ผลงานทั้งหมดที่ลงอยู่ในหน้า Novel เป็นสิทธิส่วนตัวของผู้เขียน หากมีผู้ใดต้องการจะทำการคัดลอกหรือดัดแปลงผลงานบางส่วน หรือทั้งหมดเพื่อนำไปใช้ในการอื่น นอกจากอ่านเพื่อความบันเทิง กรุณาติดต่อเพื่อขออนุญาตจากผู้เขียนตาม e-mail ที่ให้ไว้เสียก่อน ขอบคุณสำหรับความร่วมมือค่ะ อีกประการหนึ่งนักเขียนทุกคนต้องการกำลังใจและคอมเมนท์(แม้ว่าบางคนจะไม่พูดออกมา)ไม่ว่าจะเป็นคำติหรือคำชมนะคะ เพราะฉะนั้นเมื่ออ่านแล้วชอบไม่ชอบยังไงไ ก็เมลไปคอมเมนท์ได้ตามอีเมลที่ให้ไว้ของแต่ละคน หรือไม่ก็โพสต์คำติชมไว้ในบอร์ดก็ได้ค่ะ

 

Lover's Diary

(Lover's Crisis 3)

by...nongrata

วันต่อมาแมกซ์กับไคน์ตื่นสายโด่งทำสถิติ ทั้งคู่ต้องมานั่งกินข้าวเช้าเย็นชืด คุยกันในรถแบบจืดๆ ตามด้วยจูบลากันแบบด้านสนิท

วันนี้ไคน์ต้องไปติดต่องานที่บริษัทเองเพราะมาร์กยังไม่ออกจากโรงพยาบาล แล้วก็ต้องเจอเรื่องละเหี่ยใจตอนนั่งรอให้แมกซ์มารับเพราะจู่ๆไมเคิลก็โผล่ออกมาดักหน้ายังกับรออยู่แล้ว ซึ่งความจริงก็ป็นอย่างนั้นน่ะแหละ.. ถ้าไม่ติดที่ว่าหมอนี่เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของต้นสังกัดตัวเองไคน์คงวิ่งหนีเอาดื้อๆไปแล้ว ในสายตาของไคน์ หมอนี่เป็นมนุษย์ที่น่าขยะแขยงที่สุดในโลก ตัวสูงโย่งแต่ผอมหนังหุ้มกระดูก หน้าเหมือนหนูตามท่อระบายน้ำ แถมยังโรคจิต ทำเป็นเคร่งศาสนารักลูกรักเมียจนต้องพกรูปไว้คอยอวดคนอื่นแต่จริงๆแล้วเป็นสตอล์กเกอร์

ไมเคิลทำท่าจะเอื้อมมือมาโอบไหล่ แต่ไคน์รีบฉากหลบไปยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่อีกมุมหนึ่ง ไมเคิลเดินตาม หอบหายใจแรงด้วยความตื่นเต้นซึ่งทำให้อีกฝ่ายถึงกับขนลุก

"ค.. ไคน์ อ.. เอ่อ ม.. มาร์กปะ..เป็นยะ ยังไงบ้าง?" ไมเคิลติดอ่างอยู่นานกว่าจะพูดจบ อาการแบบนี้ปรากฏทุกครั้งที่ได้อยู่กับไคน์สองต่อสอง เขาเริ่มกระเถิบเข้ามาทีละนิด

"ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วล่ะครับ ขอบคุณที่ถาม" ไคน์กระถดหนีทีละหน่อย

"ร..รู้ รู้รึยังวะ..ว่าลูกฉันคลอด คลอดแล้ว"

"ยินดีด้วยครับ คนที่ 5 ใช่ไหม?" ไคน์โดดหนีแขนผอมๆเหี่ยวๆไปอยู่หน้าประตูห้องน้ำ มือแตะลูกบิดเตรียมเผ่นถ้าจวนตัวขึ้นมา

"ค..คน คนที่6 รู้..รู้ไหมฉะ ฉันรักเด็ก"

"วิเศษไปเลยครับ เดี๋ยวนี้แฟมิลี่แมนยิ่งหายาก" คนพูดเอียงหน้าหลบปากแหยะๆที่พุ่งเข้ามา หน้าหนูจูบประตูเต็มรัก

"ว้าว! ทำอะไรอยู่น่ะทั้งคู่?" ดาเนียลทักทาย หน้าเปี่ยมรอยยิ้มทรงเสน่ห์เหมือนเคย "ไงครับ ไมเคิล รู้สึกว่าภรรยาคุณเพิ่งคลอดนี่นา"

"ใช่" หน้าหนูยิ้มให้ ไมเคิลชอบดาเนียลซึ่งก็ไม่แปลก เพราะส่วนใหญ่แล้วใครๆก็ชอบดาเนียลกันทั้งนั้น "ดูรูปมั้ย?" เจ้าตัวควักรูปออกมา

เด็กทารกหน้าตาพิลึกนอนหลับปุ๋ย "โอ น่ารักราวกับทูตสวรรค์องค์น้อยๆ"

คนฟังยิ้มแก้มปริ "แล้วนี่เมียฉัน"

ป้าแก่หน้าโทรมทำท่าเซ็งโลกใส่คนดู "งดงามเปี่ยมสง่าราศี"

"นี่พวกลูกชาย"

เด็กวัยรุ่นท่าทางเหมือนแกงค์กวนเมืองยืนเรียงกันเหมือนหนูในรังเล็กๆ "ท่วงท่าหน้าตาหล่อเหลาเอาการ"

"แล้วนี่ลูกสาวคนโต"

ผู้หญิงหน้าตกกระยิ้มฟันเหยินออกมาจากรูป "สวยมีเสน่ห์เซ็กซี่เป็นบ้า"

...แล้วใครล่ะจะไม่ชอบดาเนียล....



ภายหลังจากฟันฝ่าวิกฤตการณ์หนูมหาภัยมาได้ ดาเนียลดันไคน์เข้าห้องน้ำ จูบกันอย่างเร่าร้อนเป็นเวลานานกว่า 10 นาทีถึงจะสามารถเอาหน้าออกห่างจากกันได้สูงสุด 5 เซนติเมตร

"แอบดูอยู่นานแล้วล่ะสิ" ไคน์พูด แขนยังโอบรอบแผ่นหลังอีกฝ่ายเอาไว้

"ผมรู้ว่าคุณเอาตัวรอดได้" ดาเนียลสอดนิ้วเข้าไปในขอบกางเกงพลางกระซิบใส่หูเจ้าของ "โถ ดูหน้าสิ ผมช่วยให้คุณหายเซ็งได้นะ สนไหมจ๊ะ?"

ตอนที่แมกซ์เดินเข้ามาทั้งคู่กำลังจูบกันติดๆสามครั้งซ้อน แมกซ์อึ้ง ไคน์เฉย ส่วนดาเนียลส่งยิ้มให้

"หวัดดี แมกซิม มารับไคน์เหรอ?"

แมกซ์จ้องหน้าคนถามเขม็ง ไคน์มองซ้ายมองขวาแล้วทำหน้าเซ็ง

"ฉันไปรอที่รถนะ" เจ้าตัวเดินหนีเอาง่ายๆ

"โอเค แล้วพรุ่งนี้เจอกันอีกนะจ๊ะ"

ดาเนียลโบกมือให้ก่อนหันมาทางคนที่ยืนนิ่งอยู่ "อย่าทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างนั้นสิ แมกซิม เดี๋ยวหน้าก็เหี่ยวเร็วหรอก"

"เลิกยุ่งกับไคน์ได้แล้ว" แมกซ์คำราม "ตอนนี้ไคน์อยู่กับฉัน เราเป็นคนรักกัน"

คนฟังทำหน้าเมื่อย "โถ แมกซิม คุณนี่ใจแคบจังเลยนะ" ดาเนียลว่าพลางตบไหล่ "ผมให้อิสระไคน์เสมอ อันที่จริงต้องพูดว่าเราให้อิสระแก่กันมากกว่า ผมไม่เคยห้ามไม่ว่าเขาจะไปนอนกับใคร เขาเองก็ไม่เคยห้ามผม เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ต้องกลับมาหากันและกันอยู่ดี" ดาเนียลยืดตัวตรง เทียบกันแล้วเขาสูงกว่าแมกซ์เล็กน้อย "ผมอยู่กับเขามา 3 ปีกว่า เป็นระยะเวลาที่นานที่สุดของเราทั้งคู่ คุณคิดว่าอะไรที่ผูกพันผมกับเขาเอาไว้ด้วยกันล่ะ?"



แมกซ์ปึงปังกลับไปที่รถ เจอไคน์นอนหลับตานิ่งบนเบาะที่ปรับให้เอนลง หูฟังเพลงที่ตัวเองแต่งพลางทำปากขมุบขมิบ แมกซ์ดึงไคน์ขึ้นมาจูบ ไม่รู้สึกตัวเลยว่ากำลังรัดร่างอีกฝ่ายแรงเกินความจำเป็น ไคน์ดิ้นอึกอักอยู่พักใหญ่ถึงผลักแมกซ์ออกมาได้

"ทำอะไรของนาย?" คนถามเอาหลังมือเช็ดปากเพราะรู้สึกเจ็บ แต่คนมองกลับคิดไปอีกทาง "เกิดบ้าอะไรขึ้นมาอีกล่ะ?"

"ฉันไม่เหมือนดาเนียลนะ" แมกซ์เค้นเสียง

"แหงอยู่แล้ว"

"ฉันไม่ยอมให้นายนอนกับใครไปทั่ว"

ไคน์ขมวดคิ้ว เริ่มโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว "แล้วไง นายมีสิทธิ์อะไรล่ะ?"

"ตั้งแต่อยู่กับนายฉันยังไม่เคยนอนกับคนอื่นเลยนะ" แมกซ์ทำท่าคล้ายตัดพ้อ ไคน์เหลือกตามองเพดานรถแบบสุดเซ็ง

"ก็ไปซะสิ ตกลงกันไว้แต่แรกแล้วนี่นา เลือกให้มันดีๆหน่อยก็แล้วกัน"

"แต่ฉันไม่อยากนอนกับใครทั้งนั้น"

"ส่วนฉันยังอยากนอนกับคนอื่นอยู่ว่ะ"

"กับดาเนียล?"

"โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาเนียล"

"ฉันไม่ยอม!"

"นายมีสิทธิ์อะไรมาห้ามฉัน" ไคน์ถอยหนีอ้อมแขนที่จะเอื้อมมากอด "นายไม่สิทธิ์อะไรทั้งนั้น จะให้พูดกี่ครั้งก็ได้นะ นาย-ไม่-มี-สิทธิ์" เจ้าตัวเน้นเสียงทีละคำ

"นายเป็นของฉัน!" แมกซ์เถียง แต่ไคน์ยักไหล่ไม่ใส่ใจ

"โทษทีเหอะ ถ้าฉันต้องเป็นของผู้ชายที่ตัวเองนอนด้วยน่ะนะ ฉันคงเหลือมาให้นายแค่ผมเส้นเดียว"

แมกซ์ทุบเบาะระบายอารมณ์ก่อนออกรถแรงจนเกือบเป็นกระชาก ไคน์สูบบุหรี่ มองใบหน้าถมึงทึงผ่านม่านควันสีเทาจาง

"จะบอกอะไรให้อย่างนะ ถ้าคิดจะอยู่กับฉันนายต้องทำใจว่ะ"

 

อมาลิตาไปร้านขายซีดีเพราะยังติดใจเพลงที่ได้ยินในวันงาน พอซื้อเสร็จก็นึกถึงคีธขึ้นมาเลยถามชื่อโรงพยาบาลจากพนักงานขายเพราะไม่ได้ดูข่าวหรืออ่านอะไรเลยตั้งแต่วันนั้น อมาลิตาแวะซื้อของเยี่ยม ยืนเลือกอยู่นานสองนานเพราะไม่รู้ว่าควรซื้ออะไรดี

ดอกไม้ดีไหมนะ? เขาเป็นผู้ชายแต่คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ถ้าเอากุหลาบเดี๋ยวเกิดนึกถึงความหลังขึ้นมาจะยุ่ง เอาลิลลี่สีขาวดีกว่า มันดูบริสุทธิ์ดี หรือจะเป็นเนคไทดี? แต่ร็อคสตาร์คงไม่ค่อยใส่สูท แล้วถ้าเขาเกิดเอาแขวนคอขึ้นมาคงแย่ ไม่เอาดีกว่า อมาลิตาเดินออกจากแผนกเสื้อผ้าเข้าแผนกเครื่องดื่ม ไวน์แดงล่ะเป็นไง? หรือแชมเปญจะเหมาะกว่า? ว่าแต่หมอจะอนุญาตหรือเปล่า ถ้าเขาเมาแล้วพยายามฆ่าตัวตายล่ะ?

อมาลิตาคิดหนัก ในที่สุดก็ตัดสินใจซื้อมันทุกอย่างแล้วหอบไปโรงพยาบาล ต้องบอกปฏิเสธเจ้าของลีมูซีน 2 คนกับเฟอร์รารีอีก 1 คนที่เข้ามาหลีกว่าจะพะรุงพะรังไปถึง

คีธดูแปลกใจหน่อยๆเมื่อเห็นแขกผู้ไม่คาดคิดแต่ก็ยิ้มให้ ท่าทางแข็งแรงเป็นปกติแล้วแต่หมอยังไม่อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล

"เป็นยังไงบ้างครับ? รู้สึกดีขึ้นรึยัง? วันนั้นผมเห็นคุณร้องไห้" น้ำเสียงเขาฟังดูเป็นห่วงเป็นใย แต่คนฟังคิดว่าตัวเองควรเป็นคนพูดคำนั้นมากกว่า จริงอยู่ว่าคีธไม่ได้ร้องไห้ แต่อย่างน้อยอมาลิตาก็ยังไม่ต้องถูกหามเข้าโรงพยาบาลนี่นา

"ฉันว่าฉันโอเคแล้วค่ะ" ..กว่าคุณ... อมาลิตาแอบต่อในใจ เพิ่งสังเกตเห็นช่อดอกลิลลี่ที่อยู่ในแจกัน ยังดูสดใหม่เหมือนเจ้าของใส่ใจอย่างดี แต่มันควรเป็นกุหลาบแดงมากกว่าไม่ใช่เหรอ? หรือเพื่อนเอามาเยี่ยม? "ดอกไม้สวยจังค่ะ"

"ไคน์เอามาเยี่ยมครับ"

อมาลิตาชะงัก มองดอกลิลลี่ของตัวเองแบบแหยงๆ ไม่รู้ว่าถ้าคนตรงหน้าเกิดเฮิร์ตขึ้นมาอีกรอบจะเกิดอะไรขึ้น เขาอาจโดดหน้าต่าง เอามีดปอกผลไม้เชือดคอ หรือแอบกินยาขัดพื้นห้องน้ำก็ได้ พระเจ้า โปรดอภัยในความโง่เขลาของลูกที่ทำให้คนอื่นต้องเจ็บปวดจนคิดอยากตาย!

"ฉันไปซื้อซีดีของคุณมาค่ะ อัลบั้มนั้นไงคะ ที่คุณร้องวันนั้น"

"นั่นผมทำกับไคน์ครับ"

อมาลิตาอยากทุบหัวตัวเอง หล่อนไม่ฟังเพลงร็อค ไม่เคยรู้เรื่องในวงการเลยไม่รู้ถึงสัมพันธ์สวาทระหว่างสองคนนี้ พระเจ้า ขอร้องล่ะ อย่าโดดหน้าต่างนะ!

ผ่านไปกว่า 5 นาทีแล้วแต่คีธก็ยังไม่คลั่ง เขายิ้มน้อยๆ ท่าทางเหมือนรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่

"ผมไม่ฆ่าตัวตายหรอกครับ ขอบคุณที่เป็นห่วง"

คนฟังยิ้มเขินๆ "ขอโทษค่ะ ยินดีด้วยที่คุณพูดออกมาได้แบบนี้ คุณคงทำใจลืมเขาได้แล้วใช่ไหมคะ?" อมาลิตาถาม นึกเปรียบเทียบความเจ็บปวดของคีธกับตัวเองว่าใครจะช้ำใจกว่ากันระหว่างชายแท้ที่ถูกเกย์สลัดทิ้งกับหญิงจริงที่โดนเกย์หลอกต้ม คีธเงียบไปพักหนึ่งราวกับจะค่อยๆซึมซับความเจ็บปวดเพื่อรวบรวมออกมาเป็นคำพูด

"ผมไม่มีวันลืมเขาได้หรอก อมาลิตา" หน้าของเขานิ่งพอกันกับน้ำเสียงที่ฟังเหมือนได้รับการไตร่ตรองมาอย่างดีแล้วทุกคำ "ผมยังรักเขาอยู่ ไม่จำเป็นว่าเขาจะรู้สึกยังไง แต่ผมรักเขา ผมรักไคน์"

อมาลิตาเงียบกริบ พักเดียวน้ำตาก็เริ่มไหล ไม่ได้สะอึกสะอื้นแต่ก็หยุดร้องไม่ได้ คีธส่งผ้าขนหนูให้ ปลายนิ้วแตะหลังมือผอมบางอย่างปลอบประโลม "ใช่.. คุณพูดถูก ฉันก็เหมือนกัน ฉันรักเขา ฉันโกรธแล้วก็ผิดหวังแต่ไม่ได้เกลียดเขาเลย ฉันรักเขามาก เขาเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดที่ฉันเคยเจอ ฉันรักแมกซิม"อมาลิตาสูดจมูก ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต "จริงๆแล้วฉันเองก็เห็นแก่ตัว ฉันโยนความผิดทั้งหมดให้เขาเพราะว่าเขาเป็นเกย์ แต่ถ้าเขาเป็นผู้ชายแท้ฉันก็เป็นนังทุเรศที่ทิ้งเขาไปแล้วยังหน้าด้านมาขอคืนดี"

"แต่เรื่องนี้เขาผิดมากกว่าคุณ"

อมาลิตาเงยหน้ามองคนพูด ท่าทางประหลาดใจ "แล้วเรื่องคุณล่ะคะ? เขา.. ไคน์เป็นคนยังไง?"

"เรื่องของเราคล้ายกันก็จริงแต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียวหรอกนะ อย่าทำหน้างงอย่างนั้นสิ" คีธยิ้มให้เหมือนกำลังอธิบายให้เด็กฟัง "ตอนแรกที่อยู่ด้วยกันเขาไม่ได้บอกคุณว่าเขาเป็นเกย์ส่วนผมรู้มาตั้งแต่แรก ผมรู้เรื่องอื่นๆแทบทั้งหมดด้วยซ้ำ แต่เขาคงไม่ได้บอกอะไรคุณเลยใช่ไหม ดังนั้นคุณไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก"

"แต่เขาเป็นคนดีมากเลยนะ" อมาลิตายิ้ม หล่อนเชื่อคีธเพราะผ่านประสบการณ์ความเจ็บปวดอย่างเดียวกัน ถ้าเป็นคนอื่น ต่อให้เป็นแซนดราก็คงทำให้อมาลิตารู้สึกดีขนาดนี้ไม่ได้ คีธเป็นเหมือนเพื่อนที่รอดชีวิตมาจากวิกฤตการณ์อะไรซักอย่างที่แสนจะเลวร้ายมาด้วยกัน อมาลิตาสบตากับคีธแล้วเริ่มหัวเราะทั้งที่คราบน้ำตายังอาบแก้ม ทั้งคู่กอดคอกัน

"We're not victim but survivors."


comment