| อาการ | 	
	ยาที่ใช้ | 	
	ข้อควรระวัง | 
	เป็นไข้หรือปวด 
	ไข้ในเด็กดูได้จากการวัดปรอท 
	ถ้าวัดปรอททางปาก
	เราถืออุณหภูมิสูงกว่า 
	37.8 องศาเซลเซียส 	เป็นไข้ 
	ถ้าวัดทางรักแร้ได้เท่าไหร่ให้บวกอีก 
	0.5 องศาเซลเซียส เช่น 
	วัดทางรักแร้ได้ 
	37.3 องศาเซลเซียส 
	ก็เทียบเท่ากับวัดทางปาก 37.8 
	องศาเซลเซียส 
	
 
 
 
 
 
 
 
 
 
  | 
	 - พาราเซตามอล 	
	- แอสไพริน 		
	- ไอบูโปรเฟน (เช่น ยาชื่อ 
	จูนิเฟน บรูซิล เทเฟน ฯลฯ) 
	
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
  | 
	 - ขนาดที่ใช้ตามข้างกล่อง 
	ไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกิน 5 วัน 
	เพราะอาจมีพิษต่อตับ  
	อย่างที่บอกแล้ว  
	- ห้ามใช้ในกรณีที่อาจเป็นสุกใส 
	ไข้หวัดใหญ่ หรือไข้เลือดออก 
	เพราะอาจเกิดโรค Reye's syndrome 
	ทำให้สมองบวม 
	และตับวายเสียชีวิตได้ 
	แอสไพรินทำให้เกล็ดเลือดทำงานไม่ดี 
	เลือดออกมากเวลาเป็นไข้เลือดออก
	และระคายเคืองกระเพาะ
	ทำให้เลือดออก
	ในกระเพาะอาหารได้  
	- ยาลดไข้นี้ให้ใช้ในเด็กอายุมากกว่า 
	6 เดือนขึ้นไป อย่าให้ตอนท้องว่าง 
	เพราะระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ 
	ไม่ควรใช้ในกรณีที่สงสัยว่า
	จะเป็นไข้เลือดออก 
	เรามักใช้เฉพาะกรณีที่มีไข้สูงเท่านั้น |  
	| คลื่นไส้ อาเจียน 
	ควรเป็นอาการอาเจียนเล็กน้อย  
	อาจมีอาการท้องเสียร่วมด้วย 
	แต่ต้องไม่มีอาการอาการขาดน้ำ 
	ได้แก่ ปากแห้ง กระหม่อมบุ๋ม ซึม 
	หายใจเร็ว ถ้ามีอาการเหล่านี้
	หรืออาเจียนนานกว่า 1 วัน
	ควรปรึกษาแพทย์  | 
	
	 - ไดเมนไฮดริเนต 
	(ดรามามีน,  กราวอล,  
	ไดมีโน ฯลฯ)  
	- คอมเปอริโดน 
	(โมติเลี่ยม, โมติด้อม ฯลฯ) 
 
 
 
  | 	
	 - ยาตัวนี้ทำให้ง่วงได้  
	อาจมีอาการปากแห้ง 
	ให้ลูกจิบน้ำบ่อยๆ 
	ยานี้อาจใช้เป็นยาแก้เมารถ
	เมาเรือได้  
	- ยาตัวนี้ไม่ทำให้ง่วงซึม 
	ใช้ได้แม่ในเด็กเล็ก 
	แต่ถ้าใช้กับเด็กอายุน้อยกว่า 1  ขวบ 
	อาจมีผลต่อระบบประสาทบ้าง 
	ควรให้น้ำเกลือแร่ร่วมด้วย 
	เพื่อชดเชยเกลือและน้ำที่เสียไป | 
 
	 ท้องเสีย 
	ควรเป็นท้องเสียที่ถ่ายไม่เป็นมูกเลือด 
	ถ่ายเป็นน้ำมาก 
	และไม่มีอาการขาดน้ำ
	อย่างที่กล่าวแล้ว 
	ส่วนใหญ่อาการท้องเสียในเด็ก
	มักหายไปได้เอง 
	โดยไม่ต้องใช้ยาในเด็กเล็กๆ 
	จะไม่ใช้ยาหยุดถ่าย 
	เพราะอาจจะมีอันตราย
	ถึงขั้นเสียชีวิตได้  | 
	
	- ดื่มน้ำเกลือแร่โอ.อาร์.เอส 
	
 
 
 
 
 
  | 
	- บางกรณี 
	การใช้นมผงดัดแปลงย่อยง่าย
	สำหรับเด็กท้องเสียชั่วคราว
	ในช่วงที่ท้องเสีย 
	อาจช่วยให้อาการท้องเสียหายได้
	โดยไม่ต้องพบแพทย์ ค่ะ
 
 
 
  | 
	 ท้องอืด 
	ต้องเป็นอาการท้องอืด
	ที่ไม่มีอาการอาเจียนร่วมด้วย 
	เพราะอาจะเป็นอาการลำไส้อุดตัน 
	ซึ่งต้องปรึกษาแพทย์ค่ะ  | 
	 
	- ซิมเมทธิโคน 
	(โอวอล, ไมลอม, 
	แอร์เอ๊กซ์ ฯลฯ) 
	- ยาทิงเจอร์คาร์มิเนตีฟ ยาธาตุ  | 
	- เป็นยาช่วยทำให้
	ลมในทางเดินอาหาร
	กระจายเป็นเม็ดขนาดเล็กๆ 
	ช่วยลดอาการท้องอืด
  |  
	ไอแห้งๆ  ไม่มีเสมหะ
 
 
 
 
  |  
	
	- เด๊กซ์โตรเมทธอร์แฟน 
	(โรมิลาร์)
 
   
  | 
	 - ห้ามใช้ในคนไข้หอบหืด
	หรือปอดบวม 
	ใช้เพื่อลดการระคายเคืองในคอ 
	ห้ามใช้ถ้ามีเสมหะ 
	เพราะอาจทำให้เสมหะมาก
	จนเป็นปอดบวมได้ 
	และไม่ใช้นานเกิน 2-3 วัน 
	เป็นยาที่ควรใช้กับเด็กเล็ก | 
 
	ไอมีเสมหะ 
 
 
 
 
 
 
  | 
	 
	- ไกวเฟนิซิน (โรบิสทุสซิน)  
	- แอมบร็อกซอล (มิวโคแซลแวน 
	มิวโคลิก)  
	- บรอมเฮกซีน (ไบโววอล ไดซอล)  
	- คาร์โบซิสเตอิน (ไรนาไทออล 
	เฟลมเม็กซ์)  | 
	- ควรให้ลูกดื่มน้ำมากๆ 
	เพราะน้ำจะช่วยละลายเสมหะ
	ให้ขับออกง่ายขึ้น 
	แต่ถ้าไอมากกว่า 3-4 วัน
	ควรปรึกษาแพทย์ 
 
 
 
  | 
	น้ำมูกไหล  
	ควรเป็นน้ำมูกใสๆ ไม่มีสีเขียว
	
 
 
 
 
 
 
 
 
  |  
	 
	- น้ำเกลือหยอดจมูก 
	ช่วยละลายน้ำมูกที่เหนียวข้น 
	และช่วยทำให้เยื่อบุจมูกชุ่มชื้น 
	หรืออาจช่วยดูดน้ำมูกลูกด้วยลูกยางแดง 
	สำหรับลูกเล็กที่ไม่ต้องการ
	ให้ใช้ยาลดน้ำมูก  
	- ยาลดน้ำมูก 
	ร่วมกับยาช่วยทำให้จมูกโล่ง 
	(ไดมีแทป, แอคติเฟด, 
	ไรโนพร้อนท์)  | 
	- ไม่ควรใช้เป็นเวลานาน 
	และขณะที่ไอ มีเสมหะมาก 
	เพราะทำให้เสมหะเหนียว 
	โดยเฉพาะจะไม่ใช้กับเด็กที่เป็นหอบหืด 
	จะทำให้หอบได้ง่ายขึ้น
 
 
 
 
 
 
  |