เรื่องของหัวหน้าวง

ขอบคุณที่มาของงเรื่องราวครับ ที่นี่

Yoshiki เป็นเพื่อนกับ Toshi มาตั้งแต่เด็ก เรียนรร.เดียวกัน ตั้งแต่อนุบาล ม.ต้น จนถึง ม.ปลาย สมัยแรกๆ Yoshiki ไม่ยอมเปิดเผยประวัติส่วนตัวของเขาเลย ไม่ว่าจะเป็นชื่อจริง วันเดือนปีเกิด กรุ๊ปเลือด สถานที่เกิด เราจะระบุว่า X ตลอด นั่นเป็นนโยบายของเขาเอง Yoshiki มักพูดเสมอว่า "X" คือทุกสิ่งทุกอย่างของผม ประวัติของเขาจึงมีแต่ X เต็มไปหมด แต่ด้วยความเป็นเพื่อนกับ Toshi จึงทำให้รู้ว่า เขาอายุเท่าไหร่ เกิดที่ไหน เหตุผลที่แท้จริงที่เขาไม่ยอมเปิดเผยวันเกิดนั้นก็เพราะว่า เขาจะรู้สึกเขินเมื่อถึงวันเกิดของเขาแล้วทุกคนแสดงความยินดี ทำให้ได้รู้ว่าเขาขี้อายมากๆ ชีวิตในวันเด็กนั้นมีอุบัติเหตุและเหตุการณ์มากมาย เช่น ในสมัยประถม เขาจะมีความทรงจำกับรพ.มากกว่ารร.เพราะป่วยเป็นโรคหืดหอบ(ปัจจุบันหายแล้ว)
เดินบนถนนกับแม่ก็ถูกมอเตอร์ไซด์ชน ข้ามทางม้าลายก็ถูกรถชน
Yoshiki เองยังพูดว่า "ดวงไม่ดีมันมาแรง" ในวันเกิดครบ 10 ขวบ ตอนที่เขาอยู่ ป.5 เขาได้รับกลองเป็นของขวัญวันเกิดจากแม่ ซึ่งปกติเขาจะได้รับเครื่องดนตรีเป็นของขวัญวันเกิดทุกปีจนถือเป็นธรรมเนียม หลังจากที่เขากลับบ้านก็พบกลองตั้งอยู่กลางห้องและตัวเขาเองก็ไม่เคยสนใจกลองมาก่อนเลย ที่ได้กลองเป็นของขวัญเพราะ พ่อของเขาอยากให้ตีกลองเป็นมือกลองที่ดีให้ได้ และตอนอายุ 5 ขวบ เขาก็ได้รับของขวัญเป็นเปียโน ตัวเขาเอง เริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่ 5 ขวบ เพราะพ่อแม่อยากให้เขาเป็นนักเปียโน นอกจากเรียนเปียโนแล้ว ก็ให้เรียนคัดอักษร วาดภาพ ลูกคิด ภาษาอังกฤษ เรียงความ และการเรียนเปียโนเป็นสิ่งที่เขาเล่นติดต่อกันนานที่สุด แม้ระหว่างนั้นเลิกเล่นไปหลายครั้ง แต่พอเวลาผ่านไประยะหนึ่งเขาก็เริ่มหันมาดีดเปียโนใหม่ เมื่อเข้าเรียน ม.ต้น ร่างกายของเขาเริ่มแข็งแรงขึ้น และเข้าร่วมชมรมดนตรี เป็นชมรมที่มีชื่อเสียงมาก ชนะการประกวดได้อัดแผ่นเสียง Yoshiki เล่นทรัมเป็ต Toshiเล่นยูนิฟอเนี่ยม แต่ต่อมาเขาเริ่มรู้สึกว่าการเล่นเครื่องดนตรีเบาๆ เริ่มไม่เต็มอารมณ์ จึงหันมาเล่นกีฬา เขาเลือกเล่นฟุตบอล เขาอธิบายว่า "เพราะเป็นกีฬาที่เหมือนคนทะเลาะกัน" และอีกสาเหตุหนึ่งเพราะเขาอยากปล่อยพลังงาน แต่เล่นได้ไม่นานก็เลิกไป และเขามีความคิดที่จะตั้งวงดนตรีขึ้น โดย Yoshiki เล่นกลอง Toshi ยังไม่ได้เป็นนักร้องนำ แต่มีหน้าที่เล่นกีตาร์ Yoshiki เคยเข้าประกวดระหว่างห้องจนกลายเป็นฮีโร่ในห้องเรียนไป เพราะเป็นเด็กเกเรแต่กลับดีดเปีนโนได้อย่างสง่างาม ไม่เพียงแต่นักเรียน อาจารย์เองก็ตกใจและคิดไม่ถึง เขารู้สึกสะใจมาก ม.3 รร.ที่เขาเรียนแบ่งออกเป็น 2 รร. ตัว Yoshiki และ Toshi ถูกย้ายไปเรียนที่ใหม่ ส่วนสมาชิกคนอื่นๆ อยู่รร.เก่า เขาพบเพื่อนร่วมชั้นใหม่ คุณครูคนใหม่ ตึกเรียนใหม่ จึงทำให้เขาเริ่มเกเร สร้างปัญหามากมายให้คุณครูและรร.ใหม่ โดยปกติเขาก็ไม่ใช่เด็กเรียบร้อยอยู่แล้ว เขาจึงมีปัญหากับอาจารย์เป็นประจำ ย้อมสีผมตลอดถึงขนาดเคยโดนโกนหัวถึง3ครั้ง ชอบซิ่งมอเตอร์ไซด์และอาละวาดในรร.เป็นประจำ
หลังสิ้นสุดพิธีจบการศึกษาของชั้น ม.ต้น เขาถือดาบไม้ไปขอบคุณอาจารย์ที่ห้องพักอาจารย์ และเขาได้ทำลายตึกใหม่ อาคารต่างๆ จนพัง แต่ถึงกระนั้นเขาก็แตกต่างจากเด็กเกเรทั่วไป เพราะนิสัยที่ไม่ชอบยอมแพ้ใคร จึงทำให้เขาขยันเรียนกว่าเพื่อนๆ ทำให้คะแนนของเขาดีมาก Toshiก็เคยบอกว่า "Yoshikiเก่งทุกอย่าง เป็นเด็กเกเรที่หัวดี"เขาเป็นเด็กเกเรที่ใครๆ ก็รับมือไม่ไหว แต่คะแนนการเรียนของเขานั้นยอดเยี่ยมมากจนเพื่อนๆ อิจฉา สำหรับคุณครูแล้วไม่มีเด็กคนไหนที่ดูแลยากขนาดนี้อีกแล้ว Yoshiki เริ่มรู้จักกับดนตรีแนว Rockตั้งแต่อยู่ชั้น ป.5 และเขาก็รู้จักกับวง Kiss จากโปสเตอร์หน้าร้านขายเทป และพอรู้ว่า Kiss จะมาแสดง concert ที่ญี่ปุ่นจากหน้าหนังสือพิมพ์ จึงขอให้แม่พาไปดูและเป็นการดูการแสดงสดครั้งแรกของเขา และจากการที่เขาได้ดูการแสดงสดครั้งนี้ ทำให้เขาได้รับอิทธิพลจากการแสดงบนเวทีของ Kiss และเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาตั้งวงดนตรีขึ้น และเพื่อนที่จะคุยเรื่องนี้ได้ก็มีแต่ Toshi เท่านั้น ตอนที่เขาได้รับกลองเป็นของขวัญทำให้เขาอยากเป็นมือกลอง แม้ตอนนั้นจะเล่นเป็นแต่เปียโน แต่เขาก็มีความคิดที่จะนำไปใช้กับดนตรีแนว Rockและคิดจะตั้งวงอย่างจริงจัง เขาเป็นนักร้องนำโดยตีกลองไปด้วย แต่เสียงของเขาเปลี่ยนช้า ทำให้เวลาร้องเพลงก็จะถูกเพื่อนล้อว่า "เสียงเหมือนเด็กทารก น่ารักจัง" ทำให้เขาเลิกร้องเพลงไปเลย เขาเริ่มตั้งวงอย่างจริงจัง ก็ตอนอยู่ ม.1 เขาเป็นหัวหน้าวง ม.2 มีโอกาสแสดงบนเวทีในงานรร. และม.3 ก็ได้จัด concert โดยยืมศาลาประชาชนประจำเมือง ตอนนั้นใช้ชื่อวงว่า "Noise" YoshikiและToshi เริ่มแสดงในสถานที่ต่างๆ มากขึ้นและเริ่มแสดง concertของตัวเอง นอกจากนั้นยังเข้าประกวดในงานต่างๆ ด้วย ชีวิตในวัยเรียนของเขาจะเล่นดนตรีเป็นส่วนใหญ่แต่เขาก็ยังเกเรเหมือนเดิม พอขึ้นชั้น ม.ปลาย การต่อต้านเริ่มรุนแรงขึ้น ตัวเขาเองบอกว่า "ชั้น ม.3,4,5 ทั้ง 3 ปี จบลงอย่างสมบูรณ์" ในตอนนั้นเขาไม่สนใจอะไร คิดแต่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง แม้ว่าจะรอดจากการถูกไล่ออก แต่ก็ถูกพักการเรียนไปหลายครั้ง และก็เคยถูกตำรวจจับด้วย แต่พายุแห่งการต่อต้านเริ่มจางลงเมื่อใกล้จะจบชั้น ม.5 เมื่อเขาพบกับปัญหาเกี่ยวกับการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย นอกจาก Yoshikiและ Toshi แล้ว สมาชิกคนอื่นๆ ขอถอนตัวหมด เขาหาสมาชิกใหม่และเปลี่ยนชื่อวงใหม่ว่า "X" ที่เขาตั้งชื่อนี้เพราะเห็นว่าเป็นอักษรตัวเดียวจะสะดุดตามากกว่า เพราะตอนนั้นกำลังฮิตชื่อยาวๆ (ทีแรกเขาไม่จริงจังกับการใช้ชื่อนี้ แต่เพราะยังไม่รู้ว่าจะใช้ชื่ออะไรเลยใช้ไปพลางๆ ก่อนแล้วเกิดชอบใจก็เลยไม่ได้เปลี่ยน) นอกจากจะเล่นเพลงเลียนแบบ Iron Maiden แล้ว ก็เริ่มทำเพลงของตัวเองด้วย เพลง I'll kill you ที่พวกเรารู้จักกันก็เป็นเพลงที่แต่งตั้งแต่ในตอนนี้ด้วย แม้สมาชิกจะลาออกไปแต่ Yoshikiและ Toshi ก็เห็นว่าการทำวงต่อเป็นเรื่องสมควร ความหวังของเขาคือเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยดนตรี เพราะเขาอยากเป็นนักเปียโน ก็คิดว่าถ้าไม่จริงจังคงไม่เรียนต่อในมหาวิทยาลัยแน่นอน เขาซ้อมวันละ 6ชม. นิ้วเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเปียโน ทำให้เขาต้องดูแลรักษานิ้วเป็นอย่างดี ขนาดล้มยังเอาเข่าลงแทนมือ แต่เรื่องตีกลองก็เป็นปัญหาสำหรับเขา เพราะครูสอนเปียโนจะดุเขาเรื่องแผลที่เกิดจากการตีกลอง แต่เขาก็ยังไม่ยอมทิ้งกลองระหว่างเล่นเปียโน ตอนนั้นเขาไม่คิดว่าจะประสบความสำเร็จกับวงดนตรีหรือการเป็นนักดนตรีแนว Rock ซึ่งทำให้ตัวเขาแปลกใจว่า "ตอนนั้นแม้จะถูกครูสอนเปียโนดุด่าเรื่องตีกลองแต่ก็ยังไม่เลิกตีกลอง" เขาขมักเขม้นกับการฝึกทำนอง ซอลเฟจู และคอลยู บูเก็น แต่ก็ยังเล่นกับวงดนตรีแต่เฉพาะช่วงที่ว่างเท่านั้น และ 1อาทิตย์ก่อนการสอบเข้า ก็ซ้อมหนัก แต่จู่ๆ ก่อนการสอบ 1 วัน เขาก็พูดขึ้นมากระทันหันว่า "จะเลิกสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย
เขาบอกกับแม่ว่า "แม่ครับ ผมอยากเป็น ROCK STAR!" เป็นเรื่องที่ทันด่วน ทำให้คนรอบข้างและแม่ของเขาตกใจและสับสนไปตามๆ กัน แต่การตัดสินใจของเขาหนักแน่น ไม่ว่าใครจะหว่านล้อมยังไงก็ไม่สนใจ เขาเริ่มที่จะแต่งเพลงและเล่นเองอย่างอิสระ แต่เขาก็ยังมีความคิดที่ว่า "เพลงคลาสสิคเป็นการเลียนแบบเพลงคนอื่น" ในการประกวดตอน ม.6 Toshi ได้รับรางวัล Best Vocal และ Yoshiki ได้รับรางวัล Best Drum และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจเช่นนั้น แถมยังรู้สึกว่าตัวเองอาจมีความสามารถที่ไม่จำกัด แฝงอยู่ด้วย(อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาใช้ชื่อวงว่า X เพราะเขาเคยบอกว่ามันหมายถึง ความไม่มีที่สิ้นสุดหรือ Infinity) เมื่อเขารู้สึกว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยดนตรีเพื่อเป็นนักดนตรีมันตัน ก็ทำให้ความฝันในการตั้งวง Rockในใจเขาเริ่มพองโตขึ้น การที่เขาล้มเลิกการเข้าเรียนต่อ เขาก็นัดแนะกับ Toshi ว่า "เอาวะไปตายเอาดาบหน้า กะว่าถ้าแม่ของเราด่าก็เก็บกระเป๋าก้าวลงบันไดไปโตเกียวเลย" ปรากฏว่าที่บ้านของทั้ง 2 ตกใจมาก แต่ก็ไม่ห้ามอะไร อยากไปนักก็ให้ไป ทั้ง 2 ก็ขึ้นรถไฟไปโตเกียวหลังจากที่เรียนจบม.6 เพื่อที่จะทำให้ X เจริญเติบโตขึ้น เขากับ Toshi เริ่มทำงานพิเศษพร้อมกับหาสมาชิกไปด้วย ทั้ง 2 เช่าอพาร์ตเมนท์อยู่ด้วยกัน ทำงานพิเศษทุกอย่าง ไม่ว่าจะเสิร์ฟอาหารกวาด-ถูพื้นร้าน ระหว่างทำงาน ก็ทำเพลงไปเสนอค่ายเทปด้วย แต่เงินที่ได้มาก็ไม่พอใช้ ในที่สุดเขาก็เขียนจม.ไปขอตังค์แม่ของเขา ซึ่งแม่ของเขาก็ให้ Yoshiki ชอบสไตล์ผมและการแต่งหน้าแบบตนเอง ไม่เหมือนใคร ทรงผมของเขานั้นก่อนเข้าวงการคือ ผมตั้งแบบหอยเม่น และมักจะทำผมตั้งขึ้นเวทีอยู่เสมอ ตอนที่ X เปลี่ยนสมาชิกวง ทำให้แสดงดนตรีไม่ได้ เขาได้ไปช่วยวงอื่นตีกลอง ตอนนั้นเขาไม่มีเวลาเลยขึ้นไปแสดงบนเวที ทั้งที่ผมตั้งแค่ครึ่งเดียว เมื่อตั้งผมครึ่งเดียวจึงแต่งหน้าซีกซ้ายและขวาไม่เหมือนกัน ครึ่งนึงเป็น Punk อีกครึ่งเป็น Heavy Metal มันแสดงถึง 2 บุคลิกในคนเดียว เจ้าตัวเองก็ชอบใจเอามาก สาเหตุที่ถูกใจมากที่สุดก็คือ ดูเด่นดีและไม่เหมือนใคร จากที่ต้องเปลี่ยนสมาชิกบ่อยๆ ทำให้ Yoshikiท้อแท้และพูดว่า "เลิกซะดีมั้ย" สมาชิกของ X ตอนนั้นมีแค่ Yoshikiและ Toshiเท่านั้น การซ้อมที่มีมือกลองและนักร้องนำนั้นทำไม่ได้ และคนที่เป็นกำลังใจให้ Yoshikiก็คือ Toshiนั่นเอง Toshiมักจะอยู่เคียงข้าง Yoshiki เสมอมา Toshiบอกว่าตอนนั้นรู้สึกว่าควรทำอะไรให้มันติดต่อกัน สมาชิกเปลี่ยนบ่อยมากถึงขนาดเคยคิดว่า "ถ้าเอาหินปาใส่นักดนตรีใน Harajuku คงจะถูกอดีตสมาชิกวง X สักคนหนึ่ง" ซึ่งหลังจากที่ Yoshiki สามารถทำให้ Taiji ยอมเข้าวงได้ก็เริ่มการแสดงสดอย่างจริงจัง แถมยังมีการอาละวาดบนเวที ล่างเวทีก็ทะเลาะกับเจ้าหน้าที่ในงานดื่มฉลองหลังเสร็จงาน ทั้งผู้เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้อง นักดนตรีและแฟนเพลงแน่นไปหมด จึงทะเลาะกันใหญ่เป็นประจำทุกวัน Yoshiki ชอบทำแก้วในร้านแตกหมดและชอบเหวี่ยงขวดเบียร์หลาย 10 ขวด จนเป็นข่าวลืออยู่เป็นประจำ เลยทำให้ร้านเหล้าห้ามไม่ให้เขาเข้ามากขึ้น ถึงขนาดที่ร้านเหล้าแถว Shibuya ต้องตรวจหาว่า " มีคุณ Yoshikiมาด้วยรึเปล่า" Yoshikiนั้น มีท่าทางยิ้มแย้มและสุขุมมากเหมือนเด็กหนุ่มที่น่ารัก ในเวลาพักผ่อนเขาเป็นคนร่าเริง พูดเก่งและเป็นมิตรมาก จากท่าทางการเดินเทเหล้าในสมาชิกวงดนตรีอื่นๆ ในวงเหล้านั้น ไม่มีท่าทีอันบ้าระห่ำที่ว่า "เป็นมือกลองที่พอเมาแล้วเหมือน!ประหลาดอาละวาด" หลงเหลืออยู่เลย มันแตกต่างจากคำเล่าลืออย่างสิ้นเชิง หน้าตาที่ล้างเครื่องสำอางค์ออกนั้นงดงามมากจริงๆ ในการสัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง เขาพูดถึง concert กลางแจ้งที่ Hibiya Toshiจะล้อ Yoshiki ว่า "ถ้าจะฆ่า Yoshiki ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ แค่ให้เล่นเพลงเร็วๆ ติดต่อกันก็พอแล้ว" ทำให้ Yoshiki ตอนพักหายใจแล้วพูดว่า "เมนูการแสดงกลางแจ้งมันสุดยอดแล้ว แต่มันอาจเป็นวันตายของผมก็ได้ครับ" Yoshikiมีดี 2ด้านคือ สามารถเล่นกลองหนักๆ ได้ เหมือนมนุษย์มหัศจรรย์และพลังในการ Solo กลองมันอัดแน่นมาก แต่ในทางกลับกันก็เล่นเปียโนได้อ่อนหวาน นับเป็นอะไรที่แปลกและน่าประทับใจจริงๆ และในเมื่อ X คือทุกสิ่งทุกอย่างของ Yoshiki ดังนั้นอย่าแปลกใจที่ประวัติของเขาไม่ได้จบลงท้าย ด้วยคำพูดที่สวยงาม