Top stories

ระบบออกซิเจนในยุคดั้งเดิมได้ทรุดโทรมลง

ระบบเครื่องกำเนิดออกซิเจนในยุคดั้งเดิมของสถานีอวกาศ Mir ของรัสเซียได้เสียลงเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อนักท่องจักรวาล ในการใช้ระบบดังกล่าวเพื่อให้ออกซิเจนในเวลา 2 เดีอนข้างหน้า

โดยระบบดังกล่าวเป็นระบบที่ก่อให้เกิดไปช่วงสั้น ๆ แก่สถานีซึ่งเป็นสาเหตุของความเสียหายส่วนน้อย

หนึ่งใน 2 ของหน่วย Elektron คือ การกำเนิดออกซินเจนจากนำเสียบนสถานี Mir ได้เสียเมื่อสัปดาก์ก่อนเพราะมีอกาาศอยู่ในระบบมากเกินไป ตามรายงาน หน่วยที่ 2 จะถูกกระตุ้นเมื่อหน่วยแรกเกิดได้เสียลง และได้ปิดตัวลงในวันที่ 7 มีนาคม เมื่อมีการตรวจพบไฮโดรเจนจำนวนมากเกินไป

เมื่อ Elektron ทั้ง 2 หน่วยถูกปิดลง ก็มีคน 3 คนบนสถานี Mir มาหมุนกลับระบบของส่วนลิเทียมหรือในส่วนที่เรียกว่าเทียนไข ซึ่งพวกเขาจะต้องมีความคุ้นเคยกับหารใช้ระบบกำเนิดออกซิเจนในยุคดั้งเดิมอยู่ก่อนแล้วเมื่อเวลาที่มีคนอยู่มากกว่า 3 คน บนสถานี

ในวันที่ 28 เดือนกุมภาพันธ์ หนึ่งในกลุ่มดังกล่วได้ก่อให้เกิดารติดไปขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเผาไหม้อยู่ประมาณ 90 วินาที ก่อนที่นักท่องจักรวาลจะดับมันลงได้ โดยไปตังกล่าวได้ทำให้เกิดความเสียหายกับ hardware บางอย่าง แต่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายมากนัก เจ้าหน้าที่ของรัสเซียสืบได้ว่า สาเหตุของไฟดังกล่าวมาจากการเกิดรอยแตกของกระสนปืนซึ่ถูกทำให้ร้อนและมีการรั่วไหลเกิดเป็นชนวนให้เกิดไปดังกล่าวขึ้น

มีเทียนไขประมาณ 185 อันบนสถานีกับสิ่งของที่จำเป็นอย่างน้อย 100 ชิ้น ซึ่งจะต้องในสถารพร้อมจะถูกใช้งาน เทียนไข 1 ถึง 2 อันจะถูกจุดขึ้นในแต่ละวันเพื่อทำให้เกิดออกซิเจนสำหรับชาวรัสเซีย 2 คน และอเมริกา 1 คน บนสถานี Mir

ท่านจะรู้สิกเกลียดการที่ได้เห็นว่าช่องว่างของริม มีพื้นที่ลดลง Frank culbertson ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้ควบคุมโปรแกรมไสถานี M\ir กล่าวว่ามันไม่เป็นสถานการณ์ที่ดีเลย แต่นั่นคือ สึ่งที่เราต้องทำในขณะนั้น

วิศวกรชาวรัสเซียกำลังทำการซ่อมแซมแผนการสำหรับหน่วย Elektron และทำการว่างแผนให้เสร็จอย่างช้าในเดีอนมีนาคม เมื่อมีการหำหนดให้ยานอวกาศจอดบนสถานี Mir และยานอวกาศจะถูกใช้อีกครั้งเพื่อนำ เครื่องมีอที่จำเป็นไปซ่อมแซมหน่วยงานดังกล่าว

ผู้ควบคุมชาวรัสเซียไม่สามารถทำการซ่อมแซมการปฏิบัติการ เพื่อนำห้อง capsule ไปใช้บนสถานี Mir ได้การดำเนินการ M-33 capule ได้ถูกซ่อมแซมไปไว้บนสถานีตั้งแต่เดีอนพฤศจิกายนแต่ยังไม่สามารถซ่อมได้ภายในเดือนก่อน จึงให้ยานอวกาศ Soyuz พานักท้องจักรวาล 3 คนไปดำเนินการซ่อมที่สถานี Mir

หลังจากความพยายามหลายครั้งที่จะซ่อมแซม capule บนสถานีดังกล่าวในเดือนมีนาคมอันที่ 4 ได้ล้มเหลวลง เจ้าหน้าที่รัสเซียจึงพยายามใหม่อีกครั้ง

ทางสถานีใช้เลาการติดต่อผู้ควบคุมภาคพื้นผ่าน่ทางดาวเทียม โดยดาวเทียมของรัสเซียดวงหนึ่งถูกใช้เพื่อติดต่อชึ่อว่า Altair-1 แต่ก็ไม่สำเร็จ ในขณะที่สายอากาศ บนสถานี Mir ถูกใช้เพื่อติดต่อกับดาวเที่ยมดวงอื่น ๆ ก็ทำงานได้ไม่นาน

ลูกเรือบนสถานี Mir จึงทำการติดต่อสื่อสารกับทางผู้ควบคุมการส่งยานอวกาศที่สถานีภาคพื้นของรัสเซียและสหรัฐ เพื่อซ่อมแซมส่วนของสายอวกาศ เพื่อนำไปใช้บนสถานีในการส่งยานอวกาศ

ลูกเรือที่มีอยู่ในเสลานี้ประกอบด้วยนักท่องจักรวาลชาวสหรัสชื่อ Jerry Linenger ผู้ซึ่งเคยอยู่บนสถานีดังกล่าวเป็นเวลา 2 เดีอนและ Vasily Tsibliver และ Alexander Lazutkin ชาวรัสเซีย

โดย Tsiblier และ Lazutkin อยู่ได้บนสถานี Mir ตั้งแต่เดือนที่แล้ว โดยพวกเขามาแทนที่ Valer Korzun และ Alxander Kaleri ซึ่งเดินทางกลับโลกไปกับนักท่องจักรวาลชาวเยอรมัน ที่ชื่อ Reinhold Ewald เมื่อเดือนมีนาคมวันที่ 2

นักวิจัยพบหลักฐานสนับสนุนการมีชีวิตอยู่ในอดีตบนดาวอังคาร

2 ทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ Caltech และหมาหวิทยาลัย Wisconsin ได้พบโครงสร้างที่เป็นกุญแจสำคัญจาก Martain meteorite Alit 84001 ซึ่งเกิดขึ้นที่อุณหภูมิที่มีความต่ำเพียงพอว่ามันได้ถูกสร้างขึ้นโดย สิ่งมีชีวิตเก่าแก่บนดาวอังคาร

สิ่งที่ค้นพบถูกประกาศวันที่ 13 มีนาคม จากการโต้เถียงในเรื่องข้อสงสัยที่เชื่อกันว่าเม็ดคาร์บอเนตที่ถูกพบภายใน metriorite เก่าแก่นั้น ถูกสร้างที่อุณหภูมิสูงมากนั้นมันเป็นความร้อนที่สูงเกินกว่าที่จะมีสิ่งมีชีวิตอยุ่ได้ การค้นพบได้ถูกตีพิมพ์อย่างแพร่หลายต่อสาธารณชนในหนังสือการเดินทางด้านวิทยาศาสตร์

ผู้นำกลุ่มของมหาวิทยาลัยWisconsin ชื่อMadison และผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาชื่อ John Valley ได้ทำการวิเคราะห์ไอโชโทปพบว่า เม็ดคาร์บอเนตจะต้องถูกสร้างขึ้นที่อุณหภูมิไม่เกิน 100 ํc ชึ่งการศึกษาดังกล่าวได้เป็นเครื่องยืนยัน ถึงจุดกำเนิดของดาวอังคารว่ต่างกับพื้นโลก

กลุ่มแยกย่อยซึ่งนำโดยนักธรณีวิทยาของ Caltech ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญชื่อ Joseph Kirschvink ได้ตรวจสอบอำนาจแม่เหล็กของ Metforite , Kirschvink และทีมงานได้สรุปว่า เม็ดเล็กๆจะต้องเกิดที่อุณหภูมิตำแน่นอน

นักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆในสมัยก่อนได้ตั้งสมมุติฐานว่า เม็ดคาร์บอเนตจะต้องเกิดที่อุณหภูมิสูงประมาณ 650 ํC ซึ่งสูงเกินไปสำหรับการดำรงชีวิต ดังนั้นที่อุณหภูมิต่ำกว่าจึงจะช่วยรักษาความเป็นชีวภาพไว้ได้ รวมทั้งส่วนที่เป็นอนินทรีย์อื่นๆด้วย