Home | Biography | Portfolio | News | Webboard  |  Chatroom | Guestbook | Galleries | interview | Member | Links | Special  Thanx

นิตยสารวัยหวาน พฤศจิกายน 2537 เล่ม 236

ช่วงใกล้ๆสิ้นปีแบบนี้ สงสัยเป็นช่วงที่บรรดาค่ายเทปต่างต้องการเข้าแข่งขันห้ำหั่นกันยึดหัวหาดตลาดวัยรุ่นเป็นการใหญ่ โดยเฉพาะค่ายยักษ์ใหญ่อย่างแกรมมี่  นานๆ จะลงมาปั้นกลุ่มนักร้องวัยรุ่นกับเขาสักที เพราะหลังจากส่งนายมอส ลงมาสร้างความเกรียวกราวขนานใหญ ่กันไปเรียบร้อยแล้ว มาคราวนี้ก็ถึงทีของศิลปินวัยใส ใหม่ล่าสุดกันบ้างล่ะ และอย่างแกรมมี่ลงมือปั้นทั้งที คนสองคน มันธรรมดาไป ถ้าจะดังมันต้องดังเป็นหมู่ และ U.H.T. คือกลุ่มขวัญใจวัยรุ่นกลุ่มใหม่ ่ที่หลายๆฝ่าย ภูมิใจนักหนาว่านี่คือทางเลือกใหม่ของคนฟังเพลงที่เป็นกลุ่มวัยรุ่น ในส่วนของสมาชิกแต่ละคนนั้นใครเป็นใครกันบ้าง เราคงต้องแนะนำรายบุคคลเลยดีกว่า เพื่อความสนิทสนมและจะได้เลือกปลื้มได้ถูกคนไงล่ะ คนแรกที่จะมาให้รู้จักกันเริ่มจากนายเบิร์ท หนุ่มคนเดียวในวงที่มีหน้าตาออกไปทางลูกครึ่ง ซึ่งมาถึงตอนนี้คงโดนใจใครต่อใครไปบ้างแล้วใช่มั๊ยล่ะ

อัลเบิร์ท เดม่อน (เบิร์ท)
ส่วนใหญ่เพื่อนๆจะเรียกว่า เบิรทฮะ แต่เพื่อนๆ
U.H.T. จะเรียกกันว่าอูก้ากัน ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร สำหรับสัญชาติของผมจะเป็นลูกครึ่งอเมริกัน ฝรั่งเศส ไทยครับ ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่สาธิตประสานมิตร ม.6
สาเหตุที่ได้มาทำงานกับแกรมมี่
คือคุณน้าผมเค้าจะเป็นโปรดิวเซอร์อยู่ที่แกรมมี่ คือคุณ อิศรพงษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา แล้วผมก็จะไปเที่ยวหาน้าที่แกรมมี่บ่อยๆ จนทำให้รู้จักเพื่อนๆในกลุ่มนี้ คือ ทั้งหมดจะเริ่มจากความเป็นเพื่อน ซึ่งทางผู้ใหญ่เขาคงจะเห็นแววของพวกเราด้วย เลยจับมาทำอัลบั้มด้วยกัน
ชื่อวง
U.H.T. ฟังแรกๆนี่หลายๆคนนึกถึงชื่อนมนะ
อันนี้มันเผอิญไปคล้ายกันนะ แต่เจตนาตอนแรกนี่มาจาก UNDER HOOD TEENAGES ซึ่งความหมายของมันคือวัยใต้ฮู้ด อะไรอย่างนี้ สำหรับชื่อนี้มันมาจากการที่เวลาพวกผมมอัดเสียงกันในห้องอัดนี่มันค่อนข้างหนาวมาก พวกเราก็จะมีเสื้อหนาวไปกัน บางตัวมันก็จะเป็นเสื้อหนาวที่มีฮู้ด คราวนี้มันก็เริ่มมีการแกล้งกัน มาใส่หัวมาดึงเล่นกันระหว่างร้องเพลง ที่นี้ทางผู้ใหญ่เขาเห็นว่า เออ...มันน่ารักดีนะ ที่มาของชื่อวงก็คิดว่าน่าจะมาจากจุดนี้ละฮะ
ในส่วนของการทำงานในอัลบั้มชุดนี้
สำหรับการทำงานของผม ในชุดนี้คือมีการร้องนำ ร้องประสาน ในส่วนของการเล่นดนตรีนี่พวกเราจะไม่ได้ยุ่งตรงนั้น เพราะเค้าจะมแบ็คอัพไว้ให้ พวกเราจะคอยร้องประสานอย่างเดียว และในอัลบั้มนี้นี้ผมจะร้องเพลงเดี่ยว หนึ่งเพลง และมีเพลงหมู่อีกหนึ่งเพลง ซึ่งในเพลงหมู่ก็จะร้องกันคนละท่อนบ้าง คละเคล้ากันไปบ้างก็ว่ากันไป ส่วนทีเหลืออีกห้าเพลงก็คือเพลงเดี่ยวของแต่ละคน ซึ่งแต่ละคนก็จะเป็นสไตล์ของตัวเอง อย่าเต็มนี่เค้าอาจจะซนๆ ชอบเต้นหน่อยๆ พี่เอกอาจเป็นเพลงที่ฟังสไตล์ผู้ใหญ่นิดๆ คือทุกคนจะมีเพลงของตัวเองในแนวที่ตัวเองชอบ อย่างเพลงของผมนี่จะแปลกที่สุดในชุดเลยครับ เพระามันจะเป็นเพลงที่มีกีต้าร์โปร่งใสๆ ฟังเรื่อยๆ สบายๆ เนื้อหาก็ค่อนข้างไม่หนักเท่าไร ซึ่งผลออกมาก็พอใจมาก เพราะก่อนที่จะทำเพลงแต่ละโปรดิวเซอร์เขาก็จะคุยกับเราแล้ว ตรงนี้เราก็๋พอใจกับเพลงที่ร้องหมดครับ

ก็ผ่านไปแล้วสำหรับสมาชิกคนแรกซึ่งคงทำให้หลายๆคนได้รู้ถึงที่มาที่ไปของเจ้าตัว ตลอดจนความเป็นมาของวง U.H.T. กัน พอสังเขปเอาเป็นว่าพอจะเรียกน้ำย่อยได้เล็กน้อย แต่ถ้าใครอยากจะรู้เรื่องราวต่อไป ต้องมาฟังสมาชิกอันดับที่สองมาเม้าท์ให้ฟังกันต่อ รายนี้คงคุ้นหน้าคุ้นตากันพอสมควร เพราะพี่แกอาจจะเรียกได้ว่าเป็นคนเดียวที่ผ่านงานแสดงมาก่อนก็ว่าได้นะ

ภูธเนศ หงษ์มานพ (กัปตัน)
เผลอแป๊บเดียวกลายมาเป็นศิลปินเพลงกับเค้าด้วยนะ
โห...ก็ซุ่มนานเหมือนกันนะฮะ แต่ที่ยังไม่ได้บอกใครเพราะอยากให้อะไรต่ออะไรมันเสร็จเรียบร้อยซะก่อน คือให้มันลงตัวแล้วค่อยเผยโฉมออกมา
คิดว่าเราเข้ามาทำงานตรงนี้เร็วเกินไปมั๊ย
ผมว่ามันน่าจะเป็นโอกาสมากกว่านะฮะ ไม่ว่าจะเป็นจังหวะต่างๆ รวมทั้งความสามารถของเราที่มีอยู่เพราะถึงจะมีโอกาสแต่ความสามารถเราไม่ถึงเนี่ย เขาคงจะไม่เอาเราไปทำงานด้วยแน่ๆ ซึ่งผมว่าการที่จะทำงานอะไรสักชิ้นเนี่ยมันต้องประกอบด้วยอะไรหลายๆอย่างฮะ อย่างผมตอนแรกๆที่เข้ามาทำนี่ก็มีความมั่นใจเหมือนกัน เพราะตัวเองเคยมีประสบการณ์ด้านดนตรีมาบ้างมีความรู้มาบ้างไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรี การร้องเพลงกับเพื่อนๆ และเมื่อได้มาทำงานจริงๆ แล้วไอ้สิ่งที่เราเคยผ่านมา มันช่วยเราได้เยอะพอสมควร
ภาพโดยรวมจะออกมาคล้ายนูโวหรือเปล่า
ผมคิดว่าในเรื่องสมาชิกอาจจะมีอยู่ 6 คนเหมือนพี่ๆนูโวนะฮะ แต่ในแนวเพลง การพรีเซ้นต์ตัวเอง การนำเสนอ คงจะไม่เหมือนกัน เพราะนูโวนี่เขาจะเป็นผู้ใหญ่กว่า อีกอย่างคือเขาจะเล่นดนตรีได้ทุกรูปแบบ ของวง ส่วน
U.H.T. จะมีเพลงหลายแนวมาก เพราะอย่าง 6 คนเนี่ย มันจะแตกแยกเป็น 6สไตล์ และแนวเพลงก็จะแตกต่างกันออกไป แต่มีอยสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือการแสดงความเป็นเพื่อน ความสนุกสนาน ง่ายๆเลย อย่างตัวผมนี่จะชอบฟังแนวป๊อบร็อคอย่างสไตล์นูโว ผมก็ชอบ เพราะฉะนั้น เพลงของผมในงานชุดนี้มันคงไม่หนีแนวที่ตัวเองชอบไปเท่าไรประเภทนี้ละฮะ และอีกสิ่งหนึ่งที่เราจะไม่เหมือนนูโว คือพวกเราทั้ง 6 คน จะมีความสำคัญเท่าเทียมกันหมด ทุกคนจะมีโอกาสแสดงความสามารถออกมาได้อย่างเต็มที่ นี่ละฮะคือความแตกต่าง
ทำงานเยอะๆแบบนี้อบอุ่นมั๊ย
ฮะ รู้สึกสนุก จะมีวุ่นวายบ้างเป็นบางครั้งเพราะคนมันเยอะแต่ว่าตรงนั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะสิ่งที่เราต้องการจะแสดงออกคือความเป็นเพื่อนไงฮะ และก็ภูมิใจมากที่ได้มาทำงานร่วมกับเพื่อนๆพวกนี้ ภูมิใจที่งานออกมาเสร็จสิ้นตามความพอใจของทุกคน อยากลองให้ฟังกันดูนะฮะ

และสำหรับสมาชิกรายที่สามนี้ก็คือหนุ่มผมยาวที่เป็นที่สนอกสนใจของน้องๆในขณะนี้
รัฐศาสตร์ กรสูตร (เปปเปอร์)
รู้สึกว่าจะเป็นคนเดียวที่ผมยาวกว่าใครๆเขานะ
ใช่แล้วครับ ผมยาวที่สุด คือไม่อยากตัดฮะ ตั้งแต่ตอนที่ไว้ก็มีคนมาลุ้นๆให้ตัดอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ตัดแต่ผมสั้นเคยไว้นะ อย่างน้อยหลังจบ ม.6 ก็เลิกตัดเลย เพราะมันมีเหตุจูงใจทำให้เราอยากจะไว้ผมยาวดู รู้สึกมันจะเป็นตั้งแต่ตอนเด็กๆ แล้วคือชอบวงดนตรีที่มีผมยาวๆถือกีต้าร์มันจะดูเท่ห์ดีไง ตอนนั้นยังไว้ไม่ได้ก็ได้แต่ทำท่าทางเลียนแบบเขาเท่านั้น แต่พอโตมามีโอกาสไว้ ก็เลยไว้ แต่คงไว้ยาวแบบนี้ไม่ได้ตลอดหรอกฮะ พอถึงจุดๆนึงอย่างตอนรับปริญญา่ก็คงจะต้องตัด คิดว่าน่าจะเป็นตอนนั้นฮะ
ในสมาชิกทั้งหมดหกคนนี่จะรู้จักใครเป็นคนแรก
ถ้าจะพูดถึงนานที่สุดก็ต้องเป็น "เต็ม" เพราะว่าบ้านผมกับเต็มนี่หลังบ้านชนกันเลย อยู่แถวๆลาดพร้าว แต่ตอนนี้เขาย้ายหนีไปแล้วครับ ซึ่งเต็มตอนแรกๆนี่จะไม่ค่อยคุ้นหน้ากันเท่าไร จะมาเอ๊ะใจตอนที่เขาเล่นเรื่อง "ยามเมื่อลมพัดหวน" ถึงได้รู้ว่า อ้อ เจ้านี่บ้านอยู่ใกล้ๆเรานี่หว่า ก็เลยรู้จักกันอะไรแบบนี้ เสร็จแล้วก็จะมารู้จักกับ "กัปตัน"เพราะได้ถ่ายแบบด้วยกันมาก่อน
ความยากลำบากในการทำอัลบั้มชุดนี้
สำหรับผมก็คงเป็นในเรื่องของการร้อง จะลำบากสักนิดเพราะแต่ละคนเรื่องของน้ำเสียงมันจะไม่เหมือนกันอยู่แล้ว แล้วยิ่งพอมาร้องเพลงต้องใช้เสียงประสานเนี่ยมันต้องทำให้ได้เข้ากับเพื่อนๆ ซึ่งตรงนี้จะยากเพราะเราจะถนัดที่จะร้องแบบนั้นมากกว่า แต่เพลงเดี่ยวของผมก็จะออกเป็นแนวซอฟร็อค นะฮะ เป็นเพลงที่ถนัดอยู่แล้วก็เลยไม่ลำบากใจเหมือนร้องเพลงหมู่ ก็เลยพอใจ อีกอย่างเนื้อหาที่เขียนกันก็เป็นประสบการณ์ที่ผมเคยเจอมาแล้ว เลยชอบเพลงนี้มาก
คอนเซ็ปของตัวเองที่ออกมาในงานชุดนี้
ก็คงเป็นอย่างทเห็นนี่แหละครับ คือ ผมยาว เซอร์ๆหน่อย ก็เป็นตัวของตัวเอง อาจจะคล้ายๆจิ๊กโก๋อกหักอะไรประเภทนี้ เพราะจริงๆก็อกหักเป็นประจำอยู่แล้ว
คาดหวังงานที่ออกมา มากน้อยแค่ไหน
ก็มีบ้างที่กลัวนะฮะ กลัวน้องๆจะคิดว่า เราทำออกมาไม่ดีพอ กลัวว่าหลายๆคนจะผิดหวังหรือเปล่า แต่ถ้าจะถามว่า พอใจมั้ย ผมก็ขอบอกว่า เราพอใจที่สุดแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าใครคิดว่ายังไม่ดีพอ หรือ ยังไม่น่าพอใจ ก็ขอโทษด้วย แล้วจะปรับปรุงตัวเอง ในงานหน้าต่อไปฮะ

วุฒิสิทธิ์ สืบสุวรรณ (เต็ม)

รู้สึกหลายต่อหลายคนจะรู้จักเราจาก ยามเมื่อลมพัดหวน

ใช่ครับ จากนั้นก็อาจจะรู้จักจากการถ่ายแฟชั่นบ้าง งานสัมภาษณ์บ้าง ส่วนงานอื่นๆเล่นงานโฆษณา งานละครก็มีติดต่อมาเหมือนกันแต่ยังไม่ได้รับ คือ ไม่ได้รับอะไรเลย อันนี้ก็ขอโทษพี่ๆที่ติดต่อมาด้วย ตอนนี้ยังรับไม่ได้เพราะผมต้องทำงานเพลงตรงนี้ ทางทีมงานเขากลัวเวลามันจะชนกันก็เลยไม่อยากให้รับงานอื่นฮะ ผมต้องขอโทษไว้มากๆเลย เอาไว้เสร็จงานนี้ปุ๊บผมจะรับหมดทุกอย่างเลยฮะ

มีคุณพ่อเป็นโปรดิวเซอร์ชื่อดัง ได้ซึมซับความสามารถในทางดนตรีมาบ้างหรือเปล่า

ก็เคยเล่นที่บ้านบ้างเหมือนกันครับ แต่ว่าคงยังไม่เก่งเท่าอัลเบิร์ท รายนี้เขาแน่กว่า อย่างผมนี่ส่วนใหญ่จะไปทางเล่นไอซ์มากกว่า ส่วนคุณพ่อส่วนมากเค้าจะสอนเรื่องเกี่ยวกับเรื่องในห้องอัดบ้างนิดหน่อย ในเรื่องของการควบคุมเสียงหรือไม่ในการวางตัว พ่อเค้าจะสอนให้หมดเลย

เพลงที่ร้องในอัลบั้มชุดนี้ของเราเห็นว่าเป็นเพลงแนวแดนซ์นี่เพราะเพื่อนๆบอกว่าเราเต้นค่อนข้างเก่ง

เรียกว่าเป็นเพลงพอฟังแล้วโยกๆดีกว่าครับ ส่วนเรื่องการเต้นนี่ไม่ใช่ว่าผมจะเต้นเก่งแบบเฟี้ยวฟ้าวอะไรขนาดนั้น เพียงแต่ผมทำท่าทางได้ก็โอเคแล้วครับ มีแค่นั้นเอง

อะไรเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้สนใจในเรื่องของการเต้น

ตอนนั้นจะมีอยู่ช่วงนึงที่พี่เจจะออกงานชุดแรก แต่ตอนนั้นยังไม่ได้ออกนะฮะ แล้วช่วงนั้นเต็มก็ไปเรียนเต้นกับพี่เจอยู่ครั้งนึง เรียนครั้งนั้นครั้งแรกก็ไม่ได้เรียนอีกแล้ว

มีความคิดยังไงถึงได้ไปเรียนเต้น

คือตอนนั้พ่อเขาเป็นโปรดิวเซอร์ให้พี่เจไงฮะ ซึ่งทำให้พี่เจกับพ่อเขาสนิทกัน คราวนี้มีอยู่วันหนึ่งพี่เจเค้าบอกว่าจะไปเรียนเต้นแล้วเค้าก็เอาเพื่อนของผมไปด้วยคนนึง ตัวผมก็เลยติดไปเรียนกับเขาด้วย อีกอย่างคือใจอยากเต้นแบบพี่เจอยู่แล้ว ชอบพี่เจฮะ เต้นได้แค่ครั้งเดียวเอง

ความยากลำบากในการทำงานชุดนี้

ก็ยากนะฮะ เราเข้าทำงานกันนานในห้องอัด อย่างธรรมดาคนอื่นเขาใช้เวลาในการร้องเนี่ย วันนึง แต่พวกผม นี่สามวันถึงจะเสร็จ ซึ่งก็กินเวลานานกับคนอื่นเขาละละฮะ อย่างในส่วนของเต็มนี่ความยากในช่วงห้องอัดจะร้องแต่เพลงเร็วหมดเลย คือแรกๆจะร้องเพลงเร็วมาตลอด ทีนี้พอมาร้องเพลงช้าบ้าง มันทำให้ไอ้การที่เราติดกับเพลงเร็วมันก็เลยทำให้ร้องเพลงช้าค่อนข้างยาก อันนี้เป็นสิ่งที่ผมคิดว่ายากที่สุด

คิดมั๊ยว่าทำไมการร้องเพลงมันถึงยากขนาดนี้

เรื่องนี้ผมรู้อยู่แล้วละครับ เพราะเมื่อก่อนผมเคยร้องเพลงโฆษณามาก่อน อย่างเพลงของตาวิเศษแล้วก็มี คาเนชั่นก็พอรู้มาบ้าง แต่เพลงที่เคยร้องนี่มันเป็นโฆษณาแค่ 30 วิเอง แต่พอมาเจอ 4 นาทีเต็มแล้วต้องมาใส่อารมณ์อีก เลยรู้สึกว่ามันยากกว่าเยอะเลย แต่ถ้าอาศัยความตั้งใจมันก็จะได้ไปเองละฮะ

ภูมิใจมากมั๊ยสำหรับงานชุดนี้

ก็ภูมิใจเต็มร้อยล่ะฮะ เพราะเราก็ต่างทุ่มเทกับมันเต็มที่ แต่ถ้าในเรื่องการคาดหวังคงไม่คาดหวังอะไรมาก นักกลัวตกมาก็จะเจ็บ ขอแค่หวังไว้ประมาณนึงดีกว่า เหลือให้น้องๆเพื่อนๆเป็นคนตัดสินละกันนะฮะ

ก็ผ่านกันไปอีกสองหน่อ แต่ละคนล้วนแล้วแต่เป็นที่คุ้นเคยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นนายเปปเปอร์ หรือ นายเต็ม ส่วนที่เหลือสองคนคือนายไก่ และ นายเอก สองคนนี้คงยังไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตากันเท่าไร เพราะฉะนั้นเรื่องที่จะคุยกันตรงนี้ ก็ต้องเป็นเรื่องราวส่วนตัวของแต่ละคนแน่นอน และหนึ่งในสองที่จะแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักกํไม่ใช่อื่นไกล เป็นน้องชายแท้ๆของอดีตดาราขวัญใจวัยรุ่นที่ชื่อ กบ อนุสรา จันทรังษี นั่นเอง

เอกภพ จันทรังษี (ไก่)

ประวัติส่วนตัวพอสังเขป

ผมชื่อไก่ เอกภพ จันทรังสี ตอนนี้อายุย่าง 20 กำลังศึกษาอยู่คณะ มัณฑณากรศิลป์ ปี 3 แล้วครับ

แล้วมามีวี่แววว่าจะเป็นนักร้องได้ยังไง เพราะเท่าที่เล่าๆมา มันไม่ค่อยเกี่ยวกับงานด้านนี้เท่าไรนะ

ผมคิดว่าความคิดของผมที่มองไปเนี่ย ทุกๆสิ่งเกี่ยวกับศิลปะหมด อย่างการร้องเพลงคือศิลปะอย่างนึง การเรียนทางด้านนี้ก็เป็นศิลปะอีกอย่างนึง ทุกอย่างอาศัยศิลปะทั้งนั้นแหละครับ ผมจะมองในแง่นี้มากกว่า เพราะฉะนั้นเมื่อผมเป็นนักร้องทำงานด้านนี้ ผมก็ถือว่ากำลังทำงานด้านศิลปะเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะคนละแขนงกัน แต่ก็ประยุกต์ใช้แล้วก็มองภาพเห็นได้ เข้าใจความรู้สึกของตัวงานได้เหมือนๆกัน

ที่เข้ามาในวงการนี้ พี่สาวมีส่วนบ้างหรือเปล่า

ผมว่าคงมีส่วนนะ เพราะพี่เค้าก็คอยแนะนำมาให้บ้าง แล้วตอนเด็กๆ ผมก็เคยเป็นพิธีกรรายการเด็กๆทางช่อง 11 ซึ่งพี่เค้าจะทำงานด้านทางด้านตรงนี้เค้าก็เลยให้มาลองทำดู

ในอัลบั้มชุดนี้ ส่วนตัวชอบเพลงไหนมากที่สุด

ถ้าพูดโดยรวมๆ ก็คงจะชอบทุกเพลงนะฮะ แต่ถ้าให้พูดถึงความชอบจริงๆ ก็คงจะเป็นเพลงที่ฟังแล้วมีความรู้สึกฟังได้นาน แล้วก็มีความรู้สึกกับทางด้านอารมณ์ได้เยอะ และเพลงที่ฟังแล้วเข้ากับตัวเองได้มากที่สุด ก็คงจะเป็นเพลงของพี่เอก คือเพลงไม่อยากรับรู้...เลยเพื่อน อีกเพลงที่ชอบคือเพลงอยากให้เหมือนวันวานจัง...เลยเพื่อน เพลงนี้เป็นเพลงร้องหมู่ฮะ

อยากให้พูดถึงความรู้สึกโดยรวมที่มีต่ออัลบั้มชุดนี้

รู้สึกว่าเป็นอัลบั้มนึงซึ่งเป็นงานของเรา แล้วก็เป็นงานของส่วนรวมด้วย เป็นของเพื่อนๆ เป็นงานของคนฟังเพลงทุกๆคน ที่จะทำให้งานชิ้นนี้มีคุณค่าความหมายสำหรับใครบางคนหรือว่า ทุกๆคนที่เราหวังว่าเค้าคงจะได้รับอะไรไปบ้างจากงานของเรา คงได้แค่นี้ล่ะฮะ

และสำหรับรายสุดท้ายก็คงเป็นใครไม่ได้ นอกจากนายเอก นายคนที่หนุ่มไก่เพิ่งชมไปหยกๆเมื่อกี๊นี้เองว่าร้องเพลงได้เพราะ อันนี้ถ้าใครมีอัลบั้มชุดนี้แล้วคงจะตอบได้นะว่าคำชมอันนี้เป็นจริงหรือเปล่า

 

เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์(เอก)

ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ทีไหน

ตอนนี้กำลังอยู่ ABAC ปี2 ครับ แผนกบริหารธุรกิจฮะ

ในวงนี่รู้จักใครเป็นคนแรก

ก็คงอย่างที่เพื่อนๆเล่ามา ก็คือเอกรู้จักกับไก่ แล้วก็ได้มีโอกาสขึ้นไปร้องเพลงด้วยกัน 6 คนในงานปีใหม่ของแกรมมี่ ทางผู้ใหญ่เค้าก็เห็นแวว แต่กว่าจะมาเป็น U.H.T. เราก็ต้องผ่านการเทสต์อะไรหลายๆอย่างเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเขาเห็นแววแล้วก็จับมาทำเลย ไม่ใช่อย่างนั้นฮะ

แล้วมารู้จักกับไก่ได้ยังไง

ที่รู้จักกันเพราะผมเคยไปร่วมร้องเพลงเล่นดนตรีให้กับวงของไก่มาก่อนไงฮะ ก็เคยซ้อมดนตรีมาด้วยกัน ไก่เค้าก็เล่นดนตรีกับเพื่อนเขาผมก็มีวงของผมนะ มีเวลาก็มาเล่นกัน รู้จักกันมาเป็นปีๆแล้วฮะ กับไก่นี่

แปลว่ามีใจรักทางด้านนี้มาตั้งนานแล้ว

คือเด็กๆผมจะไม่มีแววทางด้านนี้มาก่อนเลยนะ จะมามีก็ตอนอยู่ ACC อัสสัมชัญพาณิชย์ คือคุยกับเพื่อนว่าอยากตั้งวงก็เลยโอเค ตั้งวงเข้าแข่งขันประกวดดนตรีกัน ปรากฎว่าปีแรกแพ้ พอมาปีที่สองเปลี่ยนจากกีต้าร์มาเป็นนักร้องอย่างเดียวก็ได้ที่หนึ่งฮะ จากนั้นก็เลยสนใจทางด้านนี้มาเรื่อยๆ

ช่วงนั้นสงสัยป๊อปปูล่าร์ในกลุ่มสาวๆพอสมควรละสิ

ก็มีบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นน้องครับ ที่จะเข้ามาคุยด้วย แล้วพอถึงเทศกาลวันวาเลนไทน์ก็จะมีน้องเข้ามาขอถ่ายรูปมั่ง เอาขวดโหลใส่ดาวมาให้บ้าง ก็ดีใจนิดหน่อย แต่ตรงนี้เค้าไม่ได้ทำเพราะความชอบมั๊งฮะ คงเป็นความชื่นชมว่าผมมีความสามารถร้องเพลงเพราะอะไรอย่างนี้มากกว่า

แล้วคิดว่าเมื่อเราทำตรงนี้แล้วจะมีเวลาเรียนหรือเปล่า

ก็ยังเป็นห่วงเรื่องนี้อยู่เลยฮะ เพราะในช่วงนี้งานค่อนข้างเยอะ แต่ตัวผมก็พยายามเช็คคิวล่วงหน้าอยู่ก่อนแล้ว จะพยายามไม่ให้มันชนกันมากที่สุด

กับเพื่อนๆใน U.H.T. นี่ได้คุยกันเรื่องของการเรียนบ้างหรือเปล่า

ก็เคยคุยบ้างเหมือนกันอย่างเบิร์ทนี่เขาค่อนข้างเซียนเลย ในโรงเรียน ประเภทซนชอบแกล้งเพื่อนใน ร.ร.อย่างเค้าเคยเล่าให้ฟังว่าว่าเค้าเคยเอาสีอะไรไม่รู้ไปเทในบ่อปลาของโรงเรียน ปรากฏว่าสีแดงเถือกเต็มบ่อเลย ตอนหลัง อาจารย์จับได้ ก็เลยโดนทิ้งไปตามระเบียบ ซึ่งเค้าจะค่อนข้างแสบในเรื่องแบบนี้

ตื่นเต้นมั๊ยกับงานที่ออกมา

ตื่นเต้นมาก ขนาดวันแรกที่ได้แจกแผ่นตามสถานี ผมก็จะให้พี่สาวฟังอยู่ตลอด และพอทราบข่าวว่า เรดิโอโหวต ช่วงอาร์ตติสต์โหวต พวกเราติดอันดับหนึ่ง ก็ดีใจมากๆ ก็เลยอยากขอบคุณเพื่อนๆไว้ตรงนี้เลยนะฮะ เพราะมันเป็นกำลังใจที่ไม่สามารถบรรยายได้ฮะ

Copyright ©2003 www.uht2u.com | All rights reserved. Create  by : JOB  |  best view 800 x 600| text size : medium |