คุณเคยแหงนหน้าดูท้องฟ้าในยามค่ำคืนไหม? จ้องมองไปที่ดวงดาวที่กะพริบอยู่ท้องฟ้าแสนกว้างใหญ่มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นสิ คุณเริ่มสงสัยว่า เราเป็นพวกเดียวที่มีอยู่หรือ? โลกเป็นดาวเคราะห์ ดวงเดียวที่มีชีวิตอยู่เช่นนั้นหรือ? คุณไม่ใช่คนเดียวที่คิดอย่างนั้นหรอก นี่ก็เป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์อยากรู้เช่นกัน เราจะพบสิ่งมีชีวิตอื่นในจักรวาลบ้างไหม? เราอยู่เพียงเดียวดายจริงๆหรือ? นี่เป็นหนึ่งในความลับอันยิ่งใหญ่ นักจานบินวิทยาและนักปรัชญายุคใหม่ จะบอกคุณว่าสิ่งมีชีวิตจากดวงดาว เหล่าผู้ที่เคยถูกลักพาผู้ที่เคยเห็น ผู้ชี้ นำต่างก็กล่าวเช่นนี้มนุษย์ต่างดาว มาเยือนเราเป็นปีๆแล้ว วงกลมปริศนารอสเวลล์ "พระเจ้าจากอวกาศ" พิสูจน์แล้วว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแล้วมันเป็นจริงอย่างนั้นหรือ?หลักฐานและความจริงอยู่ข้างนอกนั่น
           โลกวิทยาศาสตร์มีมุมมองที่ แ ต กต่าง ไปอย่างสิ้นเชิงข้ อพิสูจน์อยู่ที่ไหน? ทฤษฏีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์บอกว่า สิ่งนั้นจะต้องเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และมีการวิเคราะห์กันอีกหลายครั้งก่อนที่จะมีคำตอบที่ยืนยันได้แล้ววิทยาศาสตร์เชื่อไหมว่ามีสิ่งมีชีวิตบนดาวดวงอื่น? บอกยาก แต่วิทยาศาสตร์กำลังพิสูจน์อยู่ มีโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายโครงการเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โครงการ SETI สแกนทั่วจักรวาลเพื่อหาคลื่นวิทยุ NASA กำลังสร้างเครื่องมือตรวจสอบ เพื่อส่งไปในอวกาศ กำลังมีการพยายามสร้างกล้องดูดาวอวกาศที่ใหญ่ขึ้นที่จะสามารถสำรวจไปได้ จนถึงส่วนที่มืด ที่สุดในจักรวาลในเอกภพที่มีดาวนับล้านๆดวงตามทฤษฏีแล้วมีดาวอย่างน้อย 10,000 ดวงที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ แต่วิทยาศาสตร์จะพิสูจน์สิ่งนี้ได้อย่างไร? ในปี 1996 นาซ่าประกาศว่าพวกเขาพบสิ่งที่เกี่ยวพันทฤษฏีที่ว่ามีสิ่งมีชีวิตอื่นในจักรวาล มีการพบสะเก็ดดาวถูกแช่แข็งอยู่ในทวีปแอนตาร์คติกา

การตรวจสอบองค์ประกอบทางเคมีที่ประกอบขึ้นมาเป็นหินก้อนนี้ทำให้เราทราบว่ามันมาจากดาวอังคารเมื่อหลายพันปีก่อน และมาตกลงบนพื้นผิวโลกนั่นไม่ใช่ส่วนสำคัญของข่าว โลกถูกสะเก็ดดาวถล่มมานานนักหนาแล้ว ข่าวเกิดจากการค้นพบทรงกลม คาร์บอนเน็ทเล็กๆ ภายในก้อนหิน นั่นทำให้นักวิทยาศาสตร์ที่นาซ่าเชื่อว่า นี่คือซากจุลชีพหรือแบคทีเรีย อายุ 15 ล้านปี ซากฟอสซิลที่มาจากต่างดาว ดร.เดวิดแม็คเคย์แห่งนาซ่า ด้วยความช่วยเหลือจากนักวิจัยคนอื่น เป็นคนแรกที่ประกาศว่า สะเก็ดดาวที่รู้จักกันในนาม ALH 84001 เคยถูกน้ำของดาวอังคารซึมเข้าไป ความลับอยู่ในลูกทรงกลมเหล่านี้ แม็คเคย์พบร่องรอยขนาดจิ๋วที่คล้ายคลึงกับแบคทีเรีย สุดท้ายยังมีสารประกอบชีวเคมีที่อาจเป็นซากของเสีย นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการถกเถียง นี่คือคำตอบหรือ ตามที่กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ทำพวกเขาวิเคราะห์แล้ววิเคราะห์อีก แจ๊ค ฟาร์เมอร์ แห่งศูนย์วิจัย อาเมสของนาซ่า อธิบายว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อนาซ่าประกาศออกมา สิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ ก็คือ ให้นักวิทยาศาสตร์กลุ่มอื่น เข้ามาและดูสิ่งนี้บ้าง วิทยาศาสตร์ต้องการข้อพิสูจน์ นี่คือวิธีที่ดีที่สุดที่จำทำให้นักค้นคว้าสนใจ" ตั้งแต่มีการประกาศออกมามีหลายทฤษฏีเกี่ยวกับ ALH 84001 ที่อาจจะเป็นจริงได้ทั้งสองด้าน มีชีวิต หรือไม่มีชีวิตแม็คเคย์และกลุ่มของเขาบอกว่าในหินก้อนนั้นมีซาก ฟอสซิลของแบคทีเรียที่เรียกว่านาโนแบคทีเรีย กล้องจุลทัศน์อีเลคตรอนแสดงให้เห็น ซากฟอสซิล ขนาด 20-100 พันล้าน ของเส้นผ่าศูนย์กลางสะเก็ดดาวสิ่งที่เขาพบเป็นวัตถุรูปรี, คล้ายเส้นเชือกหรือทรงกระบอก
            ฟอสซิลที่แม็คเคย์และพวกบอกว่าเป็นฟอสซิล อาจจะไม่ใช่ฟอสซิลก็ได้ "นาโนแบคทีเรียโบราณของโลกมีขนาดใหญ่กว่านี้หนึ่งถึงสองขั้น ผนังเซลจะต้องมีความหนาพอ จึงจะสามารถทำหน้าที่ที่สำคัญได้" ฟาร์เมอร์ บอกมีการพบนาโนแบคทีเรียในภูเขาไฟ ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน แม็คเคย์ได้ทำการทดสอบ เพื่อให้แน่ใจว่า ALH 84001 ไม่ได้ถูกเจือปนจากวัตถุของโลก เช่นเดียวกับแร่ธาตุไม่มีข้อสงสัยเลยว่าสิ่งนี้มาจากดาวอังคาร นักวิทยาศาสตร์เห็นพ้องกันในประเด็นนี้ แต่ว่ามันจะมาจากสิ่งมีชีวิตหรือไม่ยังเป็นที่สงสัยอยู่ เมล็ดแร่ธาตุเหล่านี้ ไอร์อ้อนอ็อกไซด์ (แม็กเนไทด์) กับ ไอร์อ้อน ซัลไฟด์ (เกรย์ไกด์) อาจก่อตัวได้โดยกระบวนการทางเคมีในธรรมชาติ ในการสัมมนาที่สถาบันโลกและดวงจันทร์ ก้อนหินจากดาวอังคารกลายเป็นหัวข้อสำคัญของการสัมมนา คำถามก็คือมันอาจจะร้อนเกินไปสำหรับ ALH84001 ที่จะเอื้อชีวิตอุณหภูมิที่สูงกับน้ำที่ถูกชนิดอาจทำให้เกิดรอยแบบเดียวกัน ฟาร์เมอร์อธิบาย "ร่องรอยของแม็กเนไทด์เป็นรอยขด เหมือนที่เกิดจากการสลายตัวที่อุณหภูมิสูงประมาณ 500 องศา" หินจากดาวอังคารแสดงให้เห็นว่าวิทยาศาสตร์ ทำงานอย่างไร กลุ่มนักวิจัยอีกมากก่อนที่ทุกคนจะเห็นพ้องในคำตอบ ฟาร์เมอร์กล่าวต่อ มันเพิ่งใช้เวลา แค่ครึ่งปีเอง ให้เวลาอีกเถอะ ความตื่นเต้นเกี่ยวกับ ALH 84001 นำความตื่นเต้นมาสู่ฌครงการของนาซ่า ดอน ชาเวจ แห่งวิทยาศาสตร์อวกาศนาซ่า กระตือรือร้น เรามีการส่งยานพาธไฟน์เดอร์ไปยังดาวอังคาร ซึ่งเป็นก้าวที่ใหญ่มากสำหรับโครงการสำรวจดาวอังคาร พาธ ไฟน์ เดอร์ ทำการสำรวจดาวอังคารในพื้นที่ที่กำหนดโดยกลุ่มของ แจ๊ค ฟาร์เมอร์ที่ อาเมส "งานของมันไม่ใช่การค้นหาตัวอย่างจุลชีพ นั่นจะเป็นโครงการต่อไป ฟาร์เมอร์เล่า" ลินดาคอปเล่ย์แห่งศูนย์อวกาศจอห์นสันในฮุสตัน ให้รายละเอียดว่ามีโครงการอะไรเกี่ยวกับดาวอังคารบ้าง "ในปี 2001 และ 2003 จะมีการส่งยานสำรวจไปลงในดาวอังคาร ยานนี้จะทำการลงลึกในการสำรวจเกี่ยวกับพื้นผิวและเบื้องล่างความตื่นเต้นจะมาถึงในปี 2005 เมื่อยานนำกลับเก็บยานสำรวจกลับมา" นี่อาจจะช่วยพิสูจน์หรือหักล้างเกี่ยวกับ ALH 84001 ในกระบวนการที่ยาวนาน แต่คืบหน้าไป เพื่อจะให้ได้ตัวอย่างปัจจุบันของดาวอังคารมาศึกษา ลินดา โคปเล่ย์ ยังบอกด้วยว่ามีแผนการจะส่งมนุษย์ไปลงบนดาวอังคาร หลังจากยานสำรวจเหล่านี้หมดหน้าที่แล้ว ไม่ต้องห่วงหากไม่สามาถนำยานสำรวจทั้งสองกลับมาได้ แม้ว่าระบบเศรษฐกิจของพวกเขากำลังพังพินาศ พวกรัสเซียก็เตรียมจะส่งยานสำรวจไปเหมือนกันในช่วงเวลาเดียวกัน ทำไมตอนนี้ใครๆ ก็สนใจดาวอังคาร? ทำไมไม่ใช่ดาวดวงอื่น? อาจเป็นเพราะคำตอบในหิน ALH 84001 จากการสำรวจอย่างใกล้ชิดเราพบว่า ดาวอังคารมีสนามแม่เหล็กจางๆ ข้อสันนิษฐานมีว่า นานมาแล้วสนามนี้มีพลังมากกว่านี้ หากเป็นเช่นนั้น ดาวอังคารก็จะมีชั้นบรรยากาศ เมื่อสนามแม่เหล็กอ่อนลง ชั้นบรรยากาศก็สลายตัวไป ดังนั้นอาจจะมีร่องรอยของชีวิตเหลื่ออยู่ก็ได้ อาจจะไม่ใช่คนตัวเขียวตัวเล็กๆ แต่เป็นจุลชีพสีเขียวตัวเล็กๆแทน แม้ว่าความสนใจทั้งหลายจะอยู่ที่ดาวอังคาร แต่โอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ที่ดาวดวงอื่นในระบบสุริยะของเราอยู่ที่ดวงจันทร์ยูโรปาของดาวพฤหัส ยานสำรวจกาลิเลโอที่ไปโคจรอยู่รอบดาวพฤหัสได้ส่งภาพถ่ายกลับมายังโลกที่ทำให้ เราได้เห็นพื้นผิวที่มีรอยแตกร้าวคล้ายเปลือกไข่
            สิ่งนี้ทำให้เราเชื่อว่าพื้นผิวของดวงจันทร์ยูโรปาถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง และข้างใต้นั้นก็คือน้ำ ฟาร์เมอร์บอกบนโลกเมื่อไม่นานมานี้เราพบสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในกระแสน้ำร้อนในส่วนที่ลึกที่สุดของมหาสมุทร ดวงอาทิตย์ส่องไม่ถึงบริเวณนั้นด้วยซ้ำกระแสน้ำร้อนเหล่านี้ให้ความร้อนที่เอื้อต่อการดำรงชีวิต และเมื่อน้ำแข็งบนยูโรปามีการยกตัวก็มีการยกตัวก็มีโอกาศที่น้ำข้างใต้นั้นจะได้รับความร้อนในแบบเดียวกัน สิ่งมีชีวิตขั้นพื้นฐานอาจอยู่ในที่เช่นนั้นได้ ยังไม่ต้องไปคิดถึงสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวที่จะมาจับมือเราหรือระเบิดเราด้วยแสงพิฆาตความสำคัญก็คือว่าเมื่อใดมีชีวิตขึ้นพื้นฐานเกิดขึ้น ที่นั่นมีโอกาสที่จะมีสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนพัฒนาขึ้น เราจะมีโอกาสได้พบสิ่งมีชีวิตจากต่ างดาวไหม? ถ้า เกิดอ ย่ างนั้นขึ้นจะเป็นอย่างไร? ดร.เซธ ซอสตาค แห่งสถาบันเซติคมีความรู้สึกว่า เป็นเรื่องโบราณน่าดูที่เราพูดถึงชีวิตจากต่างดาวแบบนี้ ความคิดเกี่ยวกับชีวิตจากต่างดาวแบบนี้ ความคิดเกี่ยวกับชีวิตจากต่างดาวของเราส่วนใหญ่มีพื้นฐานมาจากภาพยนตร์ พวกต่างดาวชั่วหน้าตาเหมือนสัตว์เลื้อยคลาน พวกต่างดาวที่ดีหน้าตาเหมือนทารก สิ่งมีชีวิตจากต่างดาวย่อมต้องมีความแตกต่างจากพวกเรามาก ถ้าเรามีโอกาสติดต่อกับสิ่งมีชีวิตต่างสปีซี่ส์ มันคงเป็นเรื่องยุ่งยากที่จะติดต่อสื่อสารกัน ก็คงเหมือนลิงบาบูนคุยกับประธานบริษันซันไมโครซิสเต็มน่ะแหละ ไม่มีอะไรที่เหมือนกันในขั้นพื้นฐานเลย

copyright 2000. http://www.oocities.org/ufo_rsu
July 4, 2000