HALL OF FAME
สาขาวิชาจักษุวิทยา
คณะแพทยศาสตร์
ได้เริ่มเปิดให้บริการวิชาการและมีการเรียนการสอนนักศึกษาแพทย์มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน
2536
โดยในช่วงตั้งแต่ปี
2536
ถึงปี
2547
มีอาจารย์ประจำสาขาวิชาเพียง
2-3 คน
การเรียนการสอนและการให้บริการวิชาการเน้นในด้านจักษุวิทยาทั่วไป
จนกระทั่งในปี
2547
รศ.นพ.กัมมาร
กุมาร ปาวา
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาสาขาวิชาจักษุวิทยา
โดยมีการพัฒนาศักยภาพ
เริ่มตั้งแต่มีการส่งอาจารย์ในสาขาวิชาไปศึกษาต่อในอนุสาขาวิชาที่จำเป็น
เพิ่มจำนวนอาจารย์ในสาขาวิชาเป็น
7 คนในปี
2547
แต่งตั้งหัวหน้าสาขาวิชาคนใหม่
และได้กำหนดเป็นนโยบายเร่งด่วน
ในการเตรียมความพร้อมในการรับการประเมินเป็นสถาบันฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านเพื่อเป็นตัวกระตุ้นให้สาขาวิชาจักษุวิทยา
มีความก้าวหน้าทางด้านวิชาการ
และเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศต่อไป
ด้วยความสนับสนุนอย่างเต็มที่จากท่านคณบดี
คณะแพทยศาสตร์
ในด้านวิชาการ
อัตรากำลัง
และการสนับสนุนด้านสถานที่ให้บริการวิชาการ
เครื่องมือทางการแพทย์จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
พร้อมทั้งความร่วมมือ
ร่วมใจของคณาจารย์และบุคลากรที่เกี่ยวข้องในสาขาวิชาจักษุวิทยา
ทำให้สาขาวิชาได้มีการพัฒนาทางด้านวิชาการอย่างรวดเร็ว
อาทิเช่น
-
มีการจัดทำตำราจักษุวิทยา
เล่มแรกของสาขาวิชา
โดยคณาจารย์ทุกคนเพื่อให้นักศึกษาแพทย์
และผู้สนใจ
สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้าทางจักษุวิทยา
ดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม
2548
-
มีการพัฒนาการเรียนการสอนนักศึกษาแพทย์
ให้ครอบคลุมทั้งด้านการส่งเสริมสุขภาพ
การป้องกันโรค
การรักษาโรค
และการฟื้นฟูสมรรถภาพทางตา
เช่นการจัดตั้งคลินิกสายตาเลือนราง
เพื่อให้นักศึกษาแพทย์มีมุมมองในการนำไปใช้ประโยชน์ในอนาคต
นอกจากนั้นเพื่อให้นักศึกษามีความรู้ในด้าน
community base ดียิ่งขึ้น
จึงจัดให้นักศึกษาแพทย์ได้มีโอกาสไปเรียนรู้เรื่องปัญหาตาในชุมชนที่ศูนย์บริการปฐมภูมิ
ณ ตำบลคูคตอีกด้วย
-
มีการจัดทำรายงานการประเมินตนเอง
(Self
assessment report) เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการประกันคุณภาพการศึกษาชองคณะแพทยศาสตร์
มาตั้งแต่ปีการศึกษา
2546 เพื่อเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบและพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสาขาวิชาต่อไป
-
มีการพัฒนาการให้บริการ
โดยมุ่งเน้นงานด้านวิชาการ
มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่
เพื่อประโยชน์ในด้านการเรียนการสอนและการรักษาผู้ป่วย
เช่น
การติดตั้งเครื่อง
Excimer laser เพื่อแก้ไขสายตาผิดปกติ,
การใช้เลเซอร์รักษาผู้ป่วยจอประสาทตาเสื่อม
ด้วยวิธี photo-dynamic
therapy นอกจากนั้นยังมีการให้บริการวิชาการเฉพาะทางครบทุกหน่วยสาขาวิชาย่อย
เช่น
หน่วยโรคต้อหิน
หน่วยกระจกตา
หน่วยจอประสาทตา
หน่วยจักษุ
วิทยาเด็ก
หน่วยตาเข
หน่วยสายตาผิดปกติ
หน่วยจักษุตกแต่งและเสริมสร้าง
หน่วยเลเซอร์
หน่วยเบาหวานจอประสาทตา
และหน่วยสายตาเลือนราง
ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยมารับบริการเพิ่มมากขึ้น
ผู้ป่วยนอกจากจำนวนประมาณ
30
รายต่อวัน
ในช่วงต้นปี 2547 เป็น 130-140
รายต่อวันในปี
2548 ผู้ป่วยผ่าตัดทางจักษุวิทยาจากเดือนละ
20-30 รายในช่วงต้นปี
2547
เป็นประมาณ
100 รายต่อเดือนในปี
2548
จากการพัฒนาของสาขาวิชาจักษุวิทยาในช่วงปี
2547 ท่านคณบดี
จึงได้ทำหนังสือขอรับการประเมินเป็นสถาบันฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน
สาขาจักษุวิทยา
ต่อแพทยสภาเมื่อวันที่
24 ธันวาคม
2547
และราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยได้กำหนดให้คณะอนุกรรมการฝึกอบรมและสอบมาประเมินความพร้อมในการเปิดเป็นสถาบันฝึกอบรมเมื่อวันที่
16 มีนาคม
2548
โดยคณะกรรมการประเมินประกอบด้วย
1.ผศ.นพ.ธวัชชัย
ปานเสถียรกุล
ประธานคณะอนุกรรมการ
2.รศ.พญ.ไธวดี
ดุลยจินดา
หัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
3.อ.นพ.ธีระพงษ์
ทังสุบุตร
หัวหน้ากลุ่มงานจักษุวิทยา
โรงพยาบาลราชวิถี
4.รศ.พญ.สุดารัตน์
ใหญ่สว่าง
หัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เป็นเลขานุการคณะอนุกรรมการ
ซึ่งผลงานของสาขาวิชาจักษุวิทยา
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เป็นที่พึงพอใจของคณะกรรมการประเมินเป็นอย่างมาก
และต่อมาในวันที่
22 เมษายน
2548
จึงผ่านการรับรองจากกรรมการบริหารราชวิทยาลัยจักษุแพทย์
และได้รับการอนุมัติจากการประชุมแพทยสภาในวันที่
12 พฤษภาคม
2548
ให้คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เป็นสถาบันฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านสาขาจักษุวิทยาจำนวน
3
ตำแหน่งต่อปี
และให้เริ่มฝึกอบรมได้ตั้งแต่ปี
2549
เป็นต้นไป
ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
ได้กำหนดให้มีการสัมภาษณ์ผู้ที่ประสงค์จะฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านสาขาจักษุวิทยาพร้อมกันในวันศุกร์ที่
7 ตุลาคม 2548 โดยสาขาวิชาจักษุวิทยา
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
มีผู้ยื่นใบสมัคร
15 คนเป็นอิสระ
14
คน
ต้นสังกัด 1 คน (ทุนรพ.ประจวบฯขอถอนตัวก่อนวันสัมภาษณ์)
มีผู้มาสัมภาษณ์จริงรวม
11 คน
ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในประเทศไทย
ผลสรุปผู้ได้รับการคัดเลือกคือ
1.พญ.ปิยะดา
พูลสวัสดิ์
จบจาก ศรีนครินทรวิโรฒ
เกรดเฉลี่ย 3.46
เกรดจักษุวิทยา
B ประเภท
อิสระ
2.พญ.รัชดาภรณ์
ตันติมาลา
จบจาก
ธรรมศาสตร์
เกรดเฉลี่ย
2.96 เกรดจักษุวิทยา
A
ประเภทอิสระ
3.นพ.วรวิทย์
อึ้งภูรีเสถียร
จบจาก จุฬาลงกรณ์
เกรดเฉลี่ย 3.27
เกรดจักษุวิทยา
A ประเภท
อิสระ
สำรอง 2
ลำดับคือ
พญ.ดุจเดือน
เมฆวรวุฒิ
และ พญ.ทิพย์สุมาลย์
เมี้ยนกลาง
โดยจะเริ่มเข้ารับการฝึกอบรมตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่
1 มิถุนายน
2549
เป็นต้นไป