นพ.เกษม ตันติผลาชีวะ
หมู่นี้มีข่าวเด็กประกอบอาชญากรรมหลายข่าว เช่น ขโมยเงินพ่อแม่ และบางทีทำร้าย พ่อแม่ด้วย หรือบางรายก็ขู่กรรโชกเด็กที่อ่อนแอกว่า ให้ไปหาเงินมาให้ มิฉะนั้นจะฆ่า ให้ตาย เด็กที่ถูกขู่จึงหวาดกลัว และไปขโมยเงินของพี่มาให้นักขู่กรรโชกรุ่นเยาว์นั้น
อาชญากรรมที่เด็กก่อขึ้น ดูจะทวีความรุนแรงและมีรูปแบบที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ตามยุคสมัย ที่เปลี่ยนไป
หลายคนเอาพฤติกรรมของเด็กที่ก่ออาชญากรรมไปโยงกับการเล่นตู้เกม หรือเครื่องเล่น ไฟฟ้าที่มีอยู่เกลื่อนกลาดในบ้านเมืองเราขณะนี้ โดยที่สื่อมวลชนมักเสนอข่าวว่า เด็กเหล่านี้ ติดตู้เกมกันทั้งนั้นและสรุปว่าสาเหตุที่เด็กก่ออาชญากรรม เพราะติดตู้เกม และจะหาเงิน ไปเพื่อเล่นตู้เกม
ตามหลักการแล้ว ถ้าเราพบว่าเด็กที่ก่ออาชญากรรม มีพฤติกรรมชอบเล่นตู้เกม โดยที่มีความแตกต่างจากเด็กที่ไม่ก่ออาชญากรรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เราเพียงสามารถสรุปได้ว่าการก่ออาชญากรรมของเด็ก มีความสัมพันธ์กับการเล่นตู้เกม แต่เราไม่สามรถบอกได้ว่าอะไรเป็นเหตุอะไรเป็นผล ต้องมีการศึกษากันต่อไป จึงจะบอกได้ และบางทีอาจไม่ได้เป็นเหตุเป็นผลกันโดยตรง แต่ทั้งคู่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยร่วมอย่างอื่น ก็เป็นได้
เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับตู้เกมพอสมควร เช่นเดียวกับการเล่นเกมสนุกเกอร์ ซึ่งหากเล่นเป็นกีฬา ก็เป็นการพักผ่อนและฝึกทักษะได้ดี การที่ใช้การเล่นเป็นการพนัน นั่นแหละเป็นเหตุนำไปสู่ความชั่วร้ายทั้งปวง และการพนันเป็นอันตรายร้ายแรง ต่อประเทศชาติ โดยเฉพาะในชาติที่คนไม่ค่อยมีระเบียบวินัย เมื่อการพนันระบาดเข้าสู่ การกีฬาทุกอย่าง แม้แต่ฟุตบอล และยังเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง การเลือกตั้งด้วย ก็ยิ่งเป็นมหันตภัยที่ต้องรีบแก้ไข
สาเหตุที่เด็กก่ออาชญากรรมนั้น มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องอยู่หลายอย่างด้วยกัน มีผู้วิจัยหลายรายพบว่า ความเป็นอาชญากร (Criminality) นั้นมีการถ่ายทอดทาง พันธุกรรมได้ แต่นั่นก็เป็นเพียง ปัจจัยหนึ่งที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นส่วนประกอบอย่างหนึ่ง เท่านั้น มิได้เป็นตัวตัดสินว่า ลูกโจรจะต้องกลายเป็นโจรเสมอไป เพราะลูกโจรถ้าเลี้ยงดูให้ดีก็เป็นคนดีได้ ปัจจัยนี้จึงยังไม่มีน้ำหนักมากนัก
ปัจจัยเรื่องการเลี้ยงดู และสิ่งแวดล้อมของเด็ก เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของเด็ก มากกว่าอย่างอื่น เด็กที่เกิดมาทุกคนถือได้ว่าบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีใครดีหรือชั่วมาแต่กำเนิด เด็กไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ยังไม่มีความคิดอ่าน ที่จะทำสิ่งใดและไม่รู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด
การเลี้ยงดูหล่อหลอมโดยพ่อแม่หรือบุคคลใกล้ชิด ทำให้เด็กพัฒนาไปในทิศทางที่ ควรถูกกำหนดโดยผู้ที่เลี้ยงดูเด็กนั้น ใครที่บอกว่าเด็กไม่ยอมเชื่อฟัง หรือมักต่อต้าน และทำตรงข้ามกับที่สอนเสมอ แสดงว่าเลี้ยงเด็กไม่เป็น หรือขาดคุณสมบัติของการเป็น พ่อแม่ที่ดี ใครที่เลี้ยงลูกจนกลายเป็น "ลูกบังเกิดเกล้า" ก็ไม่อาจไปโทษใครได้นอกจาก ตนเอง ที่ทำตัวเป็น "พ่อแม่ในปกครอง" และไม่ควรพยายามไปตำหนิลูกให้คนอื่นฟัง เพราะจะเป็นการประจานตัวเองมากกว่า เด็กทุกคนมีความต้องการคล้ายคลึงกัน และมีความพร้อมที่จะเรียนรู้ได้ตามโอกาสและวัยอันควร
ในเบื้องต้นเด็กมีความต้องการอาหารและปัจจัยต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต ต่อจากนั้นจึงต้องการความมั่นคงปลอดภัย และต้องการความรัก, ความอบอุ่น, ความเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวและสังคม
การที่จะเกิดความมั่นคงและความปลอดภัยได้เด็กก็พร้อมที่จะยอมรับกฎเกณฑ์และ ระเบียบวินัย ซึ่งเด็กต้องการให้มีมากกว่าจะปล่อยให้เขาเคว้งคว้าง เหมือนว่าว ที่ไม่มีสายป่าน
ความผิดพลาดที่พบบ่อยในการเลี้ยงดูเด็กก็คือ การไม่ได้ให้ระเบียบวินัยแก่เด็กตามที่ควร จะให้ บางคนไม่กล้าสอนเด็กหรือไม่กล้าห้ามเด็กไม่ว่าเด็กจะทำอะไรก็ตาม เพราะเกรงว่าเด็กจะไม่รัก หรือต้องการให้เด็กรักตนมากกว่าคนอื่น เจตคติแบบนี้พบได้บ่อยในปู่ย่าตายายที่เลี้ยงหลาน หรือพบในคนเลี้ยงเด็กที่กลัวเด็ก เพราะไม่แน่ใจว่าพ่อแม่ของเด็กจะยินดีให้ตนสั่งสอนเด็ก ได้ขนาดใด
การขาดระเบียบวินัยเพราะเหตุดังกล่าวทำให้เด็กตามใจตัวเองโดยไม่มีขอบเขต และไม่สามารถแยกแยะดีชั่วถูกผิดได้ ผลที่สุดก็กลายเป็นเด็กที่เดินทางผิด มีพฤติกรรมเกเร เช่น หนีโรงเรียน, เล่นการพนัน, เที่ยวกลางคืน, คบเพื่อนไม่ดี, ใช้ยาเสพติด, มั่วสุ่มทางเพศ, แข่งรถบนถนนสาธารณะ ฯลฯ
ในสังคมของคนร่ำรวย ที่เป็นประเภท "เลี้ยงลูกด้วยเงิน" ก็พบพฤติกรรมของเด็กแบบนี้ ได้บ่อย เพราะการเลี้ยงลูกโดยไม่มีเวลาให้ลูก ไม่มีความรัก ความผูกพันให้ลูก ก็ชดเชยด้วยการให้เงิน และปล่อยให้ปกครองตัวเอง ผลจึงเป็นอย่างที่มีข่าวอยู่เสมอ การเกิดเป็นลูกคนรวยใช่ว่าจะเป็นโชคดีเสมอไป เด็กแบบนี้มีทุกข์มากเหมือนกัน
ในครอบครัวอีกแบบหนึ่ง การเลี้ยงเด็กเป็นลักษณะของความขาดแคลน ขาดทั้งความรักความอบอุ่น และขาดปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต เด็กถูกเลี้ยงดูตามยถากรรม ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ไม่มีความห่วงใยเอื้ออาทร การอบรมสั่งสอนไม่ได้เป็นในลักษณะที่ควรเป็น แต่กลับกลายเป็นการทุบตีทารุณโหดร้าย
การเลี้ยงดูเด็กแบบนี้ พบได้บ่อยในครอบครัวที่แตกแยก พ่อแม่มีสุขภาพจิตไม่ดี ติดสุรา ยาเสพติด ติดการพนัน พ่อแม่ไม่ต้องการเด็กและใช้เด็กเป็นเครื่องระบายอารมณ์ เด็กในครอบครัวแบบนี้ เติบโตด้วยความรันทด ปนความโกรธแค้นทั้งต่อพ่อแม่ตนเอง และต่อสังคม การประพฤติตนเกเรก้าวร้าวอาจก่อความรุนแรงได้มากกว่ากลุ่มแรก เพราะมีความต้องการแก้แค้นแฝงอยู่ในจิตใจด้วย
การเลี้ยงดูเด็กในลักษณะที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นลักษณะปล่อยปละละเลย ไม่สร้างระเบียบวินัย หรือเลี้ยงด้วยความชิงชัง ทารุณโหดร้าย จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กเกเร และกลายเป็นอาชญากรได้ในที่สุด
การเล่นตู้เกม เป็นเพียงปัจจัยอย่างหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้องในหนทางสู่การประพฤติ นอกลู่นอกทางของเด็ก ตู้เกมเป็นสื่ออย่างหนึ่งที่มิได้มีความดีความชั่วในตัวของมันเอง เช่นเดียวกับฟุตบอลหรือกอล์ฟ ซึ่งจะดีหรือเลวก็สุดแต่ผู้ใช้
เด็กที่ติดตู้เกม ก็มีโอกาสทำผิดได้ หากภูมิหลังของเด็กเอื้ออำนวย ก็พร้อมจะทำความผิด เช่น ขโมยเงินพ่อแม่มาเล่น เหมือนกับคนโต ๆ ที่ขโมยเงินเมีย หรือขู่กรรโชกเมีย เอาเงินไปเล่นม้า
หากเด็กมีความสามารถสูงอีกหน่อย คงไม่ต้องขโมยเงินไปเล่นตู้เกม แต่โขมยตู้เกม ไปเล่นที่บ้านเสียเลย จะได้ช่วยเด็กคนอื่นทางอ้อมด้วย
อย่างไรก็ตาม หากสื่อใดถูกใช้ไปในทางไม่ดีมากกว่าทางที่ดี หรือเป็นแหล่งมั่วสุ่ม นำพาไปสู่อาชญากรรมประเภทอื่น ก็ควรพิจารณาให้เลิกเสียดีกว่า อย่าปล่อยให้คนกลุ่มหนึ่งสร้างความร่ำรวยบนความทุกข์ยากของคนส่วนอื่นในสังคมอยู่เลย
การแก้ปัญหาเด็กก่ออาชญากรรม จึงจำเป็นต้องเริ่มต้นที่ครอบครัว ด้วยการเลี้ยงดูเด็กให้ถูกต้อง ด้วยความรักความเข้าใจอย่างแท้จริง
ส่วนคนที่เที่ยวไปซื้อลูก (พรรค) มาเลี้ยงไว้ และยังเป็นประเภทมีปัญหาเกเร มาตั้งแต่ในอดีตแล้วด้วย เห็นทีจะเลี้ยงให้ดีได้ยาก แนวโน้มคงจะถูกเด็กเกเรพังบ้าน ดีไม่ดีถูกเด็กทำร้ายเอา เดี๋ยวอย่ามาโทษว่าไม่มีใครเตือนนะครับ
นพ.เกษม ตันติผลาชีวะ
main | ![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |