คุณคันรุ้ง คำหล่อ บ้านเดิมอยู่ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ เล่าเรื่องว่า
เมื่อวันที่ ๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๒ เวลาประมาณสามทุ่มครึ่ง หลังจากเลิกจากการ ปฏิบัติธรรมจากศูนย์ปฏิบัติธรรมธรรมภัทรา ม.ภัทราวิลล่า คุณศรายุทธ์ ยศกิตติภัทร์ ได้ขับรถเก๋ง นำพาผู้ร่วมปฏิบัติธรรมอีก ๓ ท่านไปส่งบ้าน คือคุณคันรุ้ง, คุณดุสิดา สุคตะ และคุณนารี สุวรรณ ขณะที่รถแล่นมาถึงถนนเหนือ-ใต้ ซึ่งช่องทางเดินรถถูกปิดซ่อม ๒ ช่องทาง คงเหลือให้รถวิ่งได้เพียง ๑ ช่องทางเท่านั้น
โดยไม่คาดฝัน มีรถบรรทุกโม่ปูนวิ่งตามมาด้วยความเร็วสูง รถเบรคไม่อยู่ ชนแผงไฟกั้นที่ซ่อมถนน แล้วพุ่งมาชนรถเก๋งที่นั่งมาอย่างแรง ทำให้รถเก๋งเสียหลัก พุ่งขึ้นเกาะกลางถนน ไปชนเข้ากับเสาไฟฟ้าหักสะบั้น พร้อมกับสวนหย่อมบริเวณนั้น ก็ได้รับความเสียหายขนาดหนัก ส่วนสภาพรถหลังชนนั้นพังยับเยินทั้งคัน กระจกหลังรถแตกกระเด็นข้ามไปอีกฟากถนน เหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วมาก ไม่มีใครพูดหรือ ทำอะไรได้เลย ได้แต่พากันตกตะลึง
ไม่นานนักชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ได้พากันมาดู และช่วยพาทั้ง ๔ คนออกมาจากซากรถ เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง รถถูกชนพังขนาดนี้ และยังพุ่งขึ้นชนเสาไฟฟ้าเหล็กหักอีกด้วย แต่ทั้ง ๔ คนไม่เป็นอะไรมาก มีคุณนารี เจ็บเล็กน้อยที่ขา
ชาวบ้านต่างพากันรุมถามว่า พวกคุณ มีพระอะไรดีเนี่ย รถชนขนาดนี้ ไม่มีใครเป็นอะไรมากเลย อัศจรรย์จริงๆ
ทุกคนตอบชาวบ้านไปว่า เรามีพระของขวัญศักดิ์สิทธิ์จากวัดพระธรรมกาย ชื่อพระมหาสิริราชธาตุ แขวนคออยู่ ๓ คน คนที่เจ็บมากหน่อย ไม่ได้มีพระแขวนอยู่ที่ตัว แต่มีหนังสือ อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ ซึ่งเป็นหนังสือที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วยเหมือนกัน
นอกจากนั้นคุณคันรุ้งได้เล่าเพิ่มเติมว่า ก่อนเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ได้ฝันชัดเจนมากว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำ คุณยาย อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง และหลวงพ่อธัมมชโย นั่งสมาธิซ้อนกันอยู่ทั้ง ๓ ท่าน เหมือนท่านร่วมกันส่งพลังบุญ หรือเตือนให้ทราบอะไรสักอย่าง
การฝันเห็นผู้มีบุญ เป็นความฝันที่น่าจะเกิดจากเทพยดาเนรมิตให้เห็น ไม่ควรประมาทในการประกอบกุศลกรรม ทั้ง ๔ ท่านที่ประสบ อุบัติเหตุ กลับมาจากการไปสวดมนต์ ฟังเทศน์ เจริญภาวนา ขณะอยู่ระหว่างเดินทางกลับก็ยังคุยธรรมะกัน เรื่องความไม่ประมาทในชีวิต ยกเว้น คุณนารีที่หลับ เรียกว่าคนที่ตื่นอยู่ มีมโนกรรม วจีกรรมที่เป็นกุศล แรงกรรมในอดีตตามมาทัน กุศลกรรมที่ประกอบอยู่ ย่อมมีอำนาจตัดรอน กรรมเก่าที่ไม่ดีซึ่งทั้ง ๔ ท่านเคยร่วมกันก่อไว้ทัน ทำให้หนักกลายเป็นเบา วิบัติไปแค่ทรัพย์สิน ไม่ถึงสิ้นชีวิตหรือพิกลพิการ
ดังนั้นถ้าไม่ประมาทแล้ว ในการเดินทางไปไหนมาไหน จึงควรให้กาย วาจา ใจ ให้อยู่ในกุศลเสมอ เพราะเรายังไม่สามารถทราบได้ว่าใน อดีตนับชาติไม่ถ้วนเคยสร้างบาปอะไรกับใครไว้ บาปนั้นจะมาทันทวงหนี้เราตอนไหน
การเดินทางไปไหนมาไหน ใครที่ชอบดื่มสุรา เล่นการพนัน ดูวีดีโอ หรือสื่ออกุศลต่างๆ ในระหว่างเดินทาง จึงนับว่าประมาท บางราย ถึงกับเสียชีวิต ก็มีอยู่ไม่น ้อยทีเดียว