เบื้องลึกที่ต้องรู้กัน
เป็นไงคะ
คืนวันขึ้นปีใหม่
เราจุดโคมประทีปสว่างไสวเป็นแสน
ๆ ดวง บูชาพระรัตนตรัย
เห็นความสว่างไสวครั้งใด
ย่อมทำให้จิตใจของเราพลอยสว่างไสวเบิกบานไปด้วยทุกครั้ง
ใครไม่ได้ไปร่วมงานส่งท้ายปีเก่าที่เล่าถึง
ต้องอย่าพลาดวันฉลองพระมหาเจดีย์
มาฆบูชา กุมภาพันธ์ พ.ศ.
๒๕๔๓
ขออนุโมทนาบุญกับผู้ร่วมจัดงานทุกฝ่าย
โดยเฉพาะฝ่ายทำโคมประทีป
หลายรายมาอยู่วัดเป็นเดือน
ช่วยหลวงพี่ทำโคมประทีปทั้งวันทั้งคืน
เล่าให้ป้าฟังด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ
ป้าฟังแล้วก็ดีอกดีใจไปด้วย
คิดในใจว่า
นี่ถ้าตนเองไม่เจ็บไม่ป่วยใกล้ตายอย่างนี้
จะต้องเข้าช่วยด้วยแน่นอน
คุยให้คุณฟังจะได้ถือเป็นตัวอย่างนะคะว่า
มีงานบุญอะไรให้ทำ
รีบทำเสียในขณะที่ร่างกายกำลังแข็งแรง
รอจนเจ็บไข้ได้ป่วย
หมดกำลัง
เดี๋ยวจะต้องนั่งเสียดาย
อย่าลืมนะคะ
ใครที่รับเป็นประธานกอง
ประธานรองงานฉลองยิ่งใหญ่มหาธรรมกายเจดีย์
ถ้ารวบรวมปัจจัยได้ตั้งแต่ตอนนี้
จะครบไม่ครบถวายล่วงหน้าไปก่อนได้เลย
ป้าชวนคุณทำบุญถวายพระเดชพระคุณหลวงพ่อ
เพื่อให้ท่านจัดงานฉลองตามแต่ใจท่าน
เหมือนถวายเป็นส่วนตัวนั่นแหละ
หากถวายแบบเดิมเข้าบัญชีวัด
พวกหาเรื่องจะฟ้องว่าท่านยักยอกเงินวัด
เหมือนที่กำลังอยู่ในศาลตอนนี้
ทำบุญกับวัดแล้วกลายเป็นโทษเป็นภัยต่อท่าน
จะทำบุญไปทำไม
ทำบุญโดยตรงกับท่านไปเลยปลอดภัยกว่า
เรื่องพระเดชพระคุณหลวงพ่อถูกฟ้องร้องนี่
เรื่องจริง ๆ
เบื้องหลังก็คือ
บ้านเมืองเราตอนนี้มันยากจน
คนมีอำนาจหลาย ๆ
คนก็พลอยจนกว่าเดิมไปด้วย
หาเงินที่ไหนไม่ได้
ก็คิดอยากใช้เงินของวัดเรา
เมื่อขอแล้วทางวัดปฏิเสธ
เพราะเงินที่ทางวัดได้มาเป็นเงินจากศรัทธาของสาธุชน
ทำบุญบำรุงพระพุทธศาสนา
ไม่ใช่ให้ไปแจกบำเรอพวกเสพกาม
ฝ่ายขอก็โกรธแค้น
จึงใช้อำนาจกลั่นแกล้งทุกวิถีทาง
พอดีพวกต่างศาสนาที่ต้องการทำลายล้างพระพุทธศาสนาในบ้านเมืองเราเห็นเป็นโอกาส
จึงใช้เงินที่พวกเขามีอยู่ทุ่มซื้อ
ซื้อทั้งที่เป็นตัวบุคคล
และซื้อทั้งที่เป็นนิติบุคคล
ให้ช่วยกันทำลายให้ได้
วัดพระธรรมกายถูกทำลายได้เมื่อใด
ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นในการทำลายวัดอื่น
ๆ ตามมา
แล้วศาสนาพุทธก็สูญสิ้นจากแผ่นดินไทยในไม่ช้า
ไม่มีวัดใดในประเทศไทยทำงานให้พระพุทธศาสนาได้อีกต่อไป
การทำลายวัดพระธรรมกายไม่ต้องทำอะไรมาก
เพราะผู้คนที่มาศรัทธาช่วยงานพระศาสนานั้น
ล้วนแต่ศรัทธาในปณิธานการทำงานของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสองทั้งสิ้น
ทำอย่างไรก็ได้ที่จะให้ท่านหนีออกนอกประเทศ
หรือสึกจากเพศพระภิกษุ
หรือมรณภาพ
เป็นการทำลายวัดพระธรรมกายสำเร็จทั้งนั้น
เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อไม่ยอมหนีไม่ยอมสึก
ยอมตายในผ้าเหลือง
การพยายามจะจู่โจมแอบจับตัวไปฆ่าทิ้งก็เกิดขึ้น
แต่ก็ทำไม่สำเร็จ
จึงได้เกิดขบวนการหาความผิดต่าง
ๆ
มาใส่ความฟ้องทั้งศาลสงฆ์
และศาลทางโลก
ให้พิพากษาว่ามีควาามผิด
จะได้จับสึกให้ได้
นี่เรื่องย่อ ๆ มีแค่นี้
ป้าสรุปมาให้คุณฟัง
เพราะฉะนั้นคุณก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า
ทำไมพวกหมาป่ามันจึงเลนงานเราไม่เลิก
เพราะเขานึกว่าเราเป็นลูกแกะ
หาเรื่องให้ไม่กี่เรื่องก็จะจับเรากินได้
แต่เราเป็นลูกแกะที่ทำด้วยหินเหล็กเพชร
ขย้ำเราเมื่อไหร่
ทั้งเขี้ยวทั้งฟันก็หลุดร่วงกราวทุกครั้งไป
ไม่ช้าก็หมดปากไปเอง
คุณเชื่อตามที่ป้าอุปมานี้เถอะค่ะ
ใจคอจะได้สบายขึ้น
ยิ่งนานวันความบริสุทธิ์ของเราก็ยิ่งแสดงให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นทุกที
ฝ่ายคนพาลที่จ้องหาเรื่องก็จะแสดงความเป็นพาลให้เห็นชัดเจนขึ้นทุกที
ซึ่งเป็นการแสดงออกจนคนมีปัญญาเขารู้กันหมดแล้ว
มีแต่คนขาดปัญญาเชื่อตามไปโดยไม่รู้จักคิด
เชื่อผิด ๆ
ให้เกิดบาปแก่ตนเอง
ก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้
เวลาบาปกรรมตามทัน
เกิดภัยพิบัติอะไรก็ต้องเกิดร่วมกันไป
พวกเราก็ตั้งใจขนบุญติดตัวไปข้ามชาติไปให้มาก
ๆ นะคะ
เล่าให้คุณฟังเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า
คนไม่มีคุณธรรมประจำใจนั้น
มักยอมอยู่ใต้อำนาจของเงินเสมอ
สามารถทำได้หมดทุกอย่าง
โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง
ความควรไม่ควร
ขอให้ได้เงินมาก็แล้วกัน
คนประเภทนี้จึงสามารถทำความชั่วได้ทุกชนิด
โดยไม่มีหิริโอตตัปปะเอาเสียเลย
ขอเราอย่าได้เป็นอย่างพวกเขาเป็นอันขาด
นั้นพวกคิดทำลายพระพุทธศาสนา
เพราะเห็นแก่เงิน
ส่วนพวกที่สอง
ต้องทำลายให้ได้
เพราะถูกผู้มีอำนาจสั่งมา
ไม่ทำก็เกรงว่าตนเองจะมีอันตราย
เงินก็ไม่ได้
เสียดายชีวิต
เพราะถ้าไม่ทำให้
ตนเองก็จะถูกฆ่าเสียเอง
หรือไม่ก็ถูกถอดยศปลดตำแหน่ง
พวกนี้จึงยินยอมเป็นเครื่องมือด้วยความเต็มใจ
พวกเขาไม่เคยได้ยินคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า
ให้ยอมเสียทรัพย์
เพื่อรักษาอวัยวะ
ยอมเสียอวยวะเพื่อรักษาชีวิต
และให้ยอมสละแม้ชีวิตเพื่อรักษาธรรมะ
ธรรมะ คือ ความถูกต้อง
เราต้องรักษาแม้ด้วยชีวิต
คนนับถือพระพุทธศาสนาแต่ปาก
เพียงถูกบังคับ ถูกขู่
ก็เสียดายชีวิต
ไม่ยอมรักษาธรรมะ
ส่วนพวกที่มีส่วนทำลายพระพุทธศาสนา พวกที่สาม
เป็นพวกปัญญาน้อย
เชื่ออะไรง่าย ๆ
ใครบอกอะไรเชื่อทันที
โดยไม่มีการพิจารณา
ไม่มีการพิสูจน์
เรื่องนี้คนไทยเราเป็นกันมาก
พวกสื่อต่าง ๆ
โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์
วิทยุ โทรทัศน์
รู้จุดอ่อนอันนี้ดี
เมื่อต้องการให้ประชาชนเชื่ออย่างไร
พวกเขาก็จะสร้างข่าวอย่างนั้นทันที
เมื่อครั้งพวกเขาไม่ต้องการให้คนมาวัดทำความดี
ป้าเคยเห็นนักข่าวสถานีโทรทัศน์บางช่องมาถ่ายภาพผู้คนที่วัดเราตอนเย็น
เมื่อคนกำลังจะกลับบ้านหมดแล้ว
ป้าให้คนไปถามว่า
ทำไมไม่ถ่ายภาพตอนเช้า
ขณะที่มีผู้คนมาก ๆ
เขาตอบว่า ถ่ายแล้วครับ
พอส่งไปที่สถานีฯ
หัวหน้ามาบอกว่าภาพมันสวยเกินไป
ให้ถ่ายตอนงานเลิก
จะได้ไม่มีคน
เขาตั้งใจทำข่าวบิดเบือนถึงขนาดนั้น
ภาพที่ผู้คนเห็นจากจอโทรทัศน์
จึงกลายเป็นมีผู้คนมาวัดโหรงเหรง
บางภาพยิ่งร้ายกาจ
ลงไปถ่ายภาพที่บริเวณชั้นหนึ่งของสภาธรรมกายสากลหลังใหม่
แถวหน้าห้องน้ำ
มีคนงานยืนอยู่ ๒-๓ คน
แล้วบรรยายภาพว่า
เวลานี้ไม่มีคนเข้าวัดพระธรรมกายแล้ว
พวกขาดปัญญาเชื่อง่ายโดยไม่ยอมไปพิสูจน์ความจริงเหล่านี้
ก็ช่วยกันโจมตีกระจายข่าวต่อ
ๆ
กันไปเป็นการทำลายพระพุทธศาสนาโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
พวกที่สี่
เป็นพวกเสียผลประโยชน์ เคยทำมาหากินโดยการขายของขลังศักดิ์สิทธิ์
มีรายได้ดีตลอดมา
พอวัดพระธรรมกายแจกพระของขวัญ
ผู้คนพบปาฏิหาริย์มากมาย
ทำให้สิ่งของของพวกเขาจำหน่ายไม่ออก
พวกนี้จึงอยู่นิ่งไม่ได้
ต้องหาวิธีทำลายเต็มรูปแบบ
พวกที่ห้า พวกอิจฉาริษยา
เห็นใครมีผลงานดีกว่า
ยิ่งใหญ่กว่า
เจ็บปวดหัวใจ ทนไม่ได้
ต้องออกมาหาทางทำลาย
พวกที่หก คือ
พวกคนเก่าของวัดเราเอง
ทำตามกฎระเบียบของหมู่คณะไม่ได้
ถูกเชิญให้ออกไปอยู่ที่อื่น
แรงอาฆาตแค้นฝังใจ
มองไม่เห็นความผิดของตน
ก็ตั้งเรื่องบกพร่อง
กล่าวร้ายป้ายสีวัดเรา
เล่าให้ผู้ที่จะช่วยทำลายล้างทราบ
ผู้ฟังที่มีปัญญาจะรู้ทันไม่ตกเป็นเครื่องมือ
ส่วนที่ปัญญาน้อยก็รีบเชื่อตาม
แล้วก็พยายามช่วยทำลายเต็มที่
โดยไม่คิดจะพิสูจน์ความจริงอะไรเหมือนกัน
พวกสุดท้ายเป็นพวกมิจฉาทิฏฐิโดยสันดาน
พวกนี้ไม่ชอบเรื่องศาสนา
เช่น
พวกนิยมลัทธิคอมมิวนิสต์
เห็นว่าศาสนาทำให้คนงมงาย
พวกนักบวชเป็นพวกเอาเปรียบสังคม
ไม่ยอมทำมาหากิน
หลอกลวงเงินทองจากผู้คน
ให้บริจาคให้ตนใช้
พวกนี้จะพยายามต่อต้านศาสนา
เป็นพวกบ้าวัตถุนิยม
ไม่สนใจเรื่องพัฒนาจิตใจ
ถ้าคุณจะถามป้าว่า
แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี
มีคนคิดทำลายล้างพระพุทธศาสนาหลายกลุ่มอย่างนี้
ป้าก็ขอตอบตามความคิดเห็นของป้าว่า
ประการแรก
ตั้งสติให้มั่นคง
ไม่ต้องตกใจไปล่วงหน้าเรียกศรัทธาให้เกิดขึ้นมาเต็มเปี่ยมในหัวใจ
เคยศรัทธาในพระเดชพระคุณหลวงพ่อมากแค่ไหน
ให้มีมากขึ้นกว่าเดิม
ย้อนนึกไปในอดีตเท่าที่เคยรู้จักท่านมา
หรือทราบประวัติจากคำบอกเล่าของใครก็ตาม
จะพบว่าท่านเป็นคนดี
ทำความดี
สนใจพระพุทธศาสนามาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กนักเรียน
ประพฤติปฏิบัติในคุณงามความดีเหล่านั้นตลอดมาทั้งชีวิตอย่างไม่สามารถหาใครมาเปรียบเทียบได้ในแผ่นดินนี้
หวังเพียงสร้างบุญบารมีให้ตนเอง
และชักชวนผู้คนให้รู้ตัว
ว่าชีวิตเกิดมาเพื่อสร้างบุญบารมี
แล้วรีบลงมือกระทำให้เต็มที่เท่านั้น
ไม่ได้ปรารถนาลาภ ยศ
สรรเสริญ สุข
ความยิ่งใหญ่ในโลกธรรมใด
ๆ คนทำบุญมามากมายขนาดนี้
(ไม่รวมในอดีตชาติ)
ต้องไม่พ่ายแพ้เหล่าคนที่มุ่งร้ายแน่นอน
เพราะคนเหล่านั้นไม่ตั้งใจสร้างความดีอะไรเลย
แม้แต่ศีล ๕ ข้อ
ยังไม่มีเลยสักข้อ
ศึกษาประวัติชีวิตของแต่ละรายดู
ก็ยิ่งน่าสงสารชาติบ้านเมือง
ล้วนแต่ปล่อยให้คนพาลมีอำนาจ
ประการที่สอง
จาก
วารสารกัลยาณมิตร
|