ผลงานทั้งหมดที่ลงอยู่ในหน้า Novel เป็นสิทธิส่วนตัวของผู้เขียน หากมีผู้ใดต้องการจะทำการคัดลอกหรือดัดแปลงผลงานบางส่วน หรือทั้งหมดเพื่อนำไปใช้ในการอื่น นอกจากอ่านเพื่อความบันเทิง กรุณาติดต่อเพื่อขออนุญาตจากผู้เขียนตาม e-mail ที่ให้ไว้เสียก่อน ขอบคุณสำหรับความร่วมมือค่ะ อีกประการหนึ่งนักเขียนทุกคนต้องการกำลังใจและคอมเมนท์(แม้ว่าบางคนจะไม่พูดออกมา)ไม่ว่าจะเป็นคำติหรือคำชมนะคะ เพราะฉะนั้นเมื่ออ่านแล้วชอบไม่ชอบยังไงไ ก็เมลไปคอมเมนท์ได้ตามอีเมลที่ให้ไว้ของแต่ละคน หรือไม่ก็โพสต์คำติชมไว้ในบอร์ดก็ได้ค่ะ

 

Lover's Diary

(Lover's entr'acte : scene 13)

by...nongrata

Scene 13 : นอกใจ!

แมกซ์โผเผไปกินข้าวเย็นกับซาช่าที่บ้านตัวเอง ยังดีที่ไปพักเลียแผลใจกับแซนดรามาเมื่อคืนถึงได้ทำใจพอมามองหน้าสองคนพี่น้องนี้ได้ แต่เหมือนข้างในยังโหวงๆอยู่ยังไงชอบกล...

แมกซ์พูดน้อยมาก ได้แต่ส่งสายตาไปทางไคน์แบบเจ็บปวดแต่เจ้าตัวไม่แสดงทีท่าว่ารู้สึก ซาช่ายังคงหน้าระรื่นแม้ในบรรยากาศที่น่าอึดอัดขัดข้อง ไคน์กับทาคุยะวางท่าตามปกติ คุยกันเหมือนเมื่อวานไม่มีเรื่องอะไรเลย แมกซ์รู้แล้วว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นสองคนนี้ก็ไม่มีทางขึ้นเสียงโวยวายใส่กัน ไม่แม้กระทั่งพูดถึงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง หากอยากรู้ก็ต้องพยายามตีความให้แตกจากหน้ากากที่ต่างคนต่างใส่ไว้เพื่อปกป้องกันและกัน สรุปคือถ้าคุณอยากทำหนังน้ำเน่า สองคนนี้ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีของคุณแน่

"อากิระ เรื่องที่พี่คุยกับแดนเมื่อวาน..." ทาคุยะเปิดฉาก แมกซ์นั่งตัวเกร็ง แอบเห็นว่าไคน์ก็ชะงักไปเหมือนกัน

"ฮะ" เจ้าตัวตอบรับ ทำหน้าตาย

บอกไปสิ แมกซ์พยายามสบตาไคน์ ได้ความนิ่งเฉยเป็นคำตอบ

"ตอนนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่ใช่ไหม?"

"อา.."

แมกซ์หันไปมองทาคุยะแบบไม่อยากเชื่อสายตา ไม่น่าเชื่อว่าพวกผู้ดีจัดอย่างคนๆนี้จะไล่ต้อนน้องตัวเองในที่สาธารณะ หน้าไคน์เรียบเฉยแต่ดูเผือดลงกว่าเดิม เห็นแล้วให้นึกสงสารขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แมกซ์ลุกพรวดจนทุกคนหันมามอง อ้าปากจะเล่าทุกอย่างแบบไม่สนใจอะไรอีก แต่คนที่คิดจะช่วยกลับจ้องเขม็ง

"หยุดนะ"

"ไคน์.."

"ฉันบอกว่าหยุด"

แมกซ์เม้มปาก รู้สึกเหมือนถูกฉีกหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไร

..มีแต่คนที่ไม่ใช่พวกผู้ดีเท่านั้นที่พูด...

แมกซ์เดินออกมาเงียบๆ ซาช่าตามออกมาด้วย ทั้งคู่เข้าไปสูบบุหรี่ในห้องน้ำ

"ที่จริงผมว่าจะเลิกตั้งนานแล้วนะ" ซาช่าพูดพลางจุดมวนที่สอง หลังจากอัดมวนแรกแบบเอาเป็นเอาตายราวกับจะชดเชยเมื่อครู่ "เมื่อกี๊อึดอัดน่าดู ดีนะที่ดอดตามคุณออกมา"

"คุณไม่โกรธเหรอ?"

ซาช่าเลิกคิ้ว ตาสีฟ้าอ่อนเกือบขาวดูไม่รู้เรื่องตามที่พูดจริงๆ "เรื่องอะไร?"

"ไคน์ไง คุณไม่โกรธเหรอที่เขาเจ้ากี้เจ้าการให้คุณทำโน่นทำนี่ ให้ทำในสิ่งที่คุณไม่ได้เป็น เหมือนกับไม่อยากให้ใครรู้ว่าคุณกับเขาคบกันยังงั้นแหละ" ท้ายประโยคคนพูดเอาเรื่องตัวเองเข้าไปปน

"โอ้" ซาช่าร้อง "แต่เขาก็เป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรนะ"

"แล้วคุณโกรธเขาบ้างรึเปล่า?"

ซาช่ายิ้ม ยักไหล่แบบไม่คิดอะไรมาก "ด้วยความสัตย์จริง ไม่เคย แค่รำคาญบ้างบางครั้ง อย่างตอนที่เขาบังคับให้ผมกลับไปเรียนให้จบ ม.ปลาย แต่คุณคงเอาผมเป็นเกณฑ์ไม่ได้หรอก"

ก็จริง เพราะซาช่าเป็นพวกชอบเอาใจคนที่ตัวเองชอบ ในขณะที่ไคน์เป็นพวกชอบให้คนเอาใจ แถมซาช่ายังขันติสูงเกินมนุษย์ แมกซ์เคยเห็นเวลาสองคนนี้คุยกันแล้วไคน์เกิดโมโหที่ซาช่าไม่ยอมเข้าใจเรื่องที่พยายามคุยด้วยซักทีเลยจับเอาหัวกระแทกโต๊ะ ท่าทางน่าจะเจ็บเอาการแต่ซาช่ากลับทำแค่ลูบหน้าผากป้อยๆแล้วง้อให้พูดด้วยต่อ เรื่องคงไม่แปลกอะไรมากถ้าซาช่าเป็นพวกขาดแคลนเพื่อนฝูงชนิดที่ถ้าไม่มีไคน์ก็ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว แต่นี่ตรงกันข้าม ซาช่ามีเพื่อนสนิทมิตรสหายเต็มบ้านเต็มเมือง ในขณะที่ไคน์มีเพื่อนสนิทที่เป็นผู้ชายอยู่แค่คนเดียว นอกนั้นมีแต่คนขยาดไม่อยากเข้าใกล้ ไม่มีใครรู้ว่าอะไรผูกพันทั้งคู่ไว้ด้วยกัน แต่ถ้าต้องหาคำตอบจริงๆก็คงจะต้องเอาไปอิงกับพุทธศาสนาโดยปัดให้เป็นเรื่องของเวรกรรม

"ผมรู้สึกแย่" แมกซ์สารภาพ ซาช่าเหลือบมอง ยันตัวขึ้นนั่งบนเคานต์เตอร์อ่างล้างหน้า กระเถิบเข้าจนชิดคนพูดที่ยืนพิงผนังหินอ่อน ผิวของซาช่าอุ่นกว่าไคน์ที่มักเย็นนิดๆ ต้นขาเบียดกันขณะที่หลังสัมผัสกับความเย็นเยียบทำให้รู้สึกดีขึ้นมาอย่างประหลาด

ซาช่าไม่ใช่คนฉลาดในการพูดคุย แต่ถนัดเรื่องใช้ภาษาร่างกาย ไม่เหมือนไคน์ที่มักหาหัวข้อสนทนาน่าสนใจมาเปิดประเด็นได้เสมอ แต่สุดท้ายแล้วก็มีอันต้องวงแตกแทบทุกครั้ง แมกซ์รู้สึกว่าความคิดของไคน์กบฏเกินไป รุนแรงเกินไป มองโลกในแง่ร้ายเกินไป แต่ละคำที่พูดออกมาล้วนบาดหูและกรีดลึกลงไปถึงหัวใจ ไม่น่าแปลกที่ไม่ค่อยมีใครอยากฟัง ยกเว้นพวกหัวกบฏด้วยกันซึ่งก็มักจบลงตรงที่ต่างฝ่ายต่างทนกันไม่ได้ ผิดกับซาช่าที่เป็นพวกว่าไงว่าตามกันจนหลายคนบอกว่าโง่ แต่ถึงจะดูไร้สมอง เอาเข้าจริงๆแล้วคนที่คบกับไคน์ได้ยาวนานขนาดนี้ก็มีแค่ซาช่าคนเดียว

แมกซ์ซบหน้าลงบนไหล่ซาช่า ไม่มีกลิ่นกุหลาบกับไวน์แดงอันชวนลุ่มหลง แต่กว้างกว่า และอบอุ่นยิ่งกว่า

"อย่าทำอย่างนี้สิ" เจ้าของไหล่กระซิบ

"คุณไม่ชอบเหรอ?" แมกซ์พึมพำ ตายังปิดสนิท

"ก็เพราะชอบน่ะสิ"

คนพูดลงมายืนบนพื้น เป็นการบังคับกลายๆให้อีกฝ่ายต้องเอาศีระษะกลับไปพิงผนังตามเดิม แมกซ์ลืมตา ทันเห็นนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนใสก่อนริมฝีปากจะประกบกันสนิท ใบหน้าอยู่ประชิดจนต้องหลับตาลงอีกครั้ง ความยะเยือกของหินอ่อนทำให้ต้องรั้งร่างอุ่นจัดเข้ามาจนหน้าท้องบดเบียดกัน ซาช่าไม่ใช่คนตัวเล็กอย่างไคน์ เจ้าตัวสูงเกือบ 6 ฟุด แมกซ์ไม่จำเป็นต้องก้มลงเพื่อจูบหรือสบตา ซึ่งก็ดี เพราะสิ่งที่ต้องการตอนนี้คือความเท่าเทียมกันหรือเหนือกว่า การต้องก้มลงมองโดยสำนึกถึงความด้อยกว่าของตัวเองเป็นความขัดแย้งที่น่าสมเพชยังไงชอบกล

ซาช่าอ้าปากให้อีกฝ่ายเอาลิ้นควานเข้ามาได้ตามใจชอบ ไม่ว่าอะไรแม้มือที่เอื้อมลงมาขยำสะโพกจะทำให้รู้สึกเจ็บนิดๆ คนทำเหมือนจะรู้ตัว เลยถอนริมฝีปากออกพลางเอ่ยขอโทษงึมงำคล้ายละอายใจ

"ผมต้องการคุณ" แมกซ์กระซิบ

"ที่รัก คุณไม่ได้ต้องการผม" ซาช่าปฏิเสธด้วยน้ำเสียงคล้ายร้องเพลง แปลกที่ยังฟังดูรื่นเริงได้เหมือนเป็นสถานการณ์ปกติ "คุณอยากได้ใครซักคนมาช่วยปลอบใจ"

"งั้นคุณจะช่วยผมไหม?"

"อา นั่นเหมือนหน้าที่เลยแหละ"

คนพูดหัวเราะพลางรูดตัวลงคุกเข่า พรมจูบลงตรงกลางลำตัวผ่านเนื้อผ้า แมกซ์เม้มปาก พยายามนึกว่าไม่มีใครทำอะไรแบบนี้ให้มานานเท่าไหร่แล้ว ซาช่าปลดเข็มขัดกับซิปกางเกง ใช้ฟันขบเบาๆเป็นครั้งสุดท้ายก่อนรูดลง ผิวเนื้อแนบสนิททำให้คนที่ไม่มีอะไรอยู่ในปากต้องส่งเสียงครางออกมา รู้สึกถึงความลึกล้ำที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนสัมผัสได้ถึงคางของซาช่า เจ้าตัวทำเสียงคล้ายสำลักก่อนเผลอเอามือขยุ้มผมสีบลอนด์อ่อนจางโดยแรง ซาช่าไม่ว่าอะไรนอกจากทำต่อไป แมกซ์ก้มลงมอง แว่บหนึ่งปอยผมที่ลอดออกมาระหว่างนิ้วดูเข้มขึ้นราวกับเป็นอีกสีหนึ่ง เป็นสีที่ทำให้ต้องหลับตาลงอีกครั้งพร้อมด้วยอารมณ์วาบหวาม แมกซ์ครางผ่านลำคอ ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเผลอส่งเสียงดังแค่ไหน ถึงตาจะปิดสนิท แต่ภาพของสีผมเมื่อครู่ยังสามารถเห็นได้แม้ในความมืดมิดใต้เปลือกตา

วินาทีนั้นเองที่แมกซ์ถึงจุดสุดยอด

ซาช่ากลืนทุกอย่างลงคอ เลียปลายนิ้วที่เปื้อนก่อนหันมาทำอย่างเดียวกันกับอวัยวะที่อยู่ตรงหน้า แมกซ์ละมือออกจากศีรษะอีกฝ่าย ยกข้างหนึ่งขึ้นลูบหน้าก่อนจะเห็นว่าผมสีบลอนด์อ่อนจางจนเหมือนสีเงินพันกันยุ่งเหยิงเลยใช้อีกข้างช่วยสางให้เรียบร้อย

ประตูเปิด ไคน์ก้าวเข้ามา ก้มลงมองภาพเบื้องหน้าเป็นเวลาสั้นๆ ผมยาวรุ่ยร่ายบดบังทุกอย่างจากการรับรู้ของคนภายนอก และเมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ก็ไม่ได้มีอารมณ์ใดที่นอกเหนือไปจากปกติปรากฏอยู่เลย

"ไง ซาช่า" ไคน์ทักเพื่อนตัวเองพลางไขก๊อกล้างมือ "มาใช้มือกับปากอันขึ้นชื่อลือชาของนายอยู่นี่เองเรอะ"

"ไคน์" แมกซ์รีบร้องเรียก แต่แล้วก็นึกไม่ออกว่าควรพูดอะไรดี น่าแปลกที่ส่วนลึกในใจกลับรู้สึกผิดหวัง ..ให้ตะโกนด่าหรือเข้ามาต่อยยังจะดีกว่านี้ล้านเท่า...

เจ้าของชื่อเลิกคิ้ว มองซาช่าที่จัดการดึงกางเกงขึ้นพร้อมรูดซิปให้เรียบร้อยแล้วมองหน้าคนเรียก "ได้ยินเสียงเลยเข้ามาดู ทีหลังหุบปากหน่อยก็ดีนะ ฉันไม่อยากให้พี่ได้ยินเท่าไหร่" ไคน์พูดพลางควักผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมือ ส่งต่อให้เพื่อนสนิทที่เพิ่งลุกขึ้นยืน "เปื้อนผมนิดหน่อยแน่ะ"

"ขอบคุณ" ซาช่ารับไปเช็ด ชวนคุยต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น "เดี๋ยวซักแล้วคืนให้นะ"

ไคน์ทำหน้าขยะแขยง ..เหมือนอย่างเคย... "ทิ้งไปเลย ถ้าจะเก็บก็เอาไว้ใช้เองคนเดียวเถอะ" คนพูดเม้มปาก ปรายตามองนิดหนึ่ง นิดเดียวเท่านั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามองใคร "กลับล่ะ"

ไคน์เดินออกไป แมกซ์มองตาม กัดริมฝีปากจนรู้สึกเจ็บก่อนดึงคนที่ยืนข้างๆเข้ามาจูบ "ผมขึ้นไปส่งบนห้องนะ"

"อย่าเลย" ซาช่าหัวเราะ ขืนตัวออกจากอ้อมแขนอย่างนุ่มนวล

"ทำไมล่ะ?"

"เพราะคุณต้องขอผมนอนด้วย แล้วผมก็จะยอมตามสันดาน แล้วก็มารู้สึกผิดเอาทีหลังกันทั้งคู่"

"แล้วผมควรทำยังไงดี?"

"อย่าถามเรื่องยากๆอย่างนั้นสิ" เจ้าตัวยื่นหน้าเข้ามาจุ๊บแก้ม แล้วหันหลังวิ่งกลับขึ้นห้องพักชั่วคราว

แมกซ์เอามือลูบแก้มข้างที่โดนจูบ ยืนนิ่งครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจเดินกลับไปนอนที่ห้องตัวเอง ด้วยเหตุผลที่น่าสมเพชว่าที่นั่นยังเหลือความอบอุ่นและร่องรอยของความรักให้ไปพักพิงอยู่

comment