การปฐมพยาบาลเมื่อไดรับอันตรายจากสารกำจัดศัตรูพืช
อาการเกิดพิษ
- อ่อนเพลีย
เหนื่อยง่าย
- คัน ระคายเคือง
ผิวไหม้
- เหงื่อออก
น้ำตาไหลผิดปกติ
- น้ำลายมาก
คลื่นไส้อาเจียน
- ปวดท้อง ปวดหัว
มืนงง
- กล้ามเนื้อบิดเกร็ง
พูดไม่ชัด
- หมดสติ และถึงตายได้
การเกิดพิษดังกล่าวมีทั้งเฉียบพลันและเรื้อรัง
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณสารเคมีที่ร่างกายได้รับ
การปฐมพยาบาลเมื่อกินสารพิษเข้าไป
- ทำให้ผู้ป่วยอาเจียน
อาจจะโดยกินไข่ขาวดิบ ( เด็กใช้
4 ฟอง/ ผู้ใหญ่ใช้
8 ฟอง ) หรือดื่มน้ำเกลืออุ่น
( เกลือ 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำอุ่น
1 แก้ว )
เมื่อผู้ป่วยได้รับพิษจากการสูดดม
- นำผู้ป่วยไปยังบริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ทันที
แต่ผู้เข้าไปช่วยต้องมีอุปกรณ์ป้องกันสารพิษด้วย
- คลายเสื้อผ้าให้หลวม
- ถ้าร้อนให้เช็ดตัวด้วยน้ำธรรมดาเพื่อลดอุณหภูมิในร่างกายผู้ป่วยลง
- ห้ามดื่มสุราหรือสูบบุหรี่
เมื่อได้รับสารพิษทางผิวหนัง
- ถอดเสื้อผ้าที่เปรอะสารพิษออก
รีบล้างร่างกายทุกส่วนด้วยน้ำและสบู่มากๆ
อย่าขัดถูผิวหนังเพราะจะทำให้สารพิษดูดซึมเข้าผิวหนังได้ง่าย
- เช็ดตัวให้แห้งและห่มผ้าให้ผู้ป่วย
- ถ้าผิวหนังไหม้
ให้คลุมด้วยผ้าบางๆ
ที่นุ่มและสะอาด
ห้ามโรยยาหรือขี้ผึ้งอื่นๆ
เมื่อสารพิษเข้าตา
- รีบล้างตาโดยเปิดเปลือกตาแล้วให้น้ำสะอาดไหลผ่านนาน
15 นาที
- ห้ามใช้ยาล้างตาหรือผสมสารเคมีล้างตา
การปฐมพยาบาลดังกล่าวข้างต้นนั้น
รีบทำและรีบนำผู้ป่วยส่งแพทย์โดยด่วนพร้อมภาชนะบรรจุสารเคมี
เช่น กระป๋อง ขวด
ซองของสารที่ทำให้เกิดพิษ
หลักการใช้และเก็บสารกำจัดศัตรูพืชที่ถูกต้อง
1. การเลือกซื้อสารกำจัดศัตรูพืช
- เลือกให้เหมาะกับชนิดของศัตรูพืช
- เลือกชนิดที่ฤทธิ์ตกค้างสั้นและสลายตัวเร็ว
- อย่าเลือกชนิดที่พิษรุนแรง
2. ใช้เมื่อจำเป็น
และใช้เพียงชนิดเดียวในแต่ละครั้ง
3. ผสมตามฉลากที่กำหนด
4. อย่าเอามือลงไปผสมโดยตรง
5. ใส่หน้ากาก ถุงมือ
เสื้อแขนยาวให้มิดชิด
6. อยู่เหนือลมขณะฉีดยา
7. ไม่สูบบุหรี่หรือกินอาหารขณะพ่นยา
8. กะให้พอดีในการใช้แต่ละครั้งอย่าให้เหลือ
9. อาบน้ำทันทีหลังพ่นยาเสร็จ
10.เว้นระยะเก็บผลผลิต
ตามที่ฉลากกำหนดโดยเคร่งครัด
11.เก็บภาชนะบรรจุสารกำจัดศัตรูพืชให้มิดชิดจากเด็กและสัตว์เลี้ยง