HALL OF FAME

 

ศูนย์ตาธรรมศาสตร์

เนื่องจากในปี 2547 สาขาจักษุวิทยาได้เริ่มมีการพัฒนาระบบบริการและมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยทางตา ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยมาใช้บริการที่งานจักษุวิทยาเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นในเดือนธันวาคม ปี 2547 จึงมีการขออนุมัติโรงพยาบาลธรรมสาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จัดตั้ง ศูนย์ตาธรรมศาสตร์ ขึ้น เพื่อใช้ในการพัฒนาระบบบริการ และประชาสัมพันธ์ เป็นการเพิ่มคุณภาพทั้งการให้บริการ และงานวิชาการ เพื่อมุ่งสู่การเป็น Excellence Center ของประเทศและภูมิภาคต่อไป

 

แนวทางการดำเนินการพัฒนา

1.ด้านบริการ

1.1 ขยายพื้นที่การให้บริการ

- งานผู้ป่วยนอก ขยายพื้นที่ โดยใช้บริเวณห้องตรวจ หู คอ จมูก เดิม ซึ่งจะย้ายไปอยู่ชั้น 2 อาคาร มรว.สุวพรรณ เพื่อใช้จัดตั้งศูนย์เลสิคแก้ไขสายตาผิดปกติ และหน่วยตรวจโรคเบาหวานขึ้นจอตาอย่างครบวงจร

- งานผู้ป่วยใน เพื่อให้การบริการผู้ป่วยในทางจักษุวิทยาเป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งเป็นข้อกำหนดของแพทยสภาจึงจำเป็นต้องจัดให้มีหอผู้ป่วยจักษุวิทยาสามัญจำนวน 12 เตียง ในหอผู้ป่วยศัลยกรรมชั้น 4, หอผู้ป่วยจักษุวิทยาพิเศษจำนวน 10 เตียง ณ หอผู้ป่วยอาคารธนาคารทหารไทย

1.2 ให้บริการคลินิกเฉพาะทาง ปัจจุบันศูนย์ตาธรรมศาสตร์มีจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคจึงเปิดดำเนินการคลินิกพิเศษบางโรคหลายด้านเช่น คลินิกโรคต้อหิน, โรคกระจกตา,โรคจอประสาทตา, โรคเบาหวานจอประสาทตา

 1.3 ศูนย์เลสิคแก้ปัญหาสายตา ปัจจุบันการใช้เลเซอร์ในการรักษาโรคสายตาสั้น ยาว เอียง เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง  ศูนย์ตาธรรมศาสตร์จึงจะจัดตั้งเลสิค เพื่อให้บริการแก่ผู้สนใจ โดยใช้ระบบบริษัทที่สนใจร่วมใช้พื้นที่และแบ่งค่าตอบแทนให้โรงพยาบาล (เปิดให้บริการได้ในเดือนมีนาคม 2549)

1.4 หน่วยดูแลโรคเบาหวานขึ้นจอตาอย่างครบวงจร  ศูนย์ตาธรรมศาสตร์จะได้จัดซื้อเครื่องมือถ่ายภาพจอประสาทตาเพื่อตรวจคัดกรองโรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา ซึ่งเป็นอาการแทรกซ้อนที่สำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานตาบอดได้ เพื่อเพิ่มคุณภาพการตรวจคัดกรองและป้องกันภาวะตาบอดในผู้ป่วยเบาหวาน(ให้บริการได้ตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2548)

1.5 หน่วยจอประสาทตา โรคจอประสาทตาเป็นโรครุนแรงที่ทำให้ผู้ป่วยตาบอดและจำเป็นต้องใช้ทักษะและเทคโนโลยีในการรักษา ปัจจุบันศูนย์ตาธรรมศาสตร์มีจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางโรคจอประสาทตา และในปี 2548 ได้มีการจัดซื้อเครื่องมือผ่าตัดจอตาและวุ้นลูกตา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยให้ได้รับการยอมรับมากขึ้นต่อไป

1.6 คลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ เพื่อเป็นการลดจำนวนผู้ป่วยที่มารอรับบริการที่ศูนย์ตาในเวลาราชการ ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก และทางเลือกแก่ผู้มารับบริการ ศูนย์ตาฯจึงเปิดให้บริการตรวจรักษาโรคตานอกเวลาราชการ ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ระหว่างเวลา 16.30 – 19.30 น. อย่างครบวงจร ทั้งการตรวจและผ่าตัดรักษาโรคทางตา (คลินิกนอกเวลาของศูนย์ตา เริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2548)

1.9  ห้องผ่าตัด เพื่อเป็นการรองรับการผ่าตัดรักษาโรคตาซึ่งมีผู้ป่วยจำนวนมากและในปัจจุบันงานจักษุวิทยามีศักยภาพในการผ่าตัดโรคตาซึ่งมีความซับซ้อนมากจึงเปิดใช้ห้องผ่าตัดตา 1 ห้อง ตั้งแต่ วันจันทร์- วันศุกร์ (เดิมมีห้องผ่าตัดตาเฉพาะ วันอังคาร- วันศุกร์) และจะเปิดการผ่าตัดตา 2 เตียง ตั้งแต่วัน จันทร์-วันศุกร์ ต่อไป เพื่อประโยชน์ในการเรียนการสอนของแพทย์ประจำบ้าน

 

2. ด้านวิชาการ

2.1 การเปิดเป็นสถาบันฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านสาขาจักษุวิทยา แพทย์สภาได้อนุมัติให้สาขาจักษุวิทยาเปิดเป็นสถาบันฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านสาขาจักษุวิทยาปีการศึกษาละ 3 คน ตั้งแต่ปีการศึกษา 2549 เป็นต้นไป

2.2 จัดทำตำราจักษุวิทยา โดยคณาจารย์ในสาขาจักษุวิทยาเพื่อให้นักศึกษาแพทย์ แพทย์ทั่วไปและทีมงานสุขภาพสามารถนำความรู้ไปใช้ในการดูแลผู้ป่วยทางตา โดยเน้นหลัก Problem-base learning (แล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม2548)

2.3 งานวิจัย สาขาจักษุวิทยาจะพยายามจัดทำงานวิจัยและเผยแผ่องค์ความรู้ใหม่เพื่อแก้ปัญหาสาธารณสุขของไทยและให้เกิดการยอมรับอย่างกว้างขวางโดยใช้ฐานข้อมูลและศักยภาพของศูนย์ตาธรรมศาสตร์

 

 

 

3.ด้านการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมสุขภาพ

3.1 จัดทำ Web site ของศูนย์ตาธรรมศาสตร์ ( Thammasat Eye Center ) ในชื่อ WWW.TEC.IN.TH เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของศูนย์ตาฯ  ศักยภาพการให้บริการ  ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพตาสำหรับประชาชนรวมทั้งมีการจัดทำ Web board ให้ผู้สนใจเข้ามาสอบถามปัญหาสุขภาพและเสนอแนะการให้บริการได้ (ได้จัดทำ Web site แล้วตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2547)

3.2 จัดทำปฏิทินส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์ตาได้จัดทำปฏิทินตั้งโต๊ะจำนวน 500 เล่ม เพื่อใช้ในหน่วยงานต่างๆของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ และแจกจักษุแพทย์ทั่วประเทศ โดยมีเนื้อหา เน้นการดูแลและส่งเสริมสุขภาพตา (ดำเนินการแล้วเสร็จตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2547)

3.3 ทำแผ่นพับเพื่อสุขภาพสำหรับประชาชนและผู้รับบริการโดยใช้โปรแกรม Microsoft Word เพื่อความสะดวกในการปรับปรุงเนื้อหา ประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเน้นเรื่องที่เป็นประโยชน์ในการส่งเสริมสุขภาพทางตา เช่น ข้อแนะนำการตรวจสุขภาพตา การเฝ้าระวังโรคเบาหวานขึ้นจอตา โรคต้อกระจก โรคต้อเนื้อ และวิธีการใช้ยาหยอดตาเป็นต้น (เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2548)

3.4 กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ เพื่อมุ่งสู่การเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ( Health Promoting Hospital ) ศูนย์ตาฯจะจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพในประชาชนกลุ่มต่างๆ เช่น

- กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพตาในผู้ป่วยเบาหวาน เพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพผู้ป่วยเบาหวานอย่างครบวงจร ศูนย์ตาคาดว่าจะจัดงาน DM meeting โดยเชิญผู้ป่วยเบาหวานของโรงพยาบาลมาร่วมกิจกรรมในวันดังกล่าว และจัดกิจกรรมตรวจโรคตาในผู้ป่วยเบาหวาน สอนให้ความรู้เรื่องโภชนาการ การใช้ยาเบาหวาน การดูแลรักษาสุขภาพและการบริหารเท้าเพื่อป้องกันแผลที่เท้า ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้ป่วยเบาหวานได้ (จัดกิจกรรมในช่วงวันเบาหวานโลก พฤศจิกายน 2548)

 

4.ด้านการรับรองคุณภาพ

4.1 จัดตั้งคณะทำงานพัฒนาคุณภาพงานจักษุวิทยา เพื่อพัฒนาระบบการให้บริการโดยยึดหลักผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการทั้งด้านบริการและวิชาการ และปรับเปลี่ยนเป็นคณะกรรมการดูแลผู้ป่วย Patient Care Team (PCT) เพื่อเป็นโครงการนำร่องสู่การรับรองคุณภาพโรงพยาบาล ( Hospital Accreditation) และการเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ( Health Promoting Hospital ) โดยเน้นการส่งเสริมสุขภาพ และการสร้างเครือข่ายสุขภาพเพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชนต่อไป (เริ่มดำเนินการในเดือนกุมภาพันธ์ 2548)

4.2 มีการกำหนดตัวชี้วัดประสิทธิภาพการทำงาน ทั้งด้านวิชาการ การบริการ การประเมินและถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อจัดทำแผนการปฏิบัติงานและติดตามงานให้เป็นไปตามนโยบายของโรงพยาบาลฯและนโยบายของศูนย์ตาธรรมศาสตร์