จาก เทรย์ สโตร๊ค
             ย้อนกลับไปเมื่อปี 1995 คำร่ำลือแพร่กระจายไปในหมู่ผู้สนใจเรื่องจานบิน เกี่ยวกับภาพยนต์ที่บันทึกการผ่าศพมนุษย์ต่างดาวของจริง เสียร่ำลือกันว่าในที่สุดยอดปรารถนาเกี่ยวกับความจริงของจานบินก็ปรากฎขึ้นเสียที ในที่สุดโลกจะได้รู้ว่า เราไม่ได้อยู่เพียงลำพัง สโต็ค สร้างเว็ปไซด์ที่เยี่ยมยอดสับแหลกฟิล์มที่โด่งดังนี้เสียยับเยิน ไซด์ที่มีชื่อว่า Alien Autopsy-Fact or Fiction? (http://www.trudang.com/autopsy.html) ที่นี่ตรวจสอบ แยกแยะและทำลาย ทุกความเชื่อที่อาจจะเกิดขึ้นเกี่ยวกับความถูกต้องของภาพยนตร์ชุดนี้ การสร้างเว็ปไซด์ไม่ใช่งานใหม่สำหรับสโต๊คก่อนที่เรื่องผ่าศพจะเป็นที่ฮือฮา บริษัทของสโต๊ค The Truly Dangerous Company ก็มีไซด์อยู่ก่อนแล้ว TDC ก่อตั้งมาหลายปีแล้ว เพื่อจัดสร้างการแสดงหุ่นให้กับสวนสนุก ต่อมาบริษัทขยายงานสู่ธุรกิจภาพยนตร์ การแสดงโชว์ สวนสนุกและอนิเมทรอนิคส์ความคิดที่จะสร้างไซด์เกี่ยวกับการผ่าศพมนุษย์ต่างดาวเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน หลายเดือนก่อนที่จะสร้างไซด์นี้ขึ้นมา สโต็คไปเข้าร่วมการประชุมที่จัดโดย CSICOP (คณะกรรมการเพื่อการสอบสวนที่เป็นวิทยาศาสตร์สำหรับเหตุการณ์ประหลาด) องค์การสำหรับเหล่านักค้นคว้าที่อ้างว่า คาร์ล ชาแกน, ฟิลิป คลาส, ไอแซค แอสสิมอฟและเจมส์ แรนดี เป็นสมาชิกของกลุ่มนี้ ที่นี้สโต็คได้พูดคุยกับ ผู้อำนวยการบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ ที่นี่ แบร์รี่ คารร์ หลายเดือนต่อมา คารร์ส่งอีเมล์พร้อมด้วยคำขอที่พิเศษมาหาสโต็ค เขาถามว่าสโต็คสนใจจะดูภาพยนตร์ที่กำลังจะออกอากาศทางเครือข่ายฟ็อกซ์และช่วยให้ความเห็นฐานะมืออาชีพได้ไหม? ภาพยนตร์ชุดนั้นคือการผ่าศพที่เป็นของซานติลีและสโต็คก็ตอบตกลงที่จะมาดูให้ "ผมไม่รู้ว่าผมจะรู้เรื่องรายการนี้มั๊ย ถ้าเขาไม่ได้ติดต่อมา" สโต็คเล่า "แต่ผมก็ได้ไปดูมันแล้วก็บันทึกกเทปไว้ เพื่อจะได้ดูซ้ำแล้วซ้ำอีกได้ ผมเขียนตอบกลับไปหลังจากได้ดูอยู่หลายครั้ง ผมเล่าความประทับใจเบื้องต้น ซึ่งเขาเอาไปใช้ในการประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์ชุดนี้เมื่อออกอากาศครั้งแรก"
               แล้วความสงสัยเกี่ยวกับการผ่าตัดศพของสโต็คก็ก่อตัวขึ้น เขาค้นหาในอินเตอร์เน็ทและนิวส์กรุ๊ปทั้งหลายว่าพวกเขามีความเห็นกับภาพยนตร์นี้อย่างไรบ้าง และเขาก็ไม่พอใจกับสิ่งที่เขาได้พบ "ไอเดียเกี่ยวกับไซด์นี้เกิดขึ้นเมื่อผมติดตามปฏิกริยาที่เกิดขึ้น โดยการดูข่าวที่มีคนทิ้งไว้ตามนิวส์กรุ๊ปต่างๆ และพยายามดูว่าคนทั้งหลายมีความเห็นว่าอย่างไร ซึ่งทำให้ผมหงุดหงิด คนทั่วไปว่าตาม สแตน วิสตัน และคิดว่า "ไม่มีนักทำแอฟเฟคท์คนไหนทำอย่างนี้ได้ ไม่มีนักทำเอฟเฟคท์คนไหนจะพิสูจน์สิ่งนี้ได้ นักทำเอฟเฟคท์ทั้งโลกงุนงน และ สับสนเช่นกัน ของอย่างนี้ต้องใช้เงินนเป็นล้านดอลลาร์แน่ๆ แล้วยังมีความเห็นอื่นอีกที่ไม่เป็นทางการและพิลึกพิลั่น" "และก็เพราะว่าผมมีไซด์ของผมเอง ซึ่งมันก็เหมือนคุณมีเวทีเล็กๆ เป็นของตัวเองที่จะแสดงความคิดเห็นอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ ตอนแรกผมก็เลยเอาความเห็นดั้งเดิมที่ผมเคยให้ทาง CSICOP มาใส่ไว้ตอนแรกมันก็มีขนาดแค่หน้าถึงสองหน้าเอง" ระหว่างที่ส่งขอความสู่ไซด์เขาก็เกิดความคิดที่จะส่งข้อความไปให้คนที่ทำให้เขาหงุดหงิด พวกคนที่ใช้นิวส์กรุ๊ป "ผมก็แค่ส่งข้อความสั้นๆ ไปที่นิวส์กรุ๊ปหนึ่งว่า ถ้าคุณสนใจอยากรู้ว่านักทำเอฟเฟคท์คนอื่นมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าอย่างไร คุณควรไปดูที่นี่" สโต๊คไม่รู้เลยว่าข้อความสั้นๆของเขาจะก่อให้เกิดปฏิกริยาที่ใหญ่มาก "ผมคิดว่าหลังจากส่งข้อความแรกไปแล้วกว่าเรื่องจะเริ่มกระจายออกไป คงใช้เวลา 1-2วัน" สโต็กเล่า "มีคนที่มีโฮมเพจ ที่ท่าทางไฝ่รู้ ซึ่งผมเข้าไปดูบ่อยๆ และคิดว่าทำได้ดีมาก ทีแรกผมคิดว่าจะส่งอีเมล์ไปแนะนำตัวและบอกเขาว่า คือว่าผมมีเพจที่เกี่ยวกับการรผ่าศพมนุษย์ต่างดาว เผื่อคุณอยากจะทำลิงค์มาหรือเข้าาไปดูบ้าง" พอผมเข้าไปที่เพจของเขาเพื่อจะหาอีเมล์แอดเดรส เขาทำลิงค์เพจของผมเรียบร้อยแล้ว แล้วมันก็เริ่มกระจายออกไป มันเติบโต คนมากมายเริ่มกล่าวถึงเพจของผม คนมากมายเริ่มรู้สึกว่าอยากจะพูดถึงเพจของผม" จากเริ่มแรกแค่คิดจะตอบโต้คนที่คิดว่าไม่มีใครจะสร้างชุดยางที่นอนบนเตียงผ่าตัดได้ กลายเป็นการวิเคราะห์ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ชุดนี้ ตั้งแต่กระบวนการถ่ายทำ จนถึงประวัติศาสตร์ที่แท้จริงทั้งหมดนี้เกิดจากการที่มีคนอีเมล์ มาตั้งคำถามหรือถกเถียงกับสโต็ค "ผมติดพันกับเรื่องนี้ ก็เพราะผมมีบทบาทเป็นเหมือนแหล่งข่าวสำหรับข้อมูลล่าสุด" ในเรื่องนี้ใครๆก็เลยมาหาผม ใครๆก็ส่งอีเมล์แล้วก็เอาประเด็นที่ผมตั้งขึ้นไปสานต่อ "นี่นายว่างี้เหรอ แต่ว่าฉันไม่เห็นด้วยนะ" ซึ่งก็จริงนะ ผมน่าจะทำอะไรให้กระจ่างกว่านี้"
              จุดหนึ่งที่เป็นประเด็นมาตั้งแต่แรกของสโต็คก็คือการระบุวันเดือนปีของฟิล์มโดยโกดัก "อายุของฟิล์มเป็นประเด็นมาตั้งแต่แรก จนบัดนี้หลายคนก็ยังเข้าใจผิดๆว่า อะไรเป็นที่สิ้นสุดแล้วอะไรยัง ที่ผมรวมประเด็นนี้ไว้ด้วย ก็เพราะว่ามันเกี่ยวพันถึงสิ่งที่ผมอยากจะบอก" การที่ให้ความสนใจแม้แต่ส่วนเล็กน้อยที่สุดอย่างรายละเอียดของฟิล์มทำให้ไซท์นี้เป็นมากกว่างานอดิเรกสำหรับช่างเอฟเฟคท์อย่างสโต็ค "มันโตขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกๆผมก็แค่ใช้เวลาหลังเลิกงานอยู่ที่บ้านทำให้ไซด์นี้เป็นมากกว่างานอดิเรกสำหรับช่างเอฟเฟคท์อย่างสโต็ค "มันโตขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกๆ ผมก็แค่ใช้เวลาหลังเลิกงานอยู่ที่บ้านทำไซด์นี้ขึ้นมาอย่างที่มันเป็น" จากไซด์เล็กๆ ในตอนเริ่มต้น ตอนนี้ที่นีมีกระทั่งการเปรียบเทียบภาพการผ่าศพในภาพยนตร์กับการผ่าศพของจริง (ที่มีภาพที่ชวนแหวะด้วย) ความเห็นจากช่างเอฟเฟคท์คนอื่นๆ แนะวิธีทำศพมนุษย์ต่างดาวของคุณเอง แล้วก็ข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์การผ่าศพที่โผล่ขึ้นมาอีกหลายที่ อย่างในเยอรมัน, อเมริกาใต้, และแคนาดา แต่เดี๋ยวก่อนสิ สโต็คมีบริษัทที่ต้องดูแลไม่ใช่หรือ ใครก็คงจะเดาได้ว่าการดูแลเพจนี้คงไม่เพียงกินเวลาของเขาไปบ้างแล้วแต่น่าจะเป็นภาระหนักทีเดียว "มันก็เป็นภาระอยู่นะ" สโต็คเล่า "ช่วงปีหลังๆนี่บริษัทผมหันไปทำงานให้กับภาพยนตร์มากขึ้น และมันก็กินเวลาจนทำให้ผมรู้สึกละอายใจเหมือนกัน ผมก็เลยปรับปรุงไซด์ของผมให้กลายเป็นศูนย์ข้อมูลเกี่ยวกับการไขปัญหาเกี่ยวกับการผ่าศพมนุษย์ต่างดาวโชคดีที่ช่วงนั้นก็ไม่มีอะไรใหม่ นอกจากงานไร้สาระ 5 ชิ้น ที่อ้างกันซ้ำแล้วซ้ำอีก และสิ่งที่คุณต้องทำก็แค่ปฏิเสธว่า ไม่หรอกนั่นก็ไร้สาระอยู่ดี ผมเคยพูดถึงเรื่องนี้ไปแล้ว คุณอาจจะอยากดูว่าผมเคยพูดไว้ว่ายังไง?" เมื่อถึงขั้นนี้แล้ว สโต็คพอจะเดาได้ไหมว่าใครเป็นคนทำภาพยนตร์ชุดนี้ขึ้นมา? "ผมไม่รู้หรอก" เขาตอบ "นี่คือเรื่องที่น่าสนใจที่สุด แปลกนะที่ตอนนี้ผมเลิกสนใจว่ามันคืออะไรแต่กลับอยากรู้ว่าใครสร้างมัน ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน และก็ไม่มีใครอยู่ในใจที่จะบอกว่า "ผมว่าคนนี้แหละที่ทำ" อย่างที่ผมบอกไว้ที่ไซด์นะแหละ ผมค่อนข้างแน่ใจว่านี่ไม่ใช่ผลงานของคนที่เป็นที่รู้จักในฮอลลีวู๊ดหรอก ด้วยเหตุผลหลายๆประการ มันยากที่จะเก็บความลับไว้ในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเล็กๆอย่างนี้" เกี่ยวกับความคิดที่มีเหตุผลของสโต็คเขาอยากจะให้แน่ใจว่าใครก็ตามที่ ได้มาชมไซด์แห่งนี้จะเข้าใจถึงปรัชญาของไซด์ของเขา "ผมไม่พูดเกินเลยไปถึงขนาดว่าไม่มียูโฟหรือมนุษย์ต่างดาวอยู่จริง หรือว่าไม่เคยมีการผ่าศพมนุษย์ต่างดาว ผมเองก็เชื่อในเรื่องพวกนี้" สโต็คอธิบาย "มันไม่ถูกที่จะสรุปเอาอย่างนั้นเพราะว่า ผมเห็นว่าสิ่งนี้เป็นของปลอม เพราะงั้นก็ไม่มี่ของจริงอยู่เลย สรุปอย่างนั้นก็ไม่ถูก ผมมักจะระบุเฉพาะกรณีนี้ และ ย้ำเรื่องนี้อยู่เสมอ ถ้าคุณมองดู ถ้าคุณพิจารณาจากอิทธิพลของเหตุการณ์ คุณก็อาจจะได้ความเห็นว่าสิ่งนี้ปลอม สังคมของเราตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่าทุกสิ่งยังไม่เป็นจริงจนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่ามันเป็นจริง นี่เป็นกรณีที่เมื่อใครที่ไม่เห็นด้วยก็มักจะว่า "งั้นก็พิสูจน์มาสิว่ามันปลอม" ถ้าว่าอย่างงั้นมันก็ไม่มีเหตุผลแล้ว" สโต็คบอกว่า เขายังคงได้รับอีเมล์จากผู้สนใจ รวมทั้งคนที่ยังคงสงสัยว่าทำไมเขามามัวเสียเวลากับสิ่งที่ยังคลุมเคลืออยู่อย่างนี้ คำถามที่เขาก็ถามตัวเองอยู่เสมอเหมือนกัน สโต็คตอบว่า คนบอกว่า "ทำไมมามัวเสียเวลาพิสูจน์อะไรที่ไร้สาระอย่างนี้ใครจะเชื่ออะไรก็ปล่อยเขาเชื่อไปสิ" ก็เพราะงั้นบางครั้งถึงมีคนคิดเลยเถิดจนหลงฆ่าตัวตายหมู่ เพราะคิดว่าพวกเขาตายแล้วจะถูกพาไปกับดาวหาง ผมจึงคิดว่าการสู้กับเรื่องเหลวไหลคุ้มค่าเพราะงั้นผมจึงยังทำเรื่องนี้อยู่"

copyright 2000. http://www.oocities.org/ufo_rsu
July 4, 2000