ข้อเขียน
จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน
มีชื่อเต็มว่า
"คุณภาพแห่งชีวิต
ปฏิทินแห่งความหวัง
จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน"
ปรากฏครั้งแรกเป็นภาษาอังกฤษในหนังสือพิมพ์
Bangkok Post ฉบับประจำวันที่ ๑๘ ตุลาคม
๒๕๑๖ ภายใต้ชื่อเต็มรูปแบบว่า
"The Quality of Life of a South East Asia : A Chronical of Hope from Womb to
Tomb" และต่อมารู้จักกันในนาม "From
Womb to Tomb"
.....
เมื่อผมอยู่ในครรภ์ของแม่
ผมต้องการให้แม่ได้รับประทานอาหารที่เป็นคุณประโยชน์
และได้รับความเอาใจใส่และบริการอันดี
ในเรื่องสวัสดิภาพของแม่และเด็ก
ผมไม่ต้องการมีพี่น้องมากอย่างที่พ่อแม่ผมมีอยู่
และแม่จะต้องไม่มีลูกถี่นัก
พ่อกับแม่จะแต่งงานกันถูกกฏหมายหรือธรรมเนียมประเพณีหรือไม่
ไม่สำคัญ
แต่สำคัญที่พ่อกับแม่ต้องอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข
ทำความอบอุ่นให้ผมและพี่น้อง
ในระหว่าง ๒-๓ ขวบแรกของผม
ซึ่งร่างกายและสมองของผมกำลังเติบโตในระยะที่สำคัญ
ผมต้องการให้แม่ผมกับตัวผมได้รับประทานอาหารที่เป็นคุณประโยชน์
ผมต้องการไปโรงเรียน
พี่สาวหรือน้องสาวผมก็ต้องการไปโรงเรียน
จะได้มีความรู้หากินได้
และจะได้รู้คุณธรรมแห่งชีวิต
ถ้าผมมีสติปัญญาเรียนชั้นสูงๆขึ้นไป
ก็ให้มีโอกาสเรียนได้
ไม่ว่าพ่อแม่ผมจะรวยหรือจน
จะอยู่ในเมืองหรือชนบทแร้นแค้น
เมื่อออกจากโรงเรียนแล้ว
ผมต้องการงานอาชีพที่มีความหมายที่มีความหมาย
ทำให้ได้รับความพอใจ
ว่าตนได้ทำงานเป็นประโยชน์แก่สังคม
บ้ามเมืองที่ผมอาศัยอยู่จะต้องมีขื่อมีแป
ไม่มีการข่มขู่กดขี่
หรือประทุษร้ายกัน
ประเทศของผมควรจะมีความสัมพันธ์อันชอบธรรมและเป็นประโยชน์กับโลกภายนอก
ผมจะได้มีโอกาสเรียนรู้ถึงความคิดและวิชาของมนุษย์ทั้งโลก
และประเทศของผมจะได้มีโอกาสรับเงินทุนจากต่างประเทศมาใช้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม
ผมต้องการให้ชาติของผมได้ขายผลิตผลแก่ต่างประเทศด้วยราคาอันเป็นธรรม
ในฐานะที่ผมเป็นชาวนาชาวไร่ผมก็อยากมีที่ดินของผมพอสมควรสำหรับทำมาหากิน
มีช่องทางได้กู้ยืมเงินมาขยายงาน
มีโอกาสรู้วิธีทำกินแบบใหม่ๆมีตลาดดี
และขายสินค้าได้ราคายุติธรรม
ในฐานะที่ผมเป็นกรรมกร
ผมก็ควรจะมีหุ้นส่วนในโรงงานบริษัทห้างร้านที่ผมทำอยู่
ในฐานะที่ผมเป็นมนุษย์
ผมก็ต้องการอ่านหนังสือพิมพ์และหนังสืออื่นๆ
ที่ไมแพงนัก จะฟังวิทยุ
ดูโทรทัศน์ ก็ได้
โดยไม่ต้องทนรบกวนจากการโฆษณามากนัก
ผมต้องการสุขภาพอนามัยอันดี
และรัฐบาลจะต้องให้บริการป้องกันโรคแก่ผมอย่างฟรี
กับบริการการแพทย์รักษาพยาบาอย่างถูกอย่างดี
เจ็บป่วยเมื่อใดหาหมอหาพยาบาลได้สะดวก
ผมจำเป็นต้องมีเวลาว่างสำหรับเพลิดเพลินกับครอบครัวมีสวนสาธารณะที่เขียวชอุ่ม
สามารถมีบทบาทและชมศิลปวรรณคดี
นาฏศิลป์ ดนตรี วัฒนธรรมต่างๆ
เที่ยวงานวัด งานลอยกระทง
งานนักขัตฤกษ์งานกุศลอะไรได้พอสมควร
ผมต้องการอากาศบริสุทธิ์สำหรับหายใจ
น้ำบริสุทธิ์สำหรับดื่ม
เรื่องอะไรที่ผมทำเองไม่ได้
หรือได้แต่ไม่ดี
ผมจะขอความร่วมมือกับเพื่อนฝูงในรูปสหกรณ์
หรือสโมสร
หรือสหภาพจะได้ช่วยซึ่งกันและกัน
เรื่องที่ผมเรียกร้องข้างต้นนี้
ผมไม่เรียกร้องเปล่า
ผมยินดีเสียภาษีอากรให้ส่วนรวมตามอัตภาพ
ผมต้องการโอกาสที่มีส่วนในสังคมรอบตัวผม
ต้องการมีส่วนในการวินิจฉัยโชคชะตาทางการเมือง
เศรษฐกิจ และสังคมของชาติ
เมียผมก็ต้องการโอกาสต่างๆเช่นเดียวกับผม
และเราสองคนควรจะได้รับความรู้และวิธีการว่างแผนครอบครัว
เมื่อแก่
ผมและเมียก็ควรให้ประโยชน์ตอบแทนจากการประกันสังคม
ซึ่งผมได้จ่ายบำรุงตลอดมา
เมื่อจะตาย
ก็ขออย่าให้ตายอย่างโง่ๆ
อย่างบ้าๆ
คือตายในสงครามที่คนอื่นก่อให้เกิดขึ้น
ตายในสงครามการเมือง
ตายเพราะอุบัติเหตุรถยนต์
ตายเพราะน้ำหรืออากาศเป็นพิษ
หรือตายเพราะการเมืองเป็นพิษ
เมื่อตายแล้ว
ยังมีทรัพย์สมบัติเหลืออยู่เก็บไว้ให้เมียผมพอใจในชีวิตของเธอ
ถ้าลูกยังเล็กอยู่ก็เก็บไว้
เลี้ยงให้โต
แต่ลูกที่โตแล้วไม่ให้
นอกนั้นรัฐบาลควรเก็บไปหมด
จะได้ใช้เป็นประโยชน์ในการบำรุงชีวิตของคนอื่นๆบ้าง
ตายแล้ว เผาผมเถิด อย่างฝัง
คนอื่นจะได้มีที่ดินอาศัยและทำกินและอย่าทำพิธีรีตองในงานศพให้วุ่นวายไป
นี่แหละคือ ความหมายแห่งชีวิต
นี่แหละคือการพัฒนาที่จะควรให้เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของทุกคน
สุดท้ายนี้
ขอขอบพระคุณท่านทั้งหลายที่อุตสาห์อ่านมาจนจบ
ขอความสุขสวัสดีและสันติสุขจงเป็นของท่านทั้งหลาย
และพระท่านกล่าวไว้ดังนี้เกี่ยวกับความสวัสดี
"เราตถาคตไม่เห็นความสวัสดีอื่นใดของสัตว์ทั้งหลายนอกจากปัญญา
เครื่องตรัสรู้ ความเพียร
ความสำรวมอินทรีย์และความเสียสละ"
ป๋วย อึ้งภากรณ์
|
กูชายชาญชาติเชื้อ
ชาตรี
กูเกิดมาก็ที
หนึ่งเอย
กูคาดก่อนสิ้นชี-
วาอาตม์
กูจักไว้ลายเว้ย
โลกให้แลเห็น
ป๋วย อึ้งภากรณ์ |
|