ปีที่ 2 ฉบับพิเศษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2542

พิเศษ 5

ข้อเท็จจริงกรณีที่ดิน สองพี่น้อง ธรรมกาย หรือใครกันแน่ที่ฉ้อโกง!!

หมายเหตุ : จดหมายจากมูลนิธิธรรมกาย และหลักฐานการซื้อที่ดินจาก นางสาลี่ เพ็ชร์ชูดี ที่ส่งถึงสภาทนายความฯ เป็นข้อมูลที่ต้องการให้ พุทธศาสนิชนได้ใคร่ครวญพิจารณา หลังจากที่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ โดนกระแสโจมตีอย่างหนักว่า ฉ้อโกงที่ดิน กรณีดังกล่าวนี้ มีความครบถ้วน สมบูรณ์ ทางกฎหมายแล้ว แต่ก็ยังถูกหยิบยกมาเป็นกระแสโจมตีอย่างหนักว่า ฉ้อโกงที่ดิน เหมือนกับกรณีที่ดินแปลงอื่นๆ สะท้อนให้เห็นว่า เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับวัดพระธรรมกาย ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดา หากแต่เป็น กระแสที่ถูกปลุกเร้าให้เกิดขึ้น

ตามที่นางสาลี่ เพ็ชร์ชูดี ไปร้องเรียนที่ สภาทนายความ ว่าตั้งใจบริจาคที่ดิน ของตนให้วัดพระธรรมกาย แต่ปรากฏว่า เป็นการขายที่ดิน ให้มูลนิธิฯ

มูลนิธิธรรมกายขอชี้แจงความเป็นมา และการทำสัญญาซื้อขายตลอดจนหลักฐานการรับเงินค่าที่ดิน พร้อมทั้งเหตุผลประกอบความจริง ดังต่อไปนี้ กล่าวคือ

1.    นางสาลี่ เพ็ชร์ชูดี เป็นเจ้าของโฉนด ที่ดินเลขที่ 20377, 20379, 20380,020381, 20382, 939 รวม 6 โฉนด เนื้อที่ 2 ไร่ 3 งาน 94 ตารางวา ตั้งอยู่ที่ตำบลสองพี่น้อง อำเภอ สองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ได้คุยด้วยวาจากับ นายลือพงศ์ ลีละพนัง เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการ จัดสร้างอนุสรณ์สถานบ้านเกิด หลวงพ่อวัดปากน้ำ ซึ่งดำเนินงานโดยมูลนิธิธรรมกาย โดยแสดงเจตนาว่า อยากจะบริจาคที่ดินเข้าร่วมโครงการ ดังกล่าว แต่สามีและลูกเขยขัดข้อง จึงเปลี่ยนเจตนาเป็นขายให้ มูลนิธิธรรมกายภายหลัง ซึ่งถือเป็นเจตนาที่แท้จริง และมีการทำสัญญาซื้อขายที่ดิน และรับเงินกัน ดังรายการต่อไปนี้

1.1     เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2539 ได้ไปจดทะเบียนซื้อขายที่ดินที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี และรับเงินจำนวน 160,000 บาท ได้ลงชื่อในหนังสือสำคัญการรับเงินล้ว ตามเอกสารหมายเลข 1 และสำเนาหนังสือซื้อขายที่ดินโฉนดหมายเลข 939 อ้างอยู่ในเอกสารหมายเลข 5

1.2     รับเงินครั้งที่ 2 ในวันที่ 13 มีนาคม 2539 จำนวน 3,000,000 บาท (สามล้านบาทถ้วน) เป็นตั๋วแลกเงินของธนาคาร กรุงไทย จำกัด สาขารังสิต เลขที่ 3607957 ระบุชื่อ นายเมือง-นางสาลี่ เพ็ชร์ชูดี

1.3 รับเงินครั้งที่ 3 ในวันที่ 10 เมษายน 2539 จำนวน 500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) เป็นตั๋วแลกเงินของธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขา รังสิต เลขที่ 3607968 ระบุชื่อ นายเมือง-นางสาลี่ เพ็ชร์ชูดี

1.4 รับเงินครั้งที่ 4 ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2539 จำนวน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) เป็นตั๋วแลกเงินของ ธนาคาร กรุงไทย จำกัด สาขา รังสิต เลขที่ 3953001 ระบุชื่อ นายเมือง-นางสาลี่ เพ็ชร์ชูดี

รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 4,660,000 บาท (สี่ล้านหกแสนหกหมื่นบาทถ้วน) ที่ได้ให้กับ นายเมือง-นางสาลี่ เพ็ชร์ชูดี (รายละเอียดปรากฏ ตามสำเนาตั๋วแลกเงิน) ปรากฏ ตามเอกสารหมายเลข 1 ถึงหมายเลข 4

การซื้อที่ดินครั้งนี้ เป็นการซื้อขายระหว่าง นางสาลี่ เพ็ชร์ชูดี ผู้ขาย และมูลนิธิธรรมกาย ผู้ซื้อ โดยนางสาลี่และสามีทราบดีแต่ต้นแล้วว่า ผู้ซื้อคือมูลนิธิธรรมกาย เพราะได้รับเงินค่าขายที่ดินไปครบทุกงวดแล้ว โดยทั้งนายเมือง-นางสาลี่ เพ็ชร์ชูดี เป็นผู้เซ็นชื่อรับเงินไปจาก คณะกรรมการ จัดหาทุนสร้างอนุสรณ์สถาน หลวงพ่อวัดปากน้ำ โดยมีคุณทวีชัย ชัยสุวรรณ เป็นหัวหน้า

2.     ในการซื้อขาย นางสาลี่ได้อ่านข้อความก่อนแล้ว จึงลงลายมือชื่อไว้ ซึ่งนาง องุ่น ทองอ่อน น้องสาวเป็นผู้บอกให้อ่านก่อนอีกด้วย และอีกประการหนึ่ง นายเมือง สามี ก็เป็นผู้ให้คำยินยอมขายที่ดิน ย่อมทราบข้อความดีทั้งหมด ปรากฏตามสำเนาสัญญาซื้อขายที่ดิน เอกสาร หมายเลข 5

3.     เงินที่นางสาลี่และนายเมือง รับไปทั้งหมด จำนวน 4,710,000 บาท (สี่ล้านเจ็ดแสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน) รวมเนื้อที่จำนวน 2 ไร่ 3 งาน 94 ตารางวา คิดเป็นราคาประมาณไร่ละ 1,700,000 บาท (หนึ่งล้านเจ็ดแสนบาทถ้วน) ซึ่งราคาที่ขายให้มูลนิธิฯ สูงกว่าที่ทุกแปลงที่มูลนิธฯ เคยซื้อ ปรากฏตามตัวอย่างสำเนาสัญญาซื้อขายที่ดินของนางถนอม ศรีทองสุข ขายให้มูลนิธิฯ ในราคาไร่ละ 300,000 บาท นางเต็ม ใจโต ขายให้มูลนิธิฯ ในราคาไร่ละ 600,000 บาท สำเนาหนังสือสัญญาซื้อขาย เอกสารหมายเลข 6, 7 ตามลำดับ

4. ขณะที่มาร้องเรียนที่สภาทนายความฯ นี้ นางสาลี่จะอ้างว่า อ่านหนังสือไม่ออก คิดว่าเป็นการโอนให้วัดพระธรรมกายไม่ได้ ฟังไม่ขึ้น เพราะนางสาลี่และนายเมือง ถ้ายกให้วัดพระธรรมกายตามที่กล่าวอ้างแล้วทำไมเซ็นชื่อรับเงินไปทั้งหมด เป็นเงินถึง 4,660,000 บาท (สี่ล้าน หกแสนหกหมื่นบาทถ้วน)

5.     เหตุที่รับเงินเป็นครั้งๆ หลังจากโอน กรรมสิทธิ์ เพราะเป็นข้อตกลงกัน เนื่องจากต้องไปรวบรวมเงินจากคณะกรรมการ ศูนย์กัลยาณมิตร สุวรรณภูมิแก้ว โดยนายทวีชัย ชัยสุวรรณ นายมงคล ศิวะนันต์วงษ์ เป็น ผู้นำ

6.     การลงราคาในสัญญาซื้อขาย ไม่ครบ ตามที่ตกลงซื้อขายกันจริง เพราะเป็นความประสงค์ของผู้ขาย นางสาลี่ เพ็ชร์ชูดีเอง

7.     เนื่องจากนางสาลี่ เพ็ชร์ชูดี กับพวก ยังไม่ยอมรื้อถอนบ้านเรือนออกจากที่ดินที่ซื้อ ขายกันตามข้อตกลง ผัดผ่อนเรื่อยมาตลอด ประกอบ กับเห็นว่า ขณะนี้วัดพระธรรมกาย ประสบปัญหาถูกโจมตีจากสื่อต่างๆ เรื่องที่ดิน ที่มีผู้ถวายให้เป็นส่วนตัวแก่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ เจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย และทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ขอให้รีบรื้อถอนขนย้ายครอบครัวและบริวาร ออกไปจากที่ดิน จึงนำเรื่องเข้าร้องเรียนกับ สภาทนาย ความฯ เป็น การคาดหวังว่า อาจได้ที่ดินกลับคืนมาและได้เงินค่าที่ดินไปฟรีๆ

จากเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ขอท่านเลขาธิการสภาทนายความฯ ได้โปรดพิจารณาตามพยานเอกสารและบุคคลที่กล่าวอ้างไว้ ซึ่งสามารถตรวจสอบและให้ข้อความจริงได้ หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อความกระจ่างชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถติดต่อได้ที่ นายวิระศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิธรรมกาย 5240257-63 ได้ตลอดเวลา.