อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๑๓๕. หลุดจากรถ

คุณจิตตราวดี สงชุมแสง อาชีพทำธุรกิจส่วนตัว เล่าว่า

ครั้งหนึ่ง เดินทางไปอยุธยากับเพื่อนซึ่งเป็นคนช่วยขับรถให้ ไปทางถนนสายบ้านแพน ตนเองได้ทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัว ประดิษฐานที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์และได้รับพระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุติดตัวไว้แล้ว ส่วนเพื่อนที่ขับรถให้ยังไม่ได้สร้างพระ

ขณะเดินทาง มีรถปิ๊คอัพขายมุ้ง มีคนนั่งมาในรถถึง ๑๐ คน วิ่งสวนมาด้วยความเร็วสูง พุ่งตรงมายังรถของคุณจิตตราวดี คนขับรถ ได้หักพวงมาลัยหลบแล้ว แต่ไม่พ้น รถอีกฝ่ายพุ่งชน ด้านที่คุณจิตตราวดีนั่งอยู่อย่างจัง คุณจิตตราวดีถึงกับสลบไปไม่รู้สึกตัวอีกเลย เมื่อฟื้นขึ้นมา รู้สึกตัวอีกที พบว่าตนเองนอนสลบอยู่นอกตัวรถ คุณจิตตราวดีไม่เข้าใจว่า ตนลอยออกมานอกตัวรถได้อย่างไร ในเมื่อกระจกหน้ารถก็ไม่แตกออก และประตูรถก็เปิดไม่ได้ เพราะรถบุบบู้บี้ไม่มีชิ้นดีเพราะแรงชน เมื่อตรวจสภาพร่างกายตนเอง พบว่าฟันหัก คิ้วแตก มือถลอกนิดหน่อย ยิ่งออกมา ดูสภาพรถแล้ว ตกใจมาก ไม่คิดว่าตนเองจะมีชีวิตรอดออกมาได้ ผู้เห็นเหตุการณ์ที่เข้าไปช่วยเหลือ ได้บอกกับคุณจิตตราวดีว่า ขณะเกิดเหตุ ได้มองเห็นคนแต่งชุดสีขาว ลอยออกมาจากรถ คุณจิตตราวดีก็ยิ่งแปลกใจ เพราะว่าตนเองก็ไม่ได้แต่งชุดสีขาว แต่ออกมาสลบอยู่นอกรถได้ คุณจิตตราวดีมองไปที่องค์พระมหาสิริราชธาตุ ที่ห้อยอยู่ที่คอ พบว่าสร้อยคอยังอยู่

ส่วนคนขับรถที่ไปด้วยกันนั้น ขาหัก กะโหลกศีรษะร้าว ต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ๑ เดือน ฝ่ายรถปิ๊คอัพคันที่มาชนนั้น บาดเจ็บกัน ทุกคน เมื่อได้พบเหตุการณ์ดังกล่าว คุณจิตตราวดียิ่งเชื่อมั่นใน อานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุมากขึ้นไปอีก

ปกติแล้วกายมนุษย์ละเอียดของคนเรา จะแต่งกายด้วยชุดสีขาว เพราะกายนี้เป็นกายที่มีศีล ๕ เป็นปกติ ซึ่งที่ปรากฏมีผู้เห็นคนแต่งชุดขาว ลอยออกมาจากรถ แสดงว่ากายละเอียดของคุณจิตตราวดีออกมาก่อน กายมนุษย์หยาบตามออกมาทีหลัง แต่ที่สามารถรอดชีวิตมาได้ อย่างอัศจรรย์ นั้น รอดได้อย่างไรถ้าไม่ใช่อานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ


[สารบัญ] [๑๓๔] [๑๓๕] [๑๓๖] [๑๓๗]