![]() |
|
นิทานชาดก นิทานนานาชาติ นิทานเด็ก |
นิทานชาดก
เรื่อง
เล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญ
ช้างเกเรเชือกหนึ่ง
ชอบรังแกสัตว์อื่นที่ตัวเล็กกว่า
แต่ต่อมาก็ต้องพ่ายแพ้
บริเวณป่าหิมพานต์ มีช้างเชีอกหนึ่งร่างกายสูงใหญ่สง่างาม ได้รับแต่งตั้งจากช้าง ๘๐,๐๐๐ เชือกให้เป็นหัวหน้าดูแลพวกตน
ชาตินั้น พระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็นช้างนั้น มีความเมตตากรุณา พาบริวารออกหากินโดยไม่เบียดเบียนสัตว์อื่นให้ได้รับความเดือดร้อน
ต่อมา มีนางนกขี้ไถตัวหนึ่งมาวางไข่ไว้ในที่ๆช้างเทียวไปเทียวมา ครั้นได้กำหนด พวกลูกนกก็ได้กระเทาะเปลือกไข่ออกมา แม่นกดีใจมากที่เห็นพวกลูกออกมาดูโลกได้อย่างปลอดภัยและมีพลานามัยที่แข็งแรง
คราวหนึ่งช้าง ๘๐,๐๐๐ เชือกออกหากินเดินมาถึงบริเวณนั้น แม่นกเห็นแล้วตกใจกลัวว่าพวกช้างจะเหยียบลูกของตนตาย เนื่องจากลูกยังเล็กขนปีกยังไม่งอกจึงยังบินหนีภัยไม่ได้ แม่นกจึงเดินเข้าไปหาพญาช้างแล้วบอกว่า
"ท่านพญาช้าง ข้าพเจ้ามีลูกอ่อนอยู่หลายตัว อยากขอให้ท่านระมัดระวังด้วย มิฉะนั้นแล้วจะเหยียบลูกของข้าพเจ้าตายหมด"
นางนกพูดพลางประคองปีกไหว้พญาช้างเป็นการอ้อนวอน
พญาช้างมองดูนกนางนกและลูกน้อยเห็นยืนตัวสั่นงันงกด้วยความกลัวแล้วเกิดสงสาร จึงกล่าวปลอบว่า
"อย่ากลัวไปเลย ฉันจะคุ้มครองลูกของเจ้าเอง"
ว่าแล้ว พญาช้างก็เดินมายืนคร่อมลูกนกไว้ไม่ให้ช้างบริวารเดินมาเหยียบจนกระทั่งช้างบริวารเดินคล้อยหลังไปหมดแล้วจึงเดินตามไป แต่ก่อนที่จะผ่านพ้นไปก็ฉุกคิดได้ว่ามีช้างเกเรอยู่เชือกหนึ่งซึ่งชอบรังแกสัตว์อื่นอยู่เสมอเพราะถือว่าตัวเองตัวใหญ่กว่าเขา จึงเรียกนางนกมาบอกว่า
"มีช้างเกเรพวกหนึ่งชอบแตกฝูงกำลังเดินตามมาข้างหลัง ช้างเชือกนี้ดื้อดึงไม่ยอมฟังคำใคร ฉันเองก็เตือนไม่ได้"
นางนกฟังแล้วตกใจกลัวมาก พญาช้างสังเกตเห็นกิริยาอาการของนางนกแล้วรู้สึกสงสารจึงกล่าวปลอบว่า
"แต่สำหรับเธอกับลูกตัวเล็กเกินไป ฉันคิดว่าเขาคงไม่ทำอะไรหรอก เวลาเขามาก็ขอร้องเขาให้ดีก็แล้วกัน เชื่อว่าเขาจะเห็นใจได้"
นางนกรู้สึกใจชื้นขึ้นบ้างที่ได้ยินคำปลอบโยนเช่นนั้นช้างบริวารเดินล่วงหน้าไปนานแล้ว พญาช้างจึงกล่าวลานางแล้วเดินตามหลังบริวารไป
ลูกนกตกใจจากเสียงย่ำเท้าของกองทัพช้างได้ไม่นานก็ต้องตกใจกับเสียงย่ำเท้าของช้างเชือกใหม่
"แม่จ๋าน่ากลัวจัง" พวกลูกนกร้องแล้ววิ่งเข้าซบใต้ปีกแม่
"ไม่ต้องกลัวลูก ไม่ต้องกลัว" แม่นกปลอบพลางโอบปีกกอดลูกไว้แน่น "เขามาตัวเดียวเขาคงไม่ทำร้ายเราหรอก"
"แต่เมื่อกี้ลูกได้ยินลุงช้างบอกว่ามีช้างเกเรตัวหนึ่งชอบรังแกสัตว์อื่น" ลูกนกตัวหนึ่งแย้งแม่นก
"แต่ลุงช้างก็บอกเรานี่ว่าหากเราขอร้องขอความเห็นใจจากเขา เขาคงจะไม่ใจดำทำร้ายเรา" แม่นกปลอบลูกๆ
ช้างเกเรเดินฟาดงวงฟาดงามาเรื่อยๆ ตามรายทางเสียงกิ่งไม้หักดังเปรี๊ยะๆ อยู่ลั่นตลอดทาง บางครั้งก็กระทืบเท้าดังปึกๆ
"แม่จ๋า น่ากลัวจัง" พวกลูกนกร้องไห้อยู่ใต้ปีกแม่อีกหลังจากหายกลัวเมื่อสักครู่
"ไม่ต้องกลัวลูก" แม่นกพยายามแสดงความกล้าปลอบลูกๆทั้งที่ตัวเองก็กลัวอยู่
ทันใดนั้นเอง ร่างสูงใหญ่ดำทมึนของช้างเกเรก็ปรากฎให้เห็น แม่นกตกใจแทบสิ้นสติ แต่ก็พยายามข่มความกลัวโดยนึกถึงคำพูดของพญาช้างที่บอกไว้ว่า
"แต่สำหรับตัวเธอตัวเล็กเกินไป ฉันคิดว่าเขาคงไม่ทำอะไรหรอก..."
แม่นกคิดถึงการเอาตัวรอดจึงกางปีกออกประคองอัญชลีไหว้ช้างเกเรเป็นการแสดงการต้อนรับ แล้วพูดอย่างอ่อนน้อมว่า
"ท่านช้าง ข้าพเจ้ากับลูกๆ ได้ทราบว่าท่านชอบเที่ยวไปตามลำพัง อาศัยอยู่ตามโขดเขา ลำเนาไพร ข้าพเจ้าและลูกๆขอไหว้ท่านขอท่านจงเมตตาข้าพเจ้าและลูกๆ ด้วยเถิด อย่าทำร้ายเลย"
ช้างเกเรแสดงท่าถมึงทึงจ้องมองดูนางนกและลูกๆ ไม่กระพริบตา มันชูงวงกระทืบเท้าพร้อมประกาศว่า
"ข้าไม่เคยไว้ชีวิตใคร"
นางนกเริ่มตกใจ แต่ก็แข็งใจพูดโดยคิดว่าช้างเกเรจะเห็นแก่ลูกๆของตน
"หากไม่ไว้ชีวิตข้าพเจ้าก็ขอให้ไว้ชีวิตพวกลูกๆด้วยเถิด"
"ข้าจะไม่ไว้ชีวิตใครทั้งนั้นนอกจากชีวิตข้าเอง" ช้างเกเรพูดแล้วพรางกระทืบเท้าเสียงสนั่น
"อย่างพวกเจ้า ข้าคงไม่ต้องออกแรงมาก เอาแค่ตีนซ้ายตีนหน้าก็พอแล้ว"
ว่าแล้ว ช้างเกเรก็วิ่งใส่แม่นกกับลูกนกทันที แม่นกตกใจกระโดดหลบแล้วบินขึ้นไปจับอยู่บนกิ่งไม้ใกล้ทางแล้วมองดูช้างเกเรฆ่าลูกตัวเองด้วยความเจ็บแค้น
"คราวนี้เป็นคราวของเจ้า แต่คราวหน้าคงเป็นคราวของข้าบ้าง" นางนกผูกอาฆาตอยู่ในใจ "เจ้าถือว่าเจ้าตัวใหญ่ แต่ข้านี่แหละจะทำให้เจ้าได้คิดว่าตัวใหญ่หรือเล็กไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่ว่าใครจะมีปัญญามากกว่ากัน"
นางนกบินขึ้นสู่ท้องฟ้าวนอยู่รอบๆ บริเวณที่ลูกๆของตนเองถูกช้างเหยียบตาย พร้อมกับส่งเสียงอาฆาตว่า
"การใช้กำลังเอาชนะใครต่อใครนั้นทำไม่ได้ทุกที่ทุกเวลาหรอก คนพาลมีกำลังก็เพียงเพื่อไว้ใช้ทำร้ายคนอื่นเจ้าช้างตัวใหญ่เอ๋ย เจ้าฆ่าลูกของข้า และข้านี่แหละจะฆ่าเจ้าบ้าง"
นางนกส่งเสียงร้องด้วยน้ำตานองหน้า จากนั้นก็บินตามช้างเกเรไป นางนกบินตามช้างเกเรทุกวัน ในขณะเดียวกันก็คิดว่างแผนฆ่าช้างไปด้วย ในที่สุดก็สรุปได้ว่าลำพังตัวเองคงจะไม่สามารถฆ่าช้างเพราะกำลังไม่พอ มีอยู่ทางเดียวคือต้องใช้มือสัตว์อื่นฆ่า นางนกคิถึงกา แมลงวัน และกบ และเห็นว่าสัตว์เหล่านี้จะช่วยฆ่าช้างเกเรได้จึงเข้าไปหาและตีสนิทด้วย
"ท่านมีอไรจะให้ข้าพเจ้าช่วยบ้าง" กาบอกนางนกในวันหนึ่ง หลังจากเห็นนางนกมาช่วยเหลือตนในหลายเรื่องด้วยกัน
"นาย ข้าพเจ้าไม่มีเรื่องอื่นจะรบกวนท่านหรอก นอกจาก... " นางนกตอบพลางหยุดเว้นระยะไว้นิดหนึ่ง
"นอกจากอะไร" การีบถาม
"นอกจากให้ท่านช่วยจิกตาช้างให้แตกทั้งสองข้าง"
กาเมื่อได้ฟังนางนกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟังแล้วก็เห็นใจจึงรับปาก และเมื่อได้โอกาสก็บินไปจิกตาช้างแตก เมื่อช้างตาแตกแล้ว นางนกก็ว่างแผนต่อไปโดยไปหาแมลงวันหัวเขียวและขอร้องให้แมลงวันบินไปว่างไข่ไว้ที่ตาของช้าง
"ทำไมหรือจึงต้องทำอย่างนั้น" แมลงวันถาม แต่หลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็ตอบตกลงทำตามที่นางนกนกขอเพราะความสงสาร
นอกจากต้องทนทุกข์ทรมานเพราะตาแตกแล้วช้างเกเรยังต้องมารู้สึกรำคาญไข่แมลงวันที่คาอยู่ในตาอีก ฝ่ายนางนกรู้สึกสาแก่ใจที่เห็นช้างทนทุกข์ทรมาน
"เราแก้แค้นได้ขั้นหนึ่งแล้ว" นางนกบอกตัวเอง "แต่มันยังไม่หายแค้นเพราะมันยังไม่ตาย"
นางนกยิ่งรู้สึกสาแก่ใจเมื่อเห็นช้างเกเรเดินเปะปะไม่ตรงทาง ขณะนั้นเอง นางนกก็เห็นทางที่จะฆ่าช้างได้จึงเข้าไปหากบตัวหนึ่งแล้วเล่าความแค้นที่ตนมีต่อช้างเกเร ให้กบฟังพร้อมทั้งขอความช่วยเหลือให้ร่วมมือกันฆ่าช้าง
"ท่านจะให้ข้าพเจ้าทำอย่างไร" กบถามถึงแผนสังหาร
"ท่านไม่ต้องทำอะไรมากหรอก" นางนกชี้แจง "เพียงแต่ว่าคราวใดที่เห็นช้างตาบอดเดินงุ่มง่ามหาน้ำกิน คราวนั้นขอให้ท่านขึ้นไปส่งเสียงร้องอยู่บนยอดเขา ช้างได้ยินเสียงท่านก็จะเข้าใจผิดคิดว่ามีบ่อน้ำแล้วตะเกียกตะกายขึ้นไปบนยอดเขาทีนั้นขอให้ท่านรีบลงมาส่งเสียงร้องอยู่ที่บ่อน้ำ ครั้นช้างได้ยินเสียงท่านก็จะเข้าใจว่ามีบ่อน้ำอยู่ข้างล่างแล้วมะงุมมะงาหราลงมาอีก ข้าพเจ้าขอให้ท่านช่วยทำเพียงเท่านี้แหละ"
"ส่งเสียงร้องเพียงเท่านี้ช้างจะตายได้อย่างไร" กบถามอย่างสงสัย
"เอาเถอะน่า เดี๋ยวรู้เอง" นางนกหัวเราะ
กบทำตามที่นางนกขอร้อง ขึ้นไปยืนส่งเสียงร้องอยู่บนยอดเขาก่อน จากนั้นก็หลบลงมาส่งเสียงร้องอยู่ที่ปากบ่อ และขณะที่ส่งเสียงร้องอยู่นั้นก็หายสงสัย เพราะเวลาที่ช้างเกเรวกกลับลงมาที่เชิงเขานั้นเองก็เหยียบพลาดพลัดตกลงไปที่หน้าผาขาดใจตายอยู่ตรงนั้นเอง
"ฮ่า...ฮ่า...สมใจข้าแล้ว" นางนกหัวเราะลั่นพลางรีบบินจากต้นไม้มาเหยียบหัวช้าง "เจ้าฆ่าลูกข้า ตอนนี้ข้าก็ฆ่าเจ้าได้แล้ว"
นางนกไม่ลืมขอบคุณกบ แมลงวัน และกาที่ช่วยเหลือ จากนั้นก็บินจากไปอย่างหายแค้น
ชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ศัตรูแม้มีกำลังน้อยกว่า แต่เป็นคนฉลาดก็สามารถทำให้เราย่อยยับได้ เหมือนนางนกมีกำลังน้อยกว่าช้าง แต่อาศัยที่ฉลาดจึงสามารถทำลายช้างได้อย่างเลือดเย็น
7Smooth.com |
7Smooth.com Group
Copy Right 1999
poet2543@hotmail.com | poet2543@7smooth.com