ผลงานทั้งหมดที่ลงอยู่ในหน้า Novel เป็นสิทธิส่วนตัวของผู้เขียน หากมีผู้ใดต้องการจะทำการคัดลอกหรือดัดแปลงผลงานบางส่วน หรือทั้งหมดเพื่อนำไปใช้ในการอื่น นอกจากอ่านเพื่อความบันเทิง กรุณาติดต่อเพื่อขออนุญาตจากผู้เขียนตาม e-mail ที่ให้ไว้เสียก่อน ขอบคุณสำหรับความร่วมมือค่ะ อีกประการหนึ่งนักเขียนทุกคนต้องการกำลังใจและคอมเมนท์(แม้ว่าบางคนจะไม่พูดออกมา)ไม่ว่าจะเป็นคำติหรือคำชมนะคะ เพราะฉะนั้นเมื่ออ่านแล้วชอบไม่ชอบยังไงไ ก็เมลไปคอมเมนท์ได้ตามอีเมลที่ให้ไว้ของแต่ละคน หรือไม่ก็โพสต์คำติชมไว้ในบอร์ดก็ได้ค่ะ

 

Lover's Diary

(Lover's entr'acte : scene 11)

by...nongrata


Scene 11 : คุณพี่ครับ

หลังจากอยู่ด้วยกันมาได้หนึ่งอาทิตย์ แมกซ์ก็ต้องยอมรับว่าทาคุยะเป็นคนดีกว่าที่คิด หรือจริงๆแล้วคือดีกว่าเยอะมากๆ เป็นผู้ดีเรียบร้อยมารยาทงามจนรู้สึกละอายเวลาอยู่ด้วย อันที่จริงไคน์เองก็ไม่เชิงว่าจะทำตัวเนี้ยบแบบนี้ไม่เป็นหรอก แมกซ์เห็นมาดประมาณนี้ออกบ่อยไปเวลาเจ้าตัวเผลอหรือตอนกุ๊กกิ๊กหนุงหนิงกัน ท่าหนึ่งที่ติดใจมากคือลีลาในการดับบุหรี่ ไคน์จะใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางคีบบุหรี่ตั้งลงจรด ค่อยๆกรีดวนบนที่เขี่ยจนไฟดับ แล้วปล่อยให้บุหรี่ร่วงลงไปนอนในสภาพไร้ร่องรอยบุบสลายเหมือนไม่เคยโดนแตะต้องมาก่อน เป็นที่น่าเสียดายว่าท่านี้จะได้เห็นก็ต่อเมื่อคนทำรู้สึกผ่อนคลายสุดๆเท่านั้น

ตอนอยู่ด้วยกันใหม่ๆไคน์จะทำตัวห่ามใส่เหมือนตอนอยู่ข้างนอกตลอด จนเริ่มคุ้นกันถึงหลุดมาดทำนองนี้ออกมาให้เห็น ที่พิลึกก็คือมนุษย์ทั่วไปมักแสดงความดีให้คนภายนอกเห็น ต้องคนใกล้ชิดถึงจะเจอส่วนเน่าๆที่แอบซ่อนเอาไว้ แต่ไคน์กลับทำตรงกันข้าม และนี่เองเป็นเหตุผลว่าทำไมเจ้าตัวถึงมีคนเกลียดขี้หน้าหรือบางคนก็ถึงขั้นตั้งตัวเป็นศัตรูเต็มบ้านเต็มเมือง

ทาคุยะไม่ใช่แบบนั้น คำว่าดีไม่สามารถนำมาใช้นิยามได้ ต้องเรียกว่าประเสริฐเท่านั้นถึงจะคู่ควร เขาดีกับคนทั่วไปและดียิ่งกว่ากับน้องตัวเองแต่ไม่เคยตามใจจนเหลิง พอไคน์ทำท่าหงุดหงิดใส่แมกซ์ทาคุยะจะเข้ามากางปีกปกป้องแล้วยังทำท่าขอโทษขอโพย แถมยังมาขอร้องให้ช่วยดูแลน้องชายให้อีก อะฮ้า ถ้านี่ไม่ใช่การยอมรับว่าเป็นน้องเขยแล้วยังจะเรียกว่าอะไรได้อีก ถึงจะยังไม่ได้บอกไปว่าเป็นแฟนกันอยู่ก็เถอะ แต่คุณพี่ต้องรับรู้ถึงสายใยรักได้ด้วยสัญชาตญาณแหงๆ สมน้ำหน้าไอ้ดาเนียล!

ด้วยเหตุข้างต้น ระยะหลังแมกซ์จึงใช้เวลาอยู่กับทาคุยะมากกว่ากับไคน์เสียอีก แมกซ์พาทาคุยะไปกินมื้อกลางวัน พาชมเมือง เล่าเรื่องตลกให้ฟังเพื่อแสดงความมีอารมณ์ขัน ระยะหลังๆนี้ถึงกับมีการคุยเปิดอกเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวอีกนิดหน่อยอีกต่างหาก บางเวลาแมกซ์ถึงกับรู้สึกได้จริงๆว่าสายสัมพันธ์ของครอบครัวเริ่มผูกพันกันแน่นขึ้นเรื่อยๆอย่างเป็นกอบเป็นกำ มีไคน์อยู่ตรงกลาง ตัวเองกับทาคุยะขนาบข้างซ้ายขวาจนวิ่งหนีไปไหนไม่รอด สุขใดจะเสมอเหมือนสุขใจเป็นไม่มี

ดูท่าแมกซ์จะดื่มด่ำกับอารมณ์ที่ได้ใกล้ชิดฉันท์ญาติสนิทมิตรสหายกับลูกพี่ลูกน้องของแฟนมากไปหน่อย เพราะไคน์ที่รู้สึกเหมือนตัวเองถูกปล่อยเกาะแง่งใส่ในเช้าวันรุ่งขึ้น ตอนนั้นทาคุยะกำลังเตรียมตัวออกไปซื้อของที่ร้านใกล้ๆ แมกซ์ทำท่าจะไปด้วยแต่ไคน์เรียกไว้ก่อน ความที่เคยชินกับการมีคนคอยปกป้องทำให้แมกซ์หันไปมองหน้าไคน์แบบไม่พอใจ พอคนคอยหย่าศึกคล้อยหลังไปทั้งคู่ก็จ้องตาพลางแยกเขี้ยวใส่กันเหมือนสัตว์ป่าแอฟริกันสองตัวในสารคดีของเนชันแนลจีโอกราฟฟิก แล้วพอได้ยินเสียงปิดประตู แมกซ์กับไคน์ก็กระโจนเข้าฟัดกันโดยมีแมกซ์วิ่งหนีและไคน์ไล่เตะไปรอบๆ สงครามสงบลงตอนแมกซ์นอนคว่ำหน้าเป็นสัญญาณยอมแพ้ ไคน์ปีนขึ้นมานั่งทับตอกย้ำความเหนือกว่า

"อย่าคิดมายุ่งกับพี่ฉัน" ไคน์ขู่ฟ่อ "ไม่งั้นฉันจะทำให้นายไม่ได้มีเซ็กซ์กับใครอีกเลย"

"ฉันเปล่านะ!" แมกซ์แหกปาก "นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบคนอายุมากกว่า พี่นายสี่สิบแล้ว แถมยังแต่งงานแล้วด้วย"

"แล้วทำไมถึงชอบไปวุ่นวายกับพี่ฉันนัก?"

"ก็.." แมกซ์พูดไม่ออก คงไม่สวยแน่ถ้าจะบอกไปว่าหวังใช้เป็นเครื่องมือกระชับความสัมพันธ์ "ก็ฉันไม่อยากให้พี่นายเกลียดขี้หน้านี่ เราเป็นแฟนกัน ถ้าพี่นายไม่ชอบฉันมันคงลำบากน่าดู จริงไหมล่ะ?" อะแฮ่ม ที่พูดนี่ไม่ได้โกหกเลยซักแอะนะ แค่พูดความจริงไม่หมดมันผิดตรงไหนไม่ทราบ?

"จริงเหรอ?" ไคน์ยังทำหน้าไม่อยากเชื่อ ทำไมถึงเป็นคนไม่ยอมไว้เนื่อเชื่อใจขนาดนี้คนอื่นนะ

"อย่าคิดอะไรแบบนั้นสิ" แมกซ์พยายามกล่อม "ตอนนี้ฉันมีแค่นายคนเดียว"

"ไม่อยากจะเชื่อ"

"ทำไมนายถึงเป็นคนไม่เชื่อใจใครอย่างนี้นะ"

ไคน์จ้องตาคนพูดแบบเอาจริงซึ่งดูน่ากลัวเล็กๆ "เพราะมันไม่น่าเชื่อน่ะสิ"

ทั้งคู่ได้ยินเสียงเปิดประตู ไคน์รีบวิ่งไปหาพี่ชาย แมกซ์รอดตัว พลางคิดว่าทาคุยะเป็นอะไรซักอย่างที่ใกล้เคียงกับเทวดา

 

comment