ทางเลือกใหม่ของวิถึชีวิตวัยรุ่น…ยุคอนาคต

โดย…วรธรรม

 

 

เยาวชนของเมืองใหญ่โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร เด็กหนุ่มสาวที่ยังอยู่ในวัยรุ่นเดินกันขวักไขว่ แต่งกายแปลกๆ ชอบกล เด็กผู้หญิงบ้างก็สวมใส่เสื้อผ้าแบบไม่มิดชิดจนขาดความสุภาพ ทั้งแต่งหน้าทาปากจนเกินวัย ส่วนเด็กผู้ชายก็พากันไว้ผมยาว หรือทำทรงแปลกกๆ มิหนำซ้ำยังเจาะหู เจาะจมูกกันให้วุ่น ในยามค่ำคืน วัยรุ่นมากหน้าหลายตาต่างเดินเข้าออกตามสถานเริงรมย์ เห็นเป็นปกติ ความดีงามแห่งกิริยามารยาท ตลอดจนวัฒนธรรมอันดีงามได้ถูกกลืนไปกับแสงไฟกระพริบที่คละเคล้าเสียงดนตรีที่ดังสนั่นหวั่นไหว แต่เชื่อหรือไม่ว่าในจิตใจชองเยาวชนเหล่านั้น เขามีความมั่นใจว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่นั้น "เป็นทางเลือกใหม่ที่เขาคิดว่าดีที่สุดสำหรับพวกเขาแล้ว.." ทางแห่งการดำเนินชีวิตในโลกใบนี้มี ๒ แพร่ง ที่ตรงกันข้ามกันเสมอ คือดีกับชั่ว สุขกับทุกข์ สบายกับลำบาก สุดแล้วแต่จังหวะของชีวิตจะพบเจอ แต่ส่วนใหญ่แล้วล้วนเป็นผลสืบเนื่องมาจากผลแห่งการกระทำในอดีตชาติ (กรรมวิบาก) แทบทั้งสิ้น หากชีวิตเป็นไปในทางที่ดีก็มักจะมีทางธรรมเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่เมื่อมีปัญหาวิถีชีวิตก็มักจะคลุกเคล้าสับสนอยู่แบบโลกๆ โดยส่วนเดียว

ราชกุมารซึ่งเป็นรัชทายาทของกษัตริย์แห่งศากยวงศ์ซึ่งเป็นพระญาติของพระบรมศาสดาจำนวนมาก ที่พรั่งพร้อมด้วยเบญจกามคุณชั้นเลิศอันเป็นของกษัตริย์ จะปรารถนาสิ่งใดก็แต่มีมาให้เสพเสวยถึงที่ประทับ แล้วเหตุใดเล่าเจ้าชายเหล่านั้นจึงปฏิเสธราชสมบัติเหล่านั้น แต่กลับมองเห็นการเดินทางไปเฝ้าพระบรมศาสดาและการศึกษาพระธรรมนั้นสำคัญกว่า… พระอนุรุทธราชกุมาร พระองค์เป็นผู้มีบุญมาก ขนาดคำว่าไม่มีก็ไม่เคยรู้จัก ชีวิตพรั่งพร้อมบริบูรณ์แทบไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากนั่งกินนอนกิน เพราะแม้แต่ข้าวปลาอาหารที่ก็วางรออยู่ในถาดทองคำ พระองค์ก็เข้าใจว่าถาดทางคำนั่นแหล่ะ คือสถานที่เกิดขึ้นของข้าวปลาอาหาร แต่เมื่อพระเชษฐาของพระองค์มาชวนออกบวชก็ตอบตกลง ด้วยพิจารณาเห็นว่าการครองชีวิตอยู่ทางโลกนั้นวนเวียนหาจุดสิ้นสุดมิได้ แต่ทางธรรมสามารถที่ขจัดปัญหาที่นำทุกข์มาให้ได้อย่างเด็ดขาด และมีจุดสิ้นสุดของการดำเนินชีวิตคือพระนิพพาน

นี่คือตัวอย่างของเยาวชนในสมัยพุทธกาล ที่มีทางเลือกให้กับชีวิตตนเองเหมือนกับเยาวชนในยุคนี้ แต่ผลแห่งการเดินตามเส้นทางที่เลือกนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง เยาวชนในยุคปัจจุบันพอลืมตาขึ้นมาเขาก็พบเห็นแต่สถานเริงรมย์แหล่งอบายมุข กอปรกับสื่อต่างๆ ที่ต่างก็เผยแพร่ภาพแต่เรื่องของความก้าวร้าวรุนแรง ภาพการเข่นฆ่า ล้างผลาญ แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันไม่เว้นแต่ละวันจนชินตา จนรู้สึกว่ากลายเป็นเรื่องปกติไป แล้วจะไม่ให้เขาเข้าใจได้อย่างไรว่า นี่คือความถูกต้องของสังคม

แต่หากบรรยากาศเหล่านี้เป็นตรงกันข้ามล่ะ … อะไรจะเกิดขึ้นกับสังคมของพวกเรา ณ จุดเริ่มต้นเล็กๆ ณ วัดพระธรรมกาย ธรรมทายาทรุ่นแล้วรุ่นเล่าที่เกิดขึ้นไปเป็นคนดีของสังคม อาสาสมัครกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า ล้วนแต่เป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่สังคมต้องการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองจะกลับกลายเป็นภาพใหม่ที่กำลังจะฉายชัดขึ้นท่ามกลางความขมุกขมัวของภาพเก่าที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายสับสน เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่านี่แหล่ะ คือทางเลือกใหม่ของเยาวชนโลกในอนาคต ทางเลือกใหม่ที่ยังรอรับเยาวชนทุกคนเสมอ