เรียบเรียงโดย นลินี มกรเสน
พฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นยุคนี้ ออกนอกกรอบดั้งเดิมมากขึ้นทุกที เช่นการเลือกคู่ครอง จะถือเอา ความรัก เป็นสำคัญ ไม่ชอบการคลุมถุงชน การคบเพื่อนต่างเพศ เป็นไปอย่างอิสระเสรี เพราะเห็นว่า ไม่ใช่เรื่อง น่าละอาย หญิงสาวให้ความสำคัญในการครองตัว เป็นหญิงพรหมจรรย์ถึงวันแต่งงานน้อยลง ประกอบกับ ความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องในเรืองเพศ ทำให้วัยรุ่นมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม เช่น การมี เพศสัมพันธ์ ก่อนวัยอันควร การสำส่อนทางเพศ การเบี่ยงเบนทางเพศ เช่นการรักร่วมเพศ เป็นต้น และเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ และปัญหาการทำแท้ง ฯลฯ
ข้อมูลจาก พ.ญ.จันทร์เพ็ญ ชูประภาวงศ์ มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ พบว่า วัยรุ่นชาย มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก อายุ 15 ปี วัยรุ่นหญิงในเมือง ร้อยละ 50 มีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน และร้อยละ 66 มีเพศสัมพันธ์ กับเพื่อนชาย โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย จึงมีปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ นำไปสู่การทำแท้ง ที่ผิดกฎหมาย นายบอล โกปาล ผู้แทนองค์การกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า ประเทศไทย ทีอัตราการตั้งครรภ์ และการทำแท้ง ในวัยรุ่นสูง โดยมีจำนวนการทำแท้ง ปีละ ประมาณ 300 000 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วนเท่ากับ 1 ในทุก 3 รายของการเกิดมีชีพ ( หนังสือพิมพ์บางกอกโพส 11 ก.ค. 2541 )
พฤติกรรมทางเพศของคนเราจริงๆแล้ว ไม่ได้หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น และไม่ได้เริ่มต้น จากวัยหนุ่มสาว แต่เริ่มต้นมาตั้งแต่อยู่ในวัยมารก พัฒนาการทางเพศในวัยนี้ เป็นแบบไร้เดียงสา นักจิตวิทยา อธิบายว่า เป็นปฏิกริยาทางร่างกาย ซึ่งควบคุมด้วยระบบประสาทไขสันหลัง มากกว่าที่จะเป็น การทำงาน ของ ระบบประสาทที่ควบคุมด้วยสมอง เด็กทารกจึงไม่มีความรู้สึก ที่จะระบาย เหมือนการบำบัดความใคร่ ที่มีอารมณ์ เข้ามา เกี่ยวข้องแบบผู้ใหญ่ การที่เด็กลูบคลำอวัยวะเพศ หรืออั้นอุจจาระ จึงเป็นความสุข ความพอใจ ของเด็กในวัยนี้ เพราะการอั้นแล้วเจ็บปวด แต่เมื่อได้ถ่าย เด็กจะรู้สึกสบาย พ่อแม่ที่ไม่เข้าใจ พฤติกรรมดังกล่าว เป็นสิ่งที่ผิด หรือไม่ดี ก็จะลงโทษ เพื่อยับยั้งพฤติกรรมนั้นๆ ทำให้เด็กฝังใจ และเก็บกดค วามต้องการนั้นไว้ เพื่อรอการแสดงออก เมื่อเขามีโอกาส นำไปสู่การแสดงพฤติกรรมย้อนหลัง เมื่อโตเป็น ผู้ใหญ่ ทำให้เขามีพฤติกรรมที่ไม่สมวัย กลายเป็นคนที่มีความผิดปกติทางเพศ ไม่ได้รับการยอมรับทางสังคม ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด ปัญหาความผิดปกติทางเพศ พ่อแม่จึงควรทำความเข้าใจ เกี่ยวกับ พัฒนาการ ทางเพศในแต่ละวัย เพื่อจะได้เข้าใจถึง พฤติกรรมทางเพศ ของเด็กอย่างถูกต้อง
สำหรับพฤติกรรมทางเพศ ในเรื่องการร่วมเพศนั้น ในทัศนะของนักจิตวิทยา ไม่ถือว่าเป็นการเรียนรู้ แต่เป็นสัญชาติญาณ อย่างหนึ่งของมนุษย์ ที่พร้อมที่จะแสดงออก เมื่อร่างกาย ถึงวุฒิภาวะ เด็กวัยรุ่น ซึ่งมี การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย อารมณ์และสังคม เป็นวัยที่เริ่มสนใจเพศตรงข้าม และค้นหาบุคคลที่ตนพอใจ ถ้าได้รับการกระตุ้นขากสิ่งแวดล้อมที่ยั่วยุ ก็จะมีแนวโน้มในการสนองตอบ ต่ออารมณ์ทางเพศได้ง่าย ถ้าทั้งสองฝ่ายต่างมีวุฒิภาวะไม่พร้อม ในการรับผิดชอบร่วมกัน ย่อมก่อให้เกิดปัญหาตามมา ไม่ว่าจะเป็น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์ที่ ไม่พึงประสงค์ นำไปสู่การทำแท้งของฝ่ายหญิง ซึ่งหมายถึง การสูญเสียโอกาสทางการศึกษา เสียอนาคต และในบางกรณีอาจถึงขั้นเสียชีวิต
ดังนั้น สังคมจึงควรสร้างค่านิยม ในการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี อันดีงามในการเลือกคู่ครอง การแต่งงาน การอยู่กินกันอย่างถูกต้อง เป็นกิจจะลักษณะ และสื่อมวลชนก็ควรมีส่วน ในการช่วย จรรโลง จารีต ประเพณี อันดีงามนี้ไว้ ควรนำเสนอตัวอย่าง ในการครองตัวที่ดีของศิลปิน หรือการมีพฤติกรรม ทางเพศ ที่เหมาะสม ของดาราวัยรุ่น ขณะเดียวกันก็ไม่ควรนำเสนอ เพื่อยั่วยุพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่น ให้ต้องคล้อยตาม ในสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม
นอกจากนี้ พ่อแม่ควรมีความรู้ เกี่ยวกับพัฒนาการของวัยรุ่น ทั้งพัฒนาการทางเพศตามวัยที่ถูกต้อง และควรรู้ ให้เท่าทัน กับสถานการณ์ และสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย เพื่อจะได้ประยุกต์ ใช้กับลูกหลานของตน ควรปลูกฝัง ทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องเพศในทางที่ดีต่อลูก ไม่ว่าจะเป็นลูกชายหรือลูกสาว ถ้าเป็นลูกชาย ก็ควรจะอบรม สั่งสอนไม่ให้ล่วงเกินผู้หญิง ให้เกียรติกันและกัน ไม่พาผู้หญิงไปในสถานที่ ในที่ไม่สมควร ในที่ลับตาคน ถ้าเป็นผู้หญิง ก็ควรจะอบรมสั่งสอน ให้รู้จักวางตัว ต่อเพศตรงข้าม เยี่ยงสุภาพสตรี ไม่ปล่อยตัว ปล่อยใจ ให้ ชายล่วงเกิน แม้เขาจะรักจริง ไม่ตามไปในที่ที่ไม่สมควร หรือสถานที่ที่ล่อแหลม ที่จะก่อให้เกิด ความเสียหายได้
พ่อแม่ยุคใหม่ ควรปฏิบัติต่อลูกโดยเดินทางสายกลาง ไม่เข้มงวดกวดขัน หรือปล่อยหละละเลยมากเกินไป ควรมีส่วนรู้เห็น ความเคลื่อนไกวของลูกว่า ไปที่ไหนกับใคร เมื่อไร ให้เสรีภาพอย่างมีขอบเขต เป็นที่ปรึกษา ชี้แนะให้เด็กมีความอบอุ่นใจ และมีความเชื่อมั่นในตนเอง ต่อการแสดงพฤติกรรมต่างๆ อย่างเหมาะสม และที่สำคัญ พ่อแม่จะต้องประพฤติ เป็นแบบอย่างที่ดี ทำได้ดังนี้ เด็กก็จะเจริญเติบโตเป็นลูกที่ดี ที่สร้างความชื่นอกชื่นใจให้แก่พ่อแม่ เป็นคนดีที่สร้างสรรค์สังคม ให้มีคุณภาพในภายภาคหน้า ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
main | ![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |