![]() |
![]() |
|
แจ้งให้เข้าไปสัมภาษณ์เพื่อคัดเลือกผู้เข้าแข่งขัน "แฟนพันธุ์แท้ - สุนทรภู่" ที่ข้าพเจ้าเคยส่งใบสมัครไว้นานแล้ว และได้ทราบว่า มีผู้สนใจสมัครเข้าแข่งขัน แฟนพันธุ์แท้สุนทรภู่ อย่างมากมายไม่น่าเชื่อ ซึ่งทีมงานเวิร์คพอยท์ดีใจ มากที่มีผู้สนใจวรรณกรรมไทยมากขนาดนี้ แต่ปัญหาต่อมาคือ เรื่องราวของท่านสุนทรภู่นั้นมีมากเหลือเกิน มากจน ทีมงานไม่สามารถนำมาจัดเป็นการแข่งขันให้มีคำถามที่ครอบคลุมพอและเหมาะสมกับเวลาได้ จึงได้ตัดสินใจ เปลี่ยนชื่อตอน เป็น "แฟนพันธุ์แท้พระอภัยมณี" และถามว่า ข้าพเจ้ายังสนใจจะทดสอบในหัวข้อใหม่นี้หรือไม่ คือใคร ให้เล่าบทกลอนที่ชอบมากที่สุด ๕ บท ให้อธิบายความประทับใจ ทำไมจึงเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเรื่องนี้ และสุดท้าย ให้ตั้งคำถามเกี่ยวกับหัวข้อนี้ที่คิดว่า ไม่มีใครตอบได้แน่เพราะเราเป็นแฟนพันธุ์แท้สุดๆ :-) ข้าพเจ้า รู้สึกว่า คำถามเหล่านี้คงจะถูกนำไปใช้ในการแข่งขันจริงบ้างเป็นแน่ พอยท์อีกครั้ง แจ้งว่าข้าพเจ้าผ่านการทดสอบรอบแรก และขอให้ไปทดสอบรอบที่สองด้วย .. ว้าว .. ที่สองให้เหลือเพียง ๕ ท่านเพื่อแข่งขันรอบสุดท้ายในการออกรายการ ครั้งนี้ นอกจากคุณปอแล้ว ยังมีคุณรุ่ง อีกท่านหนึ่งที่มาช่วยกันตั้งคำถามกับข้าพเจ้า คำถามในรอบนี้ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงมากขึ้น และวัดความรู้มากขึ้น มีการทดสอบที่ข้าพเจ้าพบภายหลังว่า เหมือนกับการแข่งขันจริงในรอบที่สอง คือการบอกลำดับญาติ คุณรุ่งจะบอก ชื่อตัวละครมาสองตัว และให้บอกว่า ตัวละครทั้งสองมีความเกี่ยวพันกันอย่างไร เป็นต้น สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าเห็นว่ามี ความสำคัญในรอบนี้ คือทางทีมงานจะทดสอบว่า เราสามารถ "อธิบาย" หรือ "เล่า" เรื่องราวได้อย่างเป็นตุเป็นตะ ขนาดไหน ทั้งนี้เนื่องจากคอนเซปท์ของรายการ คือ การนำเสนอเรื่องราวที่เป็นหัวข้อนั้นๆ ผ่านทางผู้เข้าแข่งขัน นั่นเอง รายการไม่ได้ต้องการแค่คำตอบ ไม่ได้ต้องการแค่ ถูก-ได้รางวัล ผิด-ตกรอบ แต่สิ่งที่สำคัญของรายการนี้ คือเรื่องราวที่พวกเราต้องถ่ายทอดออกไปนั่นเอง เมื่อครั้งที่แล้ว ข้าพเจ้าบอกชื่อตัวละครที่ชอบที่สุดไปทันที แล้วจึงบอกว่าทำไมจึงชอบ แต่ครั้งนี้จะต้องเล่าถึง เรื่องราวของตัวละครนี้เสียก่อน บรรยายจนเห็นภาพเป็นที่พอใจแล้วจึงบอกว่า ตัวละครตัวนี้คือ ..... ซึ่งนับว่า เป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่ดี จากเดิมที่เราคิดว่าไปเล่นเกม กลับกลายเป็นว่า เรากำลังถ่ายทอดความรู้สึกรักใน บทประพันธ์นี้ ในตัวละครตัวนี้ ในความรู้สึกนี้ ออกไปให้ผู้ชมด้วย เมื่อแรกๆ ก็คิดว่า รู้สึกผ่อนคลายขึ้น ไม่ซีเรียส กับการแข่งขัน แต่ความรู้สึกที่เข้ามาแทนที่ และเกิดขึ้นกับผู้เข้าแข่งขันทุกคนคือ ความรู้สึกตึงเครียด กลัวพูดผิด กลัวเล่าผิด กลัวว่าถูกถามเรื่องที่ตอบไม่ได้ (เป็นงั้นไป) เมื่อถึงเวลาแข่งขันจริง ความรู้สึกต้องการเป็นผู้ชนะนั้น มันหายไปหมดเลย ![]() ห้าคนสุดท้ายของแฟนพันธุ์แท้พระอภัยมณีค่ะ จากซ้ายไปขวา : อาจารย์วีรศิลป์ น้องสรรักษ์ คุณป้าประภา อาจารย์สุวิญญา และข้าพเจ้า ท่านอื่นๆ คือ อาจารย์สุวิญญา ผู้สอนวิชาภาษาไทยและเป็นนักอ่านทำนองเสนาะของกรมประชาสัมพันธ์ คุณป้า ประภา อาจารย์ผู้คร่ำหวอดกับการสอนภาษาไทย และเคยฝึกสอนนักเรียนเล่นละครเรื่องพระอภัยมณีมานับครั้ง ไม่ถ้วน (คุณป้าประภามีหนังสือเกี่ยวกับพระอภัยมณีเยอะจริงๆ จนข้าพเจ้าลานตาไปหมด) อาจารย์วีรศิลป์ ผู้ฝึก สอนโขนของกรมศิลปากร และเคยเล่นละครเรื่องนี้มาด้วยตัวเอง น้องสรรักษ์ ผู้แข่งขันอายุน้อยที่สุดของเรา แต่มีประวัติยาวเหยียดทางด้านงานประพันธ์ เป็น ๑ ใน ๑๐๐ ยุวกวีสุนทรภู่ด้วย (ขออภัยถ้าจำชื่อผิดนะน้องนะ แต่ดีกรีของน้องยาวจริงๆ จนจำได้ไม่หมด) อ่านประวัติของแต่ละท่านแล้วข้าพเจ้าแทบถอดใจ ไม่รู้ว่าเรา หลุดติดรอบเข้ามาได้ยังไง แต่ก็ภูมิใจนิดๆ ว่า ความรักที่เรามีต่องานประพันธ์ของท่านสุนทรภู่ก็ไม่ได้น้อยหน้า ไปกว่าใครเหมือนกัน ... ![]() การแข่งขันรอบแรกค่ะ น้องสรรักษ์ต้องจากเราไปก่อน เสียดายจริงๆ ![]() รอบตัดเชือก ข้าพเจ้าต้องประมือกับ อ.สุวิญญา (เหมือนหนังจีนเลย ^_^) คู่ที่ได้เข้ารอบชิงคือ อ.สุวิญญา และคุณป้าประภา ซึ่งทุกคนก็ยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่า คุณป้าเหมาะสมแล้วจริงๆ ![]() สุดยอดแฟนพันธุ์แท้พระอภัยมณี!! จากเวลาอันจำกัดนั่นเอง ทำให้ดูเหมือนว่าถามเพียงคำถามเดียวก็ตอบผิดเสียแล้ว ซึ่งความจริงมีการถามตอบ กันยาวกว่านั้นมาก ก็เช่นเคยค่ะ ไว้ว่างๆ จะเขียนคำถามคำตอบทั้งหมดมาให้ได้ชมกันก็แล้วกันนะคะ (ขออู้อีกแล้วค่ะ ฮิฮิ..) |