อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๑๑๖.หายปวดแขนเป็นอัศจรรย์

คุณวราภรณ์ ดาวประจักษ์ เล่าว่า

ได้เดินทางไปปฏิบัติธรรมที่เชียงใหม่ เป็นครั้งที่สอง ในระหว่างที่อยู่ที่นั่น ๒ วันแรกไม่มีอาการเจ็บป่วยอะไร

พอเช้ามืดเวลาตีสี่ครึ่งของวันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ ตื่นขึ้นมา ยกแขนข้างซ้ายไม่ได้เลย เวลาขยับแขน จะมีอาการปวด และเจ็บ ทรมานมาก แทบจะเป็นลม ทำให้ไม่สามารถกำหนดใจให้เป็นสมาธิได้ ใจจึงคิดอยู่แต่เรื่องของความเจ็บปวด

อาการอย่างนี้แต่เดิมเคยเป็น เนื่องจากอายุ ๕๒ ปีแล้ว นอนทับแขน ทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ ต้องฉีดยาและรับประทานยาประมาณ ๑ เดือน จึงจะหาย ไปปฏิบัติธรรมที่เชียงใหม่ครั้งนี้ ก็ได้นำยาติดตัวไปด้วย แต่รับประทานแล้ว ก็ยังไม่หาย เพื่อนที่อยู่ด้วยกัน จึงพาไปขอยาตัวใหม่ จากห้องพยาบาล รับประทานอยู่ ๒ วัน อาการก็ไม่ดีขึ้น อาการปวดมากจนนั่งสมาธิไม่ได้เลย

ในที่สุดก็นึกถึงอานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุ และได้หยิบยาขึ้นมาอธิษฐานกับองค์พระว่า

ลูกมาปฏิบัติธรรมครั้งนี้ มีความตั้งใจจะปฏิบัติอย่างเต็มเปี่ยม แต่มาเจ็บปวดแขนทรมานมากเหลือเกิน ทนไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ เมื่อลูก รับประทานยาที่อยู่ในมือนี้แล้ว ลูกขออานุภาพของ พระมหาสิริราชธาตุ ช่วยให้หายจากอาการ เจ็บปวดนี้ด้วย หลังจากอธิษฐานเสร็จ ก็กลืนยาลงไป

นับเป็นเรื่องแปลก เจ็บปวดมาถึง ๒ วันเต็มๆ หลังจากอธิษฐานจิตขอพรพระมหาสิริราชธาตุและรับประทานยาไปเพียง ๒-๓ ชั่วโมง อาการปวด ก็ลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเช้าวันที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ ทุกอย่างก็เป็นปกติเหมือนไม่เคยปวดมาก่อน

อาการปวดแขนจนยกไม่ขึ้นนี้ มีพยานอีกรายหนึ่งคือตัวข้าพเจ้าเอง อุบาสิกาถวิล วัติรางกูล ซึ่งตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๑ เป็นต้นมา พิมพ์ต้นฉบับ โดยใช้วิธีใช้นิ้วชี้มือข้างขวา เพียงข้างเดียว จิ้มตัวอักษรบนแป้นเครื่องพิมพ์ดีด เนื่องจากพิมพ์สัมผัสไม่เป็น และไม่สามารถ วานให้ใครช่วยพิมพ์แทนได้ เพราะเมื่อคิดเรียบเรียงในใจแล้วจะพิมพ์ทันที

เมื่อพิมพ์ทุกวันทั้งเวลากลางคืนและกลางวันเป็นเดือนๆ เกิดอาการอักเสบขึ้นที่ท่อนแขนข้างขวาอย่างรุนแรงจนขยับไม่ได้ รู้สึกเจ็บปวด มาก (ราวต้นเดือนตุลาคม) ตนเองได้ทดลองใช้นิ้วมือข้างซ้ายจิ้มแป้นพิมพ์ดีดบ้าง แต่ไม่ถนัดทันใจเลย ช้ากว่าใช้นิ้วชี้มือข้างขวาประมาณ ๔-๕ เท่าตัว ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้จะทำงานส่งฝ่ายการพิมพ์ไม่ทันแน่นอน

ปวดอยู่ได้ ๒ วัน ลูกๆ จะพาไปรักษาที่โรงพยาบาล เห็นว่าไปโรงพยาบาลจะยิ่งเสียเวลาอีกทั้งวัน จึงได้พนมมือขึ้น ทำสมาธิอธิษฐานจิต ต่อพระมหาสิริราชธาตุที่วางไว้บนหลังตู้ ใกล้กับห้องทำงาน เพราะว่าจะทำการสวดสรรเสริญบูชาได้สะดวก เพราะห้องพระอยู่ชั้นบน ขึ้นลงบันได ไม่สะดวก อธิษฐานเสร็จก็พูดเสียงดังๆ ว่า

หลวงพ่อพระมหาสิริราชธาตุ ช่วยลูกด้วย ลูกกำลังทำหน้าที่ประกาศคุณของหลวงพ่ออยู่นะคะ อานุภาพของหลวงพ่อ ที่ลูกได้นั่งใช้นิ้วจิ้ม พิมพ์ดีด รวบรวมต้นฉบับอยู่ทุกวันนี้ ล้วนแต่เป็นเรื่องที่คนอื่นประสบกันทั้งนั้น แม้ลูกจะเชื่อเต็มที่อยู่ก็จริง แต่ถ้าหากอานุภาพ เกิดแก่ตัวลูกเองบ้าง คงจะมีกำลังใจ ทำงานให้พระพุทธศาสนา อีกมาก ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้   คงทำงานเสร็จไม่ทัน แน่นอน ลูกจะใช้ยา ที่เคยทานี่แหละ (ยาที่ใช้มีลักษณะ คล้ายยาหม่อง) จะทาที่แขนเดี๋ยวนี้ ขอหลวงพ่อ พระมหาสิริราชธาตุ เมตตา ช่วยให้หายทันทีเลย นะคะ พูดกับองค์พระ เหมือนกับท่าน เป็นพระที่มีชีวิต รับฟังอยู่

ในใจก็คิดว่าคงจะไม่หาย เพราะอาการปวดแขนมากคล้ายแขนแทบจะหลุด ร้าวตลอดซีกตัวข้างขวาเลย ถ้าหายได้ก็ยอมถวายชีวิตแล้ว

เป็นเรื่องยอดมหัศจรรย์จนพูดไม่ถูก พอใช้ยาที่เคยทาแล้วไม่ได้ผล พอทายาเสร็จ ก็ลองใช้มือบีบที่แขนเบาๆ โดยเฉพาะ ตรงโคนแขนราว ๒-๓ นาที พอยกมือขึ้นเลิกนวด ความเจ็บปวดก็หายไป โดยสิ้นเชิง เหมือนไม่เคยเป็นอะไร พบอานุภาพต่อหน้าลูกทั้งสองคน เพื่อนบ้านอีกคนหนึ่ง ต่างก็งงไปตามกัน ต้องออกปากขอบใจเพื่อนบ้าน เพราะเขาเป็นคนเตือนว่า ป้าพิมพ์อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ ก็รู้จักขอพรท่านเสียบ้างซิ

หายดีมาจนทุกวันนี้ ขณะที่กำลังเล่าให้ฟัง วันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๑ ก็ยังไม่เคยหยุดพักการใช้แขนพิมพ์เลยสักวัน


[สารบัญ] [๑๑๖] [๑๑๗] [๑๑๘] [๑๑๙] [๑๒๐]