ทิมโมทีได้กล่าวว่า ในช่วงต้นเดือนกันยายน ปี 1989 เขาได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง จากผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาการพิเศษ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับบริษัทริงกลิง บราเธอร์ บาร์นัม และไบลี ที่ดำเนินการเกี่ยวกับกิจกรรมบันเทิง และสารคดีในด้านต่างๆ ข้อความในจดหมายได้เปิดเผยว่า บริษัทนี้ได้ตั้งทีมงานชุดหนึ่งเพื่อศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องจานบิน สมาชิกของบริษัทเคยไปร่วมฟังการบรรยายของเขา เกี่ยวกับการประชุมเรื่องข่ายงานการค้นคว้าจานบินระหว่างชาติ ซึ่งจัดขึ้นที่ลาสเวกัสในปีนั้น ทางบริษัทได้ดำริที่จะนำเรื่องราวเกี่ยวกับผลการค้นคว้าเรื่องจานบินไปเสนอ พร้อมกับการแสดงโชว์ในประเทศต่างๆ จึงมีความสนใจที่จะปรึกษากับเขาเกี่ยวกับการปกปิดเรื่องราวเกี่ยวกับจานบินเป็นกรณีพิเศษ ครั้นทิมโมทีตอบรับยินดีให้คำปรึกษาไปทางจดหมาย ต่อมาเขาก็ได้รับจดหมายจากผู้อำนวยการบริษัทดังกล่าวอีก โดยมีข้อความสำคัญตอนหนึ่งเปิดเผยว่า มีองค์การต่างๆ เช่น องค์การนาซา, ฝ่ายรัฐบาลสหรัฐฯ บริษัทร็อคเวลล์ อินเตอร์เนชั่นแนล ตกลงร่วมงานกับบริษัทของเราเพื่อพัฒนาการศึกษาเรื่องจานบินต่อไป เนื่องจากคาดว่า อีก 100 ปีข้างหน้า การค้นคว้าเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีกับอวกาศจะพัฒนามากขึ้นเป็นพิเศษ…
                ต่อมาจากการปรึกษาหารือกันทางโทรศัพท์ ทิมโมทีได้รับเชิญเป็นที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการวิจัยค้นคว้าเรื่องจานบินให้กับกลุ่มพัฒนาพิเศษ ครั้นได้มีการนัดพบปะพูดคุยกันที่ออร์ลันโด รัฐฟลอริดา ทิมโมทีเตรียมที่จะบินไป แต่ต้องพลาดโอกาส เนื่องจากประสบอุปสรรคเกี่ยวกับการเลื่อนกำหนดของสายการบิน เขาจึงได้โทรศัพท์ไปยกเลิกการยกเลิกการนัดพบ ครั้นเขากลับไปอังกฤษได้ไม่นานนัก ผู้อำนวยการบริษัทริงกลิง บราเธอร์ บาร์นัม และไบลี ได้โทรศัพท์ไปถึงอีก โดยได้กล่าวว่า ทางบริษัทกำลังหารูปแบบเพื่อพัฒนาการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับยูเอฟโอครั้งมโหฬาร จึงต้องการปรึกษาขอคำแนะนำจากเขา ทิมโมทีได้แนะนำ บ็อบ เอกซเลอร์ เพื่อนของเขาให้เป็นผู้ช่วยเหลือ โดยได้กล่าวเสริมว่า ไม่เพียงแต่บ็อบจะเป็นนักวิจัยค้นคว้าเรื่องจานบินที่มีชื่อเสียงเท่านั้น ในอดีตเขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษขององค์การนาซา และเป็นวิศวกรโครงการต่างๆด้วย แม้แต่ จัง อิชิ ยาโออิ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียง และเป็นนักวิจัยเกี่ยวกับจานบินในญี่ปุ่นยังยอมรับความสามารถของบ็อบ นอกจากนั้น บ็อบยังเคยเป็นทหารประจำฐานบินแห่งหนึ่งของกองทัพอากาศอีก ทั้งยังเคยทำงานติดต่อกับหน่วยข่าวกรองต่างๆด้วย
              ทั้งยังเคยทำงานติดต่อกับหน่วยข่าวกรองต่างๆด้วย บ็อบ และ ทิมโมที มักจะปรึกษาหารือร่วมกันเกี่ยวกับความพยายามที่จะเปิดเผยปรากฏการณ์จานบินอย่างเป็นทางการแก่สาธารณชน โดยเฉพาะความลับที่ปกปิด เรื่องจานบินและมนุษย์ต่างดาวที่ค้นคว้าด้วยความยากลำบากของบ็อบ, อีเมนเนกเกอร์, ลินดา โฮว์ และบิลล์ มัวร์ บ็อบได้พบปะพูดคุยกับกลุ่มพัฒนาพิเศษ ในออร์ลันโด วันที่ 1 และ 2 พฤศจิกายน ปี 1989 จากนั้นได้ลงนามในสัญญาร่วมมือกันดำเนินงานตามโครงการ ค้นคว้าเกี่ยวกับการเดินทางสู่ห้วงอวกาศ สาระสำคัญของการแสดงนิทรรศการ เป็นมุมมองทางประวัติศาสตร์ระหว่างชาติเกี่ยวกับโครงการสำรวจอวกาศของสหรัฐอเมริกา และสหภาพโซเวียตรัสเซียเดิม ผู้ที่ได้รับเชิญเข้าร่วมโครงการรวมทั้งอดีตมนุษย์อวกาศที่มีชื่อเสียง เช่น อลัน บีน,ชาร์ลส์ เพ็ต คอนราด ยีส เคอร์นัน และ อเล็กซ์ ซี. ลีโอนอฟ โครงการนี้ได้รับความเห็นชอบจากประธานธิบดีจอร์จ บุช และ ดัน เควล รองประธานาธิบดี รวมทั้งคณะกรรมาธิการการค้นคว้าอวกาศแห่งชาติ (ซึ่งเป็นองค์กรที่ขึ้นตรงกับทำเนียบขาว และได้รับความคุ้มครองภายใต้สิทธิพิเศษ) ด้วยความร่วมมือกับองค์การนาซา และบริษัทร็อคเวลล์ อินเตอร์เนชั่นแนล ทำให้การแสดงนิทรรศการขยายขอบเขตกว้างขึ้นถึงกับสามารถนำตัวแบบจำลองยานขนส่งหรือกระสวยอวกาศขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า ยานแอมบาสเดอร์ไปร่วมแสดงด้วย เนื้อที่ที่จะใช้แสดงนิทรรศการครอบคลุมถึง 134,000 ตารางฟุต รวมทั้งเนื้อที่แสดงกระโจมอากาศ 15,000 ตารางฟุต ที่สำคัญก็คือ เนื้อที่ 1 ใน 3 ของงานแสดงนิทรรศการจะเป็นการแสดงพิเศษเกี่ยวกับจานบินและมนุษย์ต่างดาว โดยมีที่นั่งสำหรับผู้ชมถึง 600 ที่นั่ง นอกจากนั้น โครงการนี้ยังมีความสัมพันธ์เกี่ยวพันกับหลักสูตรการศึกษาในระดับสามของโรงเรียนต่างๆกว่า 25,000 โรงเรียน ในสหรัฐอเมริกาโดยได้เริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 1 มกราคม ปี 1990 เดิมการแสดงนิทรรศการสัญจร มีกำหนดแสดงถึงวันที่ 1 กันยายน ปี 1990

copyright 2000. http://www.oocities.org/ufo_rsu
July 4, 2000