ตำนานเรื่องตาม่องล่าย เป็นมุขปาฐะเล่าสืบต่อกันมา แบบปากต่อปาก
ตาม่องล่ายและยายรำพึงอยู่บ้านหลังหนึ่งริมทะเล มีลูกสาวสวยชื่อยมโดย ซึ่งความสวยเด่นกว่าหญิงอื่นนี่เองจึงมีชายหมายปองหลายคน ในขณะเดียวกัน คนหนึ่งชื่อเจ้าสายซึ่งมียายรำพึงให้การสนับสนุน เนื่องจากรู้ใจนำของมาเป็นของกำนัลอยู่เนือง ๆ อีกคนหนึ่งคือ เจ้ากรุงจีน ซึ่งมีตาม่องล่ายให้การสนับสนุน ต่อมาชายทั้งสองได้มาสู่ขอยมโดยต่อตาม่องล่าย และยายรำพึงเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง บังเอิญที่สองตายายนัดวันแต่งงานตรงวันเดียงกัน เมื่อวันนั้นมาถึง ขบวนขันหมากของทั้งสองฝ่ายก็ยกมาประจันหน้ากัน สองตายายไม่รู้จะทำอย่างไรดี ในที่สุดก็หันไปโทษกันถึงขั้นวิวาทอย่างรุนแรง จนยายรำพึงฉวยได้หมวกขว้างใส่ตาม่องล่าย แต่หมวกลอยตามแรงลมลงทะเลกลายเป็นเขาล้อมหมวก ตาม่องล่ายก็ไม่ยอมฉวยได้กระบุงขว้างใส่ยายรำพึงทันที กระบุงก็ลอยไปตกในทะเลแถวจังหวัดตราดเป็นเกาะกระบุง ยายรำพึงไม่ยอมคว้าได้งอบขว้างเข้าใส่ตาม่องล่ายอีก คราวนี้งอบลอยไปตกในทะเลกลายเป็นแหลมที่จันทบุรี ตาม่องล่ายก็ตอบโต้โดยการขว้างสากใส่ยายรำพึง แต่สากกระดอนไปกระทบเกาะที่ขวางหน้าจนเกาะทะลุแล้วกระดอนลงไปในมทะเลไปเป็นเกาะสาก ยายรำพึงหมดปัญญาที่จะตอบโต้โมโหสุดขีดนอนดิ้นเร่า ๆ สิ้นใจตรงริมหาดแห่งนั้น คนเรียกว่า หาดแม่รำพึง เมื่อเหตุการณืเป็นเช่นนั้นตาม่องล่ายไม่รู้จะทำประการใดจึงคว้าลูกสาวฉีกออกเป็นสองซีก ๆ หนึ่งขว้างให้เจ้าสาย อีกซีกโยนไปให้เจ้ากรุงจีน กลายเป็นเกาะนมสาวที่บางปู ปราณบุรี และจันทบุรี พร้อมกับขว้างขันหมาก พลู เครื่องสู่ขอลงในทะเลกลายเป็นหอยมวน ขนมจีนกลายเป็นสาหร่าย กระจกโยนไปตกที่เขาช่องกระจก ตะเกรียบเป็นเขาตะเกรียบ และจาน ตกเป็นเกาะจาน เจ้าสายก็เสียใจสุดขีดเพราะผิดหวังอาเจียนออกมาเป็นโลหิตจนตายกลายเป็นเขาเจ้าสาย เจ้ากรุงจีนเลยยกขบวนกลับเมือง ตาม่องล่ายพึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างจึงเอาเหล้ามาดื่มจนตาย ณ หาดทรายริมทะเลแห่งนั้น