Episode 6 -----Meet Again-----	

	ดวงอาทิตย์ที่ลอยสูงอยู่เหนือหัวบอกให้รู้ว่าขณะนี้เป็นเวลาบ่ายแก่ๆ แต่
กลุ่มของเฟรซิสก็ยังคงเดินมุ่งหน้าต่อไป ฟาร์นี่และฟีเมลเริ่มมีท่าทางเหนื่อยอ่อน
แสดงออกมาทางสีหน้าและท่าทางการเดิน ในขณะที่เฟรซิสไม่แสดงอาการใดๆทั้งสิ้น
นอกจากเหงื่อที่ผุดขึ้นตามใบหน้าและร่างกาย จนในที่สุด ฟีเมลก็ร้องขึ้น
	"พี่เฟรซิสคะ หยุดพักกันซักแป๊บเถอะค่ะ หนูจะเดินต่อไม่ไหวอยู่แล้วนะ" 
เด็กน้อยทรุดตัวลงนั่งกับขอนไม้ที่อยู่ข้างทางแทบจะในทันทีที่พูดจบ 
	"ขอพักหน่อยเถอะนะ เฟรซิส ฉันเองก็จะแย่เหมือนกันแล้วเนี่ย" ฟาร์นี่
สนับสนุนด้วยอีกคนเป็นสองเสียง 
	"อ๊ะ ขอโทษนะ ฉันคงจะเดินเพลินไปหน่อยน่ะ" เฟรซิสหันหลังกลับแล้วก็
เดินมาสมทบกับทั้งสองคน "แต่มาได้ขนาดนี้ ยังไงก็คงจะไปถึงเมืองจูเน่ก่อนค่ำ
แล้วล่ะ พักซักหน่อยก็ได้"
	ฟีเมลรินน้ำในภาชนะของเธอยื่นให้กับพี่สาวทั้งสองคน เฟรซิสและฟาร์นี่
รับแก้วน้ำมาพร้อมกับกล่าวขอบใจเด็กหญิงที่เป็นเหมือนน้องสาวคนเล็กของกลุ่ม บท
สนทนาในระหว่างช่วงหยุดพักเต็มไปด้วยเรื่องราวสนุกสนานและเสียงหัวเราะ 
	"เอาล่ะ จะไปกันต่อรึยัง" เฟรซิสถามในขณะที่ลุกขึ้นยืน เธอกวาดสายตา
มองเพื่อนร่วมทางทั้งสอง ฟีเมลลุกขึ้นตามเป็นคนต่อมา ส่วนทางฟาร์นี่ก็พยักหน้าเป็น
การตอบรับ
	"งั้นก็ ไปกันเถอะ ไม่งั้น คืนนี้ได้กินหมาป่าเป็นอาหารเย็นกันแน่"
			.
			.
			.
			.
			.
	ดวงอาทิตย์ส่องแสงสีส้มอยู่เหนือเส้นขอบฟ้าเพียงเล็กน้อย กลุ่มของ
เฟรซิสเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูเมืองฝั่งด้านใน 
	"เอาล่ะ แยกกันซักแป๊บนะ ฉันจะไปหาที่พัก ส่วนพวกเธอ จะไปเดินเล่นหรือ
หาซื้ออะไรก็ได้นะ แล้วอีก 8 เซ (1ชม.) เจอกันที่ลานกว้างของเมือง ตกลงนะ" เฟรซิส
พูดกับทั้งสองสาว ก่อนจะแยกย้ายกันไป
	
	หลังจากแยกกับฟีเมลและฟาร์นี่แล้ว เฟรซิสก็มุ่งหน้าไปยังตลาดในเมือง
เพื่อหาซื้อเสบียงอาหาร ระหว่างที่เธอกำลังเลือกดูเนื้อและผักตามแผงค้าขายอยู่นั้น 
ชายคนหนึ่งก็เดินเบียดเข้ามาข้างๆตัวเธอ มือของเขาค่อยๆจับเข้าที่ดาบเล่มหนึ่งที่
ห้อยอยู่ข้างตัวเธอ
	ทันทีที่สัมผัสกับดาบ มือของเขาก็เปลี่ยนสภาพเป็นก้อนน้ำแข็งไปในทันที 
ชายคนนั้นส่งเสียงร้องดังไปทั่วตลาด
	"อ้าว นี่คงคิดจะขโมยดาบของฉันล่ะสิเนี่ย" เฟรซิสหันมามองชายที่ทรุดตัว
ลงกุมมืออยู่ข้างๆ "ดาบของฉันน่ะลงเวทย์มนต์ไว้ คนที่จะจับมันได้ ต้องมีพลังเวทย์
อยู่ในตัวด้วย นักล้วงกระเป๋ากระจอกๆอย่างแกน่ะ ไม่มีทางหรอก"
	ผู้คนจากบริเวณใกล้เคียงเริ่มเข้ามาชุมนุมกันบริเวณที่เฟรซิสอยู่ เมื่อ
สาวน้อยเห็นว่าสถานการณ์ทำให้เธอไม่สามารถหาซื้อของได้สะดวกซะแล้ว เธอก็ค่อยๆ
หลบออกมาจากบริเวณ แล้วเปลี่ยนเป้าหมายเป็นการหาที่พักแทน 
	ระหว่างที่เฟรซิสเดินไปตามทางเดินในเมืองเพื่อหาที่พัก เสียงๆหนึ่งก็ดัง
ขึ้นเบื้องหลัง
	"เฟรเซีย!!!!!!!" เสียงนั้นทั้งดังและฟังดูเต็มไปด้วยความยินดี พอเฟรซิส
หันไปมอง ต้นเสียงก็วิ่งเข้ามาสวมกอดเธอไว้แน่น
	"เธอยังมีชีวิตอยู่จริงๆด้วย!" 
	"ท่านพี่ฟิน?!" เฟรซิสหลุดปากออกมาด้วยความประหลาดใจ ในขณะที่ชาย
คนนั้นยังกอดเธอไว้ในอ้อมแขนแน่น จนเธอเริ่มทนไม่ไหว "ปล่อยซะทีสิคะท่านพี่ รู้อยู่
หรอกว่าดีใจ แต่ฉันอึดอัดนะ แล้วอีกอย่าง ฉันก็ไม่ใช่เฟรเซียด้วย"
	'!?' ฟินผละออกจากตัวเฟรซิสทันที
	"ยายเฟรเซียน่ะ ไม่พกดาบกับล็อกเกตที่ใส่รูปตัวเองไว้หรอกค่ะ" เฟรซิส
พูดพลางหยิบล็อกเกตที่ห้อยคอไว้ออกมาเปิดให้ฟินเห็นรูปเด็กสาวที่หน้าตาเหมือนกับ
เธออย่างไม่มีผิดเพี้ยน
	"งั้นเธอก็....." ฟินมองดูสิ่งที่เฟรซิสยกมาใช้เป็นหลักฐานอย่างไม่เชื่อ
สายตาตัวเอง "โกหกน่า....... เฟรสเหรอ?"
	"แล้วทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ" ฟินถามหลังจากเฟรซิสพยักหน้าให้
กับคำถามเมื่อครู่ สาวน้อยจึงเริ่มเล่าเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาทั้งหมดให้พี่ชาย
ของตนฟัง 
	".....เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ" เฟรซิสจบการเล่าเรื่องของเธอลง "อ๊ะ 
ใกล้จะได้เวลาที่นัดไว้แล้ว ฉันคงต้องขอตัวแล้วล่ะ บ้านของพี่อยู่ในเมืองนี้ใช่มั้ยคะ ถ้า
อย่างนั้น ถามพวกชาวเมืองเอาก็คงได้...."
	"แล้วคืนนี้ พวกเธอมีที่พักหรือยัง" ฟินถามขึ้นในขณะที่เฟรซิสกำลังหัน
หลังเพื่อจะมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่เธอนัดกับพวกฟาร์นี่ไว้ "ถ้ายังล่ะก็ ไปพักที่บ้านของ
พี่สิ ท่านแม่เองก็ต้องดีใจแน่ๆ"
	"ท่านแม่!?" เฟรซิสหันมาทางพี่ชายทันที "ไม่ได้โกหกใช่มั้ยคะ ท่านพี่"
	"พี่เคยโกหกเธอซะเมื่อไหร่เล่า" ฟินพูดพลางชี้มือไปตามทางเดิน
เบื้องหลัง "บ้านของพี่ อยู่ตรงสุดทางนี้เองแหละ หาไม่ยากหรอก อย่างที่เธอพูด ลอง
ถามคนในเมืองดูก็ได้ แล้วจะรอนะ"

	"พี่ชาย?" ฟีเมลพูดขึ้นหลังจากได้ฟังเรื่องที่เฟรซิสเล่าจนจบ "ของ
พี่เฟรซิสน่ะเหรอคะ"
	"แล้วยังคุณแม่อีก นี่มันโชคชะตาแท้ๆเลยนะ" ฟาร์นี่เสริมขึ้นบ้าง
	"นั่นสินะ ฉันเองก็ไม่คิดว่าพวกท่านจะยังมีชีวิตอยู่เหมือนกัน"
	"ยินดีด้วยนะคะพี่เฟรซิส แบบนี้ก็เท่ากับว่าพี่ หาบ้านของตัวเองเจอแล้ว
สินะ" ฟีเมลเดินเข้ามาใกล้ "น่าอิจฉาจัง"
	"บ้านของพี่ ก็เหมือนบ้านของพวกเธอเหมือนกันนั่นแหละ" เฟรซิสลุกขึ้น
จากที่นั่ง "เพราะฉะนั้น คืนนี้พักให้สบาย ไม่ต้องเกรงใจนะ" 
	"งั้นก็ รีบไปกันเถอะ ป่านนี้ พวกเขาคงจะรอเธอกันแย่แล้วล่ะ" ฟาร์นี่ออก
เดินนำทั้งสองคนไป

	หน้าประตูบ้านหลังใหญ่ ภาพที่ปรากฏต่อหน้าสามสาวคือ ภาพครอบครัวที่
แสนอบอุ่น ประกอบไปด้วยฟินกับภรรยาและลูกชาย และหญิงวัยกลางคนท่าทางใจดี
อีกคนหนึ่ง ทันทีที่เห็นภาพนั้น เฟรซิสถึงกับทิ้งสัมภาระลงกับพื้น วิ่งเข้าไปหาหญิง
คนนั้น
	"ท่านแม่!!!!" เฟรซิสตะโกนในขณะที่โผเข้าสู้อ้อมกอดของผู้ให้กำเนิดที่จาก
กันมานาน น้ำตาแห่งความปลื้มปีติไหลรินออกจากดวงตาของเธอ
	"แม่รู้เรื่องทุกอย่างแล้วล่ะ" หญิงคนนั้นโอบกอดลูกของเธอไว้อย่าง
อ่อนโยน "ขอบคุณพระเจ้าที่ช่วยให้ลูกยังมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย ถึงจะดูไม่เหมือนลูก
ของแม่คนเดิมแล้วก็ตาม แต่แค่เพียงเจ้ากลับมาหาแม่ แค่นี้ แม่ก็พอใจแล้ว"
			.
			.
			.
			.
			.
	เวลาอาหารเย็นได้ผ่านพ้นไป ราตรีที่เย็นเยือกเข้ามาแทนที่ แต่ภายในบ้าน
หลังใหญ่แห่งนี้ กลับเป็นราตรีที่แสนอบอุ่น สามแม่ลูกนั่งพร้อมหน้ากันอยู่ใน
ห้องนั่งเล่น ผลัดกันซักถามเรื่องราวของกันและกัน 
	
	ฟินเล่าให้เฟรซิสฟังว่า ในตอนที่ฟอนเนลกำลังถูกโจมตีนั้น ขณะที่
สถานการณ์เลวร้ายสุดขีด กษัตริย์ได้สั่งให้เขาที่เป็นอัศวินองครักษ์ของพระองค์ 
รวบรวมกำลังที่ยังมีเหลือแล้วพาชาวเมืองจำนวนหนึ่งตีฝ่าวงล้อมออกมา ในจำนวนนั้น
ก็มีแม่ของพวกเขาและเฟรเซียรวมอยู่ด้วย ในขณะที่พวกของฟินถูกกองทัพหน่วยหนึ่ง
ไล่ตามจนเกือบจะทันอยู่แล้วนั้น เฟรเซียได้ขออาสารับมือกับพวกนั้นด้วยตัวเอง
	"จะบ้าเหรอ พวกนั้นเป็นนักเวทย์มนต์ที่ทำการรบเป็นอาชีพนะ" ฟิน
พยายามปรามน้องสาว
	"แล้วจะยังไง ถ้าฉันไม่ทำ ทุกคนก็ได้ตายกันหมดที่นี่พอดี" เฟรเซียโต้กลับ
ไป "ขนาดเฟรสยังได้รับอนุญาตให้ออกรบกับไอ้พวกนี้ได้เลย แล้วฉันล่ะ ถึงจะเป็น
เวทย์มนต์ ไม่ใช่ดาบ แต่ฝีมือฉันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพี่เขาหรอกนะ"
	"พี่รู้ว่าพวกเธอฝาแฝดน่ะเก่งขนาดไหน แต่พวกนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ง่ายๆอย่าง
ที่เธอเคยเจอหรอกนะ"
	"ฉันเองก็ใช่ว่าจะรับมือได้แต่คู่ต่อสู้กระจอกๆแบบนั้นซะเมื่อไหร่กัน" เธอ
จ้องเข้าไปในดวงตาของพี่ชาย "เชื่อใจน้องสาวตัวเองหน่อยสิ"
	แล้วเธอก็ผละออกไปจากกลุ่ม วิ่งไปยังทางที่กองทัพจอมเวทย์กำลังไล่
ตามมา ถึงแม้ฟินจะตะโกนเรียกอย่างไร ก็ไม่อาจหยุดยั้งสาวน้อยที่กำลังมุ่งหน้าไปด้วย
ความเชื่อมั่นได้

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Author's Favourite : เฟรซิสตะโกนในขณะที่โผเข้าสู้อ้อมกอดของผู้ให้กำเนิดที่จาก
		 กันมานาน น้ำตาแห่งความปลื้มปีติไหลรินออกจากดวงตาของ
		 เธอ ;Scene
		
		 "เชื่อใจน้องสาวตัวเองหน่อยสิ" ;เฟรเซีย

    Source: geocities.com/tokyo/shrine/2860

               ( geocities.com/tokyo/shrine)                   ( geocities.com/tokyo)