คุณรานี บุนนาค เล่าว่า
เมื่อได้ยินพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านแนะนำว่า ผู้ได้รับพระมหาสิริราชธาตุไปแล้ว ควรไปให้ช่างทำ กรอบพลาสติก เพราะพระของขวัญ องค์นี้ เป็นสุขุมาลชาติ ถูกกระทบกระแทกบ่อยๆ อาจชำรุดเสียหาย คุณรานีจึงชวนลูกชายลูกสาว และหลานสาว ไปที่ร้านทำกรอบพระ
ผู้เป็นช่างชื่อ คุณวิรัช อินทรประเสริฐ เมื่อเห็นองค์พระมหาสิริราชธาตุ บอกกับคุณรานีว่า พระแบบนี้เคยทำกรอบใส่ ให้หลายองค์แล้ว พอคุณเดินผ่านมา ผมรู้ทันทีว่า คนมีบุญมาให้ผม ใส่กรอบองค์พระอีกแล้ว ขณะที่ช่างเริ่มลงมือทำกรอบ คุณรานีได้เล่าเหตุการณ์ปาฏิหาริย์ เมื่อ วันที่ ๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ ที่ได้พบมาให้ช่างฟัง ช่างพูดขึ้นว่า ผมก็เป็นนักปฏิบัติธรรมเหมือนกันครับ แต่ผมเคารพ ครูบาอาจารย์ของผมมั่นคง ใครชวนไปปฏิบัติอย่างอื่น ไม่สำเร็จ
ช่างพูดทำนองป้องกันตนเอง ไม่ให้คุณรานีและลูกหลานชวนไปปฏิบัติธรรมที่วัดพระธรรมกาย
คุณรานีจึงเริ่มอธิบายว่า การปฏิบัติธรรม หรือนั่งสมาธิ เริ่มต้นได้ถึง ๔๐ วิธี ปฏิบัติแบบไหนใน ๔๐ วิธีนี้ ก็ได้ ที่เหมาะสมกับ อุปนิสัยใจคอ ของตน ลูกสาวคุณรานีกล่าวย้ำคำพูด ของผู้เป็นมารดาว่า พระเดชพระคุณ หลวงพ่อของเรา สอนไว้ว่า ในการปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งเป็นการ เริ่มต้นใน ๔๐ วิธีนี้ หากเอาใจกำหนดไว้ไม่ถูกที่ตั้ง จะไม่มีทางเข้าถึง พระธรรมกายในตัว เป็นอันขาด ต้องกำหนดใจ ไว้ที่ศูนย์กลางกาย เหนือ สะดือ ขึ้นมา ๒ นิ้วมือ ถ้าปฏิบัติธรรมแล้วไม่พบ พระธรรมกาย จะตัดอาสวกิเลสไม่ได้
ศูนย์กลางกายตรงนี้แหละ คือทางสายกลาง มัชฌิมาปฏิปทา เป็นทางสายเอกสายเดียว เรียกว่าเอกายนมรรค เรื่องการปฏิบัติธรรม โดยกำหนดใจไว้ที่ศูนย์กลางกายนี้ เป็นวิธีที่หายสาบสูญไปนานมาก ตั้งแต่ หลังพุทธกาลเพียง ๕๐๐ ปี หลวงพ่อ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านเพิ่ง ค้นเจอใหม่อีกครั้ง
พวกฤาษีชีไพรดาบสทั้งหลาย หรือแม้เหล่าพุทธสาวกอย่างเราๆ หากไม่รู้จักเอาใจอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ก็ไม่สามารถตัดอาสวกิเลสได้ ทำได้อย่างมาก เพียงให้กิเลสสงบชั่วคราว และทำอภิญญาจิตบางอย่าง เช่น ตาทิพย์ หูทิพย์ ระลึกชาติได้ รู้ใจผู้อื่น แต่จะไปถึงระดับ สิ้นอาสวกิเลส เข้าพระนิพพาน ทำไม่ได้ ได้อย่างมากแค่ตายแล้วไปเกิดเป็นอรูปพรหมเท่านั้น
ส่วนการทำวิปัสสนา เราไม่สามารถทำวิปัสสนาด้วยสติปัญญาของระดับกายเนื้อมนุษย์ได้ เพราะมีกิเลสหุ้มดวงปัญญาอยู่ พระเดชพระคุณ หลวงพ่อของเราสอนว่า การทำวิปัสสนา ต้องใช้ธรรมจักษุ ตาของกายธรรม เป็นตารู้รอบ ต้องใช้ปัญญาระดับนั้น เป็นอยู่เหนือจิต การเอาจิต พิจารณานมหาสติปัฏฐาน ๔ กาย เวทนา จิต ธรรม ต้องใช้ ปัญญาระดับกายธรรม ไม่ใช้ปัญญาแค่ กายมนุษย์หรอกค่ะ ทั้งคุณรานีและลูกสาว ช่วยกัน อธิบาย กระทั่ง คุณวิรัชพูดว่า ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายพูดเก่งทุกคน
อย่างไรก็ตาม คำพูดเหล่านี้คงกระทบใจคุณวิรัชอยู่บ้าง ตรงที่ว่าปัญญาของกายมนุษย์ทำวิปัสสนา ไม่ได้ เพราะคุณวิรัชก็ใช้ปัญญามนุษย์ นี่แหละทำสติปัฏฐาน ๔ พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม ของกายคุณวิรัช เอง หลายปีมานานเต็มที ยังไม่ปรากฏว่าเกิดการสิ้นกิเลส หรือได้ ความสามารถพิเศษอย่างอื่น ได้แค่ เชื่อมั่นว่า ตนเองทำจิตตภาวนาเป็น และอธิษฐาน ให้มีผู้มาขอความช่วยเหลือ และประสบความสำเร็จบ้าง เป็นบางราย
คุณวิรัชเงียบเสียงไปแล้วก็จริง แต่ไม่ใช่เงียบเพราะเห็นด้วย เงียบเพราะไม่ทราบ จะหาเหตุผลอะไรมา คัดค้าน ไม่รู้จักเรื่องกายต่างๆ ที่ซ้อนอยู่ภายในกายมนุษย์ ในใจของคุณวิรัช คงจะคิดอะไรที่ไม่สมควร เช่น โต้เถียงคัดค้านคำสอนของ หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ อยู่กระมัง จึงมีเหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้น คือ
ไม่สามารถล้อมกรอบองค์พระได้สำเร็จ พลาสติกจะยับย่น เหมือนถูกไฟลนทุกครั้ง ที่วางองค์พระลงไป จะแก้ไขอย่างไร อย่างไร จนเหงื่อ ไหลไคลย้อย ก็แก้ไม่ตก ในที่สุดคุณรานีเห็นช่างหลับตา ทำสมาธินิ่งอยู่ ครู่ใหญ่ ออกจากสมาธิแล้ว จึงลงมือทำได้สำเร็จ
ช่างเล่าว่า ผมขอสารภาพ ผมเป็นคนดื้อ เมื่อกี้ผมฟังคำแนะนำจากพวกคุณแล้ว ไม่ยอมเชื่อนึกคัดค้าน หลวงพ่อสดหรือ หลวงพ่อองค์นี้ ก็ไม่ทราบ (พร้อมกับก้มมองที่ พระมหาสิริราชธาตุ) ทำโทษผม ทำให้ผม ใส่กรอบท่านไม่ได้ ทั้งที่ผมก็เคย ใส่กรอบพระอย่างนี้ มาหลายองค์แล้ว ผมเลยต้องทำสมาธิตั้งใจ ขอขมาท่าน แล้วจึงทำได้สำเร็จนี่แหละครับ ผมบอกท่านว่า นี่เป็นอาชีพของผม ขอให้ผมทำสำเร็จ จึงทำได้ แหมศักดิ์สิทธิ์ จริงๆ
ลูกสาวคุณรานีเห็นว่าช่างมีจิตใจอ่อนลง จึงคุยเพิ่มเติมให้กำลังใจว่า การปฏิบัติธรรมโดยกำหนดใจไว้ที่ ศูนย์กลางกาย นี่ง่ายที่สุดเลยค่ะ ตรงที่สุด ด้วย เด็กๆ ก็ปฏิบัติได้ หลวงพ่อท่านสอนให้เราเอาใจไปไว้ที่ องค์พระในตัวเราเลย เพราะพระอยู่ที่ ศูนย์กลางกายเรา อยู่แล้ว ไปไหน มาไหนจะอยู่อิริยาบถใด ก็ตาม นึกถึงท่านให้ตลอดเวลา ถ้าเกรงจิตใจจะฟุ้งไปเรื่องอื่น ก็ภาวนาในใจว่า สัมมา อะระหัง สัมมาอะระหัง สัมมา อะระหัง ซึ่งเป็นพระนามหนึ่ง ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่องในใจเหมือนพุทธานุสติไงคะ
ช่างตอบอย่างยอมรับมากขึ้นว่า อย่างนั้นหรือครับ ทึกทักเอาก่อนเลยหรือว่า มีองค์พระอยู่ที่นั่น แล้วท่อง สัมมาอะระหัง เท่านั้นใช่ไหม คำนี้ผมฟังแล้วขนลุกเลย พูดตอบพร้อมกับชี้ให้ดูขนที่แขนของเขาลุกตั้ง
เมื่อทำกรอบใส่องค์พระเรียบร้อย ลูกค้าทั้ง ๔ คนจะลากลับ ช่างพูดว่า คืนนี้ผมจะเริ่มปฏิบัติธรรมตามที่ พวกคุณแนะนำ พร้อมทั้งให้ชื่อ นามสกุล และหมายเลขโทรศัพท์
รุ่งเช้า คุณรานีและลูกชายไปหาช่าง ให้ใส่กรอบพระเพิ่มอีก ๖ องค์ พบหน้ากันช่างพูดว่า เมื่อคืนตอน ยังไม่หลับ ผมท่อง สัมมาอะระหัง ตลอดเลยครับ
สัปดาห์ถัดมา ลูกสาวคุณรานีโทรศัพท์ไปเพื่อบอกว่าจะนำองค์พระไปให้คุณวิรัชใส่กรอบอีก ฝ่ายนั้น บอกว่า ตอนนี้ทุกวันพฤหัสบดี ตอนเย็น ได้ไปนั่งปฏิบัติธรรม ที่ศูนย์กัลยาณมิตร บ้านของคุณหมออภิวัฒน์ ที่ซอยอยู่เย็น
ต่อมาอีกสัปดาห์หนึ่ง คุณรานีโทรศัพท์ชวนคุณวิรัชไปวัด ในวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ ได้รับคำตอบ แบ่งรับแบ่งสู้ แต่เล่าว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วมา ฝนตกตอนเย็น ผมยังขี่มอเตอร์ไซค์ฝ่าสายฝนไป ปฏิบัติธรรมที่ศูนย์เหมือนเช่นเคย ไม่ให้เสียสัจจะของตนเองที่ตั้งใจไว้ ทุกคนในครอบครัวของ คุณรานีพากันอนุโมทนา และขออนุญาตนำเรื่องของคุณวิรัช มาลงในหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ ซึ่งคุณวิรัช ไม่ขัดข้อง
น่าชื่นใจที่ครอบครัวของคุณรานี บุนนาค เป็นครอบครัวสัมมาทิฏฐิ มีอัธยาศัยเหมือนกัน ชอบประกอบบุญกุศล ไม่มีใครขวางใคร การดำเนินชีวิตภายในครอบครัว จึงราบรื่นสงบสุข ทุกคนมีสุขภาพจิตดี โดยเฉพาะ คุณรานี มีลูกชาย ลูกสาวและหลานมาเข้าวัด พร้อมบุพพการี คุณรานีย่อมมีความสุขใจมาก ไม่ต้องห่วงหน้า พะวงหลัง
คุณวิรัชช่างทำกรอบพระพลาสติก ทำงานไม่ได้ เมื่อวางองค์พระลงไปที่แผ่นพลาสติก แล้วแผ่นพลาสติก กลับยับย่นเหมือนถูกไฟลน นั่นแหละอานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ ความคิดอกุศล ต่อต้านคัดค้านคำสอน ของหลวงพ่อ ก็เหมือนมีใจไม่เคารพในพระธรรม อันบริสุทธิ์ บาปจึงเกิดขึ้น บาปทำให้จิตใจเร่าร้อนไม่เป็นสุข พระมหาสิริราชธาตุสร้างขึ้น ด้วยธาตุมีฤทธิ์พิเศษ สามารถซึมซับ เอาความร้อนในจิตใจคน ที่อยู่ใกล้ในเวลานั้น จึงเกิดปฏิกิริยาขึ้นที่เนื้อแผ่นพลาสติก
ด้วยเหตุนี้ คุณวิรัชจึงต้องพบกับอานุภาพขององค์พระมหาสิริราชธาตุ จนเหน็ดเหนื่อยเหงื่อ ไหลไคลย้อยแก้ไขไม่ตก เมื่อรู้สำนึกผิด ที่คิดอกุศลล่วงเกิน ทั้งพระธรรมทั้งพระสงฆ์ อย่างหลวงพ่อ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ คิดขอขมาโทษขึ้นมา ตอนนี้จิตเป็นกุศลแล้ว จิตมีสภาพเย็น ปัญหาก็จบลง
การที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อแนะนำว่า ถ้าจะให้เพิ่มพูนอานุภาพ ต้องสวดสรรเสริญท่านทุกวัน วันละหลายๆ ครั้ง นึกถึงท่านบ่อยๆ ผูกสมัครรักใคร่ในองค์ท่าน พูดจาโต้ตอบกันเหมือนมนุษย์ พูดกันอย่างนี้แหละ พูดไปคุยไป แล้วก็น้อมท่านไว้ ตรงกลางกาย อายตนะเสียงทิพย์ จะได้ก้องไป ถึงผู้ผลิตพระของขวัญ ท่านจะได้ส่งผังสำเร็จลงมา ซ้อนในกลางตัวเรา บันดาลความปรารถนา ของเราให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์ จึงเป็นความจริงที่สุด ใจของผู้อ่อนน้อม ในพระรัตนตรัย เป็นใจเย็น ที่ส่งผ่านองค์พระไปยังพระนิพพานได้
[สารบัญ] [ ๖๐ ] [ ๖๑ ] [ ๖๒ ] [ ๖๓ ] [ ๖๔ ] [ ๖๕ ] [ ๖๖ ] [ ๖๗ ]