Episode 10 ---Frezia's Route-----

	"อ๊าาาาาาากกกกกกก!!!!!!!......." เสียงร้องที่ดังก้องไปทั่วบริเวณค่อยๆ
เงียบหายไปพร้อมๆกับที่ศีรษะของเจ้าของเสียงถูกน้ำแข็งกลืนกินไปทั่วทั้งหัว
	เจ้าของมือที่จับอยู่ตรงคอของก้อนน้ำแข็งมนุษย์เป็นสาวน้อยวัยรุ่น ทั้ง
รูปร่างหน้าตาและสีผม เหมือนกับเฟรซิสทุกกระเบียดนิ้วราวกับหล่ออกมาจากพิมพ์
เดียวกัน จะต่างกันเพียงแค่แววตาเย็นชาที่ซ่อนความเหงาไว้ในส่วนลึกเท่านั้น
	'ตึง!' สาวน้อยคลายมือออกปล่อยให้ร่างแข็งทื่อตกลงกับพื้น ก่อนจะเดิน
ไปทางที่มีร่างเด็กสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกันนอนหมดสติอยู่ เธอถอดเสื้อนอกออก
คลุมให้กับเด็กสาวแทนเสื้อผ้าที่ถูกฉีกขาดยับเยินจากการพยายามกระทำชำเรา แล้วอุ้ม
ร่างๆนั้นขึ้นมา มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านที่ใกล้ที่สุด ซึ่งเธอคาดว่าสาวน้อยในอ้อมแขนจะมา
จากที่นั่น
			.
			.
			.
			.
			.
	เด็กสาวนั่งอยู่ในห้องรับแขกของบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน เธอคาดการณ์
ไม่ผิด สาวน้อยคนนั้นมาจากหมู่บ้านแห่งนี้จริงๆ ตอนที่เธอเข้ามาในหมู่บ้าน ทันทีที่
เห็นว่าเธออุ้มใครมาด้วย แม่ของเด็กสาวก็รีบวิ่งเข้ามาหา เมื่อส่งตัวหล่อนคืนให้กับ
ผู้ให้กำเนิดแล้ว เธอก็จะออกจากหมู่บ้าน กลับเข้าสู่เส้นการเดินทางของตัวเอง แต่ก็ถูก
แม่ของสาวน้อยเชื้อเชิญให้อยู่พักที่บ้านของหล่อนก่อนเป็นการขอบคุณ 
	"เด็กคนนั้น ไม่เป็นไรแล้วล่ะ" แม่ของเด็กสาวเดินออกมาจากห้องของลูก
หลังจากที่หายเข้าไปได้สักพัก "ต้องขอบคุณคุณมากจริงๆที่ช่วยลูกสาวของฉันไว้ 
คุณ......"
	"เฟรเซียค่ะ" สาวน้อยแนะนำตัว 
	
	คืนนั้น หลังจากทานอาหารเย็นและอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว ขณะที่เฟรเซีย
กำลังจะเข้านอน ก็มีเสียงเคาะประตูห้อง เมื่อเธอเปิดประตูห้องออกคนที่ยืนอยู่ตรง
หน้าก็คือสาวน้อยที่เธอช่วยไว้เมื่อตอนกลางวัน เธอเป็นคนหน้าตาดี ผมสีแดงเข้มที่ผูก
เป็นหางม้าเมื่อตอนกลางวันถูกปล่อยให้สยายยาวจนถึงกลางหลังตัดกับชุดกระโปรง
สีเขียวบางๆที่เธอสวมเป็นชุดนอน นัยน์ตาดำขลับยังคงมีแววของความตื่นตระหนก
อยู่เล็กน้อย
	"ขอโทษนะคะ มารบกวนรึเปล่า" สาวน้อยเป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้นก่อน
	"ไม่หรอกค่ะ ว่าแต่คุณเถอะ ร่างกายไม่เป็นไรแล้วเหรอ" เฟรเซียถามกลับ
ไปตามมารยาท
	"อ๋อ ไม่เป็นไรแล้วล่ะคะ" สาวน้อยพยายามฝืนยิ้ม "เพราะได้คุณช่วยไว้
นั่นแหละค่ะ ไม่งั้น ป่านนี้ ฉันคง........"
	"เรื่องมันแล้วไปแล้ว อย่าไปคิดถึงมันอีกเลย"
	"นั่นสินะคะ เอ่อ.....คือ ฉัน....อยากจะขอบคุณน่ะค่ะ"
	"เรื่องอย่างนั้น ไม่ต้องคิดมากก็ได้ค่ะ วันนี้ดึกแล้ว คุณไปพักผ่อนเถอะ 
ไม่งั้นร่างกายเป็นอะไรขึ้นมาอีกจะแย่" สาวน้อยพยักหน้ารับ ก่อนจะหันหลังออกไปจาก
ประตูโดยดี แต่ในขณะที่เฟรเซียดึงประตูห้องปิดกลับมานั้น เจ้าหล่อนก็หันกลับมา
	"ราตรีสวัสดิ์นะคะ คุณเฟรเซีย" สาวน้อยที่ถูกกล่าวด้วยชะงักไปนิดนึง 
ก่อนที่รอยยิ้มเหงาเศร้าจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ เฟรเซียรีบปรับสีหน้าให้กลับ
เป็นปกติ ก่อนจะหันมาพูด "ราตรีสวัสดิ์ค่ะ คุณเอรีน" 
	"คุณ.....รู้ชื่อของฉันได้ยังไงน่ะ" ใบหน้าของสาวน้อยเอรีนมีแววของ
ความสงสัยปรากฏขึ้นแว่บหนึ่ง ก่อนจะเลือนหายไปเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ ".....คุณแม่
สินะ"
	"ใช่ค่ะ ตอนที่เข้ามาในหมู่บ้าน คุณแม่ของคุณเรียกชื่อคุณตั้งหลายครั้ง" 
เฟรเซียสนับสนุนข้อสันนิษฐานของสาวน้อย 
	"คุณแม่นี่ล่ะก็....จริงๆเลยน้า" เอรีนพูดพลางหันหลังเดินออกไปจาก
หน้าห้องของเฟรเซีย สาวน้อยมองส่งเธอตามหลังไป เธอเริ่มรู้สึกถึงสองสิ่งที่ห่างหาย
ไปนาน 'ความอบอุ่น'และ'ความร่าเริง'
			.
			.
			.
			.
			.
	เช้าวันรุ่งขึ้น เฟรเซียนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารกับเอรีน จานอาหารที่อยู่ตรงหน้าทั้ง
คู่นั้นว่างเปล่าไปนานแล้ว ทั้งสองนั่งคุยเรื่องต่างๆไปเรื่อยๆ ความเป็นเด็กผู้หญิงของ
เฟรเซียค่อยๆถูกความร่าเริงของเอรีนดึงกลับมาทีละนิดๆ
	'แอ๊ด' เสียงประตูหน้าบ้านดังขึ้นพร้อมกับหญิงเจ้าของบ้านที่ก้าวเข้ามา 
เอรีนเป็นคนแรกที่กล่าวทักทายแม่ของตน ในขณะที่เฟรเซียพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงรับรู้
	"เมื่อกี้ ที่ตลาดมีพ่อค้าเร่มาด้วยล่ะ" หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้น
	"พ่อค้าเร่? เค้าเอาอะไรมาขายเหรอคะ" เอรีนถาม
	"เปล่า ไม่ได้เอามาขายหรอก แต่มาขอซื้อต่างหากล่ะ" 
	"ขอซื้อ? ที่หมู่บ้านบ้านนอกอย่างนี้เนี่ยนะ" นัยน์ตาของสาวน้อยฉายแวว
ของความประหลาดใจ
	"ฮื่อ.....เห็นว่าใกล้ๆหมู่บ้านของเรานี่มีของวิเศษอะไรซักอย่างซ่อนอยู่
นี่แหละ" แม่ของเอรีนพูดต่อไป "แล้วยังบอกด้วยนะว่าใครที่หามาให้ได้ เขาจะรับซื้อ
ด้วยราคาตั้ง 50,000 ซิลินแน่ะ"
	"50,000!!! ของวิเศษนั่นมันทำอะไรได้รึไงนะ ทำไมราคาถึงได้....." เสียง
เอรีนดังขึ้นกว่าเมื่อครู่ 
	"รู้สึกจะชื่อ......แอ.....อะไรซักอย่างนี่แหละ"
	"แอนนิต้า?" เฟรเซียเอ่ยขึ้นบ้างหลังจากฟังอยู่นาน
	"เอ้อ ใช่ แอนนิต้า.......ทำไมคุณถึงรู้ล่ะ" เจ้าของบ้านหันมาทางแขก
	"กระดิ่งแอนนิต้า ไอเท็มเวทย์มนต์ระดับสูงสุด ราคาสูงขนาดนั้นไม่ใช่เรื่อง
แปลกเลยล่ะค่ะ" เฟรเซียพูดต่อไป "จะว่าไปแล้วถ้าจะขายกันจริงๆล่ะก็ ไม่ว่าราคาสูง
แค่ไหนก็มีคนซื้อแน่ๆ" สาวน้อยลุกขึ้นจากเก้าอี้ มือก็คว้าถุงสัมภาระของตัวเองขึ้นมา
พาดบ่า "ท่าทาง ฉันคงต้องไปคุยกับพ่อค้าเร่คนนั้นดูซะหน่อยแล้ว"

	"คุณเฟรเซีย รู้เรื่องอะไรพวกนี้ดีจังเลยนะคะ" เอรีนเอ่ยขึ้นขณะเดินคู่มา
กับเฟรเซียที่กำลังมุ่งหน้าไปตลาด
	"ก็ฉันเป็นนักเวทย์มนต์นี่คะ ก็ต้องรู้จักไอเท็มเวทย์มนต์บ้างล่ะ"
	"แล้วคุณเฟรเซีย จะไปหากระดิ่งอะไรนั่นมาขายจริงๆเหรอ" เฟรเซียส่าย
หน้าช้าๆ
	"เปล่าหรอกค่ะ ความจริง ฉันก็กำลังตามหามันอยู่เหมือนกัน"
	"เอ๊ะ?" เอรีนยิ่งสงสัยหนักขึ้นไปอีก "ทำไมเหรอ"
	"เพื่อการตามหาคนสำคัญของฉันน่ะ" เฟรเซียทิ้งท้ายไว้ ก่อนจะเร่งฝีเท้าให้
เร็วขึ้น

	"หือ? จะอาสาไปหากระดิ่งแอนนิต้างั้นรึ" พ่อค้าเร่รูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์
หันมามองเฟรเซียด้วยสายตาไม่ค่อยเชื่อในประโยคที่สาวน้อยพูดออกมานัก "เสียใจ
ด้วยนะ เมื่อกี้มีคนมาขออาสาไปแล้วล่ะ" แต่คำๆนี้ก็ไม่ทำให้สาวน้อยยอมทิ้งความหวังที่
ตามหามายาวนาน
	"แล้วถ้าฉันไปเอามันมาได้ก่อนเขาล่ะคะ" เฟรเซียยื่นข้อเสนอ
	"อืม.......ถ้าคิดว่าทำได้ก็เอาสิ เห็นเทรชเชอร์ฮันเตอร์นั่นบอกว่าน่าจะอยู่ใน
ถ้ำทางตะวันตกนี่แหละ"
	"เทรชเชอร์ฮันเตอร์? สเลเวอร์?" เอรีนพูดออกมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
	"ใช่ๆ คุณหนูรู้จักเค้างั้นรึ" 
	"แน่สิคะ ได้ยินมาว่าหมอนั่นเป็นอดีตหัวหน้าโจรสลัด หลังจากที่กองเรือ
ของตัวเองถูกทำลายย่อยยับก็หนีมากบดานอยู่ใกล้ๆหมู่บ้าน หาเลี้ยงตัวเองเป็น
เทรชเชอร์ฮันเตอร์ ล่าสมบัติไปขายให้พวกเศรษฐีในเมืองใหญ่ๆ อะไรทำนองนี้น่ะ" 
สาวน้อยผมแดงหันมาทางเฟรเซีย "ยอมแพ้ซะไม่ดีกว่าเหรอคะ สเลเวอร์น่ะ ทำได้
ทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ แถมยังเก่งขนาดจัดการกองทหารที่ตามมาจับ
ตัวเค้าได้หมดทั้งกองด้วยตัวเองเพียงคนเดียวเลยนะ"
	"ถ้าอย่างนั้น เวลาสองปีที่ผ่านมาของฉันก็สูญเปล่าน่ะสิ" เฟรเซียหันไปทาง
ตะวันตก "ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ถ้าฉันไปเอามันมาได้ก่อนคนๆนั้นล่ะก็ คงจะไม่มี
การประมือเกิดขึ้นหรอก"
	สิ้นเสียงคำสุดท้าย สาวน้อยก็ออกวิ่งตรงไปทางทิศเป้าหมายทันที หล่อน
เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นราวกับไม่อยากสูญเสียเวลาไปแม้แต่วินาทีเดียว

	หลายนาทีต่อมา เฟรเซียยึดเอายอดไม้ที่สูงที่สุดในบริเวณเป็นจุดค้นหา 
เพียงไม่นานสายตาเธอก็พบปากถ้ำอยู่สูงขึ้นไปบนหน้าผา สาวน้อย'ลอย'ขึ้นจากกิ่งไม้ที่
ยืนอยู่ เหินไปทางปากถ้ำ
	ทันทีที่เท้าสัมผัสปลายหินที่งอกออกมาจากปากถ้ำ เฟรเซียก็รู้สึกถึง
พลังเวทย์ระดับสูงที่ตรงเข้ามาปะทะ เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่า สิ่งที่เธอต้องการนั้น
หลับไหลอยู่ภายในสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน
	และเพียงไม่กี่สิบก้าวนับจากปากทาง เฟรเซียพาร่างตัวเองมายืนอยู่
เบื้องหน้าแท่นหินที่มีกลุ่มแสงสีทองส่องประกายอยู่ ภายในกลุ่มแสงนั้นมีวัตถุรูปร่าง
เหมือนกระดิ่งสีเงินซ่อนตัวอยู่ สาวน้อยค่อยๆยื่นมือไปหาสิ่งที่ใฝ่หามานาน แต่ก็ต้อง
ชะงักเมื่อเสียงๆหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง
	"หยุดอยู่แค่นั้นแหละ ไอ้ของนั่น มันเป็นของของฉันต่างหาก" เจ้าของ
เสียงเป็นชายผมเงิน รูปร่างสูงใหญ่ กล้ามเนื้อเป็นมัดๆที่อยู่ตามร่างกายบ่งบอกถึง
พละกำลังมหาศาลที่ชายผู้นี้มี แผลเป็นที่พาดเฉียงผ่านใบหน้าก็แสดงถึงประสบการณ์
การต่อสู้ที่โชกโชน เขากำลังชี้ดาบขนาดมหึมาในมือมาทางเฟรเซีย
	"กำลังนึกอยู่เชียวว่าคนที่มาถึงก่อนฉันได้เนี่ยมันเป็นใคร ที่แท้ก็นางปีศาจที่
เล่นงานกองเรือของฉันซะจนราบเรียบเมื่อครึ่งปีก่อนนี่เอง"

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Author's Favourite : (None)

    Source: geocities.com/tokyo/shrine/2860

               ( geocities.com/tokyo/shrine)                   ( geocities.com/tokyo)