อ.สมศรี สุกุมลนันทน์
ท่านว่าไว้ดังข้างต้นมาแต่โบราณ ได้ยินจน "เซ็ง" แล้ว สงสัยว่าผูหญิงพูดเอง หรือผู้ชายพูดแทนผู้หญิง |
ถ้าเป็นคำพูดจากผู้หญิง ผู้หญิงสมัยปัจจุบันมีสิทธิถามใครก็ได้ว่า ที่พูดไว้นั้นเดี๋ยวนี้ยังคงเป็นจริงหรือหาไม่ ทุกข์ของผู้หญิงมีอยู่แค่นั้นหรือ
สมัยที่ภรรยาอยู่ภายใต้การปกครองของสามี สามีหาเลี้ยง สามีเป็นทรัพยากรอย่างเดียว ของภรรยา สามีไปเลี้ยงเมียน้อย เมียหลวงสูญเสียคนเลี้ยงดู ก็ต้องมีทุกข์หนัก เป็นธรรมดา
เมียน้อยมีหลายประเภท สามีเลี้ยงดูอย่างออกหน้าออกตา หรืออย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ เอาแต่ใจและกายของสามีไป หรือเอาแต่เงิน หรือเอาหมดทุกอย่าง ทุกอย่างหมดไปแล้ว เมียน้อยเฉดทิ้ง หรือครอบครองตัวสามีตลอดไป สุดแล้วแต่ความอ่อนแอทางฝ่ายสามี และความเข้มแข็งของเมียน้อย
สามีที่จะมีเมียน้อยได้ ต้องมีเงิน หรืออำนาจ หรือมีทั้งสองอย่าง เพราะทั้งสองอย่าง เป็นที่มาของกันและกัน |
รูปหล่อสำคัญเป็นรองเงินและอำนาจ แต่รูปหล่ออาจบันดาลให้ ผู้ชายเป็นสามีน้อยได้ สำหรับผู้หญิงมีเงินที่เป็นภรรยาของ สามีที่ไม่เอาไหน |
ในกรณีที่ภรรยาเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ต้องพึ่งเงินทองของสามี สามีก็ไม่ต้องรับภาระ เลี้ยงดูภรรยา แต่ก็อยู่ด้วยกันได้เป็นครอบครัว สามีมีเมียน้อย ภรรยาก็มีผัวน้อยได้ ไม่ว่ากัน
อย่าคิดว่าเรื่องอย่างนี้ไม่มี เป็นแต่ว่าผัวน้อยมีจำนวนน้อยกว่าเมียน้อย คนก็รู้น้อยกว่าด้วย เพราะผู้ชายไม่เก่งทางซุบซิบ
มีทางป้องกันไม่ให้ผัวมีเมียน้อยหรือไม่ ตอบว่า ไม่
เคยคิดกันว่า ถ้าผู้ชายหมกหมุ่นอยู่กับการทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องครอบครัว ไม่มีเวลาที่จะสอดส่ายไปหาเมียน้อย พอตั้งตัวได้แล้ว มีความสำเร็จในการงาน ลูกเมียสบายไปแล้ว จากผลของความสำเร็จนั้น สามีก็มีสิทธิจะหาของเพลินมาเล่น ได้แก่ตุ๊กตามีชีวิต ความคิดนี้เก่าไปแล้ว ส่วนใหญ่กลายเป็นเรื่อง โคแก่กินหญ้าอ่อน เพราะว่าผู้ชายจะประสบความสำเร็จในชีวิตก็แก่เกินไปสำหรับผู้หญิงที่มีศักดิ์ศรีเลี้ยงตัวได้
โคแก่กินหญ้าอ่อน กับสมภารกินไก่วัด ยังคงมีอยู่จนทุกวันนี้ ไม่มีทางป้องกันด้วยวิธีการอื่น จะหวนกลับมาใช้คุณสมบัติสตรีประเภทเสน่ห์ปลายจวัก ผัวรักจนตาย ได้หรือไม่
ตอบว่า ผู้ชายสมัยปัจจุบันมีอาหารสำเร็จรูปมากมายให้ซื้อกิน สตางค์น้อยก็ซื้อชนิด ขายข้างถนน สตางค์มากก็กินตามโรงแรม หาสตางค์ได้เสียอย่าง ไม่ห่วงว่า จะมีใครทำอาหารให้กิน มีเสน่ห์ปลายจวัก ผัวรักจนตาย คือจนตัวคนทำอาหารตาย สามีที่ไปหาเมียน้อย นึกหรือว่าเพราะเขาต้องการกินอาหารจากรสมือของเมียน้อย
ถ้าเช่นนั้น เมื่อสามีมีเมียน้อยภรรยาจะทำอย่างไรจึงจะไม่ต้องทุกข์หนักหนา
ไม่มีอะไรจะดีกว่าคิดได้ว่าเขาจะไปไหนก็ไป ไปอยู่กับเมียน้อยก็ดี เราจะได้ไม่ต้องรับภาระของการกลับมาบ้านของสามี ไม่ต้องทำสำรับกับข้าว หรือซื้ออาหารไว้คอยทำให้เปลื้องสตางค์ของเรา เสื้อผ้าก็ไม่ต้องซักให้ ปล่อยให้เมียน้อยทำหน้าที่เมียหลวงสักพักเดียวเมียน้อยก็ขี้คร้านจะเป็นเมียน้อย เพราะหมดเสน่ห์ของความเป็นเมียน้อย
สำหรับเมียหลวงที่แก่ตัวเท่า ๆ กับสามี ควรมีความโล่งใจเพิ่มขึ้นด้วย ยินดีที่จะมีคนสาวมารับหน้าที่ผ่อนแรงทั้งหญิงชายมีโซ่ตรวนผูกกันไว้เมื่อแต่งงานคือ ภาระหน้าที่ของสามีภรรยาซึ่งมีมากมายเหลือคณานับ ไม่อาจปลีกตัวเป็นอิสระได้ การมีเมียน้อยมาช่วยแบ่งเบาเท่ากับให้เมียหลวงได้ "หายใจ" สะดวกขึ้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด ๆ ความสะดวก สบาย ของทั้งเมียหลวงและเมียน้อย มาจากเงิน
ทางเตรียมตัวสำหรับศึกเมียน้อยมีอยู่อย่างเดียวคือ ผู้หญิงต้องพึ่งตัวเองได้ ด้วยความสามารถของตัวเอง มีรายได้ที่จะอยู่ได้อย่างสบายพอสมควร การมีคู่ก็เพื่อมีเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุข ถ้าเพื่อนปลีกตัวไปหาความสุขใส่ตัวแต่ลำพัง เราก็มีสิทธิจะทำได้เช่นเดียวกัน ไม่ใช่จะบอกให้ไปหาผู้ชายมาเป็นสามีน้อย ตั้งใจจะบอกว่าให้หาความสุขจากอิสรภาพที่ได้รับ เลิกคิดว่า การที่ผัวมีเมียน้อย เป็นทุกข์ที่สุดแล้ว
ทุกข์ที่สุดคือ การดำรงชีวิตอยู่ให้ทุกข์น้อยลงต่างหาก
อ.สมศรี สุกุมลนันทน์
main | ![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |