คุณทวีชัย ธิติมาพงศ์ บ้านอยู่หลังตลาดโต้รุ่ง ท่าเรือคลองเตย พระโขนง เล่าว่า
เมื่อกลางปี พ.ศ.๒๕๓๘ ได้ทราบข่าวการสร้างพระธรรมกายประจำตัวจากเอกสารของวัด เกิดจิตศรัทธา จึงทำบุญสร้างองค์พระ ทั้งครอบครัว และได้มาเข้าวัดอย่างจริงจัง ในปี พ.ศ.๒๕๓๙ ซึ่งขณะนี้บุตรชายคนโตก็ยังบวชเป็นพระภิกษุอยู่ในวัด
ตั้งแต่เข้าวัดก็ได้ทำบุญต่างๆ เรื่อยมา แต่ยังไม่พบอานุภาพของบุญส่งผลชัดเจน รู้แต่ว่าครอบครัวมีความสุขมากขึ้นกว่าแต่ก่อน กิจการค้าดีขึ้น
ต่อมาได้ทราบข่าวการทำบุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว ประดิษฐานที่แกนกลาง มหาธรรมกายเจดีย์ และจะได้รับ พระมหาสิริราชธาตุ เป็นพระของขวัญไว้ระลึกนึกถึงบุญ คุณทวีชัยจึงรีบทำบุญสร้างองค์พระ ๒ องค์ หลังจากทำบุญแล้ว รู้สึกว่า ในครอบครัว มีสิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีชัดเจนขึ้น และได้พบกับเหตุการณ์ที่เชื่อว่าเป็นเพราะอานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุ และหลวงพ่อ วัดปากนํ้า ภาษีเจริญ ดังนี้คือ
ในคืนวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๑ ซึ่งเป็นวันลอยกระทง เวลาประมาณห้าทุ่มเศษ ทุกคนในบ้านเข้านอนกันหมด เหลือคุณทวีชัย นั่งห่อภาพโปสเตอร์รูปมหาธรรมกายเจดีย์สีทองด้วยแผ่นพลาสติกใส จะนำภาพไปติดที่หน้าร้าน เพื่อชวนคนทำบุญ สร้างองค์พระธรรมกาย ประจำตัวภายใน มหาธรรมกายเจดีย์
ใกล้จะถึงเวลา ๖ ทุ่ม มีคนมากดกริ่งที่หน้าร้าน และเคาะประตูเรียกเสียงดังโครมคราม จึงออกไปดู เพื่อนบ้านตะโกนบอกว่า ไฟไหม้ ห้องที่ติดอยู่กับห้องของคุณทวีชัย จึงวิ่งออกไปดู เห็นทั้งควันทั้งเปลวไฟพุ่ง ออกมาทางหน้าต่างบ้านที่อยู่ติดกัน
คุณทวีชัยรีบวิ่งขึ้นไปปลุกทุกคนในบ้านให้ตื่นขึ้นหนีไฟ ต่างพากันออกจากบ้านไปยืนที่ถนน โดยไม่ได้นำสิ่งมีค่าอะไรติดตัวออกไปเลย เวลานั้นคุณทวีชัยเกิดนึกถึงเอกสารสำคัญต่างๆ ในห้องนอนชั้นสอง จึงรีบวิ่งกลับขึ้นไป เมื่อเปิดประตูห้องนอนก็มีควันไฟคลุ้งเต็มไปหมด หายใจแสบจมูกมาก
ทันใดนั้นนึกถึงพระมหาสิริราชธาตุที่ตัวเองคล้องอยู่ที่คอ จึงเรียกเสียงดังๆ ว่า ช่วยลูกด้วย ช่วยลูกด้วย พระมหาสิริราชธาตุช่วยลูกด้วย หลวงพ่อสดช่วยลูกด้วย พอเรียกให้ท่านช่วย อาการแสบจมูกก็หายไป คุณทวีชัยรีบหยิบเอกสารสำคัญ ตลอดจนเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ในตู้ออกมา ซึ่งในเวลานั้นกลับหายใจได้เป็นปกติไม่แสบจมูกเลย
ลูกชายรีบตะโกนเรียกพ่อให้ออกจากบ้านด้วยความเป็นห่วง คุณ ทวีชัยออกมาดูไฟ เห็นไหม้ที่ชั้นสองของบ้านต้นเพลิง และลามขึ้นไป ที่ชั้นสาม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเริ่มมาถึงแล้ว กำลังดับเพลิงกันอยู่
คุณทวีชัย นึกถึงพระมหาสิริราชธาตุ และหลวงพ่อวัดปากนํ้า ภาษีเจริญ ตลอดเวลา หลวงพ่อช่วยด้วย หลวงพ่อช่วยด้วย อย่าให้ไฟไหม้ บ้านผม อย่าให้ถูกฉีดน้ำจนทรัพย์สินเสียหายหมด ถ้าไฟไหม้บ้านผม เวลาผมชวนใครทำบุญสร้างพระ ใครจะเชื่อผม เขาก็จะย้อนถามว่า คุณ ทำบุญสร้างองค์พระ ได้พระมหาสิริราชธาตุแล้ว คุยว่าศักดิ์สิทธิ์นักไม่ใช่หรือ แล้วนี่อะไร พระไม่เห็นช่วยเลย ปล่อยให้ไฟไหม้บ้านคุณหมดไปเลย
ในเวลานั้นคุณทวีชัยมั่นใจมากว่าบ้านของเขาต้องไม่เป็นอะไร ทุกชั้นในบ้านมีภาพหลวงพ่อวัดปากนํ้า ภาษีเจริญ ตั้งบูชาอยู่ คุณทวีชัย อธิษฐานจิตตลอดว่า หลวงพ่อต้องช่วย พระมหาสิริราชธาตุต้องช่วย ยืนเอาใจช่วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอยู่นานถึง ๒ ชั่วโมง ไฟดับลง รถดับเพลิง กลับไปกันหมดแล้ว
เมื่อมาสำรวจความเสียหาย เป็นเรื่องแปลกประหลาดมาก ในบ้านไม่มีสิ่งใดเสียหายเลย ฝาผนังด้านที่ติดบ้านต้นเพลิงก็อยู่ในสภาพปกติ ไม่เปลี่ยนสีเพราะความร้อน น้ำที่รถดับเพลิงฉีดก็ไม่เข้ามาเปียกในบ้าน มีเพียงละอองดำๆ ติดอยู่ที่ผ้าม่านหน้าต่าง และทางฝาห้องเล็กน้อย นอกนั้นอยู่ในสภาพเรียบร้อยปกติ
ตรงกันข้ามกับบ้านที่ติดกับบ้านต้นเพลิงอีกด้านหนึ่ง กระจกบานเกร็ดแตกละเอียดทุกบาน มีนํ้าเปียกนอง ข้าวของเสียหาย ทำความสะอาด กันทั้งอาทิตย์ก็ยังไม่เรียบร้อย ส่วนบ้านต้นเพลิงไหม้หมดทั้งชั้น ที่ ๒ และชั้นที่ ๓
สารวัตรตำรวจที่มาดูแลตรวจสถานที่ ยังพูดด้วยความแปลกใจว่า บ้านคุณทวีชัยได้รับความเสียหายน้อยมาก เหมือนอยู่ห่างกับ บ้านต้นเพลิง สัก ๓-๔ หลัง
วันรุ่งขึ้นเมื่อเพื่อนบ้านทราบว่า บ้านของคุณทวีชัยไม่มีอะไรเสียหายจึงพากันแปลกใจ ซึ่งภายหลังมีคนมาเล่าให้ฟังว่า
เมื่อตอนไฟไหม้ เขามองเห็นหลวงพ่อองค์หนึ่งมาเดินอยู่แถวหน้า บ้านของคุณทวีชัย เดินกลับไปกลับมา จากนั้นมีพวกแม่ค้าขายของ ฝั่งตรงข้ามมาบอกอย่างเดียวกันอีกหลายคนว่า ขณะไฟกำลังลุกไหม้ และ รถดับเพลิงยังมาไม่ถึง มีหลวงพ่อองค์หนึ่ง มาเดินวนเวียน อยู่หน้าบ้าน คุณทวีชัย ท่านมองขึ้นมองลงที่ตัวบ้าน หลวงพ่อองค์นั้นรูปร่างค่อนข้างล่ำสัน เดินหลังค่อมนิดๆ ห่มจีวรสีเหลืองกลางๆ ไม่อ่อน ไม่เข้ม เดินเท้าเปล่า ไม่ใส่รองเท้า
คุณทวีชัยฟังคำบอกเล่าของคนเหล่านั้นแล้ว ขนลุกทั้งตนเองและคนในครอบครัว เพราะคุณทวีชัยยืนอยู่ห่างจากหน้าบ้านไปราว ๑๐ เมตร ไม่มีใครมองเห็นพระภิกษุ ยิ่งผู้เล่ามาบอกว่า ท่านเดินอ้อมไปด้านหลังบ้านแล้วหายไปเลย ก็ยิ่งน่าแปลกใจยิ่งขึ้น เพราะขณะเดินอ้อม ท่านต้องผ่าน จุดที่คุณทวีชัยยืนอยู่ เป็นไปได้อย่างไรที่มองไม่เห็นพระองค์นั้น ผู้เล่ายังพูดต่อไปว่า หลวงพ่อองค์นั้นท่านมองแต่บ้านของคุณทวีชัย ไม่มอง บ้านอื่นเลย แต่ไม่มีใครกล้าเดินเข้าไปทัก
คุณทวีชัยมั่นใจว่าเหตุการณ์ที่ไฟไหม้บ้านที่อยู่ติดกัน แต่ไม่ลามไปถึงบ้านของคุณทวีชัย เป็นเพราะอานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุ และหลวงพ่อ วัดปากนํ้า ภาษีเจริญ ช่วยไว้อย่างแน่นอน