E-LEARNING
สำหรับแพทย์ประจำบ้านต่อยอด
หลักสูตรการฝึกอบรมต่อยอด
สาขาจักษุวิทยาเด็กและตาเข
โครงการจัดตั้งภาควิชาจักษุวิทยา
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
Fellowship
Training Program in Pediatric Ophthalmology and Strabismus
Department
of Ophthalmology, Faculty of Medicine, Thammasat University
1.
ประกาศนียบัตร
ประกาศนียบัตรรับรองการฝึกอบรมต่อยอด
สาขาจักษุวิทยาเด็กและตาเข
Certificate
of Fellowship in Pediatric Ophthalmology and Strabismus
2.
หน่วยงานที่รับผิดชอบ
โครงการจัดตั้งภาควิชาจักษุวิทยา
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
3.
หลักการและเหตุผล
โครงการจัดตั้งภาควิชาจักษุวิทยา
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เป็นหน่วยงานในสถานวิทยาศาสตร์คลินิก
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ที่มีหน้าที่หลักในการจัดการเรียนการสอนในด้านจักษุวิทยา
ซึ่งนอกจากการจัดการเรียนการสอนในระดับแพทยศาสตร์บัณฑิต
ยังได้รับอนุมัติจากราชวิทยาลัญจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
ให้จัดอบรมแพทย์ประจำบ้านสาขาจักษุวิทยา
ซึ่งโครงการจัดตั้งภาควิชาฯได้มีการพัฒนาทางด้านวิชาการและบริการ
รวมทั้งการดูแลรักษาผู้ป่วยด้านจักษุวิทยาในเด็กอย่างครบวงจร
ครอบคลุมทั้งการตรวจวินิจฉัย
รักษา ผ่าตัด ส่งเสริม
ป้องกันโรคตาในเด็ก
และฟื้นฟูสมรรถภาพทางการมองเห็น
โดยให้บริการครอบคลุมโรคที่เป็นสาเหตุของความพิการทางตาในวัยเด็ก
คือ
1.
Amblyopia (ภาวะตาขี้เกียจ) ซึ่งมีสาเหตุมาจากโรคตาที่สำคัญในวัยเด็กเล็ก
ได้แก่
·
Refractive
error
·
Strabismus
·
Congenital anomalies
เช่น Congenital cataract, Congenital
glaucoma, Congenital ptosis, Other congenital anomalies with ocular deformities
2.
Eye injuries
3.
Ocular diseases เช่น
โรคติดเชื้อทางตา
โรคตาจากการขาดสารอาหาร
โรคทางพันธุกรรม
โรคทางเมตาโบลิก
Retinopathy of prematurity (ROP), Retinoblastoma,
ซึ่งการตรวจวินิจฉัยและการรักษาทางจักษุวิทยาในเด็ก
มีความแตกต่างจากผู้ใหญ่เป็นอย่างมาก
จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มพูนความรู้และทักษะให้กับจักษุแพทย์ที่จะต้องรับผิดชอบดูแลผู้ป่วยเหล่านี้
ทั้งนี้เพื่อให้การดูแลรักษามีความถูกต้อง
ในระยะเวลาที่เหมาะสม
และในอนาคต
จักษุแพทย์ที่ได้รับการอบรม
จะเป็นกำลังสำคัญในการลดความพิการทางตาของประชากรเด็กของ
4.
วัตถุประสงค์
เพื่อให้จักษุแพทย์ผู้ผ่านการอบรมแล้วมีความชำนาญในสาขาจักษุวิทยาเด็กและตาเข
โดยต้องมีความรู้ความสามารถและคุณสมบัติดังต่อไปนี้
4.1
สามารถวัดสายตา
เพื่อประกอบแว่นแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติในเด็ก
รวมทั้งให้แว่นสำหรับเด็กตาเขได้อย่างเหมาะสม
4.2
ทำการตรวจ วินิจฉัย
ให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับโรคตาในเด็ก
และโรคตาเขทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ได้
4.3
ให้คำแนะนำและรักษาภาวะตาขี้เกียจ
แบบต่างๆในเด็กได้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง
4.4
ให้การรักษา
ผ่าตัดโรคตาในเด็ก
และโรคตาเขแบบต่างๆทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.5
ให้การรักษา
และดูแลอย่างต่อเนื่องในระยะยาวแก่ผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
4.6
รักษาภาวะแทรกซ้อน
หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดภายหลังการผ่าตัดรักษาโรคตาเขได้
4.7
ให้คำแนะนำหรือสอนแพทย์ประจำบ้าน
นักศึกษาแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์
รวมทั้งให้คำปรึกษาปัญหาโรคตาในเด็กและโรคตาเขแก่ผู้ปกครอง
ครู
และประชาชนทั่วไปได้เป็นอย่างดี
4.8
ประสานงานกับผู้อื่นทางด้านวิชาการ
การบริการ
และการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ
4.9
ศึกษาและวิจัยโรคตาในเด็กและโรคตาเข
รวมทั้งเรียนรู้และค้นคว้าด้วยตนเอง
4.10
เป็นแพทย์ที่มีจริยธรรม
คุณธรรม และเจตคติอันดี
ต่อผู้ป่วยและญาติ
ผู้ร่วมงาน
เพื่อนร่วมวิชาชีพและชุมชน
5.
คุณสมบัติของผู้รับการอบรม
เป็นผู้ได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาจักษุวิทยาจากแพทยสภา
6.
จำนวนผู้เข้าอบรม
ปีการศึกษาละ 1
คน
7.
ระยะเวลาการฝึกอบรม
1 ปี
8.
คณาจารย์
8.1
อาจารย์ในสาขาวิชาจักษุวิทยา
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
8.2
อาจารย์พิเศษจากภายนอก
9.
เนื้อหาของหลักสูตร
9.1
ความรู้พื้นฐาน (Basic medical
science)
·
กายวิภาคศาสตร์ของลูกตาและกล้ามเนื้อตา
-
Anatomy
and applied anatomy of eye
·
สรีระวิทยาของลูกตาและกล้ามเนื้อตา
-
Motor
physiology
-
Sensory
physiology
-
Pathology
of binocular function
·
Embryology
ของลูกตา
·
Genetic
and Immunology
·
Normal
visual development
·
การตรวจวัดระดับสายตาในเด็กวัยต่างๆ
(Preverbal and verbal children)
·
การตรวจตาเด็ก
·
การตรวจตาเหล่และการแปลผลทั้งภาวะ
motor และ
sensory
-
Ocular
and sensory examination
·
การวินิจฉัยแยกชนิด
และการรักษาภาวะ amblyopia
·
Electrophysiology
of eye
-
Electroretinography
(ERG)
-
Visual
evoked potential (VEP)
-
Electrooculography
(EOG)
·
Ophthalmic
ultrasonography
·
Fundus
fluorescein angiography
·
หลักการของ
Laser
9.2
ความรู้เกี่ยวกับโรคตาในเด็กและโรคของกล้ามเนื้อตา
ทั้งที่พบบ่อยและไม่บ่อย
โดยมีความรู้ความเข้าใจในแง่ของต้นเหตุ
พยาธิสรีระวิทยา
การดำเนินโรค
และภาวะแทรกซ้อนของโรคต่อไปนี้
·
โรคของกล้ามเนื้อตา
-
Congenital
strabismus
-
Acquired
strabismus
-
Paralytic
strabismus
-
Special
forms of strabismus
-
Strabismus
as part of syndromes
·
โรคของกระจกตาในเด็ก
-
Congenital
corneal dystrophy
-
Corneal
opacity associated with metabolic diseases
·
โรคต้อหินแต่กำเนิด
·
โรคของเลนส์ตาในเด็ก
-
Congenital
cataract
-
Traumatic
cataract
-
Spontaneous
lens dislocation / subluxation
·
โรคของจอประสาทตาในเด็ก
-
Retinoblastoma
-
Retinopathy
of prematurity
-
ความผิดปกติแต่กำเนิดของจอประสาทตาและโรคทางพันธุกรรม
ได้แก่ Persistent
hyperplastic primary vitreous (PHPV), Familial exudative vitreoretinopathy (FEVR),
Norrie disease, X-linked recessive juvenile retinoschisis เป็นต้น
·
ภาวะสายตาผิดปกติในเด็ก
·
โรคทางพันธุกรรมที่มีความผิดปกติของตาร่วมด้วย
เช่น
-
Craniofacial
disorders เช่น Crouzon syndrome, Aperts syndrome, Goldenhar syndrome,
Treacher Collins syndrome
-
Bardet biedl syndrome
·
โรคอื่นๆ
-
Lid,
orbit and lacrimal disorders
-
Infections
and allergic ocular diseases
-
Iris
abnormalities
-
Optic
nerve disorders
-
Ocular
and orbital tumors in children
-
Phakomatoses
-
Congenital
nystagmus
9.3
สามารถให้การวินิจฉัยโรคที่กล่าวมาข้างต้น
9.4
หลักการของการปฏิบัติต่างๆ
ได้แก่
·
การรักษาด้วยยา
·
การรักษาด้วยการผ่าตัด
·
การรักษาด้วย
Laser
·
การป้องกันและรักษาภาวะแทรกซ้อน
·
การป้องกันและส่งเสริมสุขภาพตาในเด็ก
9.5
ทักษะในด้านต่างๆ
·
การตรวจ
-
การตรวจระดับการมองเห็นในเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงเด็กโต
-
การตรวจการทำงานของกล้ามเนื้อตา
ทั้งด้าน sensory
และ motor รวมทั้งการตรวจพิเศษต่างๆ
เช่น Hess chart test และ Diplopia
test เป็นต้น
-
การทำ
refraction
ในเด็ก
-
การตรวจตาเด็กด้วยเครื่องมือพิเศษ
ได้แก่ slit
lamp biomicroscopy, indirect ophthalmoscopy, gonioscopy
·
การแปลผลการตรวจพิเศษ
หรือการแปลผลการสืบค้นด้วยการตรวจพิเศษ
-
Hess
chart test
-
Electrophysiology
ได้แก่ ERG, VEP, EOG
-
Ultrasonography
-
Fundus
fluorescein angiography
·
การผ่าตัด
-
Strabismus
surgery ทั้ง horizontal, vertical
และ oblique muscles
-
Cataract
surgery ในเด็ก
-
Glaucoma
surgery ในเด็ก
-
Enucleation
ในผู้ป่วย retinoblastoma
-
Lid
surgery ในเด็ก ได้แก่ ptosis and
entropion correction
-
แก้ไข
face
turn ใน congenital nyatagmus
·
การรักษาด้วย
Laser และ
Cryotherapy
-
ในผู้ป่วย
retinoblastoma
-
ในผู้ป่วย
retinopathy of prematurity
9.6
งานวิจัย
·
มีความรู้พื้นฐานเรื่องระเบียบวิธีวิจัยและสถิติ
·
สามารถวิเคราะห์และนำเสนองานวิจัยได้
·
มีผลงานวิจัยอย่างน้อย
1 เรื่อง
10.
การจัดประสบการณ์การเรียนรู้
10.1
ปฏิบัติงานตรวจ
ดูแลรักษา ผ่าตัด
และติดตามผู้ป่วยโรคตาในเด็กและโรคของกล้ามเนื้อตา
ทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก
รวมทั้งคลินิกพิเศษ
10.2
ฝึกหัดการตรวจและแปลผลเกี่ยวกับการตรวจพิเศษต่างๆ
·
การตรวจทาง
motor และ
sensory ของกล้ามเนื้อตา
การตรวจ amplitude of fusion ด้วยเครื่อง
synoptophore หรือ prism bar
·
Electrophysiology
ได้แก่ ERG, VEP, EOG
·
Ultrasonography
·
Fundus
fluorescein angiography
10.3
เข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการของโครงการจัดตั้งภาควิชาจักษุวิทยา
·
Grand
round 1 ครั้ง / เดือน
·
Journal
club 1 ครั้ง / เดือน
·
Special
lecture 4 ครั้ง / เดือน
·
Morning
report/conference 1 ครั้ง/สัปดาห์
10.4
เข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการของ
·
โครงการจัดตั้งภาควิชาจักษุวิทยา
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
·
ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
·
สมาคมจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
10.5
เสนองานวิจัยอย่างน้อย 1
เรื่อง
10.6
ดูงานด้านจักษุวิทยาเด็กและตาเข
ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
เป็นเวลา 1 วันต่อ
สัปดาห์
11.
เกณฑ์การประเมินเพื่อประกาศนียบัตร
11.1
ต้องมีเวลาปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า
11 เดือน
11.2
ผ่านการประเมินการดูแลผู้ป่วยด้าน
clinical skill, knowledge, performance, responsibility, ethics และ
human relationship จากคณาจารย์ของโครงการจัดตั้งภาควิชาจักษุวิทยา
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
11.3
สอบข้อเขียน
โดยได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ
60
11.4
สอบผ่านการสอบสัมภาษณ์โดยอาจารย์ของโครงการจัดตั้งภาควิชาจักษุวิทยา
11.5
ผลิตงานวิจัยหรือรายงานผู้ป่วยที่มีคุณภาพอย่างน้อย
1 เรื่อง
12.
คุณวุฒิ
ผู้ฝึกอบรมและผ่านการประเมิน
จะได้รับประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาจักษุวิทยาเด็กและตาเข
จากคณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ภาคผนวก
ตารางปฏิบัติงาน
·
งานตรวจผู้ป่วยนอก
1.
General ophthalmic clinic 1 days/week
2.
Special clinic 1 day/week
-
Pediatric Ophthalmology clinic 40
periods/year
-
Retinal clinic 10 periods/year
-
Muscle clinic 12 periods/year
-
Refraction clinic 12 periods/year
-
Low vision and visual stimulation
clinic 12 periods/year
-
Glaucoma clinic 4 periods/year
-
Oculoplastic clinic 4 periods/year
-
Corneal clinic 4 periods/year
·
งานผ่าตัด
1 days/week
·
กิจกรรมวิชาการ
กิจกรรม |
วัน/เวลา |
สถานที่ |
ผู้รับผิดชอบ |
Grand
round |
ศุกร์สัปดาห์ที่
1 (14.00-16.00) |
ห้องประชุมหน่วยตรวจตา |
All
staff |
Journal
club |
ศุกร์สัปดาห์ที่
4 (14.00-16.00) |
ห้องประชุมหน่วยตรวจตา |
All
staff |
Special
lecture |
จันทร์
(14.00-16.00) |
ห้องประชุมหน่วยตรวจตา |
All
staff |
Morning
report |
อังคาร,
พฤหัสบดี (8.00-9.00) |
หอผู้ป่วยจักษุวิทยา |
Ward
staff |
ตาราง Special lectures (33 topics / 40 periods)
Topic |
Anatomy
of eye and ocular muscle |
Physiology
of eye and ocular muscle |
Embryology
of the eye |
Genetic
and immunology |
Normal
visual development |
VA
measurement in children |
Pediatric
eye examination |
Strabismus
assessment |
Basic
principle of optic & refraction |
Electrophysiology
of eye |
A&B
scan ultrasonography |
Fundus
fluorescein angiography |
Basic
of laser |
Eye
coding |
Strabismus |
Pediatric
corneal & external eye diseases |
Congenital
glaucoma |
Pediatric
lens disorders |
Pediatric
retinal diseases |
Refractive
error |
Congenital
and hereditary disorders |
Pediatric
systemic diseases with ocular involvement |
Pediatric
neuro-ophthalmology |
Visual
pathway and VF defect |
Pediatric
uveitis |
Proptosis
and orbital diseases |
Low
vision and visual stimulation |
Eye
glasses |
Ethics
&Laws in Ophthalmology |
Power
point Presentation Skill |
Research
methodology part I |
Research
methodology part II |
Public
health ophthalmology |