ผลงานทั้งหมดที่ลงอยู่ในหน้า
Novel เป็นสิทธิส่วนตัวของผู้เขียน หากมีผู้ใดต้องการจะทำการคัดลอกหรือดัดแปลงผลงานบางส่วน
หรือทั้งหมดเพื่อนำไปใช้ในการอื่น นอกจากอ่านเพื่อความบันเทิง กรุณาติดต่อเพื่อขออนุญาตจากผู้เขียนตาม
e-mail ที่ให้ไว้เสียก่อน ขอบคุณสำหรับความร่วมมือค่ะ อีกประการหนึ่งนักเขียนทุกคนต้องการกำลังใจและคอมเมนท์(แม้ว่าบางคนจะไม่พูดออกมา)ไม่ว่าจะเป็นคำติหรือคำชมนะคะ
เพราะฉะนั้นเมื่ออ่านแล้วชอบไม่ชอบยังไงไ ก็เมลไปคอมเมนท์ได้ตามอีเมลที่ให้ไว้ของแต่ละคน
หรือไม่ก็โพสต์คำติชมไว้ในบอร์ดก็ได้ค่ะ
|
That '70's Show Fanfiction by...นาถยา ผมกะไฮด์ช่วยกันขนให้พวกกล่องใส่ขนมอบของแม่ขึ้นรถ ขณะที่พ่อของผมนั่งหน้าบูดอยู่ตรงที่นั่งคนขับ "คิตตี้" พ่อของผมตะโกนขึ้น "เธอจะทำขนมเลี้ยงคนทั้งเมืองเลยรึไง" แม่หัวเราะเสียงแหลม "เอริค อย่าสนใจพ่อของลูกเลย เขาแค่ดีใจมาก ๆ ที่ได้ออกไปเจอพวกญาติ ๆ " ผมรู้สึกสงสารนิด ๆ โธ่คุณเอ๋ย มนุษยสัมพันธ์ของพ่อผมน่ะมีอยู่อย่างจำกัดจำเขี่ย ไอ้ที่ต้องขับรถไปงานรวมญาติ แถมค้างในบ้านกะคนเป็นโขยงตั้ง 2 คืนน่ะ คงไม่ใช่เรื่องสนุกแหง ๆ แต่คนที่สนุกคือผมกะไฮด์ คิดดูสิฮะบ้านเป็นของเรา ไม่มีพ่อแม่ เราจะจัดปาร์ตี้ให้เละ ขนเอาเบียร์มาซด แล้วก็อ้วกรดไปทั่วบ้าน มันต้องเจ๋งแหง ๆ "เอริค" พ่อผมเรียกขณะสตาร์ทเครื่อง "ระหว่างที่ชั้นไม่อยู่บ้านห้ามพวกแกจัดปาร์ตี้ ห้ามรื้อข้าวของ แล้วก็ห้ามทำอะไรทำอะไรก็ตามที่ชั้นไม่ชอบ เข้าใจไหม" "อ๋อ" ผมยิ้มเผล่ "พ่อหมายถึงห้ามผมมีความสุขใช่ไหมฮะ" พ่อตะโกนโหวกเหวกด่าผมขณะที่รถเคลื่อนออกไป "เอาล่ะ" ผมมองหน้าไฮด์ "ไปบอกพวกนั้นเรื่องปาร์ตี้ดีกว่า" "นี่ชั้นรู้นะว่านายต้องเสียใจแน่ ๆ ตอนที่พ่อแม่นายกลับมา" เขายิ้มเจ้าเล่ห์ "แต่ชั้นจะไม่ห้ามนายหรอก เพราะชั้นชอบเห็นนายเสียใจว่ะ โฟร์แมน" ไฮด์เป็นคนเดียวในแกงค์ที่เรียกผมว่าโฟร์แมน ฟังดูห่างเหินนะครับ แต่หมอนี่เป็นเพื่อนซี้ที่สุดของผมในกลุ่ม จะไม่ซี้ได้ไงล่ะคุณ ก็ไฮด์อาศัยอยู่ที่ห้องใต้ดินบ้านผมมาตั้งแต่ที่จู่ ๆ แม่ของเขาก็ทิ้งไปเสียเฉย ๆ ชื่อจริงของเขาคือ สตีเวน ไฮด์ แต่มีเพียงแจ็คกี้คนเดียวเท่านั้นที่เรียกเขาว่า สตีเวน มีอยู่ช่วงที่แจ็คกี้ตามจีบเขา แต่ไฮด์ไม่เล่นด้วย สุดท้ายแจ็คกี้ก็กลับไปคบกะเคลโซ ผมว่า พวกเค้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันดีนะฮะ สงสารก็แต่ลูก ๆ ของพวกเขาที่จะเกิดมาในอนาคต ไม่รู้จะเป็นไง ถ้ามีพ่อแม่งี่เง่าแบบนี้ กลับมาเรื่องไฮด์ดีกว่านะฮะ ความจริงหมอนี่เคยย้ายออกไปอยู่กะบั๊ด พ่อของเขาพักนึง แต่ไม่นานหลังจากที่พ่อกะแม่เค้าคืนดีกันก็ทิ้งไฮด์อีก มหัศจรรย์จริง ๆ ผัวเมียคู่นี้ แล้วก็ไอ้ความที่เราอยู่ด้วยกันตลอด มีอยู่พักนึงผมคิดว่าตัวเองหลงรักหมอนี่เข้า ..แต่เปล่านะฮะอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ผมไม่ได้เป็นเกย์รึอะไรแบบนั้น ก็แค่ช่วงสบสนของวัยรุ่น ไอ้ตัวผมเองก็เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงมาแล้วด้วย ถึงตอนนี้จะเลิกกะดอนน่าแล้วก็เหอะ
"เจ๋ง ไหมล่ะ" ผมเล่าให้พวกที่รออยู่ห้องใต้ดินฟังถึงแผน "คราวนี้ก็จะไม่มีใครกวนใจเรา ไม่มีเรดที่คอยโวยวายแล้วหาเรื่องด่าเราทุก ๆ สิบนาที ไม่มีแม่ชั้นที่คอยเรียกพวกเราไปช่วยอบขนม" "เอริค" ดอนน่าอดีตแฟนของผมพูดขึ้นเหนื่อย ๆ "เธอลืมอะไรไปอย่าง พ่อแม่ของเรายังอยู่" "เอาน่า" ผมว่า "พวกเธอก็บอกว่ามาติวหนังสือหรืออะไรก็ได้นี่" "เอริค" ดอนน่าถอนใจ ทำไมนะเธอถึงชอบขัดคอผมเรื่อย "อย่างี่เง่า บ้านชั้นอยู่ข้าง ๆ นี่ ถ้ามีปาร์ตี้ พ่อชั้นก็ต้องรู้" "งั้นเสียใจด้วยดอนน่า เธอจะเป็นคนที่พลาดงานปาร์ตี้ที่เจ๋งที่สุดในยุค70" ไฮด์ทำหน้าขำ ๆ เมื่อผมพูดคำว่าเจ๋งที่สุด ทำไมกันวะ คนอย่างเอริค ฟอร์แมนจัดงานปาร์ตี้สุดเจ๋งไม่ได้รึไง "ชั้นชอบงานปาร์ตี้" เฟซบอก "ปาร์ตี้มีสาว ปาร์ตี้มีเหล้า เฟซรักงานปาร์ตี้" เขายังใช้ประโยคฟุ่มเฟือยได้อย่างคงเส้นคงวาสมกะเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน "แต่เฟซเสียใจที่เขาอยู่ไม่ได้" "อะไรนะ" ผมหัวเสียจนลืมกัดไอ้นิสัยที่เฟซชอบพูดถึงตัวเองด้วยสรรพนามบุรุษที่ 3 "ชั้นมีเดท" ผมหัวเราะก๊าก "นี่เฟซ นายจะมีเดทไปทำไม มันเสียเวลา เพราะยังไงนายก็ไม่ได้แอ้ม นายไม่ต้องไปหรอก เพราะทันที่ที่คู่เดทเห็นหน้านายเขาก็จะกลับ" "เอริค" แจ็คกี้ตะโกนใส่ผม "เธอมันชั่วร้าย เธอกล้าดียังถึงขัดขวางการเดทของเฟซ" แจ็คกี้สะกิดให้เฟซลุกขึ้น "เธอดูเค้าสิ ตัวเตี้ย หน้าตาพึลึก ท่าทางล่อแล่กไม่น่าไว้ใจ พูดภาษาอังกฤษสำเนียงเพี้ยน ๆ มองยังไงก็เป็นคนต่างชาติน่าขนลุก แล้ววันนี้เขาอุตส่าห์มีเดท มีเดทเชียวนะ มันเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของคนหน้าตาพิลึก น่าขนลุกแบบเขา" เฟซปรายตามองแจ็คกี้โกรธ ๆ "เชิญถากถางเฟซเลย แต่เขาไม่สนหรอก เพราะวันนี้เฟซจะออกเดทและจะเสียความบริสุทธิ์ที่เฟซรักษามานาน เฟซจะเป็นคนที่ได้แอ้ม" เฟซเดินออกไปจากห้อง ท่าทางมั่นใจเต็มที่ "นี่" ผมว่า "พวกนายว่าเฟซจะได้แอ้มไหม" "ไม่" ทุกคนตอบพร้อมกัน "พูดถึงเดท" แจ็คกี้จีบปากจีบคอ "2 ทุ่มแล้ว ได้เวลาเวลาเดทของชั้นพอดี" "อะไรน่ะ" ผมหัวเราะ "แจ็คกี้จะออกเดทและเสียความบริสุทธิ์ที่แจ็คกี้เสียไปนาน" "แสบสันต์" เคลโซตะโกน แจ็คกี้ฟาดผัวะเข้าที่ต้นแขนอย่างแรง "หุบปากนะไมเคิล นี่มันเดทของเรา" "ของเรา" หมอนั่นทำหน้างง ๆ "อย่าบอกนะว่าเธอลืมไปแล้ว นี่เธอคงลืมที่ชั้นสั่งให้ซื้อดอกไม้มาเซอร์ไพรส์ชั้นด้วยใช่ไหม" ผมงงเล็กน้อย แจ็คกี้สั่งให้เคลโซซื้อดอกไม้มาให้เธอเพื่อที่เธอจะเซอร์ไพรส์ "เคลโซ นายไม่จำเป็นต้องเดท พวกนายอย่างว่ากันตั้งหลายครั้งแล้ว" เคลโซทำท่าเห็นด้วยเลยถูกแจ็คกี้ทุบให้อีกหนึ่งผัวะ "นี่เอริค ถ้าเธอรู้จักโรแมนติคอีกนิด เธออาจจะได้ออกเดทอีกครั้ง หรืออย่างน้อยก็ไม่ต้องเสียผู้หญิงดี ๆ อย่างดอนน่าไป" ดอนน่ายิ้มแก้มปริ "ชั้นคิดว่าดอนน่าเป็นคนดีอย่างไม่ต้องสงสัย" ไฮด์ว่า "เพราะดอนน่ายอมให้คนอย่างโฟร์แมนได้แอ้ม ไม่งั้นเราอาจจะมีเฟซ 2 คน" "แสบสันต์" เคลโซบอก ก่อนถูกแจ็คกี้ลากออกไป ผมยังได้ยินเสียงแจ็คกี้กำชับให้เคลโซแวะซื้อดอกไม้เซอร์ไพรส์แว่วมา เหลือเชื่อเลย ดอกไม้เซอร์ไพรส์ "เอาละ" ผมหันมามองพวกที่เหลือ "ทีนี้เราสามคนจะเอาไง" "ความจริง ต้องบอกว่าสอง" ดอนน่าขัด "ดอนน่า!!" ผมร้อง "อย่าบอกนะว่าเธอก็มีเดท" "เอริค" ดอนน่าหน้าบูด "อย่ามาทำสุ้มเสียงเหมือนเรายังเป็นแฟนกันหน่อยเลย วันนี้ชั้นต้องไปดินเนอร์กะพ่อแล้วก็โจแอน" เธอหมายถึงผู้หญิงที่บ็อบกำลังคบอยู่ "เป็นความผิดของเธอที่ไม่บอกพวกเราก่อน สมน้ำหน้า" ดอนน่าทำหน้าล้อเลียน แล้ววิ่งจี๋ออกไป "ดูเหมือนว่า เซอร์ไพรส์ปาร์ตี้ของนาย มีนายคนเดียวที่เซอร์ไพรส์นะโฟร์แมน" ไฮด์พูดยิ้ม ๆ "เอาเลย" ผมตะโกนใส่หน้า "นายก็อีกคน ไปเลย ออกไปเดท" หมอนั่นยิ้ม เอื้อมมือมาตบบ่าผม "เอาน่า เอาเป็นว่าคืนนี้ชั้นเดทกะนาย" "ลุก" ผมคิดได้ "เราไปเล่นโบว์ลิงเบียร์กันดีกว่า" ถ้าคุณสงสัยว่ามันเป็นไง มันก็แค่เล่นโบว์ลิงแล้วก็ดื่มเบียร์แค่นั้นล่ะฮะ เราสองคนหยิบแจ็คเก็ตขึ้น เตรียมตัวออกไป ทันใดนั้นฝนก็ตกซู่ลงมา "โธ่โว้ย" ผมอยากจะบ้า มันอะไรกันนักกันหนาวะ ทำไมวันนี้ชีวิตผมที่ดูน่าจะสดชื่นกลับกลายเป็นเฮงซวยติด ๆ กันได้ ผมกะไฮด์ เดินกลับลงห้องใต้ดิน ไอ้ตัวผมน่ะตอนนี้หัวเสียสุด ๆ เลยคุณเอ๊ย พยายามสูดหายใจช้า ๆ สงบสติอารมณ์ พยายามคิดถึงหน้าพ่อตอนที่โวยวายว่ามันน่าเกลียดแค่ไหน "เอาล่ะไม่มีโบวลิ่ง อย่างน้อยเราก็ยังมีเบียร์" "ถ้านายหมายถึงเบียร์ของนายล่ะก็ ชั้นเห็นเรดหิ้วขึ้นรถไปด้วย" ไฮด์ยิ้มอย่างสะใจ พนันได้เลยว่าหมอนี่รอจะยิ้มเยาะผมอยู่ ผมสูดหายใจช้า ๆ อีกครั้ง คราวนี้ต้องนับถึง 45 ถึงจะสงบสติอยู่ อย่างน้อย คืนนี้ก็มีรายการชาร์ลีส์ แองเจิลส์ สเปเชียล 2 ชั่วโมง หวังว่าคงไม่ประจวบเหมาะฟาร์รา ฟอร์เซ็ทตายเอาวันนี้เลยงดฉาย ผมเปิดสวิท เสียงเพลงไตเติล ชาร์ลีส์แองเจิลส์ดังขึ้น ทันใดนั้น เสียงฟ้าร้องครืน เปรี้ยง ไฟดับวูบ พระเจ้าทำไมพระองค์ถึงเกลียดผมนัก ในความมืดผมได้ยินเสียงไฮด์หัวเราะดัง เออ เอาให้พอ ไฮด์จุดไฟแช็คขึ้น คลำหาเทียนได้สามเล่ม เจ๋ง ตอนนี้ผมมีอะไร ความมืด เทียนงี่เง่า และไอ้บ้าอีกตัวที่คอยหัวเราะเยาะในความโชคร้ายของผม ไฮด์หยิบเทียนไปเล่มนึง ตรงไปที่ตู้แช่ ทำเสียงกุกกัก พอกลับมาก็ได้ขวด ในนั้นมีน้ำสีออกพิลึก ๆ เหลืออยู่สักคืบ "อย่างน้อยก็มีไอ้นี่" หมอนั่นว่า "อะไร" "เหล้า" "แค่นี้จะไปพอยาไส้อะไรวะ" ผมคว้าขวดมาจากมือไฮด์ ยกขึ้นกรึ๊บนิดนึง อ๊าก พระเจ้า ทันทีที่ไอ้น้ำที่อยู่ข้างในขวดไหลลงคอ ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบาดวาบ ผมสำลักแค่ก ๆ น้ำหูน้ำตาไหล "นี่อะไรเนี่ย" ผมถาม สลับกะไอโขลก ๆ โอยเหลือจะทน "ไม่รู้ ลีโอให้มา ต้องผสมน้ำก่อน 10ต่อ1" "นี่นายยังกล้ารับของกินจากลีโออีกเหรอ" ลีโอคือฮิปปี้บ๊อง ๆ ทำงานที่โฟโต้ ฮัทที่เดียวกะที่ไฮด์ทำงานพิเศษ ผมเคยกินคุกกี้ของลีโอ ชิ้นนึง เข็ดมาจนบัดนี้ "กินไอ้นี่อย่างน้อยอยู่กะนายคงน่าเบื่อน้อยลง"
หมอว่าก่อนลุกขึ้นคลำทางไปหยิบน้ำกะแก้วมา เออ เบื่อเอ็งเหมือนกันละว้า เช้าก็เห็นเย็นก็เห็น ไอ้เหล้าของลีโอ(ความจริงผมว่ามันไม่ใช่เหล้าหรอกฮะ) นี่ก็ประหลาด หลังจากผสมกะน้ำแล้วซัดเข้าไปรสชาติก็ไม่เลวนะฮะ ผมรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเมา แต่ไม่เมา เหมือนไม่เมา แต่เมา(เห็นไหมมันทำเอาผมสับสนขนาดนี้เชียว) แต่ถึงมันจะดีแค่ไหน ผมว่าผมไม่มีทางกินมันอีกแน่ ๆ ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ ผมไม่มีทางกินอะไรที่ได้จากลีโออีกหรอก ผมกะไฮด์นั่งดื่มเหล้า(หรืออะไรก็ตาม) อยู่จนมันเหลือติดก็นขวดนิดหน่อย เรานั่งคุยกันถึงเรื่องต่าง ๆ อย่างเช่น ทำไมเคลโซกะเฟซถึงงี่เง่านัก (เราได้ขอสรุปว่าเฟซทำอะไรงี่เง่าเพราะเขาเป็นคนต่างชาติ ส่วนเคลโซนั้นงี่เง่าเพราะเขางี่เง่า) ความหลงตัวเองของแจ็คกี้(อันนี้รับรองว่าไฮด์ต้องรู้ซึ้งกว่าใครเพื่อน) เรด พ่อผมโวยวายแค่ไหน (และทุกครั้งผมคือคนรับกรรมในทุก ๆ เรื่อง) ฯลฯ "โฟร์แมน" จู่ ๆ หมอนั่นก็เรียกชื่อผม แต่ไม่ยักกะพูดอะไรต่อ เอาแต่จ้องตาไม่กระพริบ "หือ" "เล่น truth or dare กัน" "ได้" ผมว่า "ไฮด์ truth or dare" "truth" "ทำไมนายต้องใส่แว่นดำเกือบจะตลอดเวลา?" ผมถาม "เพราะ" หมอนั่นหยุดเหมือนใช้ความคิด แต่ยังไม่ละสายตาจากผม "ชั้นชอบแอบมองใครคนนึงและไม่อยากให้เขารู้ตัว" "ใคร?" ผมอยากรู้ "คำถามเดียว ตาชั้นมั่ง โฟรแมน truth or dare" "อ่า ..truth" "นายเคยแอ้มสาวมาแล้วกี่คน?" "เอ่อ .."ผมใช้ความคิด "4คน" "โฟร์แมน" หมอนั่นขึ้นเสียงสูงเป็นเชิงบอกว่าอย่าโกหก "ก็ได้ ๆ ๆ ๆ คนเดียว" แหงล่ะดอนน่า "ไฮด์ truth or dare" "truth" "นายเคยแบบว่า..รักใครจริง ๆ มั่งไหม?" ไฮด์เป็นอีกคนที่ได้หิ้วสาว ๆ มากหน้าหลายตา ถึงแม้หมอนี่จะไม่รูปหล่อเท่าเคลโซ แต่ก็ฉลาดกว่าเป็นไหน ๆ "เคย" หมอนั่นตอบ "ใคร?" "นายไม่อยากรู้หรอก ตาชั้นแล้ว truth or dare" "truth" "ตอนที่บัดดี้จูบนาย นายรู้สึกยังไง" ไฮด์ถามถึงตอนที่เด็กผู้ชายที่ชื่อบัดดี้จูบผม นั่นเป็นหนึ่งในลิสท์ 'เรื่องที่ไม่ควรพูดถึงของ เอริค โฟร์แมน' ผมพยายามทบทวนความรู้สึกในตอนนั้น จูบแรกจากเด็กผู้ชายของผม อ่า ..เดี๋ยวนี่มันไม่ใช่จูบแรก ผมรู้สึกตะหงิด ๆ เหมือนจะนึกอะไรออก "ก็แปลก ๆ ขนลุก แหยง ๆ " ผมว่า แต่ในใจยังพยายามนึกให้ออกว่าลืมอะไร "นายล่ะ truth or dare" "dare" อะไรดีว้า อ้อ ไอ้นี่ท่าจะเจ๋ง "ชั้นท้าให้นายซดเหล้านี่ให้หมด" ไฮด์ยกให้น้ำที่เหลือในขวดขึ้นซดเพียว ๆ โดยที่ไม่สำลักแบบผม "เอาล่ะ truth or dare" "อืม truth" ผมยังไม่อยากเสี่ยงเลือก dare กับหมอนี่หรอกรับรองว่าเรื่องที่บอกให้ทำมันต้องบ้าสุด ๆ "นายเคยจูบกะผู้ชายคนไหน นอกจากบัดดี้ไหม" ผมขมวดคิ้ว ทันใดนั้น ใช่ผมเคย แล้ว แล้วคนคนนั้นก็นั่งอยู่ตรงหน้าผม ใช่ ไฮด์ ความทรงจำเลือนลางในหัวผมกระจ่างขึ้นมาทันที ตอนนั้น ผม ไฮด์ เคลโซ เพิ่งขึ้นชั้นจูเนียร์ ไฮด์ พวกเราแอบสูบกัญชาที่ไฮด์ ขโมยมาจากแม่ เคลโซเมาหัวทิ่ม นอนตาลอยหัวเราะเหะ ๆ อยู่บนโซฟาตัวนี้ ผมกับไฮด์นอนอยู่กับพื้นข้างหลังโซฟา ทันใดนั้นผมก็เขยิบเข้าไปใกล้ไฮด์ แล้วจูบเขา ถึงจะเมาควันผมก็ยังนึกแปลกใจที่ไฮด์ไม่ชกผม หมอนั่นกลับทำหน้ายิ้ม ๆ แล้วก็เอามือมากอดผมไว้ เราทั้งคู่นอนกอดกันจนหลับไป กระทั่งสร่าง ทั้งผม ไฮด์ และเคลโซต่างไม่มีใครจำเหตุการณ์ตอนนั้นได้ ผมคิดว่าปกติผมคงต้องหลบตาไฮด์ เดินหนี หรือทำอะไรเพื่อเปลี่ยนหัวข้อที่เราคุยกันอยู่ แต่เหล้าของลีโอทำให้ผมใจกล้าขึ้นเยอะ "เคย" ผมตอบสั้น ๆ "ไฮด์ truth or dare" ผมไม่เปิดโอกาสให้หมอนั่นถามผมต่อว่าเป็นใคร "dare" ผมจ้องตาไฮด์ เป๋ง ความรู้สึกบ้าบิ่น อยากลองดีเกิดขึ้น "ชั้นท้านายให้ .จูบชั้น" ผมเห็นไฮด์ตาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย เป็นสัญญาณว่าหมอนั่นค่อนข้างตกใจ ตอนนั้นเองที่ผมรู้ว่าผมทำผิดไปเสียแล้ว ผมเล่นเกินขอบเขต "เฮ้ ไม่ต้องตกใจน่า เพื่อนชั้นล้อเล่ .." ก่อนที่ผมจะต่อจนจบประโยค ริมฝีปากของไฮด์ก็ทาบทับลงมา ผมรู้สึกอุ่นวูบ หมอนั่นเบียดตัวเข้าชิดกับผม มือนึงโอบรอบคอผมไว้ดึงไม่ให้ผมเขยิบหนี อีกมือบีบที่กรามผมเบา ๆ ให้ริมฝีปากผมเปิดออก ก่อนจะสอดลิ้นอุ่นเข้าไป ลิ้นของผมตอบสนองการรุกล้ำของเขา มือของผมโอบรอบคอเขา ร่างของผมเบียดชิดติดกับร่างของเขา พระเจ้า ผมปล่อยให้ตัวเองลอยล่อง ดื่มด่ำไปกับรสหวานที่ปลายลิ้น ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าสิ่งที่ผมเคยคิดนั่นมันผิด ผม .ผมยังคงหลงรักไฮด์อยู่ ไม่มีสักครั้งที่ผมจะพาตัวขึ้นมาจากความรักของเขาได้ ผมอยู่ที่นั่นเสมอมา ได้แต่หลอกตัวเองว่าผมไม่มีความรู้สึกอะไรอีกแล้ว ได้แต่หลอกตัวเองว่ามันเป็นแค่เรื่องโง่ ๆ พระเจ้า ผม ทันใดนั้นไฟก็สว่างวาบขึ้น ผมได้สติ ผลักเขาออกไป "ชั้น .." ผมลุกพรวด มองหน้าเขารอให้เขาพูดอะไรออกมา ไฮด์จ้องตาผมครู่หนึ่ง ก่อนหัวเราะเบา ๆ ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ "พวกเราเมามากแล้ว" ผมบอกเขา ทั้ง ๆ ที่ความจริงอาจจะมีแค่เขาที่เมาอยู่ "ชั้น ไปนอนล่ะ" . ผมยังคงลืมตาตื่นอยู่ในความมืด ผมรู้ดี . ผมรู้จักเขาดี ไอ้เรื่องที่เกิดขึ้นสำหรับไฮด์มันก็แค่ การเล่นห่าม ๆ อย่างนึงของเขา เป็นอีกเรื่องที่พยายามจะทำให้ผมช็อค ก็แค่นั้น มันก็แค่นั้น ไม่มีวันหรอกที่หมอนั่นจะรู้สึกอะไร ผมรู้จักเขาดี พระเจ้า ทำไมมันช่างเจ็บปวดอย่างนี้ .. ไฮด์กำลังกินกาแฟกะขนมปังอยู่ตอนที่ผมเข้าไปในครัว "ไง" ผมพยายามทำตัวปกติ เขาส่งเสียงฮึมฮัมรับคำ แทบจะไม่สนใจผมด้วยซ้ำ ทำไมเขาเฉยได้ขนาดนี้ "นี่ฟังนะ" ผมตัดสินใจพูดออกไป "ไอ้เรื่องเมื่อคืนมันเป็นแค่เรื่องตลก ๆ ที่เราเล่นกัน เป็นเรื่องผิดพลาดอ่ะนะ ชั้นเมาไปหน่อย" "อือฮึ" เขารับคำ ก็แค่นั้น ก็แค่นั้นเองสำหรับเขา . ผมถอนหายใจ ทิ้งตัวลงกะโซฟาอย่างเหน็ดเหนื่อย งานที่ไพรซ์มาร์ทวันนี้ผมทำผิดพลาดไปหมด ผมไม่มีกะจิตกะใจจะคิดถึงเรื่องอื่นนอกจากเขา จนกระทั่งผมต้องขอเลิกงานก่อนเวลา แต่ผมไม่ได้กลับบ้านทันทีหรอกนะฮะ ผมนั่งจมอยู่ที่สวนสาธารณะเสียดึกดื่น จนกระทั่งได้เวลาปิดนั่นล่ะ เสียงไขประตูห้องใต้ดินดังแกรกกราก ไฮด์กลับดึกกว่าผมเสียอีก "เฮ้เพื่อน" ผมทัก "นายไปไหนมาวะเนี่ย กลับเสียดึก" ไฮด์ส่งเสียงหึ ปรายตามองผม แต่ไม่ตอบอะไร "ไฮด์" ผมเรียกดูก็รู้ว่าหมอนั่นมีปัญหา บางทีเขาอาจจะเจอพ่อแม่แล้วก็ได้ "มีอะไร" หมอนั้นยังเฉยอยู่ "ไฮด์" ผมเรียกซ้ำ "นายเป็นอะไรไป มีเรื่องอะไรรึป่าว" หมอนั่นก็ยังเฉย ผมไม่สบายใจทุกครั้งที่เห็นหมอนี่มีท่าทียังงั้น ไฮด์เป็นคนประเภทที่ว่าไม่พูดจาอะไรมากนักเวลามีปัญหา ผมเลยต้องเซ้าซี้ถามเขาอย่างที่เคยทำ "ให้ตายเถอะ โฟร์แมน" เขาตะคอก "หุบปากซะทีได้ไหม" "นายบอกชั้นสิว่านายมีปัญหาอะไร" "ปัญหางั้นเหรอ นายไงตัวปัญหา" "ชั้น??" "เออใช่ ปัญหากะไอ้เรื่องตลก ๆ ของนาย ปัญหากะไอ้เรื่องที่นายบอกว่าแค่เรื่องผิดพลาด" ท่าทีเขาเหมือนโกรธจัดจริง ๆ "แต่สำหรับชั้น"ไฮด์จิ้มอกตัวเอง "พระเจ้า ชั้นรอวันนั้นมาตั้งนานแต่นายกลับบอกว่าเป็นแค่เรื่องผิดพลาด" "ไฮด์ หมายความว่าไง" "หมายความว่าสำหรับชั้นมันไม่มีอะไรตลก ไม่มีอะไรผิดพลาด พระเจ้า ชั้นรักนาย รอที่จะได้ทำแบบนั้นกะนายมาตั้งแต่เด็ก แต่..แต่นายกลับ" ผมงงวูบ แล้วถึงเปลี่ยนเป็นตกใจ และจากตกใจเป็น พระเจ้า ไฮด์รักผม เขารักผม และมันไม่ใช่แบบเพื่อน "ไฮด์ชั้น ." "นายไม่ต้องพูด ชั้นรู้ดี ชั้นจะไปเอง โฟร์แมน ชั้นพูดกะลีโอแล้วหมอนั่นให้ชั้นไปอยู่ที่โฟโต้ฮัทได้" "ไฮด์ โธ่เว้ย ไอ้บ้า ชั้นเองก็ ..ก็รักนายเหมือนกัน" "เหลือเชื่อเลยโฟร์แมน" ท่าทางหมอนั่นยิ่งโกรธจัดขึ้น "นายไม่จำเป็นต้องพูดอย่างนี้เพื่อให้ชั้นอยู่หรอก ชั้นจะไปเองนายจะได้ไม่ต้องอึดอั ." ผมประกบปากจูบหมอนั่นก่อนที่เขาจะพูดจบประโยคบ้าง "พระเจ้า" ไฮด์คราง เมื่อเราถอนริมฝีปากออกจากกัน "นายมันเด็กเลว สตีเวน ไฮด์ นายไม่เคยเชื่อคำพูดของคนอื่นเลย" ผมว่าเขา "โฟร์แมน นายไม่ควรเรียกแฟนนายว่าเด็กเลว ถึงแม้เขาจะเป็นยังงั้นจริง ๆ ก็เหอะ" เผลอแพล็บเดียวเขาตู่ว่าเป็นแฟนผมเสียแล้ว เราจูบกันอีกครั้ง คราวนี้มันดื่มด่ำ ร้อนแรงยิ่งกว่าเมื่อคืน ไฮด์ผลักผมลงไปนอนที่โซฟา ก่อนคลานขึ้นทาบทับ พร้อมกะถอดเสื้อออก ริมฝีปากเขาลดต่ำลง คราวนี้ไม่ใช่ที่ปาก แต่เป็นที่ลำคอผม ก่อนจะย้ายไปที่ใบหู ผมอึกอักพยายามสะกดเสียงครางไว้ ดูเหมือนไฮด์เองก็รู้และก็แกล้งผมต่อด้วยการรุกหนักกว่าเดิม ผมครางออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ค่อย ๆ ดันไหล่เขาออก ไฮด์จูบปลายจมูกผมเบา ๆ ก่อนตอบว่า "ชั้นซาบซึ้งในบุญคุณเสมอ คืนนี้รับรองว่าชั้นตอบแทนนายให้ถึงใจแน่" ไฮด์ก็มลงจูบผมอีกครั้ง อ้างอิงจากคำพูดของเขาเมื่อครู่ ผมว่าคืนนี้ต้องเป็นคืนที่น่าสนใจแน่ ๆ
*****
|