วัดในกรุงเทพมหานคร
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
การสร้างวัดในพระราชฐานเคยมีมาตั้งแต่สมัยโบราณครั้งเมื่อกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีก็มีวัดมหาธาตุอยู่ในบริเวณพระราชวัง ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีก็มีวัดพระศรีสรรเพชญ์อยู่ในบริเวณพระราชวังตลอดจนถึงครั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงสร้างกรุงเทพพระมหานครฯ ก็มีวัดพระศรีรัตนศาสดารามยังมีเหตุอีกอย่างหนึ่งคือที่ทรงได้พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรแก้วมรกตมาเป็นศรีพระนครจากกรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว จึงทรงสร้างวัดพระศรีรัตนศาสดารามขึ้นที่บริเวณพระบรมมหาราชวัง พร้อมกับการสร้างกรุงเทพฯ ขึ้นเป็นราชธานีเมื่อ พ.ศ. 2325 วัดพระศรีรัตนศาสดารามสร้างอยู่ 2 ปีจึงได้ประดิษฐานที่ในพระอุโบสถเมื่อ พ.ศ. 2327
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
มรดกของชาติที่สำคัญของไทยในพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดราชวรวิหารอีกแห่งหนึ่งคือ ในวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ริมถนนนครปฐมและครองเปรมประชากรฝั่งตะวันตก ตำบลดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร วัดรี้ คนไทยส่วนใหญ่เรียนกันสั้น ๆ ว่า วัดเบญจมบพิตร หรือวัดเบญจะ แต่ชาวต่างประเทศมักจะเรียกว่า วัดหินอ่อน เพราะเมื่อได้ชมปูชนียสถานสำคัญของวัด คือพระอุโบสถ อันเป็นมรดกของชาติแล้วเห็นว่า สร้างด้วยหินอ่อนเป็นส่วนใหญ่ จึงได้พากันเรียกอย่างนั้น
วัดไตรมิตรวิทยาราม
ประวัติพระพุทธรูปทองคำสุโขทัยไตรมิตร พระพุทธรูปทองคำสุโขทัยไตรมิตรเป็นพระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นพระพุทธรูปทองคำปางมารวิชัย เป็นศิลปะในสมัยที่จังหวัดสุโขทัยเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย สร้างด้วยทองคำเนื้อเจ็ด หรือเรียนกว่า ทองเนื้อเจ็ดมีพระพุทธลักษณะงดงามหาที่เปรียบมิได้ มีหน้าตักกว้าง 6 ศอก 5 นิ้ว สูงจากฐานถึงพระเกตุ 7 ศอก 1 คืบ 9 นิ้ว มีน้ำหนักประมาณ 5 ตัน มีอายุจนถึงปัจจุบันนี้ประมาณ 700 กว่าปีแล้วนับเป็นพระพุทธรูปทองคำ ที่เป็นสมบัติอันล้ำค่าของประเทศไทยและพุทธศาสนา
แต่เดิม พระพุทธรูปทองคำองค์นี้ถูกปูนปั้นหุ้มปกปิดไว้ตลอดที่องคือย่างมิดชิด เพื่อให้รอดพ้นจากอริราชศัตรูที่เข้ามารุกรามประเทศไทยในสมัยนั้น และได้ประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดโชตินาราม หรือวัดพระยาไตร เขตยานนาวา กรุงเทพฯ ในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่ง กรุงรัตนโกสินทร์ ต่อมาเมื่อวัดโชตินารามได้เปลี่ยนสภาพกลายเป็นวัดร้าง ในราวปี พ.ศ. 2474 ทางบริษัทอี๊สเอเซียติก จำกัด ได้รับอนุญาตจึงขยายกิจการของบริษัทเข้าไปในบริเวณวัดร้างนั้นด้วย ทางคณะสงฆ์ในสมัยนั้นจึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปทองคำองค์นี้มาประดิษฐาน ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม จนถึงปัจจุบันนี้ และเมื่อทราบว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำ เมื่อ พ.ศ. 2498 โดยเหตุที่พระเดชพระคุณพระวิสุทธาธิบดีเจ้าอาวาสซึ่งบัดนี้ได้มรณภาพแล้ว ยังมีรูปเหมือนของท่านประดิษฐานไว้หน้าพระวิหารแห่งนี้ท่านได้ร่วมสร้างพระวิหารแห่งนี้ขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำองค์นี้ครั้นพระวิหารสร้างเสร็จแล้ว ขณะดำเนินการเพื่อเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปทองคำองค์นี้ขึ้นประดิษฐานบนพระวิหารหลังนี้นั้น ปูนปั้นหุ้มองค์พระบางส่วนได้แตกกะเทาะหลุดออกมา จึงทราบว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำ จึงกลายเป็นสมบัติอันล้ำค่าของประเทศไทยทั้งทางประวัติศาสตร์และทางศิลปวัฒนธรรม สืบจนมาถึงปัจจุบัน ภาพปูนปั้นหุ้มองค์พระบางส่วนยังมีปรากฎไว้ให้ชมเพื่อเป็นทัศนศึกษาภายในพระวิหารแห่งนี้ด้วย
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
วัดพระเชตุพนตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระบรมมหาราชวัง ซึ่งห่างกันเพียงถนนท้ายวังคั่นอยู่เท่านั้น ทางทิศตะวันตกของวัดนี้เป็นที่ตั้งของตลาดเท่าเตียน ซึ่งตั้งติดฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีถนนมหาราชคั้นอยู่ ในปัจจุบันวัดนี้มีฐานะเป็นวัดพระอารามหลวงชั้นเอกในระดับสูงสุดวัดหนึ่ง ซึ่งในประเทศไทยมีอยู่ด้วยกัน 6 วัด คือ วัดพระเชตุพน วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ วัดสุทัศน์เทพวราราม วัดอรุณราชวราราม วัดพระพุทธบาท สระบุรี และวัดพระปฐมเจดีย์ นครปฐม ในบรรดาพระอารามหลวงทั้ง 6 นี้ เป็นที่ยอมรับกันว่าวัดพระเชตุพนใหญ่ยิ่งและสำคัญที่สุด
วัดอรุณราชวราราม
วัดอรุณราชวราราม มีมรดกของชาติที่เป็นปูชนียสถานอยู่ภายในบริเวณหลายแห่ง ซึ่งปูชนียสถานอยู่บริเวณวัดหลายแห่งซึ่งปูชนียสถานอันมีอยู่ในวัดเหล่านี้นั้นสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมอันประณีตงดงามน่าศึกษาน่าชม ไม่เพียงแต่พระปรางค์องค์ใหญ่และชาวไทยและชาวต่างประเทศพากันหลั่งไหลมาชมอย่างมากมายในปัจจุบันเท่านั้น ฐานะของวัดและประวัติความเป็นมาของวัดก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเพราะเป็นเรื่องเฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์ไทย ทั้งในสมัยกรุงธนบุรีและสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ที่ได้ทีพระราชศรัทธาปฏิสังขรณ์เสริมสร้างสถาปนาวัดในอยู่ในฐานะอันสูงส่ง ส่ง และยังทรงพระราชชูปถัม๓ธำรงความสำคัญของวัดให้เป็นศรีสง่าสำหรับพระนครอย่างต่อเนื่อง
วัดอรุณราชวราราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เป็นวัดหลวงชั้นหนึ่งของประเทศไทยซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดระเบียบพระอารามหลวงในกรุงเทพฯ และหัวเมืองไว้เมื่อ พ.ศ. 2458 มีอยู่ด้วยกัน 6 วัด คือ วักมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วัดพระเชตุพนวิมังคลาราม วัดสุทัศนเทพวราราม วัดพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม วัดพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี และวัดอรุณราชวราราม วัดทั้ง 6 นี้ ตามทำเนียมพระอารามหลวงจัดเป็นวัดที่มีศักดิ์สูงเยี่ยม