Episode 5 -----3 Girls-----	

	เงาร่างของคนๆหนึ่งยืนอยู่ใต้ซุ้มทางออกของเมือง ถึงแม้หมอกยามเช้า
จะทำให้มองเห็นไม่ชัด แต่เงารูปปีกที่อยู่บนหลังก็ทำให้รู้ได้ว่าเจ้าของร่างคือใคร
	"พี่ฟาร์นี่!?" ฟีเมลเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจที่เห็นฟาร์นี่มารอพวกของ
ตน อยู่ก่อนหน้า
	"รู้ดีจังเลยนะ ว่าพวกเราจะออกเดินทางแต่เช้า" เฟรซิสทักกลับไป
	"เปล่าหรอก" ฟาร์นี่ตอบกลับมา "อย่างที่เธอพูดเมื่อคืนไงล่ะ ถ้าอยากจะ
ทำอะไรก็ทำลงไปเลย ตอนนี้ฉันก็จะออกเดินทางบ้างแล้วล่ะ"
	แต่พวกเฟรซิสก็ยังทำท่าทางสงสัย เหมือนกับจะถามว่า'แล้วทำไมถึงมายืน
รออยู่ตรงนี้ล่ะ'
	"ตอนแรกก็คิดว่าจะไปก่อนที่คนอื่นๆจะรู้เรื่อง" ฟาร์นี่พูดต่อไป "แต่พอมา
คิดดูแล้ว ดูเหมือนเธอกับฉันจะมีเป้าหมายอยู่ที่หุบเขาเรวาลเหมือนกัน"
	"เรวาล? หุบเขาของพวกเฟเธอร์น่ะเหรอ"
	"เมื่อคืนฉันลองค้นพวกบันทึกเก่าๆในโบสถ์ดูแล้ว จากบันทึกล่าสุด ดู
เหมือนว่าเผ่าเฟเธอร์จะเป็นผู้เก็บรักษากระจกเซเนียไว้น่ะ"
	"จริงเหรอ!" เฟรซิสถามออกมา สีหน้าเธอทั้งดีใจและเต็มเปี่ยมไปด้วย
ความหวัง ฟาร์นี่พยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนจะพูดต่อ
	"ฉันเองก็จะลองกลับไปหาพวกของตัวเองดู เพราะฉะนั้น ไปด้วยกัน
ซะเลย ไม่ดีกว่าเหรอ"
			.
			.
			.
			.
			.
	"ให้ตายสิ เรื่องตื๊อนี่ ไม่มีมอนสเตอร์ชนิดไหนเกินเจ้าโทเกรซนี่จริงๆ
นั่นแหละ" เฟรซิสบ่นออกมาเมื่อเห็นว่ามอนสเตอร์ที่เธอเพิ่งจะเตะมันลงไปนอนกับพื้น
เมื่อครู่นั้นลุกขึ้นมาใหม่ และยังคงเดินย่างเข้ามาหาเธอ ทั้งที่ตัวของมันเองก็เต็มไปด้วย
บาดแผลเหวอะหวะ แขนสองข้างห้อยร่องแร่งเกือบจะขาดเพราะคมดาบ ตัวของมัน
อาบเลือดจนเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน "ตอนแรกนึกว่าอึดๆแบบนี้ก็ดี จะได้ใช้เป็นคู่ซ้อม
เล่นๆ แต่ตอนนี้ชักรู้สึกว่ามันจะอึดเกินไปหน่อยซะแล้วสิเนี่ย"
	"ฉันเองก็เหนื่อยแล้วนะ เลิกเล่นกันซะที" แล้วเฟรซิสก็เริ่มแช่แข็งโทเกรซที่
อยู่ตรงหน้าก่อนจะระบำดาบฟาดมอนสเตอร์ที่กลายเป็นแท่งน้ำแข็งไปแล้วให้แตกเป็น
เสี่ยงๆ "ลองแบบนี้แล้ว ถ้ายังลุกขึ้นมาได้อีก ฉันก็ไม่อยู่เล่นด้วยแล้วล่ะ"
	พอการต่อสู้จบลง ฟาร์นี่ก็พาฟีเมลลงมาจากยอดต้นไม้
	"เธอนี่รู้เรื่องมอนสเตอร์ดีจังเลยนะ" ฟาร์นี่พูดขึ้นเมื่อลงมาถึงพื้น 	
	"เรื่องพวกนี้ ฉันถูกท่านพ่อจับให้เรียนทั้งนั้นน่ะแหละ แล้วอีกอย่าง มันก็
เป็นเรื่องที่คนจะเดินทางควรจะรู้ไว้บ้างด้วย" เฟรซิสตอบระหว่างที่กำลังเก็บดาบทั้ง
สองให้เข้าที่ "แต่ก็ไม่นึกเหมือนกันว่ามันจะอึดถึงขนาดนี้ เล่นเอาเกือบแย่เหมือนกัน"
	"เอาไว้คราวหน้า ถ้าเจอเจ้าตัวแบบนี้อีก ขอฉันใช้ฝึกบ้างนะ" ฟาร์นี่บอก 
ครั้งนี้ เฟรซิสขอเป็นคนลงมือ แล้วก็ให้เธอดูแลฟีเมล
	"ได้สิ แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะ ว่าเจ้านี่ มันอึดกว่าที่เธอคิดมาก"
	"ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันเองก็เคยเป็นผู้คุ้มครองเมืองเหมือนกันนะ"
	"จะไปกันต่อได้รึยังคะ พี่ๆ นี่ก็เกือบจะเที่ยงแล้ว ยังไปได้ไม่ถึงไหนเลย" 
ฟีเมลหันมาเรียกสาวน้อยทั้งสองที่ยืนคุยกันอยู่ "อยากนอนกลางป่าเพิ่มขึ้นอีกคืน
หรือไงกันคะ"
			.
			.
			.
			.
			.
	เย็นวันนั้น กลุ่มของเฟรซิสเลือกเอาที่โล่งกลางป่าแห่งหนึ่งเป็นที่พัก 
เฟรซิสก่อกองไฟขึ้นเพื่อทำอาหาร ในขณะเดียวกันฟีเมลก็ก่อกองไฟเล็กๆขึ้นอีก
กองหนึ่งเพื่อละลายน้ำแข็งของเฟรซิสเป็นน้ำดื่มน้ำใช้
	"ใช้เวทย์น้ำแข็งได้แบบนี้ก็สะดวกดีเหมือนกันนะ ไม่ต้องห่วงเรื่องแหล่งน้ำ
ระหว่างการเดินทาง" ฟาร์นี่ที่นั่งอยู่บนหินใกล้ๆทั้งสองคนพูดขึ้น
	"แต่กว่าจะได้น้ำใช้แต่ละทีก็ลำบากเหมือนกันนะคะ น้ำแข็งที่เกิดจาก
เวทย์มนต์น่ะมันละลายช้ากว่าน้ำแข็งปกติมากเลยล่ะ" ฟีเมลใช้กิ่งไม้เขี่ยกองไฟให้
ลุกโชนแรงขึ้น "ถ้ามีใครที่ใช้เวทย์ไฟได้อีกซักคนล่ะก็ จะละลายน้ำแข็งของพี่เฟรซิสได้
ง่ายขึ้นกว่านี้เยอะเลยล่ะค่ะ"
	"แต่ว่านะ จะหาใครที่มีพลังเวทย์พอๆกับเค้าได้ล่ะ" ฟาร์นี่มองไปทาง
เฟรซิสที่กำลังยุ่งกับการเปลี่ยนเนื้อและผักให้เป็นอาหารเย็น "ถ้าพลังเวทย์น้อยกว่าล่ะก็
ถึงจะเป็นเวทย์ไฟก็เถอะ แทนที่จะละลายน้ำแข็ง จะกลายเป็นว่าไฟถูกแช่แข็งแทนซะ
มากกว่า"
	"นี่ สองคนนั่นน่ะ นินทาอะไรฉันอยู่ หา!" เฟรซิสหันมาทางพวกฟาร์นี่ "ฉันมี
ข่าวดีจะบอก พรุ่งนี้น่ะ ต้องออกเดินทางกันตั้งแต่ 10 คาจ(ตี 3)นะ"
	"เอ๋!!!!" ทั้งฟาร์นี่และฟีเมลร้องขึ้นพร้อมๆกัน ตามมาด้วยการประสาน
เสียงกันถามเหตุผล
	"ก็เสบียงมันไม่มีเหลือแล้วนี่นา ถ้าพรุ่งนี้ยังไปไม่ถึงเมืองหรือหมู่บ้านที่ไหน
ซักแห่งล่ะก็ ได้กินหมาป่ากันแน่" เฟรซิสยกเอาสัตว์ที่ดูจะชุกชุมที่สุดในบริเวณป่าแห่งนี้
มาเป็นเมนูสำหรับวันต่อไป ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักพอที่จะทำให้สาวๆทั้งสองยอมทำ
ตามแผนการเดินทางของเจ้าหล่อนได้
			.
			.
			.
			.
			.
	"นี่ เด็กคนนั้นน่ะ เป็นผู้มีพลังเวทย์ใช่มั้ย" ฟาร์นี่ถามขึ้นระหว่างที่ฟีเมล
แยกตัวไปอาบน้ำ
	"รู้เหมือนกันเหรอ" เฟรซิสมองฟาร์นี่ แล้วก็หันไปทางฉากกั้น เงาของ
เด็กน้อยเคลื่อนไหวอยู่หลังผ้าที่กางไว้ ก่อนจะหันหน้ากลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิม "ใช่ 
ฟีเมลน่ะมีพลังเวทย์สายฟ้า แถมยังเป็นระดับสูงซะด้วย"
	"แล้วเจ้าตัวรู้เรื่องหรือเปล่าน่ะ" 
	"ไม่หรอก ถึงเด็กคนนั้นจะเคยใช้ออกมาแล้วก็เถอะ แต่ก็เป็นการใช้โดย
ไม่รู้ตัวน่ะ"
	"เคยใช้แล้ว?" ฟาร์นี่ทำหน้าสงสัยยิ่งขึ้นไปอีก "โดยไม่รู้ตัวเนี่ยนะ"
	"ฮื่อ เห็นหินที่ฟีเมลห้อยคอไว้มั้ยล่ะ นั่นแหละ สื่อของเวทย์สายฟ้าล่ะ"
	"หมายถึงครีน่าน่ะเหรอ" เฟรซิสพยักหน้ารับคำพูดของฟาร์นี่
	"แล้ว เธอคิดจะบอกเจ้าตัวหรือเปล่าน่ะ"
	"ก็คิดอยู่เหมือนกันนะ เพียงแต่ มันยังไม่ถึงเวลาเท่านั้นเอง" เฟรซิสหันไป
มองทางฉากกั้นอีกครั้ง ตอนนี้เงาที่อยู่หลังผืนผ้าแสดงให้รู้ว่าเจ้าของเงากำลังพันร่าง
ด้วยผ้าผืนหนึ่ง "พวกเรา ไม่มีใครที่รู้วิธีการฝึกผู้ใช้เวทย์มนต์อย่างถูกต้องเลยนี่นา"
	"แล้วเธอล่ะ" ฟาร์นี่หันมามองเฟรซิส "เธอเองก็ใช้เวทย์น้ำแข็งได้
ไม่ใช่เหรอ ก็ใช้วิธีเดียวกับที่เธอฝึกมานั่นก็ได้นี่"
	"ไม่ได้หรอก" เฟรซิสส่ายหัว "วิธีของฉันน่ะ มันหนักเกินกว่าที่เด็กผู้หญิง
ธรรมดาๆจะรับได้นะ" แต่พอเห็นคนที่พวกตัวเองกำลังนินทากันอยู่ค่อยๆเดินเข้ามา
ใกล้ เฟรซิสก็รีบตัดบท
	"เรื่องนี้ เอาไว้คุยกันวันหลังนะ ตอนนี้เข้านอนกันเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่
เช้าอีก" 
			.
			.
			.
			.
			.
	"เฮ่อ... เขตมอนสเตอร์มันโหดกว่าเขตโจรก็ตรงนี้แหละน้า จะกลางวันหรือ
กลางคืนก็มีมอนสเตอร์ออกหากินตลอดเลย" เฟรซิสบ่นออกมาหลังจากกลุ่มของเธอ
ถูกมอนสเตอร์เข้าโจมตีเป็นครั้งที่สามหลังจากออกเดินทางมา "แถมพวกนี้มันก็อยู่
กระจัดกระจายทั่วไป ไม่รวมกันเป็นกลุ่มกระจุกซะด้วย"
	"ฟาร์นี่ ฝากทางซ้ายทีนะ" เฟรซิสหันไปบอกฟาร์นี่ก่อนจะชักดาบทั้งสอง 
พุ่งตรงเข้าไปมอนสเตอร์รูปร่างคล้ายกระดูกที่อยู่เบื้องหน้า ในขณะที่ฟาร์นี่ก็ทะยานขึ้น
จากพื้น ตรงไปหาโครงกระดูกอีกตัวที่อยู่ทางซ้ายของกลุ่ม
	ชั่วพริบตาต่อมา กระดูกทั้งสองก็ล้มลงกับพื้น แต่ทางที่เป็นคู่ต่อกรของ
ฟาร์นี่นั้นกลับรวมตัวกันลุกขึ้นมาใหม่ 
	"เลเคสน่ะเป็นกึ่งอันเดด จะโจมตียังไงก็ฟื้นขึ้นมาได้ตลอดนั่นแหละ" 
เฟรซิสตะโกนบอกฟาร์นี่ "ฟาดกระโหลกให้แตกสิ" แล้วเธอก็ชี้ไปทางกองกระดูกที่เธอ
เพิ่งล้มมันลงไปเมื่อครู่ กระโหลกของโครงกระดูกนั้นแตกละเอียดไม่มีชิ้นดี
	ตามคำของเฟรซิส ฟาร์นี่เหวี่ยงหอกเข้าใส่ขาของเลเคสจนหลุดกระเด็นไป
แล้วเธอก็เหินขึ้นจากพื้น ก่อนจะพุ่งลงมาแทงกระโหลกของมันจนแตกยับ กระดูกชิ้นที่
เหลือร่วงลงกองกับดินในทันที
	หลังจากจัดการโครงกระดูกทั้งสองได้แล้ว ทั้งสามคนก็กลับมารวมกลุ่ม
กันอีกครั้ง ฟาร์นี่ยืนเท้ามือกับเข่าทั้งสอง เธอหอบติดๆกัน  เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นและไหล
ลงอาบใบหน้า
	"เป็นอะไรรึเปล่า ฟาร์นี่" เฟรซิสถามด้วยความเป็นห่วง ส่วนตัวคนถูกถาม
ก็ส่ายหน้าช้าๆ
	"คงจะเหนื่อยเกินไปมั้งคะ" ฟีเมลตอบแทน "ตั้งแต่ออกเดินทางมานี่ก็เจอ
แต่พวกมอนสเตอร์ติดๆกันเลยนี่นา"
	"งั้น รีบไปกันต่อเถอะ ไม่งั้น มีหวังได้เจอเยอะกว่านี้แน่" เฟรซิสหันไปยัง
ทิศทางที่จะเดินต่อไป "ยังไหวใช่มั้ย ฟาร์นี่......" หลังจากได้รับการพยักหน้าเป็นเชิง
ตอบรับแล้ว เธอก็เริ่มออกเดินอีกครั้ง

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Author's Favourite : "ฉันเองก็เหนื่อยแล้วนะ เลิกเล่นกันซะที" แล้วเฟรซิสก็เริ่มแช่
		 แข็งโทเกรซที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะระบำดาบฟาดมอนสเตอร์ที่
		 กลายเป็นแท่งน้ำแข็งไปแล้วให้แตกเป็นเสี่ยงๆ "ลองแบบนี้
		 แล้ว ถ้ายังลุกขึ้นมาได้อีก ฉันก็ไม่อยู่เล่นด้วยแล้วล่ะ" ;เฟรซิส

    Source: geocities.com/tokyo/shrine/2860

               ( geocities.com/tokyo/shrine)                   ( geocities.com/tokyo)