ข้าพเจ้าก็เป็นคนหนึ่งในจำนวนคนไทยหลายแสนคน
ที่ให้ความสนใจและหลงไหล
กับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์
และมักจะไปเดินดูสินค้าที่ออกใหม่อยู่บ่อยครั้งในแหล่งที่เป็นศูนย์รวมสินค้าทางด้านคอมพิวเตอร์
ที่เราทุกคนรู้จักกันดี คือ
พันธ็ทิพย์พล่าซ่า
ทุกครั้งที่ได้ไปเดินที่นี่
ข้าพเจ้ามีความรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสินค้าและโปรแกรม
(soft ware)ใหม่ๆ ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์
ที่มีวางจำหน่ายอยู่เกลื่อนกลาดจนเลือกไม่ถูกว่าอันไหนดีกว่ากัน
และนอกไปจากนั้น
ราคาที่ผู้ขายเสนอมาก็เป็นราคาที่ถูกแสนถูก
จนข้าพเจ้ามีความรู้สึกอยากได้ไปเสียทุกชนิดทุกอย่างที่ผู้ขายเสนอมา
แต่ก็ต้องลังเลเลือกเพียงไม่กี่โปรแกรม
เพื่อที่จะนำกลับไปศึกษาวิธีการใช้ต่อเองที่บ้าน
ซึ่งก็จะกินเวลาอยู่นานกว่าจะศึกษาได้หมดทั้งโปรแกรม
แต่ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าเดินดูสินค้าที่มีอยู่รอบๆห้าง
จะมีความรู้สึก 2
ความรู้สึกเกิดขึ้นพร้อมกัน
ความรู้สึกแรกที่เกิดคือความเพลิดเพลินในการเลือกดูสินค้าแปลกใหม่
พร้อมกันสนนราคาที่ถูกแสนถูก
กับอีกความรู้สึกที่ขัดกันคือ
เรากำลังสนับสนุนคนให้ทำผิดกฎหมายรวมทั้งเราเอง
เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญา
เนื่องจาก
สินค้าส่วนใหญ่ที่มีอยู่และเป็นที่สนใจสรรหาเลือกซื้อของคนส่วนมากคือ
โปรแกรม software ต่างๆที่
ทำเลียนแบบโปรแกรมต้นฉบับเดิม
ประสิทธิภาพการใช้งานต่างๆเหมือนกัน
สินค้าต้นฉบับจริงทุกประการ
ความแตกต่าง
ระหว่างสินค้าเลียนแบบ
กับสินค้าต้นฉบับก็คือ
ประสิทธภาพการใช้งาน
ของสินค้าเลียนแบบที่
อาจจะมีประสิทธิภาพไม่เท่าเทียมกับสินค้าต้นฉบับ
นอกจากเรื่องของประสิทธิภาพแล้ว
สิ่งสำคัญที่ทำให้คนนิยมซื้อสินค้าเลียนแบบก็คือ
ความแตกต่างของราคา
ซึ่งสินค้าเลียนแบบ
มีราคาที่ถูกกว่าสินค้าต้นฉบับเป็นอย่างมาก
ตัวอย่างที่เป็นได้ชัดเจนคือ
แผ่นซีดีรอมของโปรแกรม Window98
เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่บริษัท
Microsoft ผลิตขึ้นมานั้น
เราสามารถหาซื้อได้ในราคา เพียง
100-150 บาทเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกัน
ซีดีรอมต้นฉบับ( full pact
)นั่นมีราคาสูงถึง 9,000 บาท
และหากเราลองเปรียบเทียบความแตกต่างแล้ว
เราจะเห็นได้ว่า
เราสามารถใช้งานจากสินค้าลอกเลียนแบบได้เหมือนกันกับสินค้าต้นฉบับทุกประการ
ความแตกต่างที่เราพอจะหาเจอก็คือ
บรรจุภัณฑ์ของสินค้าต้นฉบับที่พอจะทำให้สินค้าดูน่าใช้กว่าสินค้าเลียนแบบ
แต่จะมีใครสนใจบรรจุภัณฑ์ของสินค้า
เพราะสิ่งที่เราต้องการนั้นคือโปรแกรมที่อยู่ในแผ่นซีดีรอมต่างหาก
ที่เป็นสิ่งที่เราต้องใช้งาน
เพราะเมื่อแกะบรรจุภัณฑ์ออกมาแล้วเปรียบเทียบกัน
สิ่งที่เราเห็นก็คือแผ่นซีดีรอมเหมือนกัน
แล้วใครเล่าจะมายอมเสียเงินที่สูงกว่า
กับการที่จะได้มาซึ่งสิ่งที่ใช้งานได้เหมือนกัน
แต่แตกต่างกันเพียงแค่บรรจุภัณฑ์
ถ้าเราจะมองกันจริงๆเราทุกคนรู้ว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้น
เป็นสิ่งที่ผิดต่อกฎหมายการคุ้มครองการละเมิดสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญา
แต่เรามีทางเลือกที่ดีกว่านี้หรือไม่?
คำตอบที่ข้าพเจ้าพอจะมองออกในตอนนี้คือ
เราแทบไม่มีทางเลือกอื่นเลยนอกจากยังคงต้องซื้อสินค้าที่มาจากการลอกเลียนแบบอย่างนี้อยู่ต่อไป
เนื่องจากผู้บริโภคทุกคนนั้นต้องการที่จะบริโภคสินค้าที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ
ประกอบกับราคาที่เหมาะสมไม่แพงจนเกินความสามารถที่จะซื้อมาอุปโภคและบริโภค
และมองในมุมมองของผู้ขายเองก็เช่นกันหากพวกเขาขายแต่สินค้าต้นฉบับที่มีราคาสูง
ก็คงไม่มีผู้บริโภคคนไหนตามซื้อสินค้าหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ออกมาใหม่เดือนละหลาย
10โปรแกรม
ซึ่งแต่ละโปรแกรมนั้นราคาต้นฉบับสูงมาก
ด้วยเหตุนี้เองที่เราทุกคนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนที่จะได้บริโภคสินค้าที่มีราคาถูก
ทำให้ปัญหาการกำจัดสินค้าเลียนแบบ
ไม่สามารถกำจัดได้อย่างสิ้นซาก
และถ้าเรามองปัญหาในมุมมองของบริษัทผู้ผลิตสินค้าต้นฉบับแล้ว
การกระทำเช่นนี้นับว่าเป็นการสร้างความเสียหายและเป็นสิ่งผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง
และเป็นสิ่งที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วนก่อนที่ความเสียหายของบริษัทจะมีมากกว่านี้
แต่ทุกวันนี้ข้าพเจ้าก็ยังคงเห็นว่าสินค้าเลียนแบบเหล่านี้ยังคงมีขายอยู่เกลื่อนกลาด
อย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
ต่างก็มีความพอใจในการได้ซื้อและได้ขาย
สินค้าผิดกฎหมายเหล่านี้อยู่
แล้วเราจะทำอย่างไรเพื่อกำจัดการซื้อขายสินค้าเลียนแบบนี้ให้หมดไปได้??
เราคงต้องหันไปมองในด้านกฎหมายที่เกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์สินค้าเหล่านี้
ว่ามีความเด็ดขาดในการจัดการมากน้อยเพียงใด
เมื่อมองไปที่ตัวบทกฎหมายแล้ว
เราจะเห็นได้ว่ามาตรการที่จะใช้จัดการกับผู้ที่กระทำผิดนั้นยังมีช่องโหว่อยู่มาก
กล่าวคือ
เจ้าหน้าที่จะสามารถเข้าไปจับกุมผู้ที่ขายสินค้าเลียนแบบได้ก็ต่อเมื่อ
บริษัทลิขสิทธิ์เหล่านั่นเป็นผู้เสียหายที่เข้าไปพบเห็นและทำการร้องเรียนเอง
หรือไม่ก็มีประชาชนพลเมืองดีเข้าไปแจ้งต่อบริษัทลิขสิทธิ์ถึงแหล่งที่มีการซื้อขายสินค้าเลียนแบบ
แต่การที่ประชาชนจะเข้าไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยตรงนั้น
ไม่สามารถทำได้
ผู้ที่สามารถร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ได้มีเพียงผู้เดียวคือ
บริษัทที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์
หรือตัวแทนจำหน่ายสินค้าเสียหายเท่านั้น
แล้วถ้าเราไม่ใช่ผู้เสียหายเราจะไม่สามารถทำการแจ้งความได้
ยกเว้นที่เราเห็นว่าเป็นความเสียหายต่อรัฐหรือสถาบันพระมหากษัตริย์
ที่เราสามารถแจ้งความกับตำรวจได้
ดังนั้นคงไม่มีพลเมืองดีคนไหนหรืออาจมีแต่น้อยมาก
ที่ทนไม่ได้ต่อการกระทำผิดกฎหมายและ
พร้อมที่จะจ่ายเงินจำนวนมากกว่าเป็นหลายสิบเท่าเพื่อให้ได้มาซึ่งความชอบธรรม
มิเช่นนั้นเราคงไม่เห็นแผงขายแผ่นซีดีรอมโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆวางขายกันอย่างเย้ยฟ้าท้าดินขนาดนี้
แล้วบริษัทแม่ของสินค้าเหล่านี้เล่าจะทำอย่างไรเพื่อที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ให้หมดลง
หากจะให้ส่งสายสืบไปทั่วโลกเพื่อสอดส่องดูว่าที่ใดบ้างที่กระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ในผลิตภัณฑ์ของตน
ก็เห็นจะเป็นไปได้ยาก
นอกจากนี้ยังเสียค่าใช้จ่ายสูงทำให้ต้นทุนสินค้ามีราคาสูงขึ้นไปอีกเป็นเงาตามตัว
แทนที่จะเป็นการแก้ปัญหา
กลับเป็นการสนับสนุนให้ปัญหายิ่งเกิดขึ้น
ดังนั้นข้าพเจ้ามีความเห็นว่าควรมีการลดราคาสินค้า
และเพิ่มกลยุทธทางด้านบริการหลังการขาย
เพื่อให้คนทั่วไปที่มีทุนทรัพย์อย่างจำกัด
แต่ต้องการที่จะแสวงหาความรู้จากผลิตภัณฑ์ของบริษัทผู้ผลิต
ได้มีโอกาสที่จะเลือกซื้อเลือกหามาลองใช้
เพราะแน่นอนหากราคาสินค้าถูกลง
พร้อมบริการที่ดีขึ้น
ก็จะทำให้ทางเลือกของคนซื้อก็มีมากขึ้น
แต่ที่คนนิยมซื้อสินค้าเลียนแบบกันมากก็เนื่องมาจากไม่มีทางเลือกอื่น
นอกจากจะใช้วิธีการทางนิติศาสตร์เข้ามาช่วยแล้ว
ยังต้องใช้กลยุทธหลังการขายเป็นการหลอกล่อ
มีการให้รางวัลแก้ผู้พบเห็น
หรือกลยุทธด้านการแบ่งกลุ่มลูกค้า
โดยเน้นที่ลูกค้าประเภทองค์กรที่มีกำลังซื้อสูง
และซื้อเป็นจำนวนมาก
ปัญหาเหล่านี้ในความคิดของข้าพเจ้าแล้ว
บ่อเกิดของปัญหามาจากเรื่องของผลประโยชน์ของแต่ละฝ่ายด้วยกันทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค
ผู้จำหน่ายและผู้ผลิตสินค้าต้นฉบับเอง
ต่างก็ต้องการที่จะแสวงหาผลประโยชน์สูงสุดเข้าสู่ตน
จนบางครั้งก็กลายเป็นการสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นกับตัวเองไป
สำหรับการที่จะรณรงค์ไม่ให้มีการซื้อสินค้าเลียนแบบนั้น
ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นการยากที่จะทำได้สำเร็จ
ตราบใดที่ มาตรการการจัดการกับ
ผู้ละเมิดกฎหมายคุ้มครองสิทธิ
และทรัพย์สินทางปัญญา
ยังคงไม่เข้มงวดและเปิดช่องโหว่ไว้อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
และบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์
ไม่กระทำการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าให้ถูกลง
ตราบนั้นผู้บริโภคก็ยังคง
ซื้อสินค้าเลียนแบบอยู่นั่นเอง
เพราะข้าพเจ้าก็เป็นคนหนึ่งเหมือนกันที่ยอมเลือกผลประโยชน์จากการซื้อสินค้าเลียนแบบมากกว่าความถูกต้อง
|