HALL OF FAME

          แนวความคิดในการจัดตั้ง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้มีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2528 ซึ่งขณะนั้น ศาสตราจารย์คุณหญิง นงเยาว์ ชัยเสรี ดำรงตำแหน่งอธิการบดี และ ได้มีการสานต่อในสมัยที่ศาสตราจารย์เกริกเกียรติ  พิพัฒน์เสรีธรรม ดำรงตำแหน่งอธิการบดีในปี พ.ศ. 2531 ซึ่งสภามหาวิทยาลัยได้อนุมัติโครงการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ ในเดือนสิงหาคม 2531 และได้รับการอนุมัติการจัดตั้งจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2533 และได้นำเสนอต่อทบวงมหาวิทยาลัยเพื่ออนุมัติหลักสูตรแนวใหม่ คือ การใช้ปัญหาเป็นฐานและเน้นการศึกษาที่ชุมชน (Problem based learning and community-oriented) พร้อมเสนอแนะการบริหารโดยไม่ได้มีภาควิชา ซึ่งทบวงได้ให้ความเห็นชอบ และได้มีประกาศพระราชกฤษฎีกาการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทบวงมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2533 นับเป็นคณะที่ 11 ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นคณะแพทยศาสตร์ที่ 9 ของประเทศไทย

          ในการดำเนินการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยได้เปิดโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพรเกียรติ เพื่อให้บริการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยมาตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2530 ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงเปิดอาคารเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2531 อย่างเป็นทางการ ซึ่งขณะนั้นประกอบด้วย อาคาร มรว.สุวพรรณ  สนิทวงศ์ และอาคารธนาคารทหารไทย

          วันที่ 7 มีนาคม 2534 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีได้เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์อาคารปรีคลินิก คณะแพทยศาสตร์ ซึ่งการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดใช้ในปี 2536 ซึ่งในระหว่างนั้นได้มีการก่อสร้างอาคารปัญจา สายาลักษณ์ สำหรับผู้ป่วยพิเศษ ซึ่งได้เปิดดำเนินการในเวลาต่อมา

          คณะได้ดำเนินการพัฒนาและบริหารหลักสูตร โดยมีศาสตราจารย์นายแพทย์ อารี วัลยะเสวี เป็นคณบดีคนแรก และ ได้ดำเนินการเปิดรับนักศึกษาในหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต ตั้งแต่ปีการศึกษา 2534 เป็นปีแรก และได้ดำเนินการต่อมาจนถึงปัจจุบันในปี 2542 คณะได้รับอนุมัติให้เป็นสถาบันฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน เพื่อความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาเวชศาสตร์ครอบครัว

          ในปีการศึกษา 2546 คณะได้เปิดรับนักศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาจำนวน 2 หลักสูตรคือ หลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ และหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ และได้รับอนุมัติให้เป็นสถาบันฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน สาขาอายุรศาสตร์  ต่อมาในการศึกษา 2547 ได้รับอนุมัติให้เป็นสถาบันฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านฯ สาขาสูติศาสตร์-นารีเวชวิทยาและสาขากุมารเวชศาสตร์ เพิ่มอีก 2 สาขา ในปีการศึกษา 2548 ได้รับอนุมัติให้เป็นสถาบันฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านสาขาศัลยกรรมกระดูกและข้อ โดยปีที่ 1 ให้ศึกษาที่โรงพยาบาลภูมิพลฯ และในปีการศึกษา 2549 ได้รับอนุมัติให้เป็นสถาบันฝึกอบรมสาขาจักษุวิทยา จำนวน 3 ตำแหน่งต่อปี

          คณะฯได้ดำเนินการตามงบประมาณ ก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า พระราชทานชื่อว่า “กิตติวัฒนา” และอาคารผู้ป่วยใน ชื่อว่า “ดุลโสภาคย์” และทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินเปิดอาคารกิตติวัฒนาเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2541

          คณะแพทยศาสตร์ ตั้งอยู่ ณ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยมีห้องเรียน และปัจจัยสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนในอาคารต่างๆ คืออาคารคุณากร และอาคารดุลโสภาคย์  มีการแบ่งส่วนราชการในคณะฯเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่และภารกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ออกเป็น 3 ส่วนราชการ ดังนี้

1)      สำนักงานเลขานุการ

2)      สถานวิทยาศาสตร์ปรีคลินิก

3)      สถานวิทยาศาสตร์คลินิก

            คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เริ่มรับนักศึกษาแพทย์ในหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต ในปีการศึกษา 2534 มีนักศึกษารุ่นแรก 27 คน และเพิ่มขึ้นตามลำดับ ในปีการศึกษา 2547 คณะแพทยศาสตร์ รับนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ศึกษาในหลักสูตร 5 ปี และจัดสอบคัดเลือกจากคณะแพทยศาสตร์โดยตรง จำนวน 15 คน นักศึกษาชั้นปีที่ 1 จากโครงการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท จำนวน 52 คน (โดยเป็นนักศึกษาจากศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิก รพ.สระบุรี 30 คน และศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิก รพ.สุราษฏร์ธานี 22 คน) จากโครงการเร่งรัดผลิตบัณฑิตสาขาขาดแคลนจำนวน 51 คน และนักศึกษาโครงการร่วมมือระหว่างประเทศ (มัลดีฟส์) จำนวน 2 คน รวมทั้งสิ้น 4 โครงการ จำนวน 120 คน โดยจำแนกเป็นนักศึกษาในขั้นปีต่างๆ ประจำปีการศึกษา 2547 ได้ดังนี้ ชั้นปีที่ 1 : 105 คน ชั้นปีที่ 2 : 72 คน ชั้นปีที่ 3 : 70 คน ชั้นปีที่ 4 : 85 คน  ชั้นปีที่ 5 : 88 คน ชั้นปีที่ 6 : 104 คน รวมจำนวนนักศึกษาแพทย์ทั้งสิ้น 524 คน และได้ผลิตบัณฑิตในหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิตจำนวน 10 รุ่น คือ

รุ่นที่ 1 : 24 คน                   รุ่นที่ 2 : 22 คน

รุ่นที่ 3 : 46 คน                    รุ่นที่ 4 : 60 คน

รุ่นที่ 5 : 49 คน                   รุ่นที่ 6 : 63 คน

รุ่นที่ 7 : 70 คน                             รุ่นที่ 8 : 71 คน

รุ่นที่ 9 : 60 คน และในปีการศึกษา 2547 จำนวน 82 คน

รวมบัณฑิตแพทย์ธรรมศาสตร์จำนวนทั้งสิ้น 547 คน