คุณยงยุทธ ดูสาย เล่าว่า
ตนเอง รวมทั้งคุณเอกศักดิ์ เพิ่มหรรษา และคุณวีรยุทธ ทวีเดช เมื่อจบการศึกษา ระดับปริญญาตรีแล้ว ได้มาสมัครเป็น บัณฑิตแก้ว ช่วยงาน พระพุทธศาสนา อย่างเต็มตัวอยู่ที่ วัดพระธรรมกาย
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๔ กุมภาพันธ์ คุณยงยุทธจะไปซื้ออาหาร มาให้น้องๆ ที่ทำงานร่วม กัน จึงได้ชวนคุณเอกศักดิ์ และคุณวีรยุทธไปด้วย
เมื่อซื้ออาหารได้แล้ว จากบริเวณตลาดบางขัน ก็พากันขับรถกลับ ด้วยความเร็วราว ๗๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งชิดช่องทาง วิ่งทางขวา มาตลอด พอใกล้ๆ จะถึงทางแยก เข้าตลาดไท มีรถบรรทุกสิบล้อ วิ่งอยู่ข้างหน้า ในช่องทาง วิ่งด้านซ้าย แต่จู่ๆ รถสิบล้อคันนั้น ก็ขับเข้ามาปาดหน้า ในช่องทางวิ่ง ที่รถของคุณยงยุทธ ที่วิ่งมา อย่างกะทันหัน เหมือนกับว่า รถบรรทุกสิบล้อ ไม่ได้มอง กระจกข้างรถ หัวรถบรรทุก จึงยื่นกินเข้ามา ในช่องวิ่งขวาถึงครึ่งหนึ่ง
คุณยงยุทธและเพื่อนๆ ตกตะลึง แต่ไม่ทราบว่า จะทำอย่างไร ได้แต่จับพวงมาลัยรถ แน่นนิ่งอยู่ ทางข้างหน้า มีช่องแคบๆ นิดเดียว ไม่ถึงครึ่ง ช่องทางวิ่ง เพราะโดนหัว รถบรรทุก ล้ำเข้ามา ครั้นจะเปลี่ยน ไปช่องวิ่งทางซ้าย ก็จะต้องชนกับ ท้ายรถบรรทุก อย่างแน่นอน
เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้น รวดเร็วมาก ทุกคนได้แต่นึกถึง องค์พระมหาสิริราชธาตุ แต่มีคุณวีรยุทธคนเดียว ที่มีองค์พระอยู่กับตัว มีทั้งแบบ กรอบ พญานาคสีทอง และกรอบ พญานาคสี่สี ขณะที่รถใกล้จะชน กับหัวรถบรรทุกแล้ว ในทันทีทันใดนั้น ทุกคนในรถ ก็รู้สึกเหมือนกับ รถที่นั่ง อยู่ หดตัวลงได้ เหมือนกับว่า เหลือคันนิดเดียว วิ่งลอดผ่านช่องเล็กๆ ทางแคบ เพียงนิดเดียว วิ่งลอดมาได้อย่างไร ทางกว้างไม่พอ ที่คันรถ จะผ่าน ได้แน่นอน แต่รถที่คุณยงยุทธ และเพื่อน นั่งมาผ่าน แว๊บไปได้ ไม่ทัน กระพริบตา ด้วยซ้ำ
พอพ้นออกมาได้ ทั้ง ๓ คน พากันนึกทบทวนเหตุการณ์ เพราะในสภาพขณะนั้น ทำอย่างไร รถก็ต้องชนกับ รถบรรทุกแน่ๆ หรือไม่ ก็ต้อง ถูกรถบรรทุก ชนขึ้นไปบน เกาะกลางถนน แน่นอน
เมื่อปลอดภัยกันมาได้ จึงต้องพากันเชื่อมั่น ในอานุภาพของ พระมหาสิริราชธาตุ ซึ่งแต่เดิมอ่าน จากเรื่องที่คนอื่นพบ รู้สึกเฉยๆ กระทั่ง พากัน พบด้วยสายตาตนเอง จึงมีศรัทธา เปี่ยมล้น ในพระมหาสิริราชธาตุ
[สารบัญ] [๑๖๕] [๑๖๖] [๑๖๗] [๑๖๘] [๑๖๙] [๑๗๐]
[๑๗๑] [๑๗๒] [๑๗๓] [๑๗๔] [๑๗๕] [๑๗๖] [๑๗๗] [๑๗๘] [๑๗๙] [๑๘๐] [๑๘๑]