การดำน้ำในประเทศไทย
เริ่มต้นขึ้นที่หน่วยประดาน้ำของกองทัพเรือไทย
และติดตามด้วยนักดำน้ำที่เป็น
ทหารของอเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพที่สัตหีบ
จ.ชลบุรี
นอกจากนั้นนักเรียนไทยที่จบการศึกษาจากต่างประเทศก็เป็น
บุคคลอีกกลุ่มหนึ่งที่เข้ามาเพิ่มจำนวนนักดำน้ำไทยให้มากขึ้นด้วย
บุคคลเหล่านี้ได้พบปะและรวมตัวกันแถบทะเล
พัทยา
โดยมีบุคคลสำคัญที่จัดเป็นปรมาจารย์ดำน้ำของไทย
คือ นาย DUSTY RHODE ซึ่งเป็นครูฝึกทหาร
นาวิกโยธินของอเมริกามาเป็นครูสอนนักดำน้ำไทย
โดยมีลูกศิษย์ดำน้ำรุ่นแรก ๆ
เช่น ดำรงค์ สาธุการ ดรล์
รัตนทัศนีย์ ปรีดา จุลละมณฑล
ศรีพิจิตต์ เติมชัยเจริญศักดิ์
พลัง ยิ้มพาณิชย์ เป็นต้น
นักดำน้ำไทยเหล่านี้เอง
ที่เป็นรากฐานให้เกิดสถาบันสอนดำน้ำอีกหลายแห่ง
ทำให้การดำน้ำได้แพร่หลายในประเทศไทยในเวลาต่อมา |
การดำน้ำไทยเริ่มกล่าวขวัญถึงเป็นครั้งแรก
ในกรณีล่าสมบัติเรือจมในบริเวณหมู่เกาะต่าง
ๆ ในอ่าวไทย มีผู้หัน
มาสนใจการดำน้ำมากขึ้น
ได้มีโรงเรียนสอนดำน้ำอย่างเป็นกิจจะลักษณะ
เช่น บริษัท SEAT สี่พระยา และบริษัท
มนุษย์กบไทย
ซึ่งเป็นสถาบันสอนดำน้ำที่มีความสำคัญกับวงการดำน้ำไทยมาก
เพราะเป็นสถาบันที่ผลิตนักเรียนดำ
น้ำไทยจำนวนมากที่สุด |
อนุสาร
อ.ส.ท.
ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เป็นสื่อมวลชนที่เปิดโลกใต้ทะเลให้ชาวไทยรู้จัก
ด้วยการ
เขียนสารคดีและถ่ายทอดภาพใต้ทะเลที่สวยงาม
โดยหวังผลให้ผู้อ่านเกิดความรักและชื่นชมในความสวยงามของ
โลกใต้ทะเลไทย
เกิดความคิดที่จะช่วยกันอนุรักษ์ความสวยงามนี้ไว้ให้ยืนยง
และก็ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง
โดยผลักดันให้เกิด
"โครงการรักโลกใต้ทะเล" ขึ้น
เพื่อทำงานด้านการอนุรักษ์ต่อไป |
การดำน้ำเป็นกิจกรรมที่แตกต่างจากกิจกรรมท่องเที่ยวประเภทอื่น เพราะเต็มไปด้วยความรับผิดชอบอย่างมาก กล่าวคือ |
|
ข้อปฏิบัติของนักท่องเที่ยวในแนวปะการัง นักดำน้ำอาจเป็นผู้ที่ทำลายแนวปะการังลงไปโดยไม่ตั้งใจ นักดำน้ำที่ดีจะพยายามไม่แตะต้องแนวปะการังเลย เราสามารถที่จะหลีกเลี่ยงความเสียหายนี้ได้ดังต่อไปนี้ |
|
แนวปะการัง
คือ ระบบนิเวศที่ซับซ้อน
และมีความหลากหลายมากที่สุดใน
ท้องทะเล
แนวปะการังจัดเป็นสิ่งก่อสร้างของสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก
แต่ผู้ที่สร้างแนวปะการังขึ้นมานั้น
กลับเป็นสัตว์ตัวเล็ก ๆ
ที่เราเรียกว่า
"ตัวปะการัง"การเจริญเติบโตของแนวปะการังเป็นไปอย่างช้า
ๆ ในแต่ละปี ปะการังบาง
ชนิดอาจเพิ่มขนาดของตนเองขึ้นมาได้เพียง
2-5 เซนติเมตร เท่านั้น ดังนั้นกว่า
จะเป็นแนวปะการังอันกว้างใหญ่อย่างที่เราเห็นทุกวันนี้
จึงกินเวลายาวนานนับ หมื่น ๆ
ปีเลยทีเดียว |
แนวปะการังในโลกแบ่งออกได้เป็น
3 แบบด้วยกัน คือ
|
แนวปะการังในประเทศไทย
ทั้งหมดเป็นแบบ FRINGING REEF นี้
โดยพบว่าอาจแบ่งตามลักษณะสภาพ
แวดล้อมที่แตกต่างกันเป็น 4
รูปแบบด้วยกัน คือ
|
ด้วยเหตุนี้เอง
การดำน้ำจึงถูกจัดให้เป็นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
หรือ ECOTOURISM ในส่วนของพวกเรา
ที่เคยชื่นชอบความงดงามของโลกใต้ทะเลจากภาพถ่ายหรือภาพยนตร์
หากอยากจะลองลงไปสัมผัสกับธรรมชาติ
อย่างใกล้ชิดแล้วละก็
ขอยืนยันว่า โลกใต้ทะเลไทยนั้น
งดงามอย่างยิ่งจริง ๆ
เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ท้าทายความกล้า
หาญและความสามารถ
เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้น
ทำให้เกิดความเข้าใจในทุกชีวิตที่ต้องแบ่งปันกันใช้
ทรัพยากรในโลกร่วมกัน |