Logo003poet2543.gif (2019 bytes)

Tale002.gif (3475 bytes)

นิทานชาดก    นิทานนานาชาติ    นิทานเด็ก

Ani004LHummbird.gif (2404 bytes)

นิทานชาดก
เรื่อง   พญาลิงผู้เสียสละ

พญาลิง ท่านทอดตัวเป็นสะพาน
ให้ลิงทั้งหลายเหยียบข้าม
ลิงเหล่านั้นเป็นอะไรกับท่าน
ท่านเป็นอะไรกับลิงเหล่านั้น

            ที่ป่าหิมพานต์ มีลิงฝูงหนึ่งจำนวน ๘๐,๐๐๐ ตัวอาศัยอยู่ด้วยกันโดยมีพญาลิงตัวหนึ่งเป็นหัวหน้า พญาลิงมีร่างกายแข็งแรงมีกำลังเท่าช้าง ๕ เชือก

            ชาตินั้น พระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็นพญาลิงนั้น

           ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำคงคา มีต้นมะม่วงใหญ่อยู่ต้นหนึ่งกิ่งใบสมบูรณ์ มีผลใหญ่เท่าหม้อน้ำขนาดใหญ่ พญาลิงมักพาบริวารไปเก็บผลมะม่วงเหล่านั้นกินเสมอๆ พวกลิงเก็บผลมะม่วงกินอย่างระมัดระวังโดยไม่ยอมให้มีผลตกลงไปในแม่น้ำคงคาเพราะเกรงว่าหากมีผลตกลงไปในน้ำแล้วจะลอยลงไปถึงถิ่นมนุษย์จะเป็นอันตรายต่อพวกมันภายหลัง

            แต่แล้ววันหนึ่ง ลิงเหล่านั้นก็เกิดพลาดเก็บผลมะม่วงสุกกินไม่หมดเพราะมีรังมดแดงบังไว้ ดังนั้นผลจึงหล่นลงไปในน้ำและลอยลงมาทางใต้ ขณะนั้น พระเจ้าพาราณสีทรงเล่นน้ำอยู่ทางตอนใต้ ทรงรับสั่งให้ขึงตาข่ายเพื่อกันสัตว์ร้ายเช่นจระเข้เป็นต้นเข้ามาทำร้ายยพระองค์ ผลปรากฏว่าขณะที่ทรงเล่นน้ำอยู่นั้นได้ทอดพระเนตรเห็นผลมะม่วงลอยมาติดตาข่าย พวกเจ้าหน้าที่จึงนำไปถวายพระเจ้าพาราณสีเพราะเห็นว่ามีผลใหญ่แปลกดี

            เพราะความที่ผลมะม่วงนั้นใหญ่ผิดปกติ จึงไม่มีใครรู้จักว่าเป็นผลอะไร แม้แต่พระเจ้าพาราณสีเองก็ไม่ทรงทราบจึงรับสั่งให้ถามพรานป่า เมื่อทรงได้ทราบว่าเป็นผลมะม่วงสุกจึงทรงพิสูจน์ด้วยการเฉือนแบ่งให้พรานป่าชิมดูก่อน ครั้นทรงเห็นว่ากินได้ไม่เป็นอันตรายจึงเสวยด้วยพระองค์เองพร้อมทั้งพระราชทานส่วนที่เหลือให้แก่ผู้ตามเสด็จ

            "อร่อยมากนะ" พระเจ้าพาราณสีตรัสขึ้นพลางหันมาตรัสถามถึงถิ่นกำเนิดของมะม่วงพันธุ์นี้จากพรานป่า

            "เกิดตามริมฝั่งแม่น้ำคงคาในเขตป่าหิมพานต์ พระเจ้าข้า" พรานป่ากราบทูล

            พระเจ้าพาราณสีทรงติดพระทัยในรสมะม่วง ดังนั้นจึงรับสั่งให้ผูกเรือขนานหลายลำแล้วพาข้าราชบริพารขึ้นเรือขนานล่องทวนแม่น้ำคงคาขึ้นไป เวลาล่วงเลยไปหลายวันจึงถึงบริเวณสถานที่ที่ต้นมะม่วงขึ้นอยู่

            "ขอเดชะ นี่แหละต้นมะม่วงที่พระองค์ได้เสวยผล" พรานป่ากราบทูล

            พระเจ้าพาราณสีทรงดีพระทัยมากจึงรับสั่งให้จอดเรือเทียบฝั่งแล้วทรงพาข้าราชบริพารเดินไปยังต้นมะม่วง

            "สบายแล้วพวกเรา" พระเจ้าพาราณสีตรัสขึ้นด้วยความดีพระทัย

            "สบายอะไร พระเจ้าข้า" อำมาตย์คนสนิททูลถาม

            "เจ้าไม่เห็นหรือ ผลมะม่วงมีเยอะแยะ" พระเจ้าพาราณสีตรัสบอก "เก็บกินกันสบายเลยพวกเรา"

            จากนั้น พระเจ้าพาราณสีทรงรับสั่งให้ปูที่นอนที่โคนต้นมะม่วง พระองค์ประทับนอนเสวยผลมะม่วงสุกอย่างเอร็ดอร่อย

            ฝ่ายพญาลิงมักจะพาบริวารออกมากินมะม่วงสุกต้นนั้นในเวลาเที่ยงคืน เพราะเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่ปลอดภัยเนื่องจากผู้คนพากันหลับหมดแล้ว ส่วนพวกลิงทั้งหลายต่างก็พากันปีนป่ายเก็บผลมะม่วงกินอย่างอย่างสนุกสนานโดยหารู้ไม่ว่าขณะนั้นกำลังจะมีภัยมาถึงพวกตน

            พระเจ้าพาราณสีทรงได้ยินเสียงฝูงลิงร้องเจี๊ยกจ๊ากจึงปลุกบรรดาข้าราชบริพารให้ตื่นนอนแล้วช่วยกันล้อมจับลิง

            "พวกเจ้าล้อมไว้ให้ดีนะอย่าให้มันหนีไปได้ พรุ่งนี้เราจะได้กินมะม่วงกับเนื้อลิง" พระเจ้าพาราณสีทรงสั่งเฉียบขาด

            ฝ่ายฝูงลิงเห็นคนถือธนูมายืนล้อมต้นมะม่วงที่พวกตนปีนป่ายอยู่ก็ตกใจกลัวตาย เมื่อม่องไม่เห็นทางจะหนีไปได้จึงเข้าไปหาพญาลิงซึ่งนั่งสงบอยู่บนกิ่งไม้ พร้อมทั้งรายงานให้ทราบ

            "นาย มีคนถือธนูมายืนล้อมต้นมะม่วงของพวกเราไว้ท่าทางเขาน่ากลัวมาก พวกเราจะทำอย่างไรกันดี"

            พญาลิงเห็นพวกลิงบริวารตกใจกลัวเช่นนั้นจึงปลอบว่า "อย่ากลัวกันไปเลย เราจักให้ชีวิตพวกเจ้า"

            ครั้นปลอบโยนบริวารให้เบาใจแล้ว พญาลิงก็หาทางช่วยเหลือ ในที่สุดก็พบว่ามีอยู่ทางเดียวเท่านั้น คือ ต้องให้บริวาร"ไต่หนีไปอยู่ที่ต้นไม้อื่นซึ่งอยู่คนละฝั่งน้ำ พญาลิงสำรวจดูแล้วเห็นว่าการจะไปยังต้นไม้ต้นอื่นได้นั้นต้องไต่ไปตามเถาวัลย์ดังนั้นพญาลิงจึงเอาเถาวัลย์ผูกเข้ากับต้นมะม่วงที่พวกตนอยู่แล้วเอาปลายเถาวัลย์อีกข้างหนึ่งผูกไว้กับเอวของตนเองกระโดดไปที่ต้นไม้อีกฟากหนึ่ง ผลปรากฏว่าเถาวัลย์สั้นไม่สามารถผูกติดกับกิ่งมะม่วงอีกฟากหนึ่งได้ จึงใช้มือสองข้างเหนี่ยวต้นมะม่วงนั้นไว้แล้วบอกให้ลิงบริวารไต่เถาวัลย์มา ครั้นมาถึงตรงที่ลิงโหนอยู่ พวกลิงบริวารไม่กล้าเดินไปเพราะกลัวจะเป็นบาป แต่พญาลิงก็สั่งให้เดินต่อไปเพื่อเอาชีวิตรอดไว้ก่อน ลิงบริวารต่างพากันคำนับพญาลิงแล้วเดินเหยียบตัวพญาลิงไป

            พระเจ้าพาราณสีทอดพระเนตรเห็นการกระทำของลิงทั้งหมด พระองค์รู้สึกแปลกพระทัย ยิ่งมาเห็นลิงตัวสุดท้ายซึ่งเป็นลิงกักขฬะหยาบคายแล้วรู้สึกสะเทือนพระทัย กล่าวคือ ลิงตัวนั้นไม่ชอบพญาลิงเพราะมันต้องการชิงความเป็นใหญ่ มันหาทางแก้แค้นอยู่ตลอดเวลา จนวันนี้จึงได้โอกาส มันไต่ตามเถาวัลย์มาเช่นเดียวกับลิงตัวอื่นๆ แต่ครั้นมาถึงที่พญาลิงเหนี่ยวกิ่งไม้ไว้ แทนที่มันจะค่อยๆเหยียบตัวพญาลิงไป มันกลับกระโดดกระทืบเข้าเต็มแรงด้วยความเจ็บแค้นแล้วเดินเหยียบไปพญาลิงเจ็บปวดมาก แต่ก็สู้อดทนเพื่อช่วยเหลือบริวาร

            พระเจ้าพาราณสีทอดพระเนตรเห็นแล้วรู้สึกสะเทือนพระทัยมาก ทรงรำพึงว่า

            "ลิงนี้เป็นสัตว์ดิรัจฉานแท้ๆ ยังยอมสละชีวิตของตนเองช่วยเหลือบริวารให้ปลอดภัย"

            พระองค์ทรงคิดได้ว่าพระองค์ไม่ควรทำลายชีวิตพญาลิงแต่ควรหาทางช่วยเหลือให้ปลอดภัย ดังนั้นจึงรับสั่งให้ผูกนั้งร้านแล้วให้เจ้าหน้าที่ปีนขึ้นไปแล้วค่อยๆ ประคองพญาลิงลงมา

            "พวกเจ้าค่อยๆ ประคองนะลิงเจ็บ" พระองค์ตรัสบอกด้วยความสงสาร แล้วให้อุ้มมานอนบนผ้า จากนั้นรับสั่งให้อาบน้ำให้ลิง แล้วรับสั่งให้เอาน้ำผสมน้ำอ้อยมาให้ดื่ม

            พญาลิงค่อยๆ ขยับตัวได้บ้าง พระเจ้าพาราณสีทอดพระเนตรเห็นแล้วดีพระทัยมากจึงรับสั่งต่อว่า

            "พวกเจ้าจงเอาน้ำมันมานวดตัวให้ลิงด้วย"

            เมื่อเจ้าหน้าที่ดูแลพญาลิงเป็นอย่างดีแล้ว พระเจ้าพาราณสีก็เสด็จมาประทับนั่งลงใกล้ๆแล้วตรัสถาม

            "พญาลิง ท่านย่อมทอดตัวเป็นสะพานให้ลิงทั้งหลายเหยียบข้าม ลิงเหล่านั้นเป็นอะไรกับท่าน ท่านเป็นอะไรกับลิงเหล่านั้น"

            พญาลิงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองดูพระเจ้าพาราณสีแล้วกราบทูลว่า

            "ขอเดชะ ลิงเหล่านั้นกำลังเศร้าโศกเพราะกลัวตาย หม่อมฉันเป็นผู้นำของพวกเขา จะปล่อยให้เขาตายไม่ได้"

            "กลัวตายเรื่องอะไรหรือ"

            "เรื่องที่พระองค์ให้คนถือธนูมายืนล้อมเพื่อยิงพวกเขานั้นแหละ หม่อมฉันเห็นว่าพวกเขามีภัยแน่จึงหาทางช่วยเหลือ เพราะถือว่า เราปกครองคนเหล่าใดก็ต้องทำให้พวกเขามีความสุขและสบายใจ"

            พญาลิงพูดถึงตรงนี้แล้วก็เว้นระยะไว้นิดหนึ่ง จากนั้นจึงพูดต่อ

            "พระองค์ก็เช่นกัน ในฐานะผู้ปกครองก็ต้องทำให้ผู้อยู่ใต้ปกครองมีความสุข"

            กล่าวจบ พญาลิงก็ไม่สามารถจะทนความเจ็บปวดไหวจึงขาดใจตายในเวลาต่อมา พระเจ้าพาราณสีทรงรับสั่งให้จัดการเผาศพพญาลิงอย่างสมเกียรติแล้วนำกระดูกไปบรรจุในเจดีย์ที่ทรงรับสั่งให้สร้าง พระองค์ทรงบูชากระดูกพญาลิงตลอดชีวิต

            ชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ผู้นำที่ดีควรเสียสละและอดทนมิใช่แต่เฉพาะแก่บริวารที่ดีเท่านั้น แม้บริวารที่ไม่ดีเขาก็ควรเสียสละและอดทนด้วย เหมือนพญาลิงเสียสละและอดทนยอมให้บริวารที่ไม่ดีรอดชีวิตเพราะตนฉะนั้น

7Smooth.com

Ani004LHummbird.gif (2404 bytes)
7Smooth.com Group
Copy Right 1999

poet2543@hotmail.com | poet2543@7smooth.com