*For Thai Version Only. *
Really sorry for English Version because this
article's concerning many Thai people (It's hard for you to know them and
their adapted names ) and maybe also Thai Culture, we're afraid you didn't
get what we are talking about. The stuff of this article just only review
what happen in the previous year and what's the pressure make us built
this Hp? Do you think it's interesting? If so, don't high hope to us because
our permanent habbit is to make people disappointed ha ha ha... (Hey Hey!
If you really want to know what happen for the latest year in Thailand,
mail to us. If it's more enough, maybe we try to translate into English
na. (Kin: Foolish proud Gin, but how about your target? ; Gin: Just only
4000 ; Kin: Dream On and Day Dream!! ; Gin: 4000 words, not 4000 issues.
Hey Kin, how well ma gagM ; Kin: Ugly & Stupid!)
POSE คืออะไร POSE เป็นอย่างไร เชิญหาความสำราญกันได้ ณ บัดนี้.... แต่ จะหาเจอหรือไม่ อันนี้ไม่รับประกันนะ จะบอกให้
คำเตือน เรื่องที่จะได้อ่านต่อไปนี้คือเหตุการณ์จริง แต่อยู่บนพื้นฐานความคิดเห็นและความจำของเราสองตัว ไม่เข้าหูใครก็ขออภัยนะจ๊ะ ชื่อสมาคม บุคคลที่เกี่ยวข้องและถูกอ้างอิงทั้งหลาย ได้ถูกดัดแปลงและแก้ไขใหม่ ไผเป็นไผก้ออนุมานเอาเองเด้อก้า
K = Kinkaku
G = Ginkaku
G: ครับ สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้อง มาในวันนี้ Gin จังจะขอ...
K: นี่แกนะมาทำงานหรือจะมาขายมือถือ
G: แหม แหม ก็ทักทายกันก่อน แต่ SIEMENS C25 นี่ก็น่าสนนะ แต่งเพลงเองได้ตามใจชอบ ถ้ามีสักเครื่องล่ะก็ จะทำเป็น LEMONed I Scream ให้ดู เอ้ย ให้ฟัง ว่าแต่ทาง SIEMENS ครับ กรุณาจ่ายฆ่าโฆษณามาด้วยนะครับ คือของอย่างนี้ไม่มีคำว่าฟรี
K: เฮ้ย! ตูข้าว่า 1 2 call ดีกว่าว่ะ ใช้ง่าย ไม่เสียค่าบริการรายเดือน เอ่อ ทางชินวัตรครับ ผมขอเช็คเงินสดนะครับ เช็คเด้งไม่เอา แล้วบิลผมก็ไม่มีให้ อยากได้ไปถามเอกพันธ์เอานะครับ
G: อ้อ ตกลงเราจะมาขายมือถือกัน ได๋ค่ะ ต่อไปก็...
K: พอๆๆ เข้าเรื่องกันได้แล้ว ตกลง POSE คืออะไร แล้วทำไมต้องเป็น POSE
G: POSE ก็คือคอลัมน์นี้งัย... แหะๆ ล้อเล่นน่ะไม่ต้องทำตาเขียวก้อด้าย เอาจริงล่ะ ที่เลื่อกคำว่า POSE ก็เพราะความหมาย คือคำๆ นี้จะมีความหมายหลายอย่างมาก แต่ที่เราปิ๊งก็มีอยู่ 2 ความหมาย ความหมายแรกทุกคนคงรู้ดีกันอยู่แล้ว ก็คือPOSE ท่าถ่ายรูป ถ่ายแบบ ก็แบบที่เราสองตัวมานั่ง POSE ท่าคุยกัน โม้กัน ก็ครือๆ กันนั่นล่ะนะ ส่วนความหมายที่สองเป็นนโยบายของ KAKU Brothers ที่จะไม่บอก อยากให้คนอ่ายได้ค้นหาความหมายกันเอาเอง
K: คิดว่าอ่านจบแล้ว ทุกคนคงจะเข้าใจความหมายที่สองของ POSE
G: ช่ายแหล่วๆ เออนี่ ยังมีบางคนเค้าไม่รู้นะว่าเราสองตัวเนี่ย ตัวผู้หรือตัวเมีย
K: เอ่อ.. ไม่สังกัดเพศ และไม่ฝักไฝ่ฝ่ายใดเป็นพิเศษขะรับ
G: อีนี้ฉาน Hermahprodite กระเทยแท้ สองเพศในตัวเดียวฮ่ะ อ้อ POSE นี่ให้พวกเรามานั่งไขข้อข้องใจสงสัยของท่านอื่นหรือฮะเนี่ย เพิ่งทราบเดี๋ยวนี้เอง
K: โธ่ นังประเทือง ไม่ต้องดีดดิ้นขนาดนั้น เขาก็รู้กันแล้วว่าแกเป็นกระเทย ต่อกันดีกว่าขะรับ โฮ่ คำถามนี้ท่าทางจะสนุก ถามว่าทำไมถึงบ้าจัง เอาเชื้อบ้ามาจากไหน
G: ทำไมบ้า หมอไม่ได้บอก เอาเชื้อบ้ามาจากไหน ไม่ใกล้ไม่ไกล มาจากท่านชายผมชมพูนั่นเองฮ่ะ
K: คำถามทำไมบ้า Kinจัง ตอบเองดีกว่าขะรับ
G: แหวะ Kinจัง อ้วกๆๆ
K: ไอ้ ปี๊ป...(Censor. Parental Advisory Explicit Words) แฮ่ม.. ต่อจากเมื่อสักครู่นี้นะขะรับ ถามว่าทำไม มันก็ต้องมีสาเหตุ และสาเหตุที่ทำให้เราบ้าก็เคยบอกไว้แล้วใน Psycommunity Exit ว่าเกิดจากหลายๆ อย่าง หนึ่งในนั้นก็คือแรงกดดัน ซึ่งสาเหตุนี้แหละขะรับที่สำคัญที่สุด
G: ช่ายๆ แรงกดดันอันหย่ายหลวงฮ่ะ
K: แล้วแรงกดดันอันนี้ก็มีที่มา ยาวสักหน่อย จะฟังไหมขะรับ
ฟัง ฟัง
K: ขะรับ ก็พอภาพเหตุการณ์นั้นถูกแพร่ภาพออกไป เรื่องราวมันก็ลุกลามใหญ่โตขึ้นมาทันที โดยมีสถานีโทรทัศน์ขาวดำ อ้ายทีวี ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะคิดว่าเหตุการณ์วันที่ 7 พค. 2541 มันเป็นเรื่องที่ผิดปกติวิสัยของธรรมดาสามัญชน หารู้ไม่ว่าพวกเรามันคนไม่ธรรมดา
G: อ๋อ อ้ายทีวี ที่มีสโลแกนว่า กัดแล้วปล่อยไม่ใช่ตู ใช่อ๊ะป่ะ
K: นั้นแลขะรับ คือทางอ้ายทีวีสงสัยเหลือเกินว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้วัยรุ่นไทยกลุ่มหนึ่งไปนั่งร้องห่มร้องไห้ ยังกะญาติเสีย ให้กับศิลปินที่เขาไม่เคยรู้จักจนกระทั่งเกิดเรื่อง แล้วเขาก็อนุมานเอาเองว่า เพราะเรารับเอาวัฒนธรรมมาจากพี่ยุ่นมามากเกินไป ซึ่งมันไม่ใช่ ถ้าจะพูดให้ถูกต้องจริงๆ ต้องบอกว่า พวกเราเรารับเอาวัฒนธรรมตะวันตกผ่านทางญี่ปุ่นนั้นแลขะรับ
G: ก็แปลกดีนะฮะแลที่เรารับวัฒนธรรมตะวันตกมาโดยตรงกลับไม่ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือน่าเป็นห่วง แต่พอรับผ่านทางญี่ปุ่นเท่านั้นแล เป็นเรื่องเลยแล
K: ใช่แล้วแล แต่ว่าแก ไม่ต้องมาบ้าตาม Kinจังเลยแล
G: อ๋อ ได๋ฮ่ะ แล้ว Kinจังพอจะบอกได้ไหมล่ะฮะว่า ทำไมเราถึงได้ไปนั่งร้องห่มร้องไห้กันขนาดนั้น
K: ก็คิดภาพตามนะขะรับ วันนั้นวันที่ 7 พค. เพิ่งเกิดเรื่องได้ 5 วัน พวกเราส่วนใหญ่ก็คงยังช็อคและเศร้ากันไม่หาย แล้วพวกเราก็มาชุมนุมในสถานที่ที่มีเพลง Forever Love version ใน Ballad Collection ซึ่งเจ้าภาพเอาใจมาเปิดคลอเป็นเพลง score ตลอดงาน ประกอบกับวิดิทัศน์ Psyence A Go Go Tour แถมท้ายด้วยเสียงสวดพระอภิธรรม วะฮะฮะ คุณจะหัวเราะออกไหมหละขะรับ อย่างนี้เขาเรียกว่าบรรยากาศเป็นใจ แต่ถึงพวกเราจะร้องไห้ ก็ไม่ได้ฟูมฟายขนาดภาพที่เผยแพร่ออกไปหรอกขะรับ ถ้าจะให้พูดอย่างตรงๆ ที่สุดล่ะก็ ต้องบอกว่า มายาทีวีมันซุงแหล คือเขาจะถ่ายภาพแต่ของคนที่ร้องไห้มากๆ แล้วก็ฉายภาพนั้นซ้ำไปซ้ำมา ทำให้บรรยากาศของงานดูฟูมฟายเกินจริง สรุปก็คือ หลังจากงานนี้พวกเราก็ถูกลำแสงนองอุลตร้าทาโร่กลายเป็น ก๊อตซิลล่า กาเมล่า และเอ็ทเซ็ททร่า (ect.) กันไปหมดในสายตาของอ้ายทีวีและผู้ใหญ่บางคนซึ่งไม่พยายามเข้าใจเรา
G: เช่นนั้นเอง ความแค้นเริ่มสุมอกแล้วใช่ไหมล่ะฮ่ะ
K: มันก็คงไม่เท่าไหร่ถ้าเรื่องจบแค่นี้นะ แต่รู้สึกทางอ้ายทีวีจะติดใจประเด็นนี้มาก ก็เลยมีเหตุการณ์ต่องเนื่องกันมา นั่นก็คือรายการ อ้ายทีวีต๊อก(ต๋อย) และตามมาติดๆ ด้วยรายการ ใส่รหัส แต่คราวนี้เรามิได้ถูกกัดแต่เพียงลำพังแล้ว ทางอ้ายทีวีหาคนกัดเพิ่มเป็นเพื่อนพวกเรา และคนที่ได้รับเกียรติอันสูงส่งนี้ก็คือ ยายเจ้คุง
G: ทำไมต้องเป็นยายเจ้คุงล่ะฮ่ะ
K: ก็ในฐานะที่แกป่าวประกาศอยู่เสมอว่า ข้าพเจ้านี่แหละเป็นคนทำให้ X-Japan ดังคับฟ้าเมืองไทย ทางอ้ายทีวีก็เลยอนุมานเอาว่า เอ้า ในเมื่อเธอทำให้วงๆ นี้มันโด่งดังได้ขนาดนี้ ให้เด็กหลงใหลได้เพียงนี้ ด้วยวิธีการโปรโมทแบบผิดๆ นี้ แล้วมันก็เกิดเรื่องนี้ ฉะนั้นเธอก็จงรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ ประมาณนี้แลขะรับ
G: อ้อ เช่นเจ็ดถึงแปดนี้เอง แล้วแรงกดดันที่เกิดขึ้นจากรายการอ้ายทีวีต๊อก(ต๋อย) และใส่รหัสคืออะไรล่ะฮ่ะ
K: โฮ่ มันก็คือ คำให้สัมภาษณ์ของคนสองสามคนน่ะขะรับ คนแรกก็คงไม่พ้นยายเจ้คุงล่ะขะรับ พอโดนเล่นงานเข้าอย่างนี้ ยายแกก็ออกมาปฏิเสธว่า เออ อีนี้ฉานไม่รับผิดชอบนะจ๊ะ เพราะเด็กกลุ่มนี้เป็นชนกลุ่มน้อยของแฟน X-Japanกลุ่มใหญ่ เด็กกลุ่มนี้เห็นศิลปินเป็นพระเจ้า เด็นกลุ่มนี้แหละที่อีนี้ฉานcontrolไม่ได้ กลุ่มนี้แหละที่ทำให้แฟนๆ ของ X-Japan แปดเปื้อน...
G: เฮ้ยๆ แกจะใส่สีเขามากไปหน่อยม้าง...ฮ่ะ
K: อ้าวเหรอขะรับ แหมกำลังเพลินเชียวเวอร์แต่จริงนะขะรับ คนต่อไปก็จิตแพทย์ขะรับ ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจิตแพทย์เธอตรวจสุขภาพจิตตัวเองบ้างหรือเปล่า คือเธอกล่าวว่าเด็กที่ต้องการฮีโร่เนี่ยคือเด็กขาดความอบอุ่น Kinจังก็มานั่งสงสัยว่า ตัวเองขาดความอบอุ่นตรงส่วนไหนของร่างกาย สำรวจครบทุกส่วนแล้วก็ยังไม่เจอส่วนที่มันเย็นเลยขะรับ และคนสุดท้ายนี่จนตายก็จะแค้นมันตลอดไปขะรับ บุคคลที่กล่าวถึงนี้ก็คือ มือกีตาร์วงสิวหัวช้าง ไอ้คุณแอ้ก ตาแกพูดประมาณว่า ตัว e-well ตายไม่เสียดายเท่าแผ่นCDของมันหาย อะโห ฟังแล้วอยากจะalternaถีบเลยล่ะขะรับ ไม่ทราบเหมือนกันว่าตาแกใช้ปากหรืออวัยวะเบื้องล่างพูด แต่ไม่ว่าจะใช้อะไรพูด มันก็ไม่ผ่านออกมาจากสมองแน่นอนขะรับ
G: โธ่ รู้สึกจะหนักหนาขึ้นทุกทีแล้วนะฮ่ะ ควาามแค้นสุมอกใกล้ระเบิดแล้วสินะฮ่ะ
K: ยังขะรับ แค่นี้ยังไม่เท่าไหร่ คือเรามันพวกมัความอดทนทนอดกันสูงมาก แค้นก็จริง แต่ยังไม่ระเบิดขะรับ ขอพูดถึงเหตุการณ์ต่อไปเลยดีกว่า นั่นก็คืองาน Adios e-well จัดโดยยายเจ้คุง คุณGin ในฐานะที่แกกับยายเจ้คุงมีความสำพันธ์กันในรูปแบบที่ยากจะบรรยาย กรุณาเล่าถึงแรงกดดันที่มาจากงานนี้ด้วยขะรับ
G: ความสำพันธ์ที่ยากจะบรรยายหรือฮ่ะ แหมใช้คำสวยไปแล้วฮ่ะ จริงๆ แล้วก็คือกัดกันนั่นแหละฮ่ะ
K: ขะรับ กัดก็กัด งาน Adios มันล่ะขะรับ เล่าสักทีสิขะรับ
G: ขะรับขะรับ เล่าล่ะฮ่ะ จำได้ว่าตอนนั้นออกรายกานอ้ายทีวีต๊อก(ต๋อย) กับรายการใส่รหัส ยายเจ้คุงเคยพูดเอาไว้ทำนองว่า ไม่อยากให้ใครหากินกับคนตาย คือแกกัดอาสาลี่คงน่ะฮ่ะ ว่าที่จัดงานวันที่ 7 พค.น่ะเพื่อโปรโมท Ballad Collection แต่พอเข้ามาในงานของยายแก คือยายแกไม่ได้หากินกับคนตายเลยนิดเดัยว แค่ประกาศขายวีดีโอไอดอลญี่ปุ่นที่อัดมาจากรายการทีวี ต่อด้วยโปรโมทศิลปินในสังกัด คุณจิตวิตก กับวงอีนี่เป็นนิ่วจ้า ภายใต้ชื่องาน Adios e-well เนี่ยฮ่ะ ไม่ได้เอาชื่อคนตายมาหากินเลยนะฮ่ะ
K: แค่เนี่ยแรงกดดันของงานนี้
G: แหมยังไม่จบฮ่ะ นี่แหละหนาเขาเรียกว่าฟังไม่จบริอาจคบปลากระดี่
K: ...... (สำนวนอะไรของมันวะ)
G: อันนี้มันขี้ประติ๋วฮ่ะ ขี้ช้างนะมันต่อจากนี้ต่างหาก ก็พยายามเข้าใจนะฮ่ะว่ายายแกมีเจตนาดีที่จะทำให้พวกเราเลิกโศกสลดให้กับมีนซักที เช่นยายแกพูดประมาาณว่า มันก็แค่มนุษย์ธรรมดาผู้หนึ่ง มีทั้งดีและเลวปะปน หน้าเวทีก็อย่างหนึ่ง หลังเวทีอาจจะไม่ใช่อย่างที่เราคิดก็ได้ อันนี้ก็ไม่เถียงหรอกฮ่ะจริงผู้ใดก็ทราบ แต่ถึงขนาดที่พูดว่าที่มันบ๋ายบายพวกเราไปเนี่ยอาจเป็นเพราะยาเสพติดก็ได้ใครจะรู้ เนี่ยแหละสุดแค้นเลย
K: ก็ยายเจ้คุงพูดเองนี่ครับว่าใครจะรู้ แล้วตัวแกเองรู้ได้อย่างไรขะรับ
G: นั่นสิฮ่ะ Ginจังเนี่นฉุนขาดเลย ยังมีอีกฮ่ะ ยายแกพูดอีกว่า X-Japan คืออาเสี่ยคนเดียว อะโหอันนี้เนี่ยGinจังกรี๊ดสุดใจขาดดิ้นเลยว่า ไม่จริ๊งไม่จริง และเพื่อยืนยันคำพูดนะฮ่ะ ยายแกเอาคุณแอ้กมาช่วยยันด้วยฮ่ะ แบบว่า นักดนตรีย่อมเข้าใจในวิสัยของนักดนตรีด้วยกัน แต่โห เอาไอ้คุณแอ้กมาเนี่ยนะฮะ แทนที่จะน่าเชื่อถือ คะแนนนิยมลดฮวบฮาบเลยฮ่ะ พวกเราก็เถียงนะว่า หนูไม่เจื้อ ไม่จ้าย แกก็ หนูต้องเชื่อ เพราะฉันเนี่ยแหละผู้เชี่ยวชาญ พวกหนูน่ะยังเด็กไม่รู้เรื่องหรอก ไม่รู้รู้เหมือนกันว่าใครกันแน่ที่ไม่รู้เรื่องน่ะฮ่ะ
K: เกินไปจริงๆ นะขะรับ ที่พูดว่า X-Japan คือเสี่ยคนเดียวเนี่ย ทั้งที่เสี่ยแกก็เคยพูดไว้ว่า X-Japan ไม่ใช่ตัวเสี่ยคนเดียว
G: ใช่มะ แหมทำเป็นผู้เชี่ยว ยังไม่หมด อีกเรื่องที่น่าเกลียดมาก คือยายแกพูดอยู่ตลอดว่าตัวแกกับไอ้คุณแอ้กเป็นแฟนตัวจริงของ X-Japan ถ้าอย่างนั่นไอ้ที่นั่งหัวโด่ยืนหัวโด่อยู่นั่นก็เป็นตัวปลอมหมดเลยสิฮ่ะ น่าเกลียดจริงๆ เลย
K: และนี่คือแรงกดดันทั้งหมดจากงาน Adios e-well สินะขะรับ
G: ช่าย... แต่ดูก่อนเกิดฮ่ะ ยังมีเรื่องที่น่าสนใจอีก คือ การสับประยุทธ์ของสองผู้ยิ่งยง เปรียบฝ่ายยายเจ้คุงเป็นฟงเช่นนั้นแล X-Crazia จึงรับบทเป็นจวิ๋น ทั้งยังมีตัวประกอบฉากอย่างวานรเทพไอ้คุณแอ้ก และสงป้า ไอ้น้องไม่ตรง ถูกฝ่ามือพิฆาตสิ้นชีวีตั้งแต่ตอนต้นของการประลอง
K: เอ่ เป็นที่เลื่องลือไปทั่วยุทธภพว่า ทั้งฟงและจวิ๋นกินเกาเหลากันมานาน และหลีกเลี่ยงการประมือเสมอ เหตุใดวันนี้จวิ๋นจึงอาจหารบุกถึงสำนักของฟง เช่นใดช่วยไขแถลง
G: เป็นเพราะธุลีดินอ้ายทีวีกล่าววาจาจาบจ้วงทั้งสองฝ่ายอย่างรุนแรง ฝ่ายฟงคิดว่าตัวเองไม่ผิดจึงปัดข้อกล่าวทั้งหลายสิ้นของธุลีดินมาให้ทางจวิ๋นรับผิดแต่เพียงผู้เดียว...
K: เฮ้ย พอเถอะว่ะ เดี๋ยวก็ทะลุฟ้าไปจริงๆหรอกขะรับ
G: เออว่ะ เริ่มมึนๆ ตัวเองแล้วเหมือนกันฮ่ะ แหม ก็มุขตามน้ำน่ะฮ่ะ แบบ A Man Call Hero กะลังดังแต่ Ginจังไม่ได้ไปดู ก็เลยเอาเรื่องเก่า Storm Rider มาป้ดฝุ่นน่ะฮ่ะ ยังไงก็ที่สร้างเดียวกันล่ะน่า
K: เข้าเรื่องขะรับ เข้าเรื่อง ว่าแต่ไอ้น้องไม่ตรงสงป้านี่ใครละขะรับ
G: คือก่อนหน้านี้ทางอ้ายทีวี ได้ขอสัมภาษณ์อีหนูมันออกรายการใส่รหัสด้วยน่ะฮ่ะ ว่าทำม้าย ทำมายอีหนูถึงได้คิดสั้นๆ เช่นนั้น แล้วปรากฏว่าทางอ้ายทีวีตัดต่อเทปที่อีหนูมันให้สัมภาษณ์ซะจนหาสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้เลย
K: ก็บอกแล้วว่ามายาทีวีซุงแหล;
G: ฮ่ะ และเนื่องจากอีหนูมันเด็กในความควบคุมของยายเจ้คุง อีหนูก็เลยออกมาชี้แจงเหตุผลที่แท้จริงในงานวันนั้นแหละฮ่ะ ว่าที่คิดไม่ยาวนั้นไม่ใช่เพราะการจากไปของ e-well แต่เป็นเพราะเหล่าผองเพื่อนต่างกระหน่ำโทรมาปรับทุกข์กับตัวอีหนูมันอย่างไม่ขาดสาย ตัวมันก็เลยกลายเป็นถังขยะรองรับทุกข์นั้นไว้ซะเอง อีกทั้งยังเข้าใจผิดคิดว่าเพื่อนอันเป็นที่รักของมันฆ่าตัวตาย บ๋ายบายตาม e-well ไปแล้ว จากที่อีหนูมันคิดสั้นๆ อยู่ มันก็เลยเลิกคิดแล้วทำเลยน่ะฮ่ะ
K: แล้วการสับประยุทธ์ระหว่าง X-Crazia กับยายเจ้คุงล่ะขะรับ
G: ตอนแรกทางฝ่าย X-Crazia ก็อยู่ข้างล่างเวที ยายเจ้คุง ไอ้น้องไม่ตรงกับไอ้คุณแอ้กอยู่บนเวที ต่างฝ่ายต่างปล่อยพลังฝ่ามือใส่กันอย่างไม่หยุดยั้ง ไอ้น้องไม่ตรงโดนฝ่ามือของทาง X-Crazia พิฆาตดับเป็นรายแรก ในฐานะที่เป็นแฟน X-Japan แล้วประพฤติตัวไม่เหมาะสม ทำให้เสื่อมเสียถึงคนหมู่ใหญ่ ต่อมายายเจ้คุงเห็นว่าชัยภูมิของ X-Crazia ดีกว่า กอร์ปกับกำลังพลของตนเองน้อยกว่า ดังนั้นจึงกล่าววาจาท้าทาย เชิญผู้กล้า 3 ท่านของ X-Crazia ให้ขึ้นไปประลองทันที ซึ่งยายเจ้คุงคงคิดว่า เวทีนี้ข้าคุม จึงไม่กริ่งเกรงใดๆ ทั้งสิ้น
K: บทสรุปล่ะขะรับ
G: ไอ้คุณแอ้กสิ้นชีวีเป็นรายต่อมาเนื่องจากคมปากของ 3 ผู้กล้า แต่ยัยเจ้ประดุจแมวเก้าชีวิต ถูกทางฝ่าย 3 ผู้กล้าพิฆาตเท่าไหร่เธอก็ไม่ล้มหายไปง่ายๆ แถมยังสามารถตอบโต้ได้อีกหลายฝ่ามือ จนทั้ง 3 ผู้กล้าเกือบพลาดพลั้ง สรุปว่า ไม่มีใครชนะในการสับประยุทธ์ในครั้งนี้ เพราะเจ้าของเรื่องตัวจริงไม่อยู่แล้วนั้นเอง เตร้ง เตรง เตร่ง เตร๊ง จบด้วยความเศร้าฮ่ะ อะอื้อ
K: ก็เป็นอันจบนะขะรับสำหรับศึกชิงเจ้ายุทธภพ เอ้ย งาน Adios e-well ต่อไปก็เรื่องบทความของยายเจ้คุงในหนังสือพิมพ์ Yearly News นั้นแลครับเป็นเช่นไร
G: อะฮื้อ คือตอนนั้นเนี่นยายแกเหลือสื่อในมืออย่างเดียวแล่วก็คือ บทความในหนังสือพิมพ์ดังกล่าว ก่อนหน้านั้นจำได้ว่าแกมีรายการวิทยุของแกเองอยู่รายการหนึ่ง แต่ก็ถูกปลดออกกลางอากาศไปเมื่อวันที่ 3 พค. ออกอากาศได้แต่ 3 วันเท่านั้น ไงจำแม่นมั้ยฮ่ะ พอเหตุการณ์วันที่ 7 พค. 2541 ดังระเบิดเถิดเทิงขึ้นมา แล้วก็ถูกกัดโดยทางอ้ายทีวี แกจึงหาทางแก้ต่างให้กับตัวเองล่ะ ทางแรกก็คืองาน Adios e-well ที่กล่าวไปเมื่อสักครู่ และทางที่สองก็คือ บทความที่แกเขียนลงในนสพ. ทุกวันอาทิตย์นั้นแลฮ่ะ โอ้อนิจจา เรานึกว่าแกจะกัดอ้ายทีวี ที่ไหนได้ กลับย้อนมากัดทางเรากะ e-well แทน มันน่าเจ็บใจมากน่ะฮ่ะ เราะเราเคยนับถือในความเป็น working woman ของยายแกมาก่อน พอโดนแทงข้างหลัง หักหลัง ดัดหลังเช่นนี้ มันก็เลยแค้นฝังกระดูกสันหลังน่ะฮ่ะ
K: เอ่อ ก็ขอจบเรื่องปาร์ตี้ของ X-Crazia แต่เพียงเท่านี้นะขะรับ คือKinจังยังไม่อยากถูกฆาตกรรมเพราะไอ้ตัวน่าชังอย่างเจ้าGinน่ะขะรับ ก็พอดี Kinจังได้อ่านนสพ.ข่าวเปื่อย ที่มีภาพข่าวเด็กวัยรุ่นหญิงผมชมพูในชุดสูทพร้อมกับแว่นตาอันหย่ายมาก ยืนคู่กับอีกหนึ่งหญิงแต่งตัวน่ารักเหมือนเด็กญี่ปุ่น เห็นแล้วก็ทราบได้ทันทีว่าแต่งเลียนแบบพี่เดชของเรา กับยุรนันท์ ภมรมนตรี และด้านล่างภาพก็เขียนเอาไว้ว่า Modern Hippy น่ะขะรับ
G: เดี๋ยวฮ่ะ ขอขัดจังหวะแป๊ปนึง กลัวท่านผู้อ่านไม่เข้าใจว่าใครคือพี่เดช และใครคือยุรนันท์น่ะฮ่ะ
K: พี่เดชก็ e-well ของเรานั่นไงขะรับ ส่วนยุรนันท์ก็อิแซมไงขะรับ ก็เห็นของด็กสองคนนี้ลงหน้าหนึ่งหลาเชียว Kinจังก็เลยสนใจ ลองอ่านดูว่าไอ้สองคนเนี่ยมันเกี่ยวข้องกับ Modern Hippy อย่างไร ก็ปรากฎว่าสังคมหรือเฉพาะหนังสือพิมพ์ก็ไม่ทราบ กำลังตื่นตระหนกกับแฟชั่นใหม่มาแรงจากยุโรปเมื่อสามปีที่แล้ว (แวะไปญี่ปุ่นมา และเพิ่งเดินทางมาถึงเมืองไทยขณะนี้) ซึ่งกำลังระบาดในกลุ่มวัยรุ่นไทยอย่างแพร่หลาย ลักษณะเด่นของ Modern Hippy นี้ก็คือ การเจาะอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย และการแต่งตัวสไตล์พังค์ อันนี้ผู้เชี่ยวชาญเขาบอกน่ะขะรับ โอ้... แล้วมันเกี่ยวกับไอ้สองคนที่ลงหน้าหนึ่งนั้นยังไงหรือขะรับ คือเนื้อความในข่าวกับภาพที่เอาลงมันไม่ได้เข้ากันเลยสักนิด Kinจังงงจริงๆ ไม่รู้ว่านักข่าวสมัยนี้เขาเป็นนักข่าวกันได้อย่างไร ไม่รู้จักทำความเข้าใจกับข่าวที่ตัวเองเขียนเสียก่อนเลย
G: แล้วมันน่าตระหนกตรงไหนล่ะฮ่ะ
K: ตรงที่มันมาจากญี่ปุ่นอีกแล้วกะละมังขะรับ คือถ้ามันจะระบาดจากยุโรปมาไทยเลยตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน มันก็คงไม่แปลกหรอกขะรับ แต่ที่ต้องตื่นตระหนกก็คงเพราะมันมาจากญี่ปุ่นนั่นเองขะรับ
G: โฮ่ โฮ่ ก็ตลกดีนะฮ่ะ จริงๆ แล้วเรื่องนี้ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลนะฮ่ะ ใครจะเจาะอะไร จะแต่งอะไรก็ตามสบาย ตราบใดที่ยังใส่เสื้อผ้ากันอยู่ ก็คงไม่ใช่เรื่องผิด แล้วGinจังก็ชอบออก สายเดี่ยว สายสปาเก็ตตี้ โชว์สะดือ กระโปรงกุดๆ นั่งมองแล้วก็น้ำลายไหลย้อย เอ๊ยไม่ใช่ เป็นอาหารตาฮ่ะ
K: นี่ๆ Ginจัง มาอ่านนี่สิ นายเสียวนักร้องค่าย H.O.E. ของอาสาลี่คุงเค้าให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
G: ไหนๆ ขอดูหน่อย "แฟชั่นเหล่านี้ระบาดมาจากศิวปินเพลงญี่ปุ่น ซึ่งเรียกนักร้องผู้หญิงว่า ไอดอล และนักร้องนำผู้ชายว่า วิชวลร็อค" อุ๊ยตาย อย่างนี้ Smap กับ Tokio ทั้งยัง Kinki Kids Johny's Family ก็เป็น Visual Rock กันหมดสิฮะ ตายแล้ว Gin จังก็เพิ่งรู้ ความรู้ใหม่เลยนะฮะเนี่ย
K: ไง รู้แล้วก็อยากจะหัวเราะให้เกล็ดร่วงเลยใช่ไม๊ขะรับ ว่าแต่ว่าGinจังไม่เอากะเขาบ้างเหรอ พวกสายเดี่ยวอะไรนั่นน่ะ
G: อ้อ ไม่หรอกฮ่ะเกรงใจ คือ Ginจังทุเรศตัวเองน่ะ ถ้าขาวสวยหมวยอึ๋มก็อยากจะโชว์หรอก บังเอิญดำล่ำต่ำเตี้ยน่ะฮ่ะ ก็เลยไม่อยากให้ผู้คนแตกตื่น แล้วอีกอย่าง Ginจังก็เลิกตามแฟชั่นมานานแล้วฮ่ะ ไปตามอย่างอื่นแทน
K: ตามอะไรเหรอ
G: ตามใจตัวเองฮ่ะ คืออยากแต่งก็แต่ง ไม่อยากก็แก้ผ้า อุ๊ยตายไม่ใช่ อยากทำยังไงก็ทำยังงั้น ตราบใดที่ทำแล้วคนอื่นไม่เดือดร้อนก็พอแล้วล่ะฮ่ะ
K: เช่นนั้นแล
G: เออนี่Kinจัง พี่เดชก็ Adios เราไปปีเต็มๆ แล้วเนอะ วันที่ 2 พค. 2542 ที่ผ่านมา Kinจังทำอะไรบ้างน่ะ เล่าให้ฟังบ้างสิฮะ
K: ส่วนตั๊ว ส่วนตัว ไม่บอกหรอกขะรับ รู้แต่ไปทำอะไรที่มัน erotic เอ้ย romantic มาก... จริงๆ ก็อยากจะไปทำบุญเอาเลือดบ้าออกอย่างGinจังเหมือนกัน แต่พอดีกลับมาไม่ทัน ศูนย์บริจาคโลหิตสภากาชาดไทยปิดซะก่อน ก็เลยไปที่ Center Point ที่สยามสแควร์ เพราะนัดเพื่อนเอาไว้ที่นั่นด้วย ก็เลยได้ดูละครฉากใหญ่พอดี
G: ว้าว.. ขุนเดช กระเดื่องเดชหรือฮ่ะ พอดีกองถ่ายไปที่นั่นใช่ไหมฮะ ไง แล้วเจอพี่เดชของเราไหม
K: ม่ายช่ายๆ ละครฉากนี้จัดโดย H.O.E. ของอาสาลี่คุงขะรับ ซึ่งก็คืองานฉลองครบรอบ 1 ปีการจากไปของพี่เดชนั่นเอง ในงานนี้ก็มีการประมูลของจาก LEMONed เพื่อหาเงินช่วยการกุศล จริงๆ แล้วเจตนาก็ดีอะนะ แต่Kinจัง ไม่ชอบเลยว่ะ มันแหม่งๆ ยังไงบอกไม่ถูก แล้วเด็กสมัยนี้ก็รวยกันจังนะขะรับ ไม่รู้ว่าเอาเงินจากที่ไหนมาประมูล ของบางชิ้นได้เงินตั้งหลายพันแหนะ
G: เหรอฮะ เอ่อ ดาร์หลิง หันหนีที่รัก น้องๆ ผู้ร่ำรวยจ๋า ทางนี้ยังมีสัตว์ประหลาดตัวโตๆ ตาดำๆ ผู้หิวโหย เพียงท่านโปรยความเมตตาก็เผื่อแผ่มาหาGinจังผู้น่าสงสารบ้างก็ดีนะฮะ แล้วไงต่อ
K: อ้อนได้ทุเรศมากGinจัง หลังจากนั้นก็มีการเชิญวงแยมส้มบรรลัยโลก เอ๊ย บรรลือโลก ซึ่งเป็นวงที่ cover เพลงของพี่เดช & Spread Beavers ขึ้นมาบนเวทีเพื่อบรรเลง Goodbye ใน Acoustic version น่ะขะรับ...
G: หยุดทำไมล่ะฮ่ะ กำลังมันเชียว
K: จะไม่ให้หยุดได้ยังไงกันล่ะขะรับ ต่อจากนี้ก็ไม่รู้เรื่องแล้ว เพราะพอเริ่มอินโทร ก็Ginจังนั่นแหละ ดึงเอาKinจังออกจากงาน บอกว่าอยู่ไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวจะเกิดการฆาตกรรมโดยตัวเองเป็นฆาตกร ฆ่าไอ้พวกที่อยู่บนเวทีตายหมด ในฐานะที่ขัดหูขัดตาข้าพเจ้าเสียเหลือเกิน แล้วยังเล่นได้ห่วยมากอีก ทั้งหลง ทั้งหอน แฮ่ก แฮ่ก...
G: โอ๊ะโอ๋ พักให้น้ำก่อนดีกว่าฮ่ะ เดี๋ยวน้ำลายจะขาดช่วงตายเสียก่อน แม๊ะแหม Ginจังก็ดันลืมไปได้ซะ นี่Ginจังก็ไปงานนี้ด้วยหรือฮะ
K: โธ่! นังตอ.. ปี๊ป... (censor)
G: อ๊ะ อ๊ะ มีcensor ด้วยนะฮะคอลัมน์เนี้ย น่าๆ เรื่องต่อไปดีกว่า แบตใกล้จะหมดเต็มทีแล้ว เอาเรื่อง Final Fantasy VIII กับเด็กที่ฆ่าตัวตายที่ออกรายการใส่รหัสมั้ย
K: เอาๆ เฮ้ยแต่ไม่ทันแล้ว จะหายไปอยู่แล้ว เหลืออีกตั้งหลายคำถามที่ยังไม่ได้ตอบ แล้วตกลงว่าความหมายอีกอย่างของ POSE ล่ะ
G: โอ๊ย ป่านนี้เขารู้กันหมดแล้ว เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งหมด ยังมีเรื่องจะโม้อีกตั้งเยอะ
K: เฮ้ยๆ มาคำถามนี้ดีกว่า ถามมาจากหญิงว่ะ ถามว่า Ginจัง ชอบสีอะไรคะ
G: สีกาจ้า..........