จากความเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของทั้ง Internet และ การรวมเอา ความสามารถเชิง Internet มาใช้กับเทคโนโลยี ของโทรศัพท์มือถือทำให้ ณ ปัจจุบันนี้ โทรศัพท์มือถือที่ เราใช้กันอยู่ ทำอะไรๆ ได้มากกว่า แค่ใช้โทรออกหรือรับสาย เข้าเท่านั้นแล้ว ผู้คนเริ่มให้ความสนใจ และให้ความสำคัญ มากขึ้น กับสิ่งที่จะ ช่วยอำนวยความสะดวกสะบาย ในการที่จะ ติดต่อค้นหาข้อมูล และบริการอื่นๆ บน Internet ซึ่งสามารถ ทำได้แม้แต่ในขณะที่กำลังเดินทางอยู่ โดยผ่านทางโทรศัพท์ มือถือเพียงเครื่องเดียว แต่จะทำอย่างไรล่ะ ถึงจะนำเอา ความสามารถต่างๆ ที่อยู่บน Internet เหล่านั้นจับมาใส่ลง ในเครื่องโทรศัพท์มือถือได้ และ ยังต้องทำให้ใช้งานได้ง่ายด้วย เนื่องจากโทรศัพท์มือถือนั้น มีข้อจำกัดในด้านการป้อนข้อมูล เข้า และการแสดงผล Wireless Application Protocol หรือ WAP จึงได้ถึอกำเนิดขึ้น เพื่อช่วยให้ ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ สามารถใช้ความสามารถดังกล่าวข้างต้นเหล่านี้ได้
จุดกำเนิดแห่ง WAPWAP ( Wireless Application Protocol ) เป็น Protocol ที่เป็นมาตรฐานสากล ที่เกิดจากความร่วมมือกันของ หลายๆบริษัท ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ เพื่อนำเอาลูกเล่นหรือ ความสามารถ ต่างๆ ของ Wireless Application และ ของทางด้าน Internet ให้มาใช้ได้ บนเครื่องโทรศัพท์มือถือ WAP จะทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ ใช้งานทางด้าน Internet ทั่วๆไปได้ เหมือนๆกับใช้งานผ่านทาง เครื่องคอมพิวเตอร์ โดยที่ WAP นั้นไม่ต้องการ CPU ที่มีประสิทธิภาพ สูงๆ ไม่ต้องการหน่วยความจำมากๆ ไม่ต้องการแหล่งพลังงานมาก แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่หลายเรื่องด้วยเช่นกันที่อาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกแปลกและ ติดขัดบ้าง เช่น ข้อจำกัดด้าน Bandwidth, มี Display ขนาดเล็ก และ มีส่วนของการป้อนข้อมูลเข้า ( Input ) ที่แตกต่างจากการใช้งาน บนคอมพิวเตอร์อยู่พอสมควร แต่จุดเด่นของ WAP นั้น ก็คือทำให้ ใช้งานได้ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งสามารถพกพา หรือนำไปใช้งาน ณ ที่ไหนๆ ก็ได้ ซึ่งจุดนี้ ก็น่าจะหักล้างกับข้อจำกัดต่างๆลงได้
WAP นั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้กับอุปกรณ์ไร้สายต่างๆ ไม่จำกัดเพียงแค่โทรศัพท์มือถือเท่านั้น หากยังรวมไปถึง วิทยุติดตามตัว ( Pager ), วิทยุรับส่งที่เรียกว่า Two-Way Radio, Smartphone และรวมไปถึงอุปกรณ์สือสารต่างๆ ตั้งแต่ระดับ Low-End จนถึง High-End เลยทีเดียว ซึ่ง ระบบ Network ที่ใช้กับ WAP ได้นั้น ก็ใช้ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้ง CDPD, CDMA, GSM, PDC, PHS, TDMA, FLEX, ReFLEX, iDEN, TETRA, DECT, DataTAC และ Mobitex. WAP เป็น Protocol สำหรับการสื่อสาร ซึ่งสามารถใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการ ( OS : Operating ) ต่างๆ ได้หลากหลาย ทั้ง PalmOS, EPOS, Windows CE, FLEXOS, OS/9, JavaOS และอื่นๆ อีก WAP นั้นจะช่วยสนับสนุน Bearer หลักๆ ในการส่ง Message เช่น Short Message Service ( SMS ) , Circuit Switched Data, Unstructured Supplementary Services Data ( USSD ) และ ในอนาคตอันใกล้ ก็จะสนับสนุน General Packet Radio Services ( GPRS ) อีกด้วย และ นอกจากนี้ ก็ยังมีการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ ต่างๆ มาใช้กับโทรศัพท์มือถือ มากขึ้น โดยอาศัย WAP และ เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการส่ง Message เข้ามาช่วยในการทำงานอีกด้วย เช่น HSCSD, EDGE และ WCDMA ้มาตรฐานสำหรับ WAP
ณ ปัจจุบันนี้ ทางผู้พัฒนา ก็ได้วางมาตรฐานของ WAP ไว้ เป็น Version 1.1 ซึ่งก็ได้วางไว้ตั้งแต่เมื่อราวๆ เดือนมิถนายนปีที่แล้ว ( ค.ศ. 1999 ) และก็ได้ใช้มาตรฐานนี้เรื่อยมา แต่ในขณะเดียวกัน ก็กำลังเตรียมการสำหรับ Version 1.2 ด้วย โดยได้พัฒนา ปรับปรุง แก้ไขข้อบกพร่องอีกหลายอย่าง จาก Version 1.1ซึ่งก็ได้คาดหมาย ว่าจะเสร็จเรียบร้อยและ ได้รับการยอมรับจากทางผู้พัฒนาในราว เดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้วเช่นกัน หลังจากนั้นจึงจะได้ให้กับสมาชิก ทำการทดลองเพื่อช่วยวิจารณ์แล้ว จึงจะได้ใช้เป็นมาตรฐานแทนที่ Version 1.1 ต่อไป
WAP Version 1.1 นั้น ได้ทำการแก้ไขปรับปรุงจาก Version 1.0 โดยที่ยังคง Function ต่างๆ ไว้เช่นเดิม เพียงแต่ Version 1.0 นั้น ยังเป็นเพียงมาตรฐานที่ใช้ทดลองกันภายในกลุ่มบริษัท ผู้พัฒนาเพื่อทำการแก้ไขมาตรฐานบางอย่าง หลังจากนั้นจึงวางเป็น มาตรฐาน Version 1.1 เพื่อใช้เป็นสากลต่อไป โดยที่จุดที่ทำการ แก้ไขนั้น หลักๆ ก็คือทำการแก้ไขในส่วนของ WML ( Wireless Markup Language ) เพื่อให้ใช้ได้กับ มาตรฐาน XHTML ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนั่นเองสำหรับ WAP Version 1.2 นั้น ก็ยังคงใช้ Function อะไรๆต่างๆ เหมือนกับ Version 1.1 แต่ก็ได้ใช้ข้อมูล ความเห็นต่างๆของ ผู้ทดสอบผู้พัฒนาในกลุ่มบริษัท มาปรับปรุงแก้ไข และได้เพิ่มเติม ในส่วนของ WAP Push Architecture ซึ่งเป็นภาคขยายของ Wireless Telephony Applications ( WTA ) นอกจากนี้ก็ยังได้ เพิ่มเติมให้รองรับกับ Technology ทางด้าน Network มากขึ้นอีก ด้วย
สำหรับอุปกรณ์ Wireless ที่รองรับ หรือใช้งานกับมาตรฐาน WAP ได้นั้น ก็เริ่มทะยอยออกมาสู่ท้องตลาดบ้างแล้ว โดยอุปกรณ์ หลักๆ ก็คือ Mobile Phone ที่รองรับมาตรฐาน WAP หรือที่เรียกว่า WAP Phone ก็ได้เริ่มวางตลาดแล้วตั้งแต่ปลายๆ ปีที่แล้ว และในปีนี้ ( ค.ศ. 2000 ) ก็คาดว่า จะมีการจำหน่าย WAP Phone หลากหลาย รุ่นและยี่ห้อมากขึ้น
เราสามารถที่จะให้คำจำกัดความของ WAP โดยคร่าวว่าเป็นชุด protocols ที่รวบรวมเอาลักษณะการทำงาน และฟังค์ชั่น ของ Internet กับ การบริการ wireless เข้าด้วยกัน โดยที่การบริการบน WAP นี้จะใช้ภาษา markup ที่เรียกว่า Wireless Markup Language หรือ WML โดยภาษานี้มีความคล้ายคลึงกับ HTML บน Internet ทั่วไป WMLถูกออกแบบขึ้นเพื่อให้สามารถที่จะรองรับ หน้าจอที่เล็กลงของมือถือ หรือ PDA และการที่อุปกรณ์เหล่านั้นไม่มี input devices เช่น mouse หรือ แป้นพิมพ์ นอกจากนี้แล้ว bandwidth ที่ค่อนข้างต่ำทำให้ WML ต้องถูกออกแบบให้สามารถถูก encode ให้เป็นเลขฐานสองได้ (binary format)WAP กับมาตรฐาน Internet
WAP นั้นจริงๆ แล้วก็ได้พัฒนาขึ้นมาจากมาตรฐาน Internet นี่เอง ซึ่งก็ใช้พื้นฐานเดียวกับ Internet คือ XML, UPD และ IP ซึ่ง WAP Wireless Protocol นี้ ก็ยังได้พัฒนาโดย ใช้มาตรฐานของ Internet พวก HTTP และ TLS ด้วย เพียงแต่ ได้ทำการปรับปรุงแก้ไขบางส่วน เพื่อให้ใช้งานได้กับอุปกรณ์ ไร้สาย ( Wireless Device ) ซึ่งมีข้อจำกัด ทั้งทางด้าน หน่วยแสดงผล ( Display ) ซึ่งมีขนาดเล็ก หรือในส่วนของ การป้อนข้อมูลเข้าที่ยากกว่า การใช้เครื่อง PC ด้วยเช่นกัน WML จึงเป็นผลที่เกิดขึ้นจาก การปรับปรุงแก้ไข มาตรฐานของการ เขียน Markup Language ซึ่งไม่สามารถใช้ HTML บนอุปกรณ์ไร้สาย จากเหตุผลข้างต้น
XML หรือ Extend Markup-Languaage นั้น เป็น Meta-Language ซึ่งกำหนดขึ้นโดย W3C ( World Wide Web Consortium ) ซึ่งหากจะมองว่าเป็นส่วนขยายของ SGML ( Standard Generalized Makriup Language ) ก็ได้ เพียงแต่ XML นี้ เป็นเพียงกฏ เงื่อนไข ต่างๆ ในการสร้างมาตรฐาน ภาษาที่ใช้ในการ เขียน Application เท่านั้น คือยังไม่กำหนด Format ต่างๆ แน่ชัด ส่วน WML หรือ HTML นั้น มีการกำหนด Format ต่างๆ Tag ต่างๆ เป็นที่แน่ชัดแล้ว และมีการเจาะจง ให้ใช้ในด้านใดด้านหนึ่ง ดังนั้นจึงมองได้ว่า WML หรือ HTML นั้น เป็น XML Applicationนอกจากนี้ WML ก็ยังมี WMLScript ซึ่งก็อาศัยหลักการ และโครงสร้าง ที่คล้ายกับ JavaScript หรือ ECMAScript เพียงแต่ทำการ ปรับปรุงให้ใช้งานได้อย่างเหมาะสมกับระบบ อุปกรณ์ไร้สายด้วย โดย WMLScript นี้ จะใช้หน่วยความจำ และ CPU ต่ำมาก ซ้ำยัง ได้ตัดเอา Function ต่างๆ ที่ไม่ เกี่ยวข้อง หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้กับในระบบนี้ออก ไปอีกไม่น้อย
นอกจากนี้ WAP ก็ยังได้รวมเอาความสามารถเพื่อช่วย ในการรักษาความปลอดภัย ของข้อมูล ทั้งด้านการ Authentication และ ด้านการ Encryption ( เข้ารหัสข้อมูล ) ซึ่งเรียกว่า WTLS อีกด้วย
ศัพท์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง
Micro-Browser
เป็น Software ทางฝั่ง Client ( Client Software ) ที่ฝังอยู่ในตัว SIM ซึ่ง ออกแบบมาเพื่อให้เครื่องอุปกรณ์มือถือ สามารถใช้งานกับ Service ด้าน Internet ได้
HSCSDหรือ High Speed Circuit Switched Data จะช่วยลดเวลาในการส่งถ่ายข้อมูล ระหว่างโทรศัพท์มือถือกับ Internet และทำให้ช่วย การส่งถ่ายข้อมูลขนาดใหญ่ๆ นั้นทำได้แทบจะทันที พร้อมทั้งรับประกันความถูกต้องของข้อมูลที่มีการส่งถ่าย ออกไปอีกด้วย ด้วยความรวดเร็วในการส่งถ่ายข้อมูลระดับเดียวกันกับ ISDN บวกกับความสะดวกสะบายต่างๆ ก็น่าจะช่วยดึงดูดให้มีผู้มาใช้งานด้านนี้ มากขึ้น และแน่นอนเมื่อมีผู้ใช้งานมากขึ้น ก็จะทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มมากขึ้นด้วย
GPRS
หรือ General Packet Radio Service ซึ่งเป็นตัวสร้าง Direct Link ระหว่างโทรศัพท์มือถือ และ Internet เข้าด้วยกัน ซึ่ง GPRS นี้ จะทำให้สามารถ มีอัตราในการส่งถ่ายข้อมูลได้มากที่สุดถึง 100 kbps เลยทีเดียว GPRS นั้น จะสร้าง IP ให้อย่างต่อเนื่อง และมี Bandwidth กว้าง ทำให้สามารถนำเอา Application ต่างๆ มาใช้ได้อย่างหลากหลาย อาธิ Multimedia Messaging, Wireless Corporate Intranet, Remote Control และ อื่นอีกมากมาย โดยผู้ใช้ จะเสียค่าใช้จ่าย เพียงแค่ในส่วนของจำนวนข้อมูลที่มีการส่งถ่ายเท่านั้น ทั้ง HSCSD และ GPRS จะทำงานในลักษณะเกื้อหนุนกัน เพื่อให้ทำงานได้อย่าง กว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยแต่ละตัวจะสนับสนุน Application ที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละ Application นั้นก็เป็นส่วนเติมเต็มให้กันและกัน เพื่อนำไปสู่ยุคใหม่ ( ยุคที่ 3 ) ของระบบ Cellular Radio ( 3G : 3rd Generation ) ที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้นี้
EDGE
หรือ Enhanced Data rates for Global Evolution ซึ่งคาดว่าจะมีใช้อย่าง แพร่หลายในปี 2001 จะช่วยให้โทรศัพท์มือถือสามารถใช้บริการด้าน Multi-Media ต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น เช่น VDO Conferent , การถ่ายโอนข้อมูลขนาดใหญ่ๆ , การต่อเข้ากับ Interneet ผ่านทางเครื่องโทรศัพท์มือถือเอง หรือผ่านทางเครื่อง Note Book หรือ เครื่อง PC Computer ด้วย EDGE นี้ ผู้ใช้บริการจะสามารถจัดส่ง VDO-Postcard ให้แก่เพื่อนๆ หรือครอบครัวผ่านทาง Internet ด้วยเครื่องโทรศัพท์ มือถือเพียงเครื่องเดียว ได้อย่างไม่ยากเย็น เทคโนโลยีของ EDGE นี้ ใช้ได้ทั้งระบบ GSM และ TDMA ซึ่งก็เป็นระบบ Digital ด้วยกันทั้งคู่ แต่แตกต่างกันเรื่องระบบ Cellular และโครงสร้างภายใน โดย EDGE นั้นสามารถใช้ได้กับในระบบ Network และความถี่ของสัญญาณที่ใช้ในปัจจุบันนี้ได้ เพียงแต่อาจต้องมีการแก้ไข Hardware ด้าน Network และ แก้ไข Sotfware บ้างเล็กน้อย
WCDMA
หรือ Wideband Code Division Multiple Access โดยที่ Wideband นั้นจะมีความสามารถอยู่ระหว่าง Narrowband และ Broadband Narrowband คือความสามารถเชิงโทรคมนาคม ที่รองรับการส่งข้อมูลไม่กี่จำพวก เช่น ข้อมูลเสียง,รูปภาพที่ถอดแบบจากต้นฉบับ, Slow-Scan VDO และ ข้อมูลที่มีการ ส่งถ่ายด้วยความเร็วต่ำๆ ในระดับ Kilobit เท่านั้น โดยคุณภาพนั้นก็อยู่ใน ระดับที่ยอมรับได้ ต่างกับ Broadband ที่สามารถจัดส่งข้อมูลได้ในระดับ Megabit ซึ่งทำให้สามารถส่งข้อมูลพวก Full-Color Image, หรือ Full-Motion VDO ได้ โดยที่ความเร็วในการส่งถ่ายโดยรวมจะเร็วกว่า แบบ Narrowband ตั้งแต่ 100 ถึง 1,000 เท่าเลยทีเดียว โดยสรุป Wideband นั้นก็จะสามารถรองรับการส่งถ่าย ข้อมูลได้ถึงระดับ Megabit ซึ่งก็สามารถถ่ายโอนข้อมูลจำพวกภาพเคลื่อนไหวได้ หรือ ทำให้การ Download ข้อมูล ข่าวสารต่างๆ เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว WCDMA นั้นกล่าวโดยรวมก็คือ เป็น Mode ในการเข้าถึงข้อมูล ที่ใช้สำหรับ Radio Interface ของ 3G ( 3rd Generation ของ Cellular Radio ) ลักษณะพิเศษของมันคือ จะมีความจุของข้อมูลสูง , มี Cell Radius ขนาดเล็ก และ มีการส่งถ่ายของ Spectrum Radio แบบกระจายเป็นวงกว้าง