ปีที่ 2 ฉบับที่ 710 ประจำวันพุธที่ 23 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2542
วิวาทะ
ปกป้องพระพุทธศาสนากันอย่างไร จึงได้ชื่อวิญญูชน....
คำพูดที่ว่า.....พุทธบริษัท 4 มีหน้าที่ปกป้องพระพุทธศาสนา เป็นคำพูดที่คุ้นหูอยู่ไม่น้อย
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น ประเทศไทยได้ขึ้นชื่อว่า เป็นดินแดนแห่งพุทธศาสนา ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มีประชากร คนไทยส่วนใหญ่ นับถือ ศาสนาพุทธ
ทว่า กลับกลายเป็นเรื่องเศร้าใจ เมื่อมีการตั้งข้อสังเกต จากสังคมรอบข้างว่า เหตุใด พุทธศาสนิกชน ทั้งหลาย จึงเดินสวนทางกับ หลักธรรมของพระศาสนา
ความเจริญทางด้านวัตถุเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะที่การพัฒนาพื้นใจ ศีลธรรม จรรยาบรรณ ของผู้อยู่ใน สังคม ถูกมองข้าม อาจกล่าวได้ว่า ไม่สามารถ พัฒนาสภาพจิตที่ดีงาม ให้ก้าวทัน ความเจริญ ทางด้านวัตถุ หรือ เทคโนโลยี
สังคมจึงสับสนวุ่นวาย ข้าราชการประจำ และการเมืองโกงกิน ข่าวฆาตกรรมข่มขืน จี้ ปล้น ล้วนแต่เป็นภาพ ที่สวนทางกับ หลักของพระศาสนา
เกิดอะไรขึ้นกับสังคมชาวพุทธแบบไทยๆ ?
พี่น้องชาวพุทธไทยเรานี้ นับถือศาสนากันอย่างไร รู้จักพระธรรมคำสั่งสอนของ พระสัมพุทธเจ้า เพียงใด แม้แต่ศีล 5 ข้อ ที่พระองค์ให้มนุษย์ละเว้น โดยให้มองว่า เป็นเรื่องปกติที่ มนุษยชาติ ควรยึดเป็นข้อวัตร กลับถูก มองว่า เป็นเรื่องปกติ ที่มนุษยชาติควรยึด เป็นข้อวัตร กลับถูกมองว่า เป็นข้อห้ามไปเสีย
ในชั้นการดำรงตนอยู่ในสังคม ชาวพุทธไทยยังไม่อาจฝ่าต้านกระแสแห่งตัณหา กิเลส ราคะไปได้นั่นเอง
ทีนี้กลับมาพูดเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้งกว่าศีล 5 ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ที่มนุษย์ทุกคน พึงจะยึดมั่นถือมั่น นั่นคือ เรื่องของพระธรรมวินัย
พระธรรมวินัยคือเกราะปราการคุ้มกันเพศบรรพชิต พูดง่ายๆ ก็คือ ศีล 227 ข้อ ที่พระภิกษุสงฆ์ ยึดถือเป็น ข้อวัตรปฏิบัติ
ที่พูดมานี้ก็อยากจะให้ชาวพุทธตระหนักถึงสถานการณ์ของพระพุทธศาสนาในปัจจุบัน
การวิพากวิจารณ์สถาบันสงฆ์ มหาเถรสมาคม หรือกรณีวัดพระธรรมกาย
เกิดอะไรขึ้นเมื่อนักข่าวแรกรุ่นปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม จับปากกาวิจารณ์คณะสงฆ์ไทย จนกลายเป็น ประเด็น ร้อนแรงขึ้นมา อยู่ในห้วงเวลานี้
ผมไม่คิดโทษนักข่าวเหล่านั้น ว่าเธอหรือเขาโง่งม แต่หากจะประณามกัน หรือตำหนิติติงกัน ก็ต้องโฟกัส ไปที่ บุคคลผู้ตั้งตนเป็น พระไตรปิฎกเคลื่อนที่ อย่าง คุณเสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต
ออกมาแสดงพฤติกรรม จนไม่อาจให้อภัยได้นั้นคือ การพูดจาจ้วงจาบ พระสังฆราช ให้ทรงลาออก จากคณะ ปกครองสงฆ์
บุคคลเหล่านี้แหละ บริสุทธิ์ผุดผ่องเพียงใดต่องานปกป้องพระศาสนา?
บวชเรียนมามาก ได้ชื่อว่าเป็นผู้รู้มาก มีปัญญา เข้าใจรู้ซึ้งถึงรสพระธรรมของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่กลับ ออกมากล่าวร้ายว่าสงฆ์ โดยใช้ความรู้สึกส่วนตน เข้ามาตัดสินปัญหา
คนเหล่านี้สมควรถูกประณามหรือไม่?
ยอมรับกันอย่างลูกผู้ชายดีกว่าครับคุณเสฐียรพงษ์ ท่านกบฎต่อพระศาสนาแล้ว ท่านเจ้าคุณสุนทรพิพิธธรรม ออกมาเตือน เพื่อให้สติท่านว่า ขอให้พวกพี่ทิดเบาๆ กันหน่อย เรื่องของสงฆ์ ต้องใจเย็นๆ เราไม่ต้องมาพูดว่า เคย เตะฟุตบอลกันมา เคยละเมิดพระธรรมวินัย กินข้าวเย็น ไม่จำเป็นต้องพูด .
ท่านราชบัณฑิตกลับทำหูทวนลมเสียนี่
ผมจำได้ว่า มีหนังสือเล่มหนึ่งเขียน สรรเสริญอดีตพระยันตระ เป็นพระอรหันต์ ยังจำได้สนิทแนบ เมื่อครั้งที่ ยันตระโด่งดังมาก นักเขียนคนนั้น ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ เป็นผู้ชำนาญการด้านศาสนาเสียด้วย
เขาให้เหตุผล ถึงการจัดทำ หนังสือสรรเสริญ คุณงามความดี ของยันตระ เป็นถึงอรหันต์ว่า ไม่ต้องไป คิด อะไรให้มาก หนังสือเสร็จ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า รวยไม่รู้เรื่อง อามิสนั้นคือ ยอดปรารถนาของ บุคคลผู้กระหาย เงินตรา ในกมลสันดาน กล่าวกับทีมงาน ที่ร่วมกันจัดทำหนังสือ "ยันตระเป็นพระอรหันต์" ในค่ำคืนหนึ่งของปี 31-32
บอกพิกัดกันให้ชัดๆ สำนักพิมพ์เล็กๆ ที่ทำหนังสือการันตียันตระอยู่แถวๆ วัดเสมียนนารี ใกล้กับ สำนักพิมพ์ มติชน ทีมงานที่เขาร่วมกันจัดทำ ฝากบอกมาว่า ผู้ชำนาญการศาสนา คนนั้น เบี้ยว (โกง) ค่าต้นฉบับเขาด้วย
หนังสือเล่มนั้นอยู่ที่ใครบ้าง หากใครมีไว้ในครอบครอง กรุณาส่งมาให้ผมอ่าน เพื่อทบทวนความจำเก่าๆ จับขอบพระคุณยิ่ง
จะได้รู้ว่า ผู้ชำนาญการด้านศาสนาผู้นั้น แท้จริงแล้วเขาผู้นั้นคือใคร?
ปากพร่ำแต่พระธรรมวินัย กางตำราด่าพระสงฆ์องค์เจ้า แต่กลับไม่ได้เป็นผู้ชื่อว่า อยู่ใกล้พระตถาคต แม้แต่น้อย ยิ่งพูดเรื่องธรรมะมากเท่าไร่ ก็ยิ่งห่างไกลจากพระพุทธเจ้าทุกขณะจิต
ผมจึงรู้สึกละอายใจแทนชาวพุทธไทย เมื่อคณะของ THAI AMERICAN BHUDDIST SOCAITY หรือ คณะชาวพุทธไทย ในอเมริกัน รับข้อมูลข่าวสารโจมตีพระศาสนา ไม่อาจ นิ่งนอนใจ อยู่ต่างแดนได้ เดินทางมายัง กองบก. พิมพ์ไทย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง
พร้อมกับแสดงความห่วงใยต่อสถาบันสงฆ์ไทยและศาสนาพุทธ ที่ถูกวิจารณ์ในทางลบ
แม้เขาเหล่านั้น จะได้กรีนการ์ด แต่สิ่งที่พวกเขาพูดกับผมคือ ผมรักผืนแผ่นดินไทย รักสถาบันสงฆ์ไทย ไม่ได้ ยิ่งหย่อนไปจากคนไทย ที่อยู่ในเมืองไทย แม้แต่น้อย
โซตัส