ผลงานทั้งหมดที่ลงอยู่ในหน้า Novel เป็นสิทธิส่วนตัวของผู้เขียน หากมีผู้ใดต้องการจะทำการคัดลอกหรือดัดแปลงผลงานบางส่วน หรือทั้งหมดเพื่อนำไปใช้ในการอื่น นอกจากอ่านเพื่อความบันเทิง กรุณาติดต่อเพื่อขออนุญาตจากผู้เขียนตาม e-mail ที่ให้ไว้เสียก่อน ขอบคุณสำหรับความร่วมมือค่ะ อีกประการหนึ่งนักเขียนทุกคนต้องการกำลังใจและคอมเมนท์(แม้ว่าบางคนจะไม่พูดออกมา)ไม่ว่าจะเป็นคำติหรือคำชมนะคะ เพราะฉะนั้นเมื่ออ่านแล้วชอบไม่ชอบยังไงไ ก็เมลไปคอมเมนท์ได้ตามอีเมลที่ให้ไว้ของแต่ละคน หรือไม่ก็โพสต์คำติชมไว้ในบอร์ดก็ได้ค่ะ

 

Lover's Diary

(Lover's Crisis 9)

by...nongrata

 

ไคน์นอนหลับตาบนเตียง พยายามระงับอารมณ์ที่กำลังกระเจิงด้วยความสยองขวัญอย่างสุดชีวิต เย็นไว้.. อย่าสติแตก มีเซ็กซ์ด้วยก็ไม่เห็นจะเป็นไร ยังไงซะไอ้นั่นของไมเคิลก็ต้องจึ๋งเดียวอยู่แล้ว ผอมแห้งไร้กล้ามเนื้ออย่างนั้นจะไปมีอะไรใหญ่ๆได้ แค่นอนหันหลังให้แล้วหลับตาก็จบ มันต้องเล็กจนไม่มีทางรู้สึกอะไรได้แหงๆ แจ๋ว! เท่านี้เราก็อยู่ด้วยกันได้ตลอดชีวิต มันช่างยอดเยี่ยมอะไรปานนี้นะ มีเซ็กซ์กันแต่ไม่มีอะไรสึกหรออะไรเลยแม้แต่น้อย เจ๋งมากไมเคิล ผมอยู่กับคุณได้ตลอดชีวิตเลยล่ะ! คนคิดเริ่มยิ้มออกทั้งๆตาปิดสนิทเมื่อหาทางออกให้ตัวเองได้ มาเลยตึ๋งนึง ฉันพร้อมแล้ว!

ไคน์ได้ยินเสียงรูดซิป รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ตอนถูกดึงมือให้เลื่อนลงไปจับ อันที่จริง... มันรู้สึกแย่เอามากๆเลยล่ะ... ไคน์สะดุ้ง แทบกระโดดลงจากเตียงแต่ไม่สามารถฝืนสังขารที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เท่ากับเหล้าเกือบ 3 ขวดไหลเวียนอยู่ได้ รู้ทันทีว่าทฤษฎีที่ว่าปริมาณกล้ามเนื้อสัมพันธ์กับขนาดของอวัยวะเพศเป็นอันตกไปโดยสิ้นเชิง ไคน์อยากร้องไห้ เป็นความรู้สึกที่ไม่ผิดอะไรกับนายแพทย์ผู้อุทิศตนเพื่อค้นหาวัคซีนป้องกันโรคแต่ได้มาพบว่าสิ่งที่ตัวเองเชื่อมาตลอดชีวิตนั้นไร้ค่า แถมยังติดโรคจนตายอีกต่างหาก!

พระเจ้า! พระเจ้า!! พระเจ้า!!!

ไคน์อยากกรี๊ดแต่ช็อกจนร้องไม่ออก ไมเคิลโน้มตัวเอาหน้ามาไซ้ซอกคอ ไคน์นอนนิ่ง พยายามเค้นสมองที่มึนตึ้บหาทางเอาตัวรอด แต่ดูเหมือนความคิดจะไม่มีทางแล่นไปถึงไหนได้เลยเพราะเจ้าตัวยังสยดสยองกับจินตนาการเกี่ยวกับเซ็กซ์ที่กำลังจะอุบัติขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ไคน์ยังจำครั้งแรกของตัวเองได้แม่น จำตอนคุณเบิ้มได้ดียิ่งกว่า แต่นี่มันน่ากลัวยิ่งกว่านั้นอีกนะ! ไคน์ไม่อยากเป็นคนเดียวในโลกที่ต้องมีครั้งแรกถึง 2 รอบ ไม่อยากอึ๊บกับใครทั้งนั้นที่ไอ้จู๋ใหญ่กว่าขนาดมาตรฐาน!!

นิ้วร้อนผ่าวของไมเคิลสอดเข้าไปในขอบกางเกง ไคน์กัดฟัน น้ำตาคลอเมื่อนึกถึงภาพตัวเองถูกหนูยักษ์หรืออีกนัยหนึ่งคือจู๋ยักษ์ปู้ยี่ปู้ยำไม่เหลือชิ้นดี มันช่างเป็นจินตภาพที่ร้ายกาจเกินกว่าเจ้าตัวจะรับไหว ไม่นะ พระเจ้า!

ไคน์ลุกพรวด กระแทกเอาไมเคิลไปนั่งเอ๋ออยู่ปลายเตียง ไคน์ส่ายหน้าทั้งมึนๆ อยากแหวะใส่คนตรงหน้าแต่ความสะเทือนใจที่กำลังจะได้รับเขย่าขวัญจนหายเมา น้ำตาไหลอาบแก้ม

"ไม่นะ..." เจ้าตัวครางเบาๆก่อนกลายเป็นตะโกน "..ผมเชื่อในพระเจ้า... ผมเชื่อในพระเจ้า!"

"เธอเป็นพวกไม่นับถือศาสนาอะไรเลยไม่ใช่เหรอ?" ไมเคิลถามงงๆ ไคน์ส่ายหน้าอีกรอบ

"ผมพยายามปฏิเสธพระองค์ตลอดมา ..แต่ก็ทำไม่ได้ พระองค์อยู่ตรงนี้ อยู่กับผมตลอดเวลา.." คนพูดกุมหัวใจประกอบ ตีบทแตกยิ่งกว่าให้มืออาชีพอย่างแมกซ์แสดงเสียอีก แค่คิดว่าต้องนอนกับไมเคิลน้ำตาก็ไหลพรากๆลงมาเองโดยอัตโนมัติแล้ว

"ผมทำไม่ได้.." ไคน์พูดซ้ำ "คุณแต่งงานแล้ว แถมเรายังเป็นผู้ชายเหมือนกัน พระเจ้าจะไม่มีวันยกโทษให้..."

"เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเลย" ไมเคิลยิ้ม ลูบไหล่ที่ยังสั่นด้วยแรงสะอื้นอย่างปลอบประโลม "พระเจ้าจะไม่ลงโทษผู้มีรัก"

ไคน์เงยหน้าแบบงงๆ ไม่นึกว่าคนเคร่งศาสนาอย่างไมเคิลจะพูดอย่างนี้ "แต่ในบัญญัติ 10 ประการข้อที่ 7..."

"บัญญัตินั้นอยู่ในพันธะสัญญาเก่า ในครั้งนั้นชาวยิวต่างคิดว่าต้องปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดตามคำสอนซึ่งจะฝ่าฝืนไม่ได้แม้แต่น้อย แต่ภายหลังการเสด็จมาของพระคริสต์ พระองค์ทรงเน้นในแง่ของจิตวิญญาณมากกว่าร่างกาย ไคน์" ไมเคิลเรียกขณะกุมมือเจ้าของชื่ออย่างอ่อนโยน "นักบุญเปาโลกล่าวว่า 'ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมบริสุทธิ์ต่อคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์' "

"..แต่"

"นักบุญออกัสตินกล่าวว่า 'จงรักพระเจ้า และทำอะไรก็ได้ตามความพอใจของพระเจ้า' "

ฉิบหาย... ฉันแพ้ว่ะ!

ไคน์คิดขณะถูกดันให้ลงไปนอนเหมือนเดิม รู้แล้วว่าต่อไปนี้จะต้องไม่ต่อล้อต่อเถียงเรื่องศาสนากับคนที่ไปโบสถ์ทุกอาทิตย์อย่างไมเคิลเป็นอันขาด พระเจ้า! ต่อไปนี้ลูกจะไปโบสถ์ จะสวดมนต์ทุกวันด้วย...

คนคิดเด้งขึ้นจากเตียงอีกรอบ ล้วงมือเข้าไปคว้าไบเบิลในเสื้ออีกฝ่ายออกมาอย่างรวดเร็ว

"เราต้องสวดมนต์!" ไคน์สั่งเฉียบขาด ไมเคิลงงเป็นไก่ตาแตก "เราต้องสวดมนต์ให้พระเจ้ายกโทษให้เรา คุกเข่าสิ!"

ไมเคิลลงไปคุกเข่าอยู่บนพื้นข้างเตียงอย่างว่าง่าย "พระบิดาของเราผู้สถิตในสรวงสวรรค์ พระนามของพระองค์จักเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาณาจักรของพระองค์จักมาถึง...."

ไคน์พลิกไบเบิลมือไม้สั่น พยายามหาบทยาวๆมาสวดต่อเรื่อยๆ ระดับมิซซาใหญ่วันคริสต์มาสได้เลยยิ่งดี ไมเคิลเงยหน้าขึ้นมาสบตาด้วยความรักระคนศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าเป็นระยะ ในขณะที่ไคน์ยิ่งสติแตกแถมอยากอ้วกรดไบเบิลอีกต่างหาก สมองคิดอะไรไม่ออกนอกจากความสยดสยองที่จะได้รับจากไอ้จู๋ของหนูยักษ์ที่ตอนนี้เก็บอยู่อย่างเรียบร้อยในกางเกง เสียงสวดมนต์ของไมเคิลยิ่งดังแว่วเข้าหู

"...และนำทางเรามิให้ตกสู่ความเย้ายวน.."

คนฟังชะงัก เมื่อกี๊ว่าอะไรนะ? ความเย้ายวน? พระเยซูไปยั่วใครงั้นเหรอ!? พระเจ้าช่วย! แม้กระทั่งไบเบิลยังสอดเซ็กซ์ โลกนี้ล่มสลายแล้ว!!

จังหวะเดียวกับที่ไคน์กำลังคิดจะทำตามสุภาษิตที่ว่า 'ช่วยตัวเองก่อนแล้วพระเจ้าจะช่วยคุณ' โดยการเอาไบเบิลทุบหัวไมเคิล ประตูก็เปิดผางออกเพราะไม่ได้ล็อก ทั้งคู่หันไปมองพร้อมกัน

"ที่รัก คุณมาได้ยังไง!?" ไมเคิลร้องถามอย่างตกใจทั้งๆคุกเข่า มือยังประสานกันไม่ยอมปล่อย

"..มีคนโทรไปบอกฉันค่ะว่าคุณอยู่ที่นี่กับเด็กผู้ชาย..." คนพูดดูท่าจะตกใจไม่แพ้กัน เพราะแทนที่จะเห็นภาพมนุษย์สองคนอึ๊บกัน เรื่องกลับกลายเป็นเจอเด็กที่ว่ากำลังยืนถือไบเบิล ส่วนสามีตัวเองกำลังนั่งคุกเข่าสวดมนต์

"คุณทำอะไรอยู่คะ?"

"ผมมาขอคำปรึกษาจากไมเคิลเขาน่ะครับ" ไคน์รีบตอบแทนไมเคิลที่พูดอะไรไม่บอกทั้งที่เสียงตัวเองก็ออกจะอ้อแอ้ ไมเคิลรีบพยักหน้ารับ ทั้งคู่ช่วยกันโกหกเอาตัวรอดซึ่งก็ไม่ยากเพราะรูปคดีอำนวย ไมเคิลสบตาไคน์อย่างขอลุแก่โทษแกมเสียดายอย่างสุดซึ้งตอนเดินออกไปพร้อมศรีภรรยา ไคน์โบกมือลาด้วยอารมณ์ของคนที่เพิ่งเอาชีวิตรอดมาได้หวุดหวิดในภาวะสุดวิกฤต แล้วประตูก็เปิดอีกรอบ คราวนี้มีช่อกุหลาบแดงโผล่ออกมาด้วย

"ไงจ๊ะที่รัก! มีความสุขดีมั้ยเอ่ย?"

ดาเนียลเข้ามาโอบเอวไคน์ เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาด้วยลีลาคล้ายเต้นรำพอให้คลื่นไส้ได้ที่แล้วลากเข้าห้องน้ำ วางลงหน้าชักโครกก่อนออกคำสั่ง

"เอาพ่อเทพบุตรไมเคิลของคุณลงชักโครกให้หมดซะที่รัก"

ไคน์ก้มหน้าซึ่งอาจมองว่าเป็นการพยักหน้าตอบรับด้วยก็ได้ก่อนทำตามเหมือนทหารผู้ได้รับการฝึกมาอย่างดี...



ดาเนียลจับไคน์ล้างหน้าล้างตาแล้วลากออกจากห้องน้ำ เอาไปเหวี่ยงขึ้นเตียงก่อนกระโจนตามลงไปกอดจูบกันนัวเนีย ไคน์หัวเราะพลางดันหน้าอีกฝ่ายออกจากซอกคอ

"ดูอยู่นานแล้วล่ะสิ"

"ตั้งแต่ต้นจนจบเลยจ้ะ"

"ทำไมนายชอบทำแบบนี้ทุกที" ไคน์บ่นแต่ไม่ได้โกรธ "แล้วถ้าเกิดฉันต้องนอนกับไมเคิลขึ้นมาจริงๆล่ะ"

"คุณก็รู้ว่าไม่มีทาง อีกอย่าง เวลาคุณหาทางเอาตัวรอดน่ะสนุกจะตาย" ดาเนียลฉีกยิ้มจนเห็นฟันขาวเรียงเป็นระเบียบ "คราวนี้อะไรนะ ว่าด้วยศาสนศาสตร์เหรอจ๊ะ?"

"ไม่ตลกเลยนะ!" ไคน์แหว "รู้มั้ยว่าของหมอนั่นมันผิดปกติ ฉันต้องตายแหงๆถ้านอนกับมัน!"

"โถ ผมจะจำไว้ว่าไมเคิลมีของดีควรสงวน"

ทั้งคู่สบตากันแล้วเงียบไปพักหนึ่ง ดาเนียลเอานิ้วพันผมสีน้ำผึ้งทองเล่น

"เชื่อไหมว่าผมไม่เคยนอนกับเธอเลย?"

"เชื่อ" เจ้าตัวตอบเร็วจนคนฟังประหลาดใจ

"เพราะอะไรจ๊ะ?"

ไคน์เหลือบมองคนถามด้วยหางตา "เพราะหล่อนทำหน้าอกมา ส่วนนายก็ประเภทอกไข่ดาวดีกว่านมตั้งตลอดเวลา"

"ดีจังที่คุณจำได้"

ดาเนียลเริ่มจูบ จริงๆแล้วไคน์ยังไม่นึกอยากมีเซ็กซ์กับใครทั้งนั้นแต่รู้สึกสำนึกบุญคุณบวกกับความจริงที่ว่าเซ็กซ์ของดาเนียลเจ๋งมากในทุกสถานการณ์

"หยุดเถอะ มันเป็นบาปนะ พระเจ้าจะไม่อภัยให้เรา" ไคน์พูดเล่นซึ่งถ้าเป็นสำหรับไมเคิลจะกลายเป็นเรื่องจริงชนิดคอขาดบาดตาย ดาเนียลยักคิ้วด้วยลีลาทรงเสน่ห์แล้วแหงนมองเพดานเหมือนจะสื่อสารกับเทพเบื้องบน

"สายไปแล้วล่ะพระองค์ แล้วทรงไปมุดหัวอยู่ไหนมาตอนที่มนุษย์โฮโมเซ็กชวลคู่แรกของโลกกำลังอึ๊บกันอยู่ล่ะ"

ทั้งคู่หัวเราะพลางตั้งหน้าตั้งตาฟัดกันอย่างเอาเป็นเอาตาย จะว่าไปแล้วไคน์ก็ไม่เคยเจอใครที่จะเพอร์เฟคต์เท่าดาเนียล ทั้งก่อนหน้าและหลังจากนี้...

"ที่รักจ๋า คุณว่าเซ็กซ์ของไมเคิลจะแจ๋วมั้ยถ้าเขาได้ทำกับคุณ?"

...ลืมไปอย่างนึง ถ้าไม่หลุดความอุบาทว์ออกมาจะเพอร์เฟคต์กว่านี้

ถ้าเป็นตอนปกติ ไคน์คงจะไม่รู้สึกอะไรกับคำถามนี้นอกจากคิดว่าชวนอ้วกนิดหน่อย แต่ตอนนี้มันทำให้เจ้าตัวนึกไปถึงเรื่องสยองขวัญที่เพิ่งผ่านพ้นของชายหน้าหนูกับไอ้จู๋ที่ไม่ธรรมดา ไคน์ก้มลง แหวะใส่คนตรงหน้าทันที

กลิ่นเหล้าฉุนกึกอบอวลทั่วห้อง ดาเนียลย่นจมูกก่อนทำหน้าซาบซึ้ง "นี่หรือคือกลิ่นถวิลหา" เขาหัวเราะอีกทีก่อนเดินเข้าห้องน้ำ ตะโกนตามออกมาด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง "ที่รัก ถ้าคุณยังอยู่ท่าเดิมจนผมออกไปล่ะก็คุณเสร็จแน่ แต่ถ้าไม่อยาก ก็เอามือถือผมโทรเรียกเขาให้มารับซะ นอกห้องด้วยนะ ไม่สิ นอกโรงแรมเลยดีกว่า เอาให้ผมกลับไปลากคุณขึ้นเตียงไม่ได้นั่นแหละ"

ไคน์ทำตามอย่างรวดเร็วซึ่งยังผลิตผลอันได้แก่อ้วกหนึ่งกองข้างซอกตึกมาให้ อากาศหนาวจนเจ้าตัวต้องนั่งขดพลางกดเบอร์ด้วยนิ้วอันแข็งเกร็งและสั่นเทา



แมกซ์รีบร้อนรับโทรศัพท์จนอมาลิตาตกใจ ไม่เคยเห็นรอยยิ้มของใครจะดูสดชื่นแกมโล่งใจได้มากไปกว่านี้มาก่อนเลย พอคุยจบ เขาปิดโทรศัพท์ก่อนหันมาทางหล่อนด้วยใบหน้ากึ่งขอโทษกึ่งเกรงใจ และแม้จะดูกระอักกระอ่วนที่ต้องทิ้งผู้หญิงที่เป็นคู่นัดแค่ไหนก็ยังเห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวถึงกับนั่งไม่ติด

"อมาลิตา ผมขอโทษ แต่.." แมกซ์ยืนรีรอ อมาลิตาตัดสินใจแทนทันที

"เดี๋ยว แมกซิม อย่าเพิ่งไป" คนพูดรีบเปิดตู้เสื้อผ้า คว้าเสื้อคลุมขนมิงค์สีดำมายัดใส่มืออีกฝ่าย "คุณบอกว่าเขาไม่ได้เอาเสื้อโค้ตไปไม่ใช่เหรอ"

"อมาลิตา.." แมกซ์ครางอย่างซาบซึ้ง "เคยมีคนบอกมั้ยว่าคุณคือนางฟ้า"

"เยอะพอดู" หล่อนยอมรับ "แต่ฉันเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นจริงๆก็วันนี้แหละ"

แมกซ์จูบลา อมาลิตายังยืนอยู่อย่างนั้นอีกหลายนาทีหลังประตูปิด หล่อนหลับตาลงก่อนพูดเบาๆ

"ขอขอบคุณ ใครก็ตาม.. ที่ทำให้ฉันได้พบรักแท้"

comment