล้วนี่ หล่อนคิดยังไง " เจสันชะงัก "โอวไม่ พระเจ้า บิลลี่ บูลลี่ หมอนั่นควงอยู่กะทิฟฟานี เธอได้บอกลินซีย์ไหมว่าถ้าอยากลองเดทกะหมอนั่นก่อนอื่นต้องไปสมัครเข้าทีมเชียร์ลีดเดอร์"

"ไม่ใช่ บิลลี่"

"ใคร??"

"เธอ"

"หา" เจสันร้อง "แล้วเธอว่าไง"

"ชั้นบอกว่าไม่รู้ แต่ลินซีย์ให้มาพูดเกริ่นๆกะเธอก่อนคืนนี้ ลินซีย์จะโทรไปหา"

"พระเจ้า" เจสันเอามือปิดหน้า

2ทุ่มตรง เสียงโทรศัพท์ดังจขึ้น พระเจ้า ความจริงเขาก็อยากจะหนีปัญหาด้วยการถอดสายออกเสียแต่ทำยังงั้นเรื่องก็ไม่มีวันจบ สู้พูดกันให้รู้เรื่องไปเสียดีกว่า

"ไฮ" ลินซีย์ทักขึ้น "แมนด้าบอกเธอแล้วใช่ไหม"

"อือฮึ"

"เธอคิดว่าไง"

"ลินซีย์ชั้นว่าเราเป็นเพื่อนกันยังงี้จะดีกว่า"

"ทำไม" เสียงตามสายเริ่มเครือ "เพราะชั้นอ้วนใช่ไหม"

"พระเจ้า ลินซีย์ เธอไม่ได้อ้วน" ทำไมพวกผู้หญิงถึงชอบคิดมากเรื่องนี้กันนักนะ "แต่เพราะชั้นชอบเธอแบบเพื่อน ชั้นชอบเป็นเพื่อนกะเธอ รู้ไหมเธออยากมีเพื่อนที่แสนดีไปตลอดการอย่งนี้ หรือมีคู่เดทงี่เง่าที่พอหลังจากเดทจบลงเราก็จะไม่พูดกันอีกเลย"

"เจ ชั้นไม่มีเสน่ห์ใช่ป่ะ ชั้นไม่น่าสนใจใช่ป่ะ เดทชั้นมันถึงได้ล่มทุกครั้งไม่มีใครเคยโทรกลับมา"

"ลินซีย์เธอมีสเน่ห์ พวกนั้นมันงี่เง่าเอง"

"แล้วทำไมเธอไม่เคยขอชั้นเดท"

"เอ่อ...คือ เพราะ....." เจสันอึ้ง จนสัญญาณทางนั้นหายไป เด็กหนุ่มวางหูลงกับแป้น พนันได้ว่าอีกเดี๋ยวลินซีย์ต้องโทรมาคาดคั้น นี่ล่ะเป็นเหตุผลที่เธอไม่เคยได้รับโทรศัพท์จากหนุ่มคนไหนหลังออกเดท

"กริ๊ง..."เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก เจสันรีบคว้าหู ละลักละล่ำกรอกเสียงลงไป

"ฟังนะ ชั้นคิดว่าเธอมีเสน่ห์ น่าสนใจ และถ้าเป็นไปได้ชั้นก็อยากออกเดทกะเธอ แต่ว่า"

"พระเจ้า" เสียงอีกฝ่ายตะโกน ตายห่ะไม่ใช่ลินซีย์

"นายอยากออกเดทกะชั้น เจ นี่นายขอชั้นออกเดทเหรอ"

"ไม่ใช่ บิลลี่ .....ชั้นนึกว่านายเป็นคนอื่น"

"ไงมีสาวขอนายเดทงั้นสิ แล้วนายก็เพิ่งหักอกเธอ"

"ก็ทำนองนั้น นี่นายโทรมาทำไมวะ"

"ชั้นจะโทรมาบอกว่า เสาร์นี้ชั้นขอลาหยุด จะไปเยี่ยมพ่อที่แอลเอ"

"อือฮึ" ถ้าเป็นปกติเจสันคงมีถ้อยคำแสบๆให้เป็นแน่ แต่พอนึกถึงเรื่องโทรศัพท์เมื่อครู่ก็พาลคิดอะไรไม่ออก

"แค่นี้ใช่ไหม"

"อือ แล้วจะรีบกลับ"

"บาย"

"บาย"

เจสันถอนหายยาว ดีเหมือนกันที่หมอนั้นหายหน้าไปเสียได้ นี่ถ้าพรุ่งนี้ต้องเจอกันหลังจากเกิดเรื่องโทรศัพท์...เขาคงทำอะไรไม่ถูก

...................................

"เอาล่ะ เด็กๆต้องเข้านอน ตอน2ทุ่มครึ่ง ในตู้เย็นมีของกิน เธอหยิบได้ตามสบาย เอจะใช้โทรศัพท์ก็ได้ แต่อย่านานนัก เพราะชั้นอาจจะโทรเข้ามา ชั้นกะลินดาจะกลับมาตอน6ทุ่ม ถ้ามีอะไรให้รีบโทรไปเบอร์นี้"

คุณเบอร์ตัน ส่งกระดาษจดเบอร์โทรให้เจสัน "ขอบใจมาก ชั้นต้องรีบไปแล้ว ลินดารออยู่ที่งาน"

คืนนี้ เจสันรับจ๊อบเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้คุณเบอร์ตัน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำธุรกิจกับครอบครัวนี้

"เอาล่ะเด็กๆ" เจสันพูดกับเด็กแฝดอายุ6ขวบ "ทีนี้ใครพอจะบอกชั้นได้ว่าคนไหน เจค คนไหน เจฟ"

"ผมเจฟฮะ" เด็กคนทางซ้ายยกมือ " ผมเจค" เจ้าตัวขวาเอาบ้าง ทำไมนะเขาถึงชอบจับให้ฝาแฝดแต่งตัวเหมือนๆกันด้วย "คุณจะอ่านหนังสือให้เราฟังไหมฮะ"

"ทำไมไม่ล่ะ"เด็กหนุ่มยกเมาเทาดิวส์ขึ้นดื่ม

เสียงเห่าโฮ่งๆ ดังมาจากชั้นบน ก่อนที่เจ้าลาบาดอร์ตัวใหญ่ จะวิ่งลงมา

"เธอมีหมาด้วย มันดุไหม"

"ม่ายยยยย"เจฟบอก

"มันจะกัดแต่คนชั่ว" เจคเสริม

ดีนี่ เจสันคิด สักวันเขาจะยืมหมาตัวนี้ไปให้บิลลี่

"มันชื่อไร"

"เจดีฮะ" เจคบอก

"เหรอมันย่อมาจากอะไร"

"just dog" เจสันสำลักพรืด เด็กแฝดหัวเราะชอบใจ

"เวลาเราบอกชื่อเต็มมัน เป็นยังงี้ทุกคน บิ๊กบีเป็นคนตั้งชื่อมันฮะ เขาเก่ง" เห็นได้ชัดว่าบิ๊กบีของเด็กๆปัญญาอ่อน

.............................................

"และแล้ว ร็อบบี้รถรางน้อยก็เติบโตขึ้นเป็นรถไฟบรรทุกสินค้าคันใหญ่แข็งแรง" เจสันปิดหนังสือลง

"พระเจ้า ชั้นเพิ่งรู้ว่ารถรางโตได้ด้วย แล้วฮาร์เลย์ เดวิดสันล่ะ มาจากอะไร จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์รึไง"

"มันเป็นเรื่องแต่งขึ้น" เจคบอก

"เอาไว้สอนเด็กๆ" เจฟเสริม

"ขอบใจนะที่บอก แต่ว่าเด็กๆ ได้เวลานอนแล้ว"

"ไม่เอา" เด็กแฝดร้องขึ้น "ขอดูทีวีอีกแป๊บนึง" ต่อรองทั้งที่ตาเกือบจะปิด

"ไปนอนเหอะแล้วชั้นจะเล่านิทานให้ฟัง"

"เรื่องไรฮะ"

"สโนว์ไวท์"

"แหวะ เราเคยฟังเป็นร้อยเที่ยวแล้ว"

"พนันได้เลยว่าเธอไม่เคย สโนไวท์ของชั้นฆ่าแม่เลี้ยงด้วย"

เด็กๆ ตาโต "ไม่จริง"

"จริงแท้ล้านเปอร์เซนต์ เธอเป็นคนสอนพวกคนแคระให้ต่อสู้ แบบว่ายูโด คาราเต้ คิกบอกซ์ซิ่ง"

"มีไอรอนนินจาไหมฮะ"

"นั่นล่ะอาจารย์ของสโนวท์"

...................................

ในที่สุดเจสันก็จัดการให้ทั้งคู่เข้านอนจนได้ เด็กหนุ่ม นั่งเอกขเนกอยู่ที่โซฟา เปิดดีวีดีเรื่อง คาบาเรต์ของไลซ่า มิเนลี่ดู ถึงตอนที่ไลซ่าพบกะพระเอก เสียงออดที่หน้าประตูก็ดังขึ้น

"ใครวะมาเอาป่านนี้" เจสันเปิดประตูออก

"บิลลี่"

"เจ"

........................

"นาย..นายมาที่นี่ได้ยังไง" เจสันถาม

"นี่บ้านชั้น"

"ม..หมายความว่า แล้วเด็กแฝดนั่น"

"น้องชายชั้นเอง คนละพ่อ"

เจสันได้คำตอบแล้วว่าใครคือบิ๊กบี

"ชั้นมาเป็นพี่เลี้ยงพวกเด็กๆน่ะ แล้วนายน่าจะอยู่ที่แอลเอ"

"อือฮึ พอดีพ่อชั้นมีงานด่วนน่ะ ชั้นไม่อยากอยู่โยงเฝ้าบ้านให้ เลยบินกลับมา"

เสียงเห่า แบ๊กๆ ของเจดีดังขึ้นทักทายเจ้าของ

"ไง" บิลลี่ลูบหัวมัน "แกไม่ได้กัดเพื่อนชั้นใช่ไหม"

เจสันมองหน้าบิลลี่สลับกับเจดี แล้วกลั้นยิ้ม

"ทำไม" บิลลี่ถาม

"นาย..กับชื่อหมานั่น มัน ...งี่เง่าชะมัด ใครจะตั้งชื่อหมาว่าjust dog"

"นายตั้ง" บิลลี่ว่า

"บ้าชั้นไม่รู้จักหมาตัวนี้ชั้นจะตั้งชื่อมันได้ไง"

"ตอนเกรด2 แม่นายไม่ยอมให้เลี้ยงหมา นายเลยเล่นหมาในจินตนาการไง จำได้ไหม แล้วพอชั้นถามชื่อนายก็บอก เจดีjust dog นายรู้ว่ามันไม่มีจริงเลยไม่ตั้งชื่อให้มัน"

พระเจ้า เจสันเอามือปิดหน้าผาก ตอนนี้รู้แล้วว่าใครคือไอ้งี่เง่าที่ตั้งชื่อหมาตัวจริง

"นายยังจำได้"

"ชั้น.."บิลลี่นิ่ง "ชั้นคิดไม่ออกเลยเจ"

"เรื่องอะไร"

"ที่ว่าชั้นลืมเรื่องไหนของนายไปบ้าง"

เจสันนิ่งเงียบ

"เอาล่ะ นายมา ชั้นกลับ"

"เฮ้จะรีบไปไหน นายน่าจะอยู่จนแม่กะไมเคิลกลับ แล้วชั้นจะขับรถไปส่งนายเอง"

"ไม่"

"น่า ยุติธรรมหน่อยสิพวก นายรับค่าจ้างไปแล้ว นี่ยังไม่ได้เวลาเลิกงานนะ"

"ชั้นรับค่าจ้างสำหรับดูแลเด็ก 2คน ไม่ใช่3"

"น่า เจ ชั้นขอร้อง"

เจสันแพ้ไอ้แววตาแบบลูกหมาของบิลลี่ มัน เอ่อ..น่ารักชะมัดโดยเฉพาะตอนที่ผู้ชายตัวโตๆแบบนี้ทำกัน

"โอเค"

"เดี๋ยวชั้นจะไปทำข้าวโพดคั่ว เราจะได้กินกันเวลาดูหนัง"

บิลลี่สาวเท้าออกไป แต่โชคร้ายที่เจ้า เจดียังไม่หายดีใจที่เจอหน้าเขา มันยังพันแข้งพันขาไม่เลิก บิลลี่เสียหลักล้มไปบนโซฟา แต่เหนือโซฟามีเจสันอยู่

ทั้งคู่มองตากัน เจสันรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุน ไม่สิ มันหมุนย้อนกลับไปในช่วงเวลาดีๆที่ทั้งสองเคยใช้ร่วมกัน พระเจ้า ทำไมบิลลี่ไม่ลุกขึ้นไปเสียที และพระเจ้า ทำไมเขาไม่บอกบิลลี่ให้ลุกขึ้น เจสันรู้สึกเหมือนใบหน้าหล่อเหลาของควอเตอร์แบคจะลดต่ำลงช้าๆ

"บิ๊กบี" เสียงเล็กๆตะโกนจากชั้นบน บิลลี่รีบลุกพรวดพราด เด็กแฝด ถลาลงมาจากบันได ควอเตอร์แบครูปหล่อ อุ้มทั้งสองไว้คนละข้าง

"ไง ไอ้ตัวยุ่ง" บิลลี่จับร่างเล็กๆทั้งสองเหวี่ยงไปมา พวกเด็กๆหัวเราชอบใจ

"บิ๊กบี เมื่อกี้นายกะเจสันทำอะไรกัน" เจคถาม

"ไม่น่าโง่" เจคว่า "พวกเขาก็กำลังจะ..."

"เอาล่ะเด็กๆ ทำไมพวกเธอไม่อยู่บนเตียง" เจสันรีบขัด

"พวกเขากำลังเล่นมวยปล้ำไง" เจคต่อให้จบ ขอบคุณสวรรค์ ที่พวกนี้ยังเด็กเกินไป

"เราไม่ง่วงฮะ" เจฟบอกเจสัน "เราอยากกินไอติม บิ๊กบีพาเราไปกินไอติมนะ"

"เด็กๆนี่ไม่ใช่เวลา.."

"เอาน่า เจ" บิลลี่ขัด "พวกเขาเพิ่ง6ขวบนะ ตอนนี้ร้านไอติมยังเปิด ชั้นจะพาพวกนายไปก็ได้ โอเคไหม"

เด็กแฝดพยักหน้า "แต่ถ้าเจสันไม่ไปด้วยล่ะก็..."

"เจสัน" เจฟกระโดลงกอดขาเจสันไว้ข้างหนึ่ง "ไปนะฮะ นะฮะ"

"ได้โปรด นะอะ" เจคจองที่เหลืออีกข้าง ทั้งคู่เงยหน้าขึ้นมองเจสันด้วยแววตาแบบเดียวกะที่บิลลี่ใช้เมื่อครู่ ให้ตายเหอะ นี่มันเป็นกรรมพันธุ์ชัดๆ

................................................

ทั้งสี่เดินออกมาที่ร้านไอศกรีมที่อยู่แถวนั้นด้วยกัน บิลลี่อุ้มเจฟ ในขณะที่เจสันอุ้มเจค เด็กแฝดร้องเพลงจิงกะเบลดังลั่นถนน บางทีน่าจะมีใครบอกให้พวกเขารู้ว่านี่มันยังเร็วไปสำหรับเพลงคริสมาสต์

เจฟ กับเจค เลือกสั่งไอศกรีมที่ทั้งคู่ชอบ สาวเสิร์ฟหันมามองหน้าผู้ใหญ่อีก2คนเป็นเชิงถามว่าจะเอาด้วยไหม

"ไอสกรีมวานิลลา ราดบัตเตอร์สก็อตเยอะๆ วิปครีมเยอะๆ เชอรี5ลูก เมาเทนดิวส์แก้ว" บิลลี่สั่ง "นายยังชอบกินไอศกรีมแบบนี้ใช่ไหม"

เจสันยิ้มก่อนสั้งให้บิลลี่บ้าง "ช็อกโกแลตซันเดย์ โค้กแก้วนึง กะวาฟเฟิล แล้วก็เค้กช้อกโกแลต นายยังกินแยอะเหมือนเดิมใช่ป่าว"

เสียงเพลงจากวิทยุในร้านดังขึ้น มันเป็นเพลงเก่าช่วงต้น90ของ ของเจเน็ต แจ็คสัน "Again"


ได้ยินจากเพื่อนวันนี้ เขาบอกเธออยู่ในเมืองนี่
และทันใดนั้นเรื่องราวมากมายก็ย้อนกลับคืนมาสู่หัว..ใจ
เฝ้าถามตัวเอง จะให้เข้มแข็งหักห้ามใจอย่างไร
แต่ก็บอกย้ำเอาไว้ว่าจะไม่ กลับไปรักเธอ

ความเจ็บช้ำที่เธอให้
ดวงวิญญาณที่เธอพรากไป
ความตั้งใจดีๆที่เธอเคยให้ ชั้นรู้เธอทำ
ฉันละทิ้งความร้าวรานใจ
และสวรรค์รู้ ฉันเหนื่อยยากเพียงใด
ไม่อยากย้อนหันหลังและกลับไป
จะไม่รักเธออีกแล้ว

และตอนนี้เราอยู่เพียงลำพัง
ไม่เคยคิดจะเป็นเช่นนี้
รู้ดีว่าทุกสิ่งอาจเริ่มใหม่ ได้ด้วยจูบเพียงเบาๆ
ฉันอาจเข้าใกล้ความสุขมากไป
เกินกว่าห้ามใจคว้าไขว่
แต่อย่าคิดว่าจะรับความเจ็บนั้นได้
จะไม่รักเธออีกแล้ว

ดูเหมือนจะสายไป
กว่าจะรู้เธอก็ขโมยหัว..ใจ
ได้โปรดอย่าบอกรัก แล้วทอดทิ้งไปอีกครา
เพราะสุดท้ายชั้นก็ไม่อาจห้ามใจ
ต้องตกหลุมรักเธออีกครั้ง

................................

"พระเจ้า เจ..แมนด้าร้อง "พวกเธอเกือบจะจูบกัน"

"ไม่รู้สินะมันอาจจะไม่ใช่" เจสันถอนใจ "า แมนด้า ชั้นทำพลาด ชั้นไม่น่าติวให้บิลลี่ ตอนนี้ชั้น..ชั้นเพิ่งรู้ว่าที่ผ่านมาชั้นไม่เคยลืมเขาเลย"

"และเขาก็ไม่เคยลืมเธอด้วย"

"แต่มันอาจจะไม่ใช่ เขาอาจจะแค่อยากเป็นเพื่อนกะชั้นอีก แต่..แต่ชั้น"

"หรืออาจจะมากกว่านั้น เขาอาจจะคิดเหมือนเธอ

"ไม่มีทาง"

"เฮอะ" ไม่มีทาง เขาเกือบจูบเธอแน่ะ

"มันอาจจะเป็นแค่บรรยากาศ มันอาจจะเป็นแค่ชั้นคิดไปเอง แมนด้า เธอรู้นี่ว่าเขาทำยังไงกะชั้น"

"แหงล่ะนั่นพิสูจน์ว่าเขาชอบเธอตั้งแต่ตอนนั้น"

"ยังไง"

"โธ่เอ๊ย พวกเด็กผู้ชายเธอก็รู้ดีนี่ พวกนั้นงี่เง่า ตอนเด็ก เขาแกล้งเด็กที่ตัวเองชอบเสมอ"

"ชั้นก็ชอบเขา ไม่เห็นแกล้งเขาเลยนี่"

"มันไม่เหมือนกัน เจ เธอควรจะ.."

"แมนด้าชั้นกลัว ชั้นเคยเจ็บมาครั้งนึงแล้ว รู้สึกเหมือนถูกทรยศ ถูกหักอก"

"เจ...นี่เป็นโอกาสครั้งที่สอง และก้ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสครั้งที่สอง เธอจะลองคว้ามัน หรือต้องนั่งตีโพยตีพายเสียใจไปตลอดชีวิตในสิ่งที่เธอไม่ได้ทำ"

..........................

เจสันเลิกคิ้วแปลกใจเมื่อพบว่าคนที่มาเปิดประตูให้ไม่ใช่อแมนดา

หนุ่มผิวสี สูงใหญ่ ไว้ผมทรงเดรดล็อค จมูกโด่งป็นสันได้รูปนั้นมีหมุดเล็กๆติดอยู่ ท่อนแขนเป็นมัดโผล่พ้นออกมาจากเสื้อกล้ามสีขาว พระเจ้า ยังงกะเลนนี คราวิซ

"อ้อ แมนด้า.."

"เข้ามาก่อนสิ" หนุ่มแปลกหน้าบอก

เจสันเข้าไปตามคำชักชวน ขณะที่คนแปลกหน้าตะโกนขึ้นไปชั้นบน

"แมนด้า เพื่อนมาหา..."

ไม่นานเพื่อนซี้ผิวสีก็วิ่งตึงๆลงมาในมือยังถือสมุดจดโน้ตเพลง

"ไฮ้เจ..."แมนด้าทัก "ชั้นกำลังจะไปซ้อมที่สตูพอดีนี่ถ้าเธอมาช้าอีกนิดไม่เจอชั้นแล้ว"

แมนด้ามีวงดนตรีเป็นของตัวเอง กำลังเตรียมการซ้อมเพื่อประกวดในงานของสถานีวิทยุวันเสาร์หน้า

"แมนด้า.."เจสันทำสัญญานถามว่านั่นใคร

"อ้อ.... มัลนี่เจสันเพื่อซื้ชั้น เจนี่ญาติชั้นมัลคอม มัลเรียนวิทยาลัย เขามาช่วยชั้นเรื่องเพลงที่เราจะเล่น"

"หวัดดี" มัคคอมทักทาย ก่อนจะขอตัวไปเก็บของข้างบน

"พระเจ้า" เจสันคราง "เขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่เซ็กซี่ที่สุดเท่าที่ชั้นเคยเห็น"

เพื่อนสาวหลิ่วตา "นี่พ่อหนุ่มนักรัก ใจคอจะงาบทั้งควอเตอร์แบคโรงเรียน ทั้งญาติชั้นรึไง"

"ใครจะสนนักกีฬางี่เง่า ถ้าลองได้นอนกะญาติเธอ" เจสันหัวเราะ

"ย่ะ พูดดีไป เธอจะไปดูชั้นซ้อมไหม"

"ม่าย แวะมายืมหนังสือที่เราเคยเรียนหน่อยจะเอาไว้ติวให้บิลลี่"

"หึ แล้วบอกว่าไม่สน" แมนด้าล้อ


"ดูนี่" บิลลี่กระดาษข้อสอบให้เจสัน "บี พระเจ้า ชั้นเทสย่อยได้บี"

"อือฮึ" เจสันยิ้ม "ลิงยังปั่นจักรยานได้"

"คนบางคนก็รักลิง" แมนด้าว่า เจสันตาเขียว

"นี่ ชั้นลองคำณวนดูแล้วนะ ถ้านายทำคะแนนรายงานให้ได้ ซีขึ้นไป เกรดนายไม่มีปัญหา" เจสันบอก

"จริงสิ คืนเสาร์หน้านายว่างไหม แมนด้ากะวงจะขึ้นประกวด ถ้าเราเรียนเสร็จจะได้ไป..."

"อืม.."อีกฝ่ายคิด "ชั้นติดธุระน่ะ ต้องขับเราเอาไอ้พวกทะโมนไปส่งที่บ้านตา อาจจะค้างที่นั่นด้วย"

"บิลลี่ จริงรึป่าวที่เขาว่าเธอนอนกะเชียร์ลีดเดอร์ทั้งทีมมาแล้ว" แมนด้าถาม เจสันถลึงตาใส่

"อยากให้จริง" บิลลี่ตอบ "ความจริงก็คือชั้นเคยเดทกะพวกสาวๆทีมเชียร์2-3คน"

"งั้นไอ้ข่าวพวกนั้น..."

"ผู้ชายก็ตกเป็นเหยื่อของข่าวลือพรรค์นี้ได้ความจริงคือชั้นมีตัวจริงอยู่แล้.."

"บิลลี่" เสียงหวานๆทักขึ้น ทิฟฟานี่ มอริสัน แฟนคนปัจจุบันของบิลลี่

"ทิฟ" บิลลี่ทัก ก่อนลุกขึ้นหอมแก้เธอเบาๆ ทิฟฟานีส่งยิ้มให้เจสันกับแมนด้า

"อ้อ พวกเธอคงเป็นคนที่คอยติวให้บิลลี่.."

"เจสัน" เจสันแนะนำตัว

"อแมนดา"

ทิฟฟานียิ้มให้อีกครั้ง เธอดูเหมือนเทพธิดาผมบลอนด์ที่คอยแจกยิ้มให้ "ชั้นทิฟฟานี"

"นั่นเรารู้อยู่แล้ว" แมนด้าบอก

"อ้อ จะเป็นไรไหมถ้าชั้นจะขอยืมตัวบิลลี่ซักแป๊บยึง แต่ถ้าไม่ได้ก็.."

"ตามสบาย" เจสันว่า "วันนี้เสร็จแล้ว"

ทิฟฟานีขอบอกขอบใจก่อนเดินออกไปกะบิลลี่ ขนาดคล้อยหลังไปแล้วเธอยังหันกลับมาโบกมือให้

เจสันถอนหายใจ "นั่นไงตัวจริง"

"อย่ายอมแพ้น่าไอ้หนุ่มนักรัก"

"พระเจ้า แมนด้า"เจสันว่า "ดูเธอสิ เธอสวยแล้วก็ แบบว่าทำตัวดี เธอไม่ได้เป็นแบบที่พวกเราเคยคิดสักนิด

"นั่นไม่ใช่ประเด็น"

"นั่นล่ะประเด็นพวกเขาเหมะสมกัน เอเห็นตอนที่เขาเดินด้วยกันไหม ยังกะเจ้าชายกะเจ้าหญิง"

"บางครั้ง" แมนด้าเว้นไว้ก่อนกล่าวต่อ "เจ้าชายอาจจะไม่ได้ต้องการเจ้าหญิง"

...............................

"นี่สมุดโน้ตที่ชั้นสรุปเรื่องที่เราเรียนไป นายเอาไว้อ่านทบทวน"

"ขอบใจ"

"จริงสิ วันนี้นายจะไปบ้านตาเมื่อไหร่"

"คงสักทุ่มนึงมั้ง"

"งั้นวันนี้พอแค่นี้ เย็นๆชั้นต้องออกไปดูแมนด้าแข่ง"

"เสียดายชะมัดที่ชั้นไม่ได้ไปด้วย"บิลลี่บอก

"วันอาทิตย์งดนะ ชั้นอาจจะฉลองกะแมนด้าเสียดึก"

"นั่นน่าเสียดายยิ่งกว่า"


เจสันกำลังจะล็อคประตูบ้านเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

"เจ"

"เกรก."

"นายช่วยเอาสมุดโน้ตเคมีมาให้ชั้นยืมได้ป่ะ จะขอลอกการบ้านหน่อย"

"โอเค งั้นเจอกันที่สถานี"

เด็กหนุ่มวิ่งตึงๆ ขึ้นห้องไปค้นสมุด ตายห่ะ สมุดโน้ตที่จดย่อให้บิลลี่อยู่นี่ ไอ้เล่มที่ให้ไปคือสมุดเคมี เหลือบตาดูนาฬิกา เกือบๆจะ6โมงน่าจะทัน หวังว่าบิลลี่คงยังไม่ปิดบ้าน
...................................

บ้านบิลลี่ยังไม่ปิด ความจริงมันไม่ใกล้เคียงกับคำว่าปิดสักนิด

รถหลายคันจอดอยู่หน้าบ้าน เสียงเพลงดัง บรรยากาศแบบนี้มันปาร์ตี้ชัดๆ บิลลี่ โรว์โกหกเขา

เจสันได้แต่ยืนนิ่งที่หน้าประตูรั้ว ในหัวคิดไม่ออกเลยว่าควรจะทำยังไง

พลันรู้สึกว่ามีใครมาแตะที่ต้นแขนเบาๆ

"เจสัน" ทิฟฟานีนั่นเอง "นึกว่าเธอจะไม่มา เห็นบิลลี่บอกว่าเธอติดธุระมาปาร์ตี้ไม่ได้ อแมดาล่ะจ๊ะ"

เจสันฝืนยิ้มให้ "คือ...ชั้นติดธุระจริงๆนั่นแหละ นี่แวะมาเอาของนิดหน่อย กำลังจะกลับพอดี"

"เสียดายจัง" ทิฟฟานีว่า

"ไม่ต้องบิลลี่นะว่าชั้นมา เดี๋ยวหมอนั่นจะหาว่าชั้นโกหก"

"โอเคจ้ะ"

เจสันรีบสาวเท้าออกมาจากที่นั่น แต่เขาไม่ได้ไปที่สถานีวิทยุที่แมด้าประกวด เด็กหนุ่มทรุดตัวลงกับม้านั่งในสวนสาธารณะ ความรู้สึกร้อยพันวนเวียนในหัว

ที่อาจเป็นวิถีทางของมัน ความจริงก็ก็คือไม่มีโอกาสครั้งที่สอง ความจริงก็คือทุกอย่างที่เขาคิดไว้แต่แรกล้วนถูกต้อง
เราก็แค่คนที่รอวันหมดประโยชน์ และดูเหมือนวันนั้นมาถึงแล้ว

....................................................

*****
End of Part 2

comment