ปีที่ 2 ฉบับที่ 687 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2542

จับกระแสโลก

ขบวนการทำลายพระพุทธศาสนา โผล่อีกที่ปักกิ่ง

หนังสือพิมพ์เอเชียวีค ฉบับประจำวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ เสนอข่าวที่น่าสนใจข่าวหนึ่งว่า เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ชาวพุทธกว่าหมื่นคน ชุมนุมกันอย่างมีระเบียบเรียบร้อย ที่บริเวณรอบๆ บ้านพักของผู้นำทางการเมืองของจีน ในกรุงปักกิ่ง เพื่อยื่นประท้วง และเรียกร้องให้ทางการ สนใจเอาใจใส่ เรื่องที่มีผู้มุ่งโจมตีพระพุทธศาสนา อย่างเอาเป็นเอาตาย ในระยะนี้ แล้วก็สลายตัวไปอย่างสงบ

ในเวลาไล่เลี่ยกันที่เทียนสิน ก็มีชาวพุทธหลายพันคนไปชุมนุมอย่างสงบ ที่หน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง ที่ชอบเสนอข่าวโจมตี พระพุทธศาสนา มีการเรียกร้องให้ปลดบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว แล้วก็แยกย้ายกันไปด้วยความสงบเช่นเดียวกัน

จากการเปิดเผยของกลุ่มชาวพุทธทราบว่า บุคคลจากหลายสาขาอาชีพ รวมทั้งหนังสือพิมพ์บางฉบับ มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ ทำการ โจมตีพระพุทธศาสนาอย่างเป็นขบวนการ และมีเงื่อนงำ ที่น่าสงสัยว่า จะมีเบื้องหลังว่า เป้าหมายที่แท้จริงของคนกลุ่มนี้ ต้องการอะไรแน่ และได้รับการ สนับสนุนองค์การลับทางศาสนาจากภายนอกหรือไม่

ผู้ที่มาชุมนุมประท้วง ต้องการให้ทางการสืบสวนราวเรื่อง ทำความจริงให้ปรากฎ

ชาวพุทธที่ออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เป็นผู้นับถือศาสนาพุทธ นิกายฟาลุงกง ซึ่งนำวิชา "จี้กง" ซึ่งเป็นวิชาการควบคุมลมหายใจเข้าออก มาประกอบการปฏิบัติธรรมด้วย

นิกายฟาลุงกง มีผู้นับถืออยู่ในประเทศจีน ปัจจุบันประมาณ 70 ล้านคน ซึ่งมากกว่าสมาชิกพรรคคิมมิวนิสต์จีนถึง 10 ล้านคน นิกายดังกล่าว ยืนหยัดอยู่ได้มานานแล้ว โดยไม่มีใครเข้าไปแตะต้อง แม้แต่รัฐบาลจีนเอง ก็ปล่อยให้มีเสรีภาพในการปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่

แต่มาเมื่อไม่นานมานี้ เริ่มมีเสียงโจมตีพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะนิกายดังกล่าวว่า นับถือเรื่องเหลวไหล งมงาย และหลอกลวงประชาชน

นิกายฟาลุงกง ดำรงอยู่ด้วยขันติธรรม ไม่สนใจไม่ตอบโต้ ยังมุ่งปฏิบัติธรรมตามแนวทางของตนต่อไป แต่เสียงโจมตีหนักหน่วงและรุนแรง ขึ้นเรื่อยๆ มีการใส่ร้ายป้ายสีเรื่องไม่เป็นเรื่องมากขึ้นทุกที มีการโหมประโคมข่าวโดยหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ที่ร่วมขบวนการร้ายด้วยกัน เป็นเหตุ ให้ต้องออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยค้นหาสาเหตุให้ด้วยว่า ขบวนการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติหรือไม่ เพื่อประสงค์สิ่งใด

นิกายฟาลุงกง ได้รับความนิยมเลื่อมใสจากชาวจีนมากขึ้นเรื่อยๆ และมีสาขาอยู่ต่างประเทศด้วย ที่สหรัฐมีหลี่ฮองฉีเป็นประธานนิกายนี้ และเป็นผู้ที่เริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลดังกล่าว เพราะสำนักฟาลุงกงในสหรัฐก็เริ่มสัมผัสความกดดันจากศาสนาอื่นอย่างเงียบๆ เช่นกัน

ครับ เหตุการณ์ในปักกิ่งและเทียนสินเป็นอุทาหรณ์ว่า การใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว กับกลุ่มพญามารนั้น บางครั้งก็ไม่ได้ผล แม้แต่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านยังต้องแสดงบุญญาบารมีให้พญามารเห็น จึงจะปราบมารร้ายได้

แต่บางกรณีก็ยากที่จะสำเร็จเหมือนกัน เพราะมารบางกลุ่ม อาจรับเงินมาจากองค์การลับ ถึงจะยอมถอยให้สักกี่ก้าว มารอุบาทว์พวกนี้ ก็จะไม่ยอมรามือ เพราะเป้าหมายของมันคือทำลายล้างศาสนาให้สิ้นซากตามที่รับจ้างมา

วิธีเดียวที่จะแก้ไขได้ก็คือ ลากไส้เน่าๆ ของมารเหล่านั้นออกมาให้คนเห็น ว่านั่นคือ มารอุบาทว์แฝงร่างมาในรูปของมนุษย์ผู้มีเกียรติ ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นขุดคุ้ยอย่างจริงจัง นำความเลวของมันออกมาตีแผ่

เลิกท่องเถอะครับ คาถาที่ว่า เราหยุดแล้วแต่ท่านไม่ยอมหยุด

เพราะการหยุดของเราเท่ากับการยืนเป็นเป้านิ่งให้มันตีเอา จนขาดใจตาย

สมัยนี้เงินมันมีอำนาจเหนือบาปบุญคุณโทษนัก

ชองพ์ เอลิเซ่