คุณปราณี วงศ์โอภาส อยู่ที่อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ทำงานรับราชการเป็นอาจารย์ ๒ ระดับ ๗ ได้รับการชักชวนให้ทำบุญ สร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว ประดิษฐานภายนอก มหาธรรมกายเจดีย์ จากการได้เห็นรูปภาพ ของสาธุชน ในชุดสีขาวบริสุทธิ์ จำนวน มากมาย นับหมื่นนับแสนคน ในวันงานบุญใหญ่
และได้ทราบข่าวเรื่อง ปรากฏการณ์อัศจรรย์ตะวันแก้ว ได้เห็นภาพประวัติศาสตร์ ซึ่งถ่ายที่ มหาธรรมกายเจดีย์ โดยมีรูปของหลวงพ่อ วัดปากน้ำ มีดวงแก้วอยู่ที่กลางกายของท่าน ลอยอยู่บนอากาศ จากหนังสืออานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ เล่มที่ ๔ เมื่อเห็นแล้ว ก็เกิดศรัทธา อย่างแรงกล้าทันที จึงตกลงใจ ร่วมสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว ๒ องค์ โดยสร้างให้ลูกสาวหนึ่งองค์ และของตนเอง อีกหนึ่งองค์
คุณปราณีมาวัดครั้งแรกเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ ก้าวแรกที่เหยียบย่างเข้า มาในพื้นที่วัด ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นทันที ประทับใจ เจ้าหน้าที่ที่คอยดูแล ต้อนรับทุกคน มีความปีติยินดีอิ่มเอิบใจ จนรู้สึกตัวเบา เหมือนกับลอยได้ เมื่อได้เข้าไปที่ สภาธรรมกายสากล ก็ได้รับการ ต้อนรับเป็นอย่างดี จากเหล่ากัลยาณมิตร
ได้รับรู้และได้เห็นสิ่งดีๆ จากทางวัด เช่น ความมีระเบียบเรียบร้อย ความสะอาด และถึงแม้จะมีคนมาก แต่บรรยากาศก็มีความเงียบ สงบ พระภิกษุสามเณรทุกรูป ก็มีศีลาจารวัตรที่งดงาม เห็นแล้ว ก็เกิดความประทับใจ ยิ่งเมื่อเห็น พระเดชพระคุณ หลวงพ่อธัมมชโย ก็ยิ่ง เคารพ เลื่อมใสท่านมาก
ได้เห็นดังนี้ก็คิดในใจทันทีเลยว่า นี่เป็นวัดที่เคยใฝ่ฝันมานาน ไม่คิดว่า จะมีสถานที่ดีเช่นนี้ และจะมีโอกาสได้มาพบ ในปัจจุบันชาตินี้ เพราะเมื่อก่อนคิดว่า วัดดีๆ พระภิกษุที่ดีๆ คงจะมีแต่ในสมัยพุทธกาลเท่านั้น ไม่คิดว่า จะได้มาเจอที่วัดพระธรรมกายแห่งนี้
และในช่วงเย็น ของวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ ก็ได้เห็นเหตุการณ์ อัศจรรย์ตะวันแก้ว ด้วยตาของตนเอง และต่อมาได้เห็นอีกรวม ๓ ครั้ง คือ ครั้งแรกเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ ครั้งที่สองเมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๒ และครั้งที่สามเมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๒
คุณปราณีได้สร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว ประดิษฐานภายใน มหาธรรมกายเจดีย์ ให้กับทุกคนในครอบครัว และได้ชักชวนญาติ พี่น้อง รวมทั้งเพื่อนร่วมงาน ให้ได้มาร่วมบุญ สร้างองค์พระ จำนวนทั้งหมด ๑๗ องค์ และได้พบกับอานุภาพของ พระมหาสิริราชธาตุ หลาย เรื่องดังนี้
เรื่องแรก เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ ขณะที่กำลังเดินทาง ไปทำธุระ เกิดมีอาการปวดท้อง แต่คิดว่า คงจะไม่เป็นอะไรมาก สักพัก ก็คงหายเป็นปกติ แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น อาการปวด ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเดินไม่ไหว เมื่อไปถึงที่ทำงาน ก็เข้าไปพักที่ ห้องพยาบาล และรับประทานยาธาตุ แต่อาการปวด ก็ไม่บรรเทาเลย กลับทวีความปวดมากขึ้น เรื่อยๆ เอามือกดท้องไว้แน่น นอนบิดตัวไปมา
ขณะนั้น คุณปราณียังไม่ได้รับพระของขวัญ แต่ในใจนึกถึง พระมหาสิริราชธาตุ ตลอดเวลา จึงอธิษฐานขอบุญบารมี ขออานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ ให้ช่วยให้หายปวดด้วยเถิด แล้วนึกสวดสรรเสริญท่าน ตลอดเวลา แต่กว่า จะสวดได้แต่ละจบ ก็ยากลำบาก เพราะอาการ ปวด รุนแรงมาก
นึกอยากจะได้น้ำมนต์ พระมหาสิริราชธาตุ มาช่วยปัดเป่า ความเจ็บปวด ตามที่เคยได้ยินมาว่า น้ำมนต์พระมหาสิริราชธาตุ ช่วยทำให้ หลายคน หายจากความเจ็บป่วยได้ แต่เนื่องจาก เธอยังไม่ได้รับองค์พระ ท่านผู้บริหาร และเพื่อนร่วมงาน ก็เข้ามาดูแล ด้วยความเป็นห่วง และ มีความเห็นพ้องต้องกันว่า ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลด่วน
เนื่องจาก คุณปราณีกลัวว่า จะต้องถูกผ่าตัด จึงร้องบอกทุกคนว่า ไม่ไปโรงพยาบาล แต่ในที่สุดรู้สึกว่า ตนเองทนไม่ไหวแล้ว จึงยอมไป โรงพยาบาล ขณะที่กำลังนอนรอรถ เพื่อจะไปที่โรงพยาบาลนั้นเอง จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนกับมีใคร มากระชากลำไส้ในท้อง อย่างแรง แรงจนรู้สึก เจ็บปวดมากที่สุด จนสะดุ้ง และร้องโอ๊ย ขึ้นมาทันที
แต่พอสิ้นเสียงร้องเท่านั้น อัศจรรย์เป็นที่สุด ความเจ็บปวดที่ปวดอย่างรุนแรง เมื่อสักครู่ หายไปโดยสิ้นเชิง จึงลองลุกขึ้นนั่งดูช้าๆ ว่า จะรู้สึกเจ็บปวดไหม ก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย พอลองลุกขึ้นยืน ก็ไม่รู้สึกเจ็บปวด ลองเดินดูก็ไม่เป็นอะไร หายเป็นปกติได้ อย่างอัศจรรย์ และ รวดเร็ว แบบปลิดทิ้งจริงๆ
เมื่อแน่ใจแล้ว ว่าตนเองหายแน่ๆ จึงนึกถึงอานุภาพของ พระมหาสิริราชธาตุทันที เธอรีบเดินไปที่ห้องจริยศึกษา (เป็นห้องที่จัดไว้เป็น ห้องพระ) เพื่อที่จะไปกราบขอบคุณ และระลึกถึงพระคุณของ พระมหาสิริราชธาตุ ที่ท่านได้เมตตาช่วยให้หายเจ็บปวด อย่างเป็นปลิดทิ้ง ใน ครั้งนี้
ทางฝ่ายท่านผู้ช่วยผู้บริหาร ได้นำรถมา เพื่อจะพาคุณปราณีไปโรงพยาบาล แต่เมื่อมาที่ห้องพยาบาลแล้ว ไม่พบตัว ก็ออกตามหากัน ใหญ่ บอกว่า คนไข้หนีไปแล้ว ต่อมาเมื่อมาพบ คุณปราณีที่ห้องพระ เธอจึงเล่าอานุภาพขององค์พระ ที่ช่วยให้หาย อย่างอัศจรรย์ ให้ฟังว่า พระช่วยให้หายแล้ว ไม่ต้องไปโรงพยาบาลแล้ว
คุณปราณีกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า หากวันนั้น (วันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑) จนถึงปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าได้พบแต่สิ่งดีๆ ทำให้ข้าพเจ้าใจเย็น ขึ้นมาก รักบุญ กลัวบาป ได้เข้าใจคำว่า เนื้อนาบุญ ศรัทธาในบุญ ศรัทธาในความดี ได้หมั่นทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา สวดมนต์ ไหว้พระอยู่เป็นประจำ และอยากจะให้ทุกๆ คนในโลกนี้ มาได้รับสัมผัสความชุ่มเย็น จากธรรมะ ความสุข ความสงบใจ จากวัดพระธรรมกาย แห่งนี้ทุกคน
ความจริงจากเหตุการณ์เรื่องราวต่างๆ ที่ผู้คนประสบอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุแล้วเล่ามา หลายรายทำบุญแล้ว แต่ยังไม่ได้รับ พระ ของขวัญ เมื่อนึกถึง ก็ประสบอานุภาพ เป็นอัศจรรย์เหมือนคุณปราณี เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ถ้าพูดถึงในแง่ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ย่อมมีเทพยดาอารักษ์ดูแลรักษา พระมหาสิริราชธาตุ ก็ทำนองเดียวกัน เทพยดาที่ดูแลอยู่ ในองค์พระแต่ละองค์ ท่านย่อมทราบดีว่า ผู้ใดเป็นเจ้าขององค์พระ เมื่อเจ้าของนึกถึงขอให้ท่านช่วย ท่านย่อมทราบได้ทันที หากไม่เกินวิสัย ย่อมสามารถช่วยได้สำเร็จ
บางรายยังไม่มีเงินทำบุญสร้างองค์พระ ใช้ภาพถ่ายพระมหาสิริราชธาตุมานึกถึง บางทีก็ขอยืมองค์พระของผู้อื่น มาอธิษฐาน ล้วน พากัน ประสบผลสำเร็จ ทั้งนี้เป็นเพราะอำนาจ พุทธานุสติ ระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ ทำให้เกิดพลานุภาพยิ่งใหญ่
[สารบัญ] [๓๐๕] [๓๐๖]
[๓๐๗]
[๓๐๘] [๓๐๙]
[๓๑๐]
[๓๑๑]
[๓๑๒]
[๓๑๓]
[๓๑๔]
[๓๑๕]
[๓๑๖]
[๓๑๗]