กอร์ดอน คูเปอร์ คือ นักบินอวกาศอีกคนหนึ่งขององค์การนาซาซึ่งได้ขับยานเจมินีที่ 5 ร่วมกับนักบินอวกาศชาร์ลส์ คอนราด ขึ้นไปสู่วงโคจรของโลกนาน 8 วัน ในเดือนธันวาคม ปี 1965 กล่าวกันความสนใจเกี่ยวกับจานบินของกอร์ดอน เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขากลายมาเป็นนักบินอวกาศขององค์การนาซา ในปี 1978 เขาได้มีโอกาสร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการพิเศษฝ่ายการเมือง ของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ เพื่อร่วมปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องจานบิน และได้แสดงทรรศนะว่า "….ผมเชื่อว่ายานอวกาศพร้อมทั้งลูกเรือเหล่านี้ที่เดินทางมาเยือนโลกเรา คงมาจากนอกโลก มาจากดาวเคราะห์ดวงอื่น ที่มีความเจริญก้าวหน้ากว่าโลกเรา…. ผมคิดว่าบัดนี้ เราคงต้องการให้มีโครงการประสานงานร่วมกันในระดับสุดยอด เพื่อรวบรวม และวิเคราห์ข้อมูลเกี่ยวกับจานบินที่ได้รับจากแหล่งต่างๆทั่วโลก หรือหาแนวทางที่ดีที่สุดในการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวอย่างมิตรภาพ…" กอร์ดอนยังได้กล่าวเสริมว่า "นักบินอวกาศส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะเข้าร่วมปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ นื่องจากยังสับสนเกี่ยวกับข้อมูลในเรื่องนี้กล่าวหาว่าหลอกลวง อันจะมีผลกระทบต่อชื่อเสียงของพวกเขา" "ที่จริงแล้วพวกเราส่วนใหญ่เชื่อว่า จานบินจากนอกโลกมีจริง และหลายคนเคยเห็นปรากฏการณ์ประหลาดของจานบินมาแล้วทั้งบนภาคพื้นดินและบนอวกาศ" เจ.แอล. เฟอร์รันโด ได้เผยแพร่เรื่องราวที่นักบินอวกาศคนหนึ่ง ซึ่งไม่ยอมเปิดเผยชื่อแก่สาธารณชน ได้กล่าวในที่ประชุมสภา คองเกรสที่นิวยอร์คในกลางปี 1973 และเบนนี แมนอ็อคเซีย เป็นผู้บันทึกเทปไว้ ซึ่งมีข้อความตอนหนึ่งที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ "…นับเป็นเวลาหลายปีแล้วที่เรายังอยู่ในห้วงแห่งความลับ ความมืดมนเกี่ยวกับการบินในอวกาศ แต่บัดนี้ผมสามรถเปิดเผยได้ว่า ทุกวันในประเทศสหรัฐอเมริกา เครื่องเรดาร์ของเราจับภาพวัตถุประหลาดที่มาในรูปแบบต่างๆและมีพยานผู้พบเห็นปรากฏการณ์หลายพันคนได้รายงานต่อทางการ และมีเอกสารเป็นจำนวนมากที่กำลังพิสูจน์เรื่องนี้ ไม่มีใครต้องการเผยแพร่เรื่องนี้แก่สาธารณชน ทำไม? เพราะหน่วยราชการเกรงว่าประชาชนอาจตื่นตระหนกถึงภัยคุกคามจากนอกโลก อันจะมีผลกระทบต่อความมั่นคงในทุกๆด้าน… ผมเคยสัมผัสกับปรากฏการณ์ประหลาดครั้งหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อสองสามเดือนก่อนในรัฐฟลอริดา ผมได้เห็นด้วยสายตาตนเอง เป็นจานบินลึกลับลงมายังกลางทุ่งหญ้าแห่งหนึ่ง ซึ่งบัดนี้ยังพอมีร่องรอยให้พิสูจน์ได้ ต่อมามนุษย์ต่างดาวได้ลงมาดูลักษณะดิน แล้วนำดินใส่ลงไปในภาชนะคล้ายกระบอกแก้วขนาดใหญ่ นำขึ้นไปบนยาน จากนั้นมันก็บินขึ้นไปด้วยความเร็วสูงมาก แล้วหายลับไปในที่สุด… ต่อมาผมทราบว่าหน่วยงานราชการหลายแห่งที่เกี่ยวข้องไม่ทราบเรื่อง จนกระทั่งได้รับทราบจากสื่อมวลและทางสถานีโทรทัศน์ คงจะกังวลในเรื่องที่จะมีผลกระทบให้ประชาชนประหวั่นพรั่นพรึงมากกว่า จึงเก็บเรื่องดังกล่าวไว้เป็นความลับ"

copyright 2000. http://www.oocities.org/ufo_rsu
July 4, 2000