ปีที่ 3 ฉบับที่ 924 ประจำวันจันทร์ที่ 24 เดือนมกราคม พ.ศ. 2543 |
วิบากกรรมนำผลร้ายมาสู่เขาเร็วปานจรวด
เอวํ
ก็มีด้วยประการฉะนี้
เป็นประโยคสุดท้ายที่พระสงฆ์ผู้แสดงธรรม
ติงให้ผู้ฟังเทศน์รับรู้ไว้ว่า ที่ฟังเทศน์มาตั้งแต่นั้น
อาตมาจะขอจบไว้แต่เพียงเท่านี้ และจะลงจากธรรมาสน์ แล้วนะจ๊ะ คุณโยม
คำว่า
เอวํ นี้ มีเรื่องเล่าไว้มากมาย แม้แต่สุนทรภู่ท่านก็มีเอวํ..
แต่ เอวํ
ที่ลือลั่นในกระบวนการเทศน์ ก็เป็น เอวํ ของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต
พรฺหมรํสี) คราวถวายพระธรรมเทศนา เฉพาะพระพักตร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4
เมื่อเจ้าประคุณสมเด็จ นั่งสง่างามบนธรรมาสน์แล้ว
เจ้าพนักงานอาราธนาศีล ท่านก็ให้ศีล จากนั้น เจ้าพนักงานอาราธนาเทศน์บท พรฺหมา จ
โลกา จบลงเจ้าประคุณสมเด็จฯ ก็เอื้อมไปหยิบหนังสือผูก ก็ใบลานนั่นแหละขึ้นมา
คีบประนมไว้ระดับอก ทำเหมือนอย่างกะพระเวลาจะแสดงธรรมทั่วไป ท่านขึ้นต้น นะโม 3
ครั้ง จบลง แทนที่จะต่อด้วย หัวข้อธรรม เช่น อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ เป็นต้น
ท่านก็ไม่ว่า แต่ท่านไปเอาบทสุดท้ายของธรรมเนียมการเทศน์ มาว่าต่อจากนะโม
โดยขึ้นต้นว่า
ธรรมะอะไรๆ สมเด็จพระบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า
ก็ทรงรู้แจ้งประจักษ์เป็นอย่างดีอยู่แล้ว เอวํ
ก็มีด้วยประการฉะนี้
ข้าราชบริพารมิทันจะตั้งตัว
เจ้าพนักงานยังไม่คิดจะถวายกัณฑ์เทศน์ เสียด้วยซ้ำ
เจ้าประคุณสมเด็จก็ทำท่าจะลงจากธรรมาสน์เสียตอนนั้น เล่าเอาบรรยากาศ ตึงเครียด
ขึ้นไปบัดดล
นักปราชญ์ย่อมรู้ซึ้งถึงความเป็นปราชญ์ด้วยกัน
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ทรงตบพระหัตถ์ฉาดใหญ่ ทรงกั้นพระอารมณ์ขันไว้ไม่ได้
พร้อมกับตรัสด้วยพระสุรเสียงดังลั่นว่า
"เอาอีกแล้ว
ขรัวโตเอาอีกแล้ว"
พระองค์ไม่ทรงกริ้วเลยแม้แต่น้อย
สีพระหัตถ์ผ่องใสแฝงไว้ด้วยพระปรีดาปราโมทย์
ในปฏิปทาของสมเด็จพระพุฒาจารย์ในวันนั้น
ที่นำเรื่อง เอวํ มากล่าวไว้วันนี้
ด้วยเหตุเล็กๆ น้อยๆ คือมีโทรเข้ามาถามว่า โซตัส หายไปไหน จบไปแล้วแบบเอวํ
หรืออไง
ขอเรียนว่า คุณโซตัสยังอยู่ครับ อยู่ตรงนี้แหละ ตอนนี้ติดงานสัมมนา
ที่ประจวบ อีกไม่กี่วัน คุณโซตัส ก็จะมาประจำที่เก่าของเขา
นี่แหละ
อีกข้อหนึ่ง ที่จะร่ายยาวต่อไปนี้
เกี่ยวพันกับการสิ้นสุดของบุคคลผู้ก่อกรรมทำเข็ญไว้หยาบข้า
สารเลวกับผู้ทรงศีลทรงธรรม
เมื่อเอวํมาถึงเวลาไหน
สัญญาแห่งการยุติบทบาทก็จบลง เมื่อนั้น
ผมขอสารภาพไว้ตรงนี้ว่า
ไม่เห็นกับตา เพียงแต่ข่าวพอเชื่อถือได้
แว่วเข้าหูมาว่า
อมุษย์ตนหนึ่งถือร่างเป็นคน เกิดเสี้ยนสุราจัด
จึงอาสาเป็นหัวหอก ออกหน้ากระบวนการ รับจ้างด่าพระสงฆ์ เท่านั้นไม่พอ
แสดงกิริยาหยาบหยาม เอาเท้าไปวางไว้เหนือหัว หุ่นจำลอง
ซึ่งดูแล้วเดาได้ว่าเป็นใคร
คนไทยลืมง่ายอย่างที่รู้ๆ กัน อมนุษย์ตนนั้น
ไม่ได้อยู่ในความทรงจำของคนวันนี้แล้ว
แต่เขากลับไปสร้างปัญหาให้กับหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ให้ช่วยรักษาพยาบาล
โรคเบาหวาน ที่กำเริบเสิบสาน ยากที่จะรักษา
หมอพยายามช่วย
ให้ยาเต็มที่ตามความสามารถที่หมอมี อาการไม่ทุเลาเบาบาง มีแต่กำเริบเพิ่มทับทวี
หนทางเดียวที่มีคือ ต้องแก้การเปื่อยเน่า
ที่เท้าที่ขาด้วยการตัดขาทิ้ง
อนิจจา วต สังขารา ขอให้เขาหายวันหายคือ
กลับตัวกลับใจ และหนักแน่นในคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ด้วยเถิด
อย่าได้ตกไปเป็นเครื่องมือมารอีกต่อไปเลย สาธุ
เรื่องที่สอง
เรื่องของโรคสากล โรคนี้อดีตประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแรน รับไปเต็มๆ
หม่ำข้าวไปแล้วหยกๆ บอกแนนซี่เมียรักว่า
ฉันยังไม่ได้เจี๊ยะอะไรลงท้องเลยจ้า
โรคนี้เป็นโรคของคนแก่
พบเห็นได้ทั่วไปในเมืองไทยของเรา ขนาดขยักแว่นตาไว้ตรงคิ้วห่างลูกตาหน่อยเดียว
เที่ยวไหว้วานลูกหลานให้ช่วยหาแว่นตากันชุลมุนมาแล้ว จนลูกหลาน ฮือฮากันสนุกมาแล้ว
ถือเป็นเรื่องธรรมดา
แต่สำหรับคนแก่อายุแค่ 60 ปี เกินไปนิดๆ หน่อยๆ
ถูกโรคอัลไซเมอร์รับประทานนี่ นับว่า เหลือเชื่อเอามากๆ เพราะกี่แกออกจะป้ำๆ เป๋อๆ
เสียด้วยซ้ำในตอนนี้ ฟังว่า โรคนี้ กินสมองแกค่อนข้างหนัก ขนาดใส่รองเท้าสลับข้าง
(รองเท้า ไม่ใช่ถุงเท้า) นี่ถือว่า
หนักหนาสาหัสเอาการทีเดียว
ลูกเมียก็เป็นห่วง เพื่อนฝูงก็อดเป็นห่วงไม่ได้
ขอร้องให้เพลาๆ เครื่องดองของเมาลงบ้าง แต่แกก็อ้างว่า
ไม่ได้กี๊บมือมันสั่น
รายนี้ ก็ขอชักบังสุกุลเป็น ให้เป็นกรณีพิเศษ
ด้วยบทว่า อจิรัง วตยัง กาโย เกิดมาเป็นผู้เป็นคนกับเขาได้ไม่นาน
ก็จะมาพานเป็นเถ้าถ่านไปเสียแล้ว
ขอความเป็นสัมมาทิฏฐิ
จงกลับมาสิงสถิตอยู่กับเนื้อกับตัวเขา หายโรคหายภัยไวๆ ด้วยเถิด
สาธุ
รายสุดท้ายนี่ ท่านเก่งมาก เก่งเหลือหลาย ร้ายกาจหาตัวจับยาก ฟังว่า
ไตรลักษณ์มาเยี่ยมเยียนท่านมิได้ขาด คือท่านเจ็บ ออดๆ แอดๆ อยู่เรื่อยมา
เที่ยวได้ไปพบหมอเช้าเย็น โรคร้ายไข้เจ็บแค่ทุเลา
พอออกมาจิ้มที่แป้นคอมพิวเตอร์ได้เท่านั้นเอง
ล่าสุดหมอแนะให้ผ่าตัดใหญ่
เพราะคอแข็งเกิดอาการเจ็บปวดรวดร้าว แสนสาหัส ผลที่สุด
ก็ไม่มีการการผ่าตัดแต่อย่างใด เพียงแต่ให้ยาระงับอาการเจ็บปวดไปวันๆ
เท่านั้น
ผลจากการเจ็บปวด อาการจากพยาธิ ว่ากันว่า
คนนั่งอยู่ห่างตัวท่านตั้งวา ก็ทนกลิ่นเหม็นเน่าที่โฉ่ออกมาจากลำคอของท่านไม่ได้
ต้องถอยออกไปนั่งห่างๆ
ประการสุดท้าย อยากจะเรียนว่า
เป็นเพียงบางตัวอย่างเท่านั้น ที่หยิบมาประกอบให้เห็นกันจะจะว่า
เมื่อก่อกรรมทำบาปลงไป ผลกรรมหรือที่เรียกว่า วิบากกรรมนั้น จะต้อง
สนองตอบอย่างแน่นอน ยิ่งประพฤติผิดต่อผู้ทรงศีลทรงธรรมแล้ว วิบากกรรมจะให้ผลเร็วนัก
จนมีใครเขาบอกว่ากรรมติดจรวด ก็เข้าทีดี
เราชาวพุทธ เชื่อในพระรัตนตรัย
เชื่อในพระธรรมคำสอน และมีครูบาอาจารย์ คอยให้การอบรมสอนสั่ง
สังกัดอยู่ในสำนักมาตรฐานโลก เมื่อสดับเรื่องเช่นนี้เข้า อย่าได้ตอกย้ำ ซ้ำเติมเขา
รักษาระดับจิต ไม่ให้ตกภูมิธรรม แผ่เมตตาให้เขาเหล่านั้น
จงพ้นทุกข์บ่วงกรรมโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ คราวนี้ของจริงเลยนะ เอวํ
ก็มีด้วยประการฉะนี้
ปู่โอม