Millennium Book

Logo001poet101.gif (17565 bytes)

รวม(เรียง)ร้อย บทกลอน(ที่)รัก ๑๔

เมื่อความรักเดินมาถึงปลายทาง
รู้ว่าห่างจากฝันนั้นแค่ไหน
รู้ความจริงว่าต้องเจ็บและปวดใจ

รู้ว่าไกลเหลือเกินที่เดินมา

ทั้งเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าและท้อแท้
ไม่เห็นทางใดจะแก้ในปัญหา
เพราะสุดทางความรักจะก้าวพา
เพราะสุดเส้นวันเวลาที่จะทน

จึงก้าวแยกคนละทางไปต่างทิศ
เก็บบันทึกของชีวิตที่สับสน
ตามค้นหาความเข้าใจข้างในตน
เฝ้าฝึกฝนจนชำนาญการเดินทาง.
  Kong DSP/Bangkok
"ขอขอบคุณสำหรับกุหลาบสวยๆนี้ด้วยจ๊ะ"

            "ปลูกต้นรัก"
คิดจะปลูก    ต้นรัก    จักต้องรู้
หมั่นตรวจดู   แลรักษา     ถ้าทำได้
คอยเติมปุ๋ย    รดน้ำคำ     พร่ำรักไป
ดอกรักได้     บานสะพรั่ง     สมดังจินต์
อย่าทิ้งขว้าง   ต้นอ่อนอ่อน   วอนสงสาร
เขาต้องการ   ให้ดูแล     และแก้ไข
ต้นรักอ่อน   พอดัดได้     หมายดังใจ
รักเติบใหญ่  นั้นดัดยาก     มากกว่าเดิม
หากจะตัด   ต้นรักนั้น     ทำกันได้
จะหมองไหม้   ใจคนปลูก    ไร้สุขแสน
หรือหวังว่า    หาคนมา    ดูแลแทน
ต้นรักจะ  แคระแกรน    แทนเติบโต
หากปลูกแล้ว   ช่วยดูแล    อย่าทิ้งขว้าง
เหมือนดังอย่าง   รักของเรา     เฝ้ารักษา
รักของเรา   จะโตตาม    กาลเวลา
อย่าให้ใคร   มาหาญกล้า    โค่นรักลง
      นางฟ้าใจดี...บอกวิธี..ปลูกรัก

 

ดอกไม้แห่งความรักและสันติภาพ

        ....@ เก็บทุกข์ @....
พับ...เอาความทุกข์ซุกไว้ใต้หมอน
เอา...ทุกข์ซ่อนบังไว้อย่าให้เห็น
ความ...สุขนำขึ้นมาทำหน้าเป็น
ทุกข์...ลำเค็ญเก็บไว้ก่อนแม้ร้อนใจ
ซุก...ใบหน้าลงกับหมอนอ้อนสะอื้น
ไว้...เมื่อฟื้นตื่นขึ้นมาอย่าร้องไห้
ใต้...หมอนนั้นขังน้ำตายามอาลัย
หมอน...จะให้ความสุขคลายทุกข์เอย

                 จาวตาล...
หวาน....หวาน...ส่งผ่านคำกลอน
 

              รินสุหร่ายสุคนธ์ตลบฟุ้ง             อบแดน
ต้อนรับสู่เมืองแมน                                    มิ่งฟ้า
นครแห่งกวีแสน                                        สุขยิ่ง
รื่นจิตพิศโอ่อ้า                                            อะเคื้ออักษร
             ขอนามขจรจรัสฟ้า                       เฟื่องหาว
เป็นยุวกวีพราว                                           เพริศแพร้ว
รังสฤษฎิ์พจน์เ พียงดาว                             เด่นชีพ
ตราบนิรันดร์รุ่งแก้ว                                    กระจ่างจ้ากว่าสูรย์
         เฌอมนินทร์   วรนาฏ/ อักษรศาสตร์ ศิลปากร
                      ๑๐ กันยายน  ๒๕๔๒
                "แต่งให้
กฤตย์ดิศร กรเกศกมล"


ดอกไม้แห่งความรักและสันติภาพ

วันที่9เดือน9ปี1999
                             พันปีมีวันเดียว ทำคนเสียวไปทั้งเมือง
                             ชาวโลกต่างลือเลื่อง ว่าเลวร้ายหรือโชคดี
                             วันนี้มีห้าเก้า บ้างถือเอาเป็นศักดิ์ศรี
                             บ้างว่าอาจกาลี โกลาหลผจญภัย
                             ใต้เงื้อมมัจจุราช ใครมิอาจหนีไปไหน
                             ยามถึงเวลาไป ย่อมประสบหลบฤามี
                             เวลาที่เหลืออยู่ สะสมสู่กุศลปรี่
                             แม้นตายหมายไปดี ไม่แตกตื่นคืนวันใด.
สุรภา เดชะ
"เห็นด้วยจ๊ะ"

                       โลกนี้คืออะไรแน่
         โลกเรานี้          ที่แท้             คือโรงละคร
    ไม่ต้องสอน          แสดงถูก       ทุกวิถี
     ออกโรงกัน           จริงจัง         ทั้งตาปี
     ตามท่วงที             อวิชชา          จะลากคอ
          โลกนี้คือ          กรงไก่         เขาใส่ไว้
     จะนำไป               แลเนื้อ         ไม่เหลือหลอ
     จิกกันเอง              ในกรง         ได้ลงคอ
     เฝ้าตั้งข้อ               รบกัน           ฉันนึกกลัว - เอยฯ

แม่น้ำห้วยย่อมไหลดัง
แม่น้ำใหญ่ย่อมไหลนิ่ง
สิ่งใดพร่องสิ่งนั้นย่อมดัง
สิ่งใดเต็ม สิ่งนั้นสงบ

ดอกไม้แห่งความรักและสันติภาพ

ฉันรัก...เธอมากมาย
แต่ก็ขี้อายไม่กล้าเปิดเผย
สุดท้ายก็ต้องปล่อยให้เลยตามเลย
รอให้วันเวลานั้นช่วยเฉลย.....เผยความในใจ

"If you can make me laugh, make me cry, make me mad and cheer me up... then
you are a
friend."

สาวน้อยร้อยชั่ง

                        รักเอย............
ขอแต่งกลอนสอนคนที่มีรัก
ให้ฟูมฟักรักทนุถนอม
เรื่องเล็กน้อยใหญ่ให้อภัยยอม
คงไม่ตรอมถ้าพร้อมอภัยกัน
         มีคนถามว่าความรักคืออะไร
         หลายคนตอบไม่ได้คล้ายความฝัน
         เหมือนเดินไม่รู้ทางกลางหมอกควัน
         คงสักวันพบทางสว่างจริง
แม้นไม่รู้ความรักคืออะไร
จะหาใครมาตอบก็ยากยิ่ง
จะเดาเอาคงไม่ใช่ความจริง
รักเป็นสิ่งต้องใช้ให้เวลา
           รักจะดีอยู่ที่คนทั้งสอง
           รักปรองดองคือรักที่ใฝ่หา
           รักจริงรักแท้เพียงแค่มองตา
           ลึกเกินกว่าถ้อยคำพร่ำบรรยาย
ขอฝากบทกลอนไว้ให้ครวญนึก
จงตรองตรึกนึกคิดมิตรสหาย
จงเลือกเป็นผู้สร้างอย่าทำลาย
แม้ความหมายในรักจักต่างกัน
                      sniper99
                     11/sep./99    

ดอกไม้แห่งความรักและสันติภาพ

       กวีมิแล้งแหล่ง         สยาม
ขจรกลิ่นอักษรยาม         สดับถ้อย
รสหวานซ่านจิตตาม      จินตเลิศ
จุ่งสืบฝีมือร้อย               อย่ารู้โรยแรง ฯ

           เฌอมนินทร์ วรนาฎ

ท้องฟ้า
เหลือบสายตาสูงนิดจิตเห็นฟ้า
สุดสายตากว้างขวางช่างสุขสันต์
มีหลายภาพทาบพื้นยืนนานวัน
สารพันเปลี่ยนแปลงแจ้งชัดเป็น
กลุ่มเมฆขาวราวประดับกับสีฟ้า
ดูเริงร่าล่องลอยพลอยมองเห็น
อนิจจาเปลี่ยนสีไปในยามเย็น
ตรงประเด็นอนิจจังทั้งสิ้นมี
จึงมิควรยินดีที่ประสบ
อะไรพบพึงกำหนดปรากฏนี้
ด้วยปัจจัยจึงกำเนิดเกิดขึ้นมี
ปัจจัยหนีย่อมสลายกลายรูปไป.
สุรภา เดชะ

 

ฤดูกาล แห่งชีวิต ที่สับสน
ต้องผจญ โลกหล้า อันกว้างใหญ่
เป็นเวที ละคร อันกว้างไกล
โลดแล่นไป ตามกาล แห่งเวลา

หลายผู้คน ต่อสู้ และพ่ายแพ้
หลายผู้คน ต้องผันแปร ชีวิตใหม่
หลายผู้คน มีชีวิต อันยาวไกล
หลายผู้คน ต้องทำใจ ไปตามกาล

ฤดูกาล แห่งความหวัง ในชีวิต
ถูกลิขิต ตามกาล ทุกแห่งหน
แม้จะผ่านพ้น
ชีวิตคน ทุกตน ฝัน...ไปตามกาล...

ดอกไม้แห่งความรักและสันติภาพ

You are Poet2543

You are Poet2543
poet2543@hotmail.com | poet2543@7smooth.com
7Smooth.com Group
Copy Right 1999