รายงานการประชุมคณะทำงานวิชาการส.น.ท.ย.เพื่อจัดทำโครงการวิชาการประจำปี 2546

 

บันทึกรายงานการประชุมคณะทำงานวิชาการส.น.ท.ย.
เพื่อจัดทำโครงการวิชาการประจำปี ๒๕๔๖

นายกฤษกร ฤกษ์หร่าย กรรมการวิชาการสาขาวิศวกรรมศาสตร์ บันทึก

สถานที่ : เมืองมึนสเตอร์

วันและเวลา : วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2546 เวลา 11.00 – 17.00 น.

ผู้เข้าร่วมประชุม

  1. นายศุภกิจ สุทธิเรืองวงศ์                    ประธานกรรมการวิชาการ
  2. นายสุวิการณ์ เพชรประดับ                 กรรมการวิชาการสาขาวิทยาศาสตร์
  3. น.ส.สุนทรียา เหมือนพะวงศ์               กรรมการวิชาการสาขาสังคมศาสตร์
  4. น.ส.จิรวดี ขาวอ่อน                             กรรมการวิชาการสาขาสังคมศาสตร์
  5. นายกฤษกร ฤกษ์หร่าย                      กรรมการวิชาการสาขาวิศวกรรมศาสตร์

หัวข้อการประชุม

  1. การเขียนโครงการกิจกรรมวิชาการประจำปี 2546 เพื่อขอทุนสนับสนุนจากทางประเทศไทย
  2. การวางรูปแบบงานประชุมวิชาการนักเรียนไทยในเยอรมัน ประจำปี 2546

เนื้อหาการประชุม

1. การเขียนโครงการกิจกรรมวิชาการประจำปี 2546 เพื่อขอทุนสนับสนุนจากทางประเทศไทย

  • การเขียนโครงการครั้งนี้ปรับปรุงแก้ไขมาจากโครงการในปีที่ผ่านมาโดยอาจมีการเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงรูปแบบ และวิธี การในรายละเอียดการจัดทำโครงการวิชาการนี้จะนำเสนอขอทุนสนับสนุนจากทางประเทศไทยใน ปีงบประมาณนี้ ซึ่งจะต้องเสนอไปก่อนสิ้นเดือนมีนาคม โดยตัวแทนแต่ละสาขาจะไปจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดรายละละเอียดของกิจกรรมและงบประมาณที่ต้องการ โดยจะจัดพิมพ์มาเป็นเอกสารที่มีตัวอักษรมาตรฐานคืออังสนาขนาด 14 และจะทำการส่งรวบรวมให้ประธานกรรมการวิชาการในหนึ่งสัปดาห์
  • กลุ่มเป้าหมายของกิจกรรมวิชาการคือกลุ่มนักเรียนไทยในเยอรมัน กลุ่มนักเรียนไทยในยุโรปประเทศอื่นๆ และผู้ที่สนใจทั่วไป

กิจกรรมวิชาการประจำปี 2546 จะมี 3 ส่วนหลัก และการของบประมาณการดำเนินการจะเป็นไปตามงานหลัก 3 ส่วนดังต่อไปนี้

1.1 การประชุมใหญ่ประจำปี (ตามรายละเอียดในข้อ 2)

1.2 การประชุมวิชาการในกลุ่มย่อย ได้แก่

1.2.1 โครงการย่อยสาขาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการประชุมวิชาการ ย่อย ณ เมืองมิวนิก ณ เมืองอาเค่น และณ แคว้นบาเด้นวึทเทมแบร์ก

1.2.2 โครงการย่อยสาขาสังคมศาสตร์ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการศึกษาปัญหาชุมชนไทยในยุโรป โครงการการสัมมนาเรื่องเศรษฐกิจไทยในกระแสโลกาภิวัฒน์ และโครงการสัมมนานักเรียนกฎหมายระหว่างประเทศฝรั่งเศสและเยอรมัน

1.3 กิจกรรมเพื่อสร้างสรรค์งานวิชาการอื่นๆ

- ได้แก่ การสร้างเครือข่ายทางวิชาการ การรวบรวมและปรับปรุงฐานข้อมูล การทำmailing list และการประชาสัมพันธ์กิจกรรมฯลฯ ทั้งในส่วนนักเรียนไทยในเยอรมัน นักเรียนไทยในยุโรปประเทศอื่นๆและผู้ที่สนใจทั่วไป

- งบประมาณในด้านการสร้างและปรับปรุงฐานข้อมูลในส่วนท้ายนี้ ยังมีข้อพิจารณาว่าควรซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์มาทำเป็นserver เองหรือใช้การเช่าพื้นที่ ที่ประชุมยังคงหาข้อสรุปไม่ได้ เนื่องจากหากซื้อคอมพิวเตอร์มาเป็นสมบัติส่วนกลาง จำเป็นต้องมีคนดูแลรักษาและมีภาระในการจัดเก็บ

2. การวางรูปแบบงานประชุมวิชาการนักเรียนไทยในเยอรมัน ประจำปี 2546

รูปแบบภาพรวมของงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ คือ

2.1 กิจกรรมรวมของนักเรียนทุกสาขา

2.1.1 หัวข้อการอภิปราย

- หัวข้อที่เลือกมาจะนำไปสู่วิทยากรที่จะเชิญมา ว่าผู้ใดเหมาะสม
- หัวข้อควรจะเกี่ยวข้องกับปัญหาในปัจจุบันของประเทศไทย
- ควรเลือกหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับทั้ง 3 สาขาวิชาอาทิเช่น การพัฒนาแบบยั่งยืน การจัดการเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม และการวิจัยและจริยธรรม ฯลฯ
- ที่ประชุมมีมติให้คณะทำงานนำเรื่องนี้กลับไปปรึกษาทีมงาน เพื่อช่วยกันพิจารณา

2.1.2 วิทยากรรับเชิญ

- ที่ประชุมมีมติให้คณะทำงานแต่ละสาขาคิดหาตัวบุคคลมา แล้วนำมาเสนอในที่ประชุมครั้งต่อไปว่าควรจะเลือกใครมาเป็นวิทยากรรับเชิญที่มีทั้งความรู้ ประสบการณ์และสามารถถ่ายทอดให้กับผู้ฟังได้ดี

2.1.3 รูปแบบของกิจกรรม
- รูปแบบน่าจะเป็นลักษณะการตั้งหัวข้อเพื่อการอภิปรายที่นำเข้าสู่การบรรยายของวิทยากร จากนั้นวิทยากรจะให้แนวทาง ตั้งคำถามหรือชี้นำไปสู่หัวข้อการอภิปราย และทำการแบ่งกลุ่มย่อยไปอภิปรายกันภายในเวลาช่วงหนึ่งของงานประชุมในวันแรก ซึ่งในการอภิปรายเปิดแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันภายในกลุ่มย่อย จะมีวิทยากรหรือผู้ช่วยคอยควบคุมให้การอภิปรายอยู่ภายในประเด็นที่ตั้งเอาไว้ หรือให้คำแนะนำในการอภิปรายเปิดในแต่ละกลุ่มย่อย และสรุปผลการอภิปรายพร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในวงใหญ่ในวันงานประชุมถัดมา

2.2 กิจกรรมกลุ่มย่อยของสาขาวิชา

2.2.1 รูปแบบ

- มี 2 ทางเลือกให้พิจารณา โดยที่ประชุมมีมติให้แต่ละฝ่ายไปสอบถามความเห็นทีมงาน

ก. รูปแบบเหมือนการประชุมที่สตุทการ์ทคือ แบ่งกลุ่มตามสาขาวิชา โดยแบ่งเป็น3ห้องย่อยคือ สายวิทยาศาสตร์ สายวิศวกรรมศาสตร์ และสายสังคมศาสตร์
ข. รูปแบบใหม่คือแบ่งกลุ่มตามสาขาวิชา แต่ให้แต่ละสาขากำหนดหัวข้อกว้างๆที่น่าสนใจ เพื่อแบ่งเป็น session ย่อย มีกำหนดระยะเวลาชัดเจน เช่น

+ สายวิทยาศาสตร์อาจแบ่งเป็นหัวข้อย่อยได้แก่ เรื่องไบโอเทคกับความท้าทายของวิชาการรุ่นใหม่ เรื่องการพัฒนาทาง Medical Sciences และเรื่องวิชาวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ในยุโรป ฯลฯ
+ สายวิศวกรรมศาสตร์อาจแบ่งเป็นหัวข้อย่อย ได้แก่ เรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมและพลังงานในโลกปัจจุบัน เรื่องเทคโนโลยีเครื่องกลเยอรมัน หรือเรื่องวิชา Mechatronics และความก้าวหน้าของศตวรรษที่ 21 ฯลฯ
+ สายสังคมศาสตร์ อาจแบ่งเป็นหัวข้อย่อย ได้แก่ เรื่องการปฏิรูปการเมืองและกฎหมาย เรื่องเศรษฐกิจไทยในกระแสโลก หรือเรื่องศิลปะ ภาษา วัฒนธรรมและศาสนาในโลกยุคใหม่ ฯลฯ

- ลักษณะการนำเสนอแบบใหม่นี้ มีวัตถุประสงค์ที่จะทำให้ผู้ฟังไม่ถูกจำกัดแต่เพียงคนในสาขานั้นๆ แต่ทำให้ทุกคนสามารถเลือกฟังในเรื่องที่สนใจได้ตาม Session ที่ตนเห็นว่าน่าฟัง ทั้งนี้การกำหนดหัวข้อของ Session ย่อย คงจะต้องพิจารณาจากจำนวนผู้สนใจที่จะนำผลงานมาเสนอเป็นสำคัญ ว่ามีความสนใจหลักไปในทางใด ซึ่งการแบ่งหัวข้อเรื่องนี้อาจทำก่อนงานประชุมวิชาการอย่างน้อย 1-2 เดือน ก็จะทราบว่ามีแนวโน้มที่จะมีผู้นำเสนอไปทางใดมาก และสำหรับผู้ที่ส่งผลงานไม่ตรงกับหัวข้อเรื่องที่ตั้งไว้ อาจจะจัดอยู่ในกลุ่มที่เป็นส่วนที่เหลือต่างหาก หรืออาจจะถูกรวมเข้าไปอยู่ในหัวข้ออื่นๆ

2.2.2 วิธีการนำเสนอสามารถทำได้ด้วยการบรรยายและการนำเสนอด้วยโปสเตอร์ โดยความสมัครใจของผู้ส่งผลงาน

ก. การนำเสนอด้วยการบรรยาย
- เพื่อให้ผู้ส่งผลงานทุกคนมีโอกาสในการนำเสนอผลงานของตนเอง

ข. การนำเสนอผลงานด้วยโปสเตอร์
- สำหรับผู้ที่ต้องการเลือกนำเสนอผลงานของตนเองด้วยโปสเตอร์ และผู้ส่งผลงานแบบบรรยายที่ไม่ได้รับการคัดเลือก
- อาจจะใช้เวลาช่วงพัก 1-2 ชั่วโมง โดยให้เจ้าของผลงานคอยให้ความรู้และตอบข้อซักถามจากผู้ที่สนใจ
- เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจ โดยการเปิดโอกาสให้ซักถามเป็นการส่วนตัวกับเจ้าของผลงาน

ค. การอภิปรายในกลุ่มย่อย
- จะเลือกเน้นให้ความสำคัญไปที่การนำเสนอผลงานแต่ละบุคคล หรือเน้นที่การอภิปรายร่วมกันยังคงหาข้อสรุปไม่ได้ เพราะขึ้นกับจำนวนผลงานที่ส่งมาด้วย ที่จะโยงกับเรื่องเวลาที่มีด้วย

2.2.3 การส่งผลงานและการตรวจผลงาน

- ขึ้นกับความพร้อมของคณะทำงานในแต่ละสาขาย่อย ถ้ามีความพร้อมก็สามารถประกาศรับผลงานได้เลย และควรมีกำหนดเส้นตายก่อนงานประชุมวิชาการ 1-2 เดือน
- การส่งผลงานจะมีรูปแบบคล้ายกับปีที่ผ่านมาคือการเขียนเป็น Proposal ส่งมาที่ส่วนกลาง และเพื่อความสมบูรณ์ของผลงานควรจะมีรายละเอียดและผลการทดลองประกอบเท่าที่เป็นไปได้
- การตรวจผลงานจะเป็นในลักษณะตรวจความเรียบร้อยตรงตามวัตถุประสงค์ และรูปแบบ ไม่เน้นที่เนื้อหาทางวิชาการ

2.2.4 การจัดสรรเวลาในการนำเสนอผลงาน

- ขึ้นกับจำนวนผลงานที่ส่งมา ซึ่งคณะทำงานจะสามารถระบุกำหนดการของงานได้ประมาณ 1-2 เดือนก่อนจัดงาน

2.3 ข้อเสนอแนะอื่นๆ สำหรับงานประชุมประจำปี

2.3.1 เห็นสมควรตัดหัวเรื่องขั้นตอนการวิเคราะห์ (Methodology) ออกไปจากการประชุมเพื่อให้มีเวลาเพิ่มขึ้น
2.3.2 ที่ประชุมเห็นสมควรเสนอกิจกรรมที่น่าสนใจ ซึ่งน่าจะเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับปีต่อๆไปได้ (เนื่องจากปีนี้คงดำเนินการไม่ทัน ได้แก่ การรวบรวมความรู้จากบุคคลในหลากหลายสาขาในลักษณะให้ทำ Workshop แบบสหวิทยาการ เพื่อให้เกิดความรู้ที่ลึกและเป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างบุคคลต่างสาขาวิชากัน โดยอาจทำเป็น case study ตั้งตุ๊กตาให้แก้ปัญหาร่วมกันอย่างเป็นระบบ เช่น การศึกษาเรื่องการเลี้ยงกุ้ง ฯลฯ ซึ่งอาจทำเป็นโครงการระยะสั้นกินเวลา 6-8 เดือน
2.3.3 หลังการประชุมประจำปี ควรจัดให้มีการประเมินผลงานรวม เป็นลักษณะจัดทำแบบประเมินผลหลังงาน เพื่อการปรับปรุงและแก้ไขในปีต่อๆ ไป

Send your comment and suggestions to webmaster